bc

เจ้าบ่าวอันธพาล

book_age18+
1.2K
FOLLOW
6.3K
READ
love-triangle
HE
forced
sweet
bxg
campus
city
like
intro-logo
Blurb

เสร็จสิ้นพิธีแต่งงานคู่บ่าวสาวก็มารวมตัวกันภายในห้องพักของโรงแรม เชิญขวัญกำลังยืนงุนงงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาหมาดๆ เมื่อครู่นี้ แล้วเจ้าบ่าวของเธอก็มายืนอยู่ตรงหน้า พร้อมกับกวาดตามองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

“อะไรของคุณ”

“ถอดออกมา แหวนแต่งงาน ต่างหู สร้อยเพชร แล้วเอาทะเบียนสมรสนี่ไป อีกหนึ่งปีผมจะไปหย่าให้เข้าใจและรู้เรื่องนะ” เจ้าบ่าวบอกพร้อมยื่นใบทะเบียนสมรสไปตรงหน้า

เชิญขวัญมองหน้าเขาเหมือนคนไม่เคยเห็น คนบ้าที่ไหนจะมาทวงเครื่องประดับเจ้าสาวหลังงานแต่งไม่ถึงชั่วโมงแบบนี้

chap-preview
Free preview
ตอนที่ : 1 เจ้าสาวจำเป็น
1 เจ้าสาวจำเป็น            หญิงสาวในชุดราตรีสีฟ้าสั้นเหนือเข่ากำลังวิ่งกระหืดกระหอบเข้าไปภายในโรงแรม ซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งของญาติคนหนึ่ง แต่ก่อนที่จะเดินเข้าไปภายในโรงแรม สายตาของเธอก็สะดุดเข้ากับใครบางคนซึ่งดูคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่มุมด้านข้างทางของโรงแรม ‘พี่หวายนี่’ รีบยกนาฬิกาตรงข้อมือขึ้นดู ตามเวลางานควรจะเริ่มได้แล้ว แต่ทำไมเจ้าสาวของงานถึงมายืนอยู่ตรงนี้ได้ หญิงสาวในวัยเบญจเพสเปลี่ยนใจเดินไปข้างโรงแรมแทน “พี่หวายมาทำอะไรตรงนี้คะ” นวินดาสะดุ้งแล้วทำหน้าตกใจประหนึ่งคนทำผิดแล้วถูกจับได้ ครั้นหันมาเจอหน้าคนทักก็ค่อยโล่งอกขึ้นมาหน่อย “ยัยปานนี่เอง เอ่อ พี่” ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อก็มีชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาพวกเธอทั้งคู่ “ไปกันเถอะหวาย รถพี่จอดอยู่ที่ลานจอดแล้ว” อาชัญรีบดึงข้อมือของนวินดาให้เดินตามตัวเองไป แต่ก็ต้องสะดุดเมื่อหันมาเจอว่ามีผู้หญิงอีกคนกำลังรั้งข้อมือของนวินดาอยู่ด้านหลัง “จะไปไหนกันคะคุณ วันนี้วันแต่งงานของพี่หวายไม่ใช่เหรอคะ ทำไมไม่อยู่ในงานกัน” คนพูดมองหน้าอาชัญแบบไม่ไว้วางใจ “ยัยปานปล่อยพี่เถอะ พี่ไม่อยากแต่งงานกับคุณวัธน์เขา แต่คุณแม่พี่บังคับยกเหตุผลสารพัดอย่างขึ้นมาอ้างพี่ก็ปฏิเสธไม่ได้ พี่เลยจะหนีไปกับพี่ชัญ” “หนี! พี่หวายถ้าไม่อยากแต่งงานก็บอกคุณป้าไปตรงๆ สิคะ ทำแบบนี้ก็เดือดร้อนกันหมดสิ” “แกไม่เข้าใจอะไรยัยปาน คุณแม่ไม่ฟังพี่อธิบายอะไรเลย บอกแต่จะตัดแม่ตัดลูกกันท่าเดียวถ้าพี่ไม่ยอมแต่งงานกับคุณวัธน์ พี่ไม่ไหวแล้วจริงๆ ยัยปาน ถ้าคุณแม่อยากแต่งนักก็แต่งไปเองเลยแล้วกัน เอ้านี่ ฝากไปคืนคุณวัธน์เขาด้วย” นวินดาระบายเสร็จก็ยื่นถุงกระดาษใบใหญ่ให้เชิญขวัญ “อะไรพี่หวาย อ้าว” นวินดาไม่ได้ตอบคำถามของเชิญขวัญ เพราะหญิงสาวถูกอาชัญฉุดข้อมือพาเดินกึ่งวิ่งไปลานจอดรถของโรงแรม เชิญขวัญรีบก้มลงมองของที่อยู่ในถุง ‘ชุดเจ้าสาว เครื่องประดับ เอาจริงเหรอเนี่ยพี่หวาย’ เห็นแล้วก็ต้องส่ายหน้าไปมา