“คุณรามสูรพูดจบแล้วใช่มั้ยคะ ถ้างั้นก็ปล่อยพิมได้แล้ว เดี๋ยวลูกสาย”
พิมมี่แม้จะเจ็บที่แขนและหน้าชาอยู่บ้างที่โดนด่าแต่ใครจะสนเธอไม่ใช่นางร้ายคนก่อนซะหน่อย อยากด่าก็ด่าไปเถอะไม่สะเทือนหรอก รามสูรมองภรรยาที่เดินจากไปด้วยความคาดไม่ถึงปกติพิมมี่ต้องกรี๊ดร้องไห้จนบ้านแตกพร้อมกับกวาดข้าวของใกล้มือจนพินาศไปหมด พร้อมกับตัดพ้อว่าเขาแน่นอนแต่ท่าทางแบบนี้ทำเอาเขาเองก็ไปไม่เป็นเช่นเดียวกัน
“ไม่สบายรึเปล่าวะเนี่ย อาการแปลกๆ”
เขามองตามหลังร่างสวยไปจนลิบตาแล้วรีบออกจากบ้านไปที่ทำงานพร้อมกับเอิงเอยแต่ในหัวคิดแต่เรื่องภรรยาที่เปลี่ยนไป
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
หลังจากพาลูกไปงานวันแม่ร่วมกิจกรรมเสร็จพิมมี่ก็มาที่บริษัทของสามีเพื่อแวะถามว่าเขาจะกินอะไรจะได้ทำไว้รอ อย่างน้อยในตอนที่ใกล้จะจบเรื่องเขาจะได้ฉุกคิดอยากช่วยหล่อนให้หลุดพ้นจากการถูกข่มขืนและนี่เป็นสิ่งเดียวที่พิมมี่กลัวที่สุด
"คุณรามอยู่มั้ย"
พิมมี่ถามเอิงเอยที่ยืนก้มหน้าอยู่
"อยู่ค่ะ เออ"
เอิงเอยอึกอักด้วยไม่รู้จะห้ามยังไงดีเมื่อรามสูรสั่งให้หญิงสาวผู้เป็นภรรยาของเขาออก
"เข้ามาทำอะไรในนี้ อย่าได้แตะเอยนะขอเตือนเพราะผมจะไม่ใจดีอีก"
รามสูรลากพิมมี่เข้ามาในห้องทำงานพร้อมกับเริ่มออกโรงปกป้องนางเอกของเรื่องทันที
"แหวะ หล่อตายล่ะ นี่เลิกหลงตัวเองได้แล้วพิมมาที่นี่แค่จะถามว่าจะกินอะไรเย็นนี้ จะได้ซื้อของไปทำรอที่บ้าน"
พิมมี่ถามเขาอย่างใจเย็นและพยายามทำความเข้าใจกับตัวร้ายแบบเขาว่ารักนางเอกมาก
"สติไม่ดีเหรอหรือว่าจะมาเล่นละครอะไรอีก คนแบบคุณทำอะไรดีๆ ได้ด้วยเหรอ คุณเห็นเอยทำอาหารมาให้ผมก็เลยอยากทำบ้างงั้นสิ"
รามสูรมองภรรยาอย่างไม่เชื่อสายตาว่าสิ่งที่ได้ยินเมื่อสักครู่นี้เป็นเรื่องจริง อย่างพิมมี่นี่เหรอจะทำอาหารแค่กลิ่นควันอาหารลอยมาก็อาละวาดบ้านแทบแตกเพราะทำให้ตัวเหม็น
"ไม่กินก็อย่ากิน พิมทำกินคนเดียวก็ได้ ชิ เชิญกินอาหารเลขาคุณเถอะ"
พิมมี่มองสามีอย่างหงุดหงิดและรำคาญ คิดว่าพิมจะง้อเหรอไม่กินก็อย่ากินสิใครจะไปสนใจกันกะอีแค่ผัวที่ไม่ได้รักดี มีดีแค่หล่อเท่านั้นแหละ หมั่นไส้ตัวละครลูกรักจริงๆ
“อย่ามาประชดประชันนะพิม ดีได้ไม่เท่าเขาอย่ามาพาลดีกว่า กลับไปซะ”
รามสูรบีบข้อมือพิมมี่แรงขึ้นจนแทบจะแหลกคามือ จนหญิงสาวถึงกับนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
“โอ๊ย พิมเจ็บนะคะ ราม!! ทำไมต้องดุพิมด้วย รักเขามากขนาดนั้นไม่ไปแต่งงานกับเขาเลยล่ะ”
พิมมี่อดงอนคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีไม่ได้พร้อมกับเรียกชื่อเขาด้วยเสียงที่ดังขึ้น และบิดข้อมือออกจากการเกาะกุมของเขา // นิดเดียวข้อมือก็จะแหลกแล้ว ทำไมใจร้ายแบบนี้เนี่ย ถึงจะเป็นนางร้ายแต่ก็ผู้หญิงนะ
“เหอะ แต่งแน่แหละถ้าเอยยอม แล้วอย่ามาดิ้นตายทีหลังแล้วกัน เพราะผมเลิกกับคุณแน่พิม”
รามสูรพูดอย่างไม่สนใจความรู้สึกของอีกฝ่ายเลยสักนิดว่าหล่อนจะคิดอย่างไรหรือจะเสียใจมั้ย เขาแค่บอกสิ่งที่เขารู้สึกออกไปเท่านั้น
“เอาเวลาไปจีบเขาให้ติดก่อนเถอะ พอตัวจริงเขามาคนที่ดิ้นตายน่าจะเป็นคุณมากกว่า ได้ข่าวคุณธีก็เหมือนจะชอบๆ เลขาคุณนี่”
หญิงสาวปรายตามองผู้เป็นสามีอย่างหมั่นไส้ไม่ได้พร้อมกับอดพูดเย้ยเขาไม่ได้ เป็นแค่ตัวร้ายที่ช่วยให้ความรักพระเอกอย่างธีรภพกับนางเอกแน่นแฟ้นขึ้นยังไม่รู้ตัว ทำมาเป็นกร่างเสียใจมาจะไม่มาปลอบแน่คอยดู พิมมี่นึกหมั่นไส้รามสูรอยู่ในใจ
“หึ ผมคิดแล้วว่าคุณต้องรู้เห็นเรื่องนี้ คิดว่าแค่ไอ้ธีจะมาสู้ผมได้เหรอ คนแบบมันไม่มีทางชนะผมหรอก คุณเลิกทำตัวแบบนี้สักทีนะพิมมี่ก่อนที่ผมจะทนคุณไม่ไหว ต่างคนต่างอยู่มันจะตายหรือไง”
รามสูรเริ่มโกรธเพราะคิดว่าพิมมี่เป็นตัวการยุยงให้ธีรภพมาจีบเอิงเอยแข่งกับเขาแน่นอน
“คุณคิดว่าตัวเองหล่อมากรึไงห้ะ ทำไมพิมจะต้องหลงใหลได้ปลื้มคุณมากงั้นสิ คุณอยากแต่งหรืออยากทำอะไรก็เชิญเถอะค่ะ แต่ก่อนพิมอาจจะรักคุณมากแต่ตอนนี้ฟังนะคะ พิม ไม่ ได้ รัก คุณ เข้าใจนะ”
พิมมี่อดเถียงเขาไม่ได้ หล่อมากพ่อคุณที่มาทำแบบนี้กับพิมมี่ หญิงสาวคิดพร้อมกับพูดเน้นประโยคสุดท้ายทีละคำ
“กัดฟันพูดก็อย่าทำเลยพิม ผมอยากรู้จริงๆ ว่าคุณจะทนเป็นคนดีได้มากแค่ไหน ไม่รักอย่างงั้นเหรอ หลอกตัวเอง”
รามสูรขยับเข้ามาพูดจนชิดใบหน้าสวยเซ็กซี่ด้วยความท้าทาย
“พอพิมทำดีก็ว่า จะเอายังไงเนี่ย ความจริงเรามาอยู่กันแบบสันติมั้ย คุณอยากทำอะไรมีใครก็แล้วแต่คุณพิมไม่ห้าม แต่อย่าใจร้ายกับพิมนักเลยนะคะรามขา พิมสัญญาต่อไปจะไม่ขัดขวางคุณกับเอยอีก”
พิมมี่เกาะแขนของสามีอ้อนๆ อย่างน้อยๆ สงบศึกกันไว้ก็น่าจะดีกว่าเพราะไม่รู้จะอยู่ในร่างนี้อีกนานแค่ไหน อย่างไรเสียที่พึงเดียวตอนนี้ของหล่อนก็คือรามสูร
“ผมสันติตลอดนั่นแหละมีแต่คุณนั่นแหละพิมที่สันติไม่เคยได้นานสักที คราวนี้คิดแผนได้ฉลาดนี่ที่มาทำตัวเป็นคนดี ผมจะรอดูคุณโป๊ะแตกและวันไหนเอยต้องเจ็บตัวเพราะคุณอีก ผมไม่ยอมแน่”
รามสูรพูดอย่างไม่เชื่อใจภรรยานักก็หล่อนร้ายกาจออกขนาดนั้นใครจะไปเชื่อ และเขาก็เกลียดภรรยาคนนี้อย่างกับอะไรดี แต่ไม่รู้ทำไมพอได้ยินพิมมี่พูดว่าไม่รักเขาแล้ว ใจเขาถึงได้รู้สึกวูบโหวงแปลกๆ