“เจ้าของร้านสวยเชียวแหละ เคยผ่านๆ ไปเห็นเข้า แต่เธอดูเย็นชาพิลึก... ยิ้มเฉพาะกับลูกค้าเท่านั้น ถ้าเป็นผู้ชายน่ะเหรอ!! เธอมองเหมือนเราเป็นอากาศ” ชายหนุ่มวิจารณ์ตามที่เห็น ชื่อเสียงของวันวาดขจรไปไกล แต่เธอไม่สนใจ ไม่ว่าใครจะแวะเข้าไปขายขนมจีบ สิ่งที่ทุกคนได้รับคือความเฉยชา
“อะไรกันๆ” ออสตินหนุ่มหล่ออีกคนเดินเข้ามาอยู่ในวงสนทนา เขาถามเพราะความอยากรู้
“เปล่า เรื่องขนมอบน่ะ พี่เรียวว่าเย็นๆ จะแวะไปรับมาให้ ไปจัดตู้รอไปๆ” เคียวดูเป็นผู้ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม เขาเป็นคนแบ่งหน้าที่การทำงานให้กับทุกๆ คน
“อ๋อ...นึกว่านินทาคุณพาย...จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งด้วย”
“อยากโดนเจ้าหล่อนฉีกอกเอาหรือไงออสติน...หล่อนเป็นปีศาจหมาป่าน่ะ ดูเล็บหล่อนสิ!!” ไทเกอร์โฉบเข้ามา เขาพูดเสียงใส เมื่อฉายาของพิมพ์ประพายที่ทุกคนตั้งให้คือนางปีศาจหมาป่า เพาะเจ้าหล่อนชอบต่อเล็บแหลมๆ และชอบกรีดกรายนิ้วไปมาเหมือนหมาป่ากางเล็บเตรียมขยุ้มเหยื่อ
“อุ้ย!! กลัวแล้วไม่เอาแล้ว ไม่นินทาแล้วคร๊าฟ ไปดีกว่า” ออสตินย่นคอหด ชายหนุ่มรีบเดินเร็วๆ ไปประจำหน้าที่ของตัวเอง เมื่อมีลูกค้าสาวๆ มายืนรอที่หน้าเคาน์เตอร์
“ชื่ออะไรนะ เจ้าของร้านเบเกอร์รี่นั่นน่ะ” เคียวยังติดใจ
“ชื่อเพราะๆ หน้าตาดี ได้ยินคนอื่นเรียกมัฟฟินนะ ชื่อจริงอะไรน๊า...วันวาด...ใช่ๆ นี่เลย” แลมโบเป็นตัวแสบที่ชอบสอดส่อง เขาเป็นคนช