หนักใจแทนคนในงาน ป่านนี้ในห้องจัดงานแต่งจะวุ่นวายขนาดไหน หญิงสาวเป่าลมออกปากแล้วรีบเดินเข้าโรงแรมไป เป็นไปอย่างที่เธอคิดเอาไว้ไม่มีผิด แขกเหรื่อมาเต็มบริเวณจัดงาน แต่ไร้วี่แววคู่บ่าวสาวยืนต้อนรับ มีเพียงซุ้มดอกไม้โล่งๆ หลังฉากกับแขกบางคนที่มายืนถ่ายรูปเล่นกัน เชิญขวัญรีบสะกิดถามเจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้ที่สุด “น้าคะ ห้องเจ้าสาวอยู่ไหนคะ” “แขกเข้าห้องเจ้าสาวไม่ได้นะครับ มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ” เจ้าหน้าที่วัยกลางคนหันมามองพร้อมสายตาจ้องจับผิด “เป็นญาติค่ะ พอดีจะเอาของไปให้” หญิงสาวชูถุงกระดาษในมือให้เขาดู “งั้นก็เดินตรงไปทางนี้แล้วเลี้ยวขวาครับ” “ขอบคุณค่ะ” รู้ทางแล้วเชิญขวัญก็รีบเดินตรงไปยังทิศทางที่อีกฝ่ายบอกในทันที ป้ายหน้าห้องบอกชัดเจนว่าสำหรับเจ้าสาวและญาติเท่านั้น รีบยกมือขึ้นเคาะประตูห้อง นางนีรนุชมารดาของเจ้าสาวเป็นคนเดินมาเปิดให้ “สวัสดีค่ะคุณป้า” เชิญขวัญยกมือขึ้นไหว้ผู้เป็นป้า “หนูปานเข้ามาสิลูก” ประตูถูกเปิดกว้างให้เชิญขวัญได้เดินเข้ามาภายในห้อง ซึ่งในตอนนี้มีคนอยู่เพียงแค่ห้าคนเท่านั้น บิดามารดาของเจ้าสาว บิดาของเจ้าบ่าวและเจ้าบ่าว รวมกับตัวเธอเป็นห้าคนพอดี “ทำไมให้คนอื่นเข้ามาล่ะครับ ผมบอกแล้วไงว่าเรื่องนี้เราจะรู้กันแค่นี้” เสียงเจ้าบ่าวดังขึ้นพร้อมกับสีหน้าไม่พอใจ เชิญขวัญเห็นแล้วก็ได้แต่แอบถอนหายใจแรงๆ ในความไร้มารยาทของเจ้าบ่าว “หนูปานเป็นญาติของดิฉันเองค่ะคุณวัธน์ ไม่ใช่คนอื่น” นางนีรนุชหันไปบอกเจ้าบ่าวในชุดสูทสากลอย่างเกรงใจ แต่เจ้าบ่าวก็ยังหน้าหงิกหน้างออยู่เหมือนเดิม “หนูปานยัยหวายไปไหนก็ไม่รู้ลูก ป้ากับลุงโทรหาก็ปิดเครื่อง นี่งานกำลังจะเริ่มกันแล้วก็ยังหาไม่เจอ เลยต้องมาปรึกษากันอยู่ในห้องนี้” ผู้เป็นป้ากล่าวอย่างร้อนรน เชิญขวัญเห็นแล้วก็อดสงสารท่านไม่ได้ หญิงสาวมองไปรอบๆ ห้องก็พบว่าทุกคนต่างมีสีหน้าเคร่งเครียดกันไม่น้อยไปกว่ากัน โดยเฉพาะเจ้าบ่าวที่ตอนนี้ทำหน้าพร้อมที่จะอาละวาดใส่ทุกคนก็ว่าได้ “ผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะครับทีนี้ ที่มาถูกเจ้าสาวทิ้งกลางงานแต่งแบบนี้” คนพูดถอนหายใจใส่ทุกคนดังๆ หันมองคนโน้นคนนี้แบบต้องการหาคนรับผิด “น้าต้องขอโทษคุณวัธน์ด้วยนะคะ น้าไม่รู้จริงๆ” “คุณน้าก็ขอโทษอยู่นั่นแหละครับ ไปตามตัวเจ้าสาวกลับมาแต่งงานกับผมเดี๋ยวนี้เลยครับ ผมไม่ยอมเสียหน้ากลางแขกเหรื่อแบบนี้นะครับ ยังไงวันนี้ผมต้องได้แต่งงาน!” “วัธน์ใจเย็นๆ นะลูก” บิดาเจ้าบ่าวเริ่มสะกิดเตือน “เย็นไม่ไหวแล้วพ่อ นี่มันเลยกำหนดการมาครึ่งชั่วโมงแล้วนะครับ แล้วทางโรงแรมเขาก็ต้องมีการจัดงานต่อจากเราด้วย มันไม่มีเวลาแล้วครับพ่อ” คนหัวเสียก็ยังเหวี่ยงไม่สนใจใคร “เอ่อ คุณป้าคะ” เชิญขวัญสะกิดผู้เป็นป้าเบาๆ “มีอะไรหนูปาน” “นี่ค่ะ พี่หวายฝากมาคืน” เชิญขวัญพูดเบาๆ และไม่กล้าเอาไปคืนเจ้าบ่าวหน้างอในตอนนี้ แต่ว่าการพูดเบาๆ ของเธอนั้นกลับได้ยินกันทั้งห้อง “หวาย!” กวีวัธน์ปรี่มาหาคนพูดแล้วกระชากต้นแขนเชิญขวัญให้เข้ามายืนอยู่ตรงหน้า “นี่คุณเจอหวายมาใช่ไหม แล้วทำไมไม่ลากตัวขึ้นมาแต่งงานกับผม” “ลากมาได้ยังไงล่ะคุณ พี่หวายเขาไปกับผู้ชายอีกคน” “ไปกับผู้ชาย!” ทุกคนในห้องแทบลมจับกับคำพูดแสนซื่อของเชิญขวัญ ซึ่งกว่าเจ้าตัวจะรู้ว่าไม่สมควรพูดออกมาก็สายเกินไปเสียแล้ว “เจ้าสาวหนีไปกับผู้ชาย นี่พวกคุณคุยกับหวายยังไง ไหนว่าเต็มใจแต่งงานกับผมยังไงล่ะ แล้วนี่มันอะไรกัน! ผมจะทำยังไง ตอบผมมาหน่อย จะทำวิธีไหนกู้หน้าให้ผมได้บ้าง หรือไม่ก็ให้ผมเสียหน้าน้อยที่สุดทำได้ไหม” กวีวัธน์กางมือออกทั้งสองข้าง มองคนโน้นทีคนนี้ทีอย่างโมโห แล้วมาหยุดตรงคนนำข่าวร้ายมาบอก “คุณก็เหมือนกัน โตซะเปล่ามีหัวคิดบ้างไหม เจ้าสาวจะหนีไปกับผู้ชายแทนที่จะห้ามปรามยังปล่อยให้ไปแบบง่ายๆ อย่างนี้อีก หรือว่ารู้เห็นเป็นใจกันฮ้า!” “จะบ้าป่ะคุณ คนเขาไม่อยากแต่งฉันจะเอาปัญญาที่ไหนไปห้าม แล้วคุณเองก็เถอะ จะแต่งงานทั้งทีทำไมไม่ตกลงกับเจ้าสาวให้ดี มัวแต่โทษคนอื่นอยู่ได้” ถูกต่อว่าทั้งที่ไม่ผิดเชิญขวัญก็ย้อนกลับเขาบ้าง “นี่คุณ!” “พอแล้วๆ หนูปานไหนถุงอะไรป้าขอดูหน่อยลูก” นางนีรนุชรีบแทรกก่อนที่เรื่องจะบานปลาย หยิบถุงกระดาษที่ยังอยู่ในมือของหลานสาวขึ้นมาดู “ชุดเจ้าสาวกับเครื่องเพชร ดีนะที่ยัยหวายไม่เอาไปด้วย” “เอามานี่ครับ” กวีวัธน์แย่งถุงกระดาษมาถือไว้ในมือท่ามกลางสายตาแปลกใจของทุกคน เหมือนเขาจะรู้ตัวเลยต้องรีบประกาศความจริงให้ทุกคนได้รับรู้ “ผมเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี่ ไม่ว่าจะชุดแต่งงานหรือเครื่องเพชร เพราะฉะนั้นมันเป็นของผม” ไม่ได้คิดจะงกเลยจริงๆ แต่ว่าอีกฝ่ายไม่สมควรจะได้รับมันไป เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะ นางนีรนุชเป็นคนเดินไปเปิดเช่นเดิม คราวนี้เป็นเจ้าหน้าที่จัดงานแต่งซึ่งเข้ามาเร่งเวลาเป็นรอบที่สาม “ทางโรงแรมก็เร่งนะคะ เขากลัวว่าเราจะเสร็จช้าแล้วเขาจะจัดงานอื่นต่อไม่ทัน ถ้ายังไงคุณนีรนุชช่วยเร่งเจ้าสาวหน่อยนะคะ” “เอ่อ ค่ะ” ได้แค่รับปากแล้วก็ปิดประตูตามเดิม “เอาอย่างนี้ดีไหมครับ ทางผมจะเป็นคนไปประกาศยกเลิกงานแต่งเอง โดยที่ทางผมเป็นคนรับผิดเองทุกอย่าง คุณกวีวัธน์กับคุณกวินจะได้ไม่ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง” นายประวิทย์บิดาของเจ้าสาวเอ่ยอย่างรู้ตัวว่าทางตนเป็นคนผิดและพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง หลังจากยืนนิ่งฟังทุกปัญหาอยู่นานสองนาน

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

ขังรัก

read
17.7K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
14.2K
bc

Passionate Love รักสุดใจนายขี้อ่อย 20+

read
31.8K
bc

หัวใจซ่อนรัก(เฮียเดย์)

read
29.4K
bc

เมียลับอุ้มรัก

read
77.8K
bc

รอยแค้นแห่งรัก

read
52.4K
bc

My Sister น้องสาว... ที่รัก

read
6.6K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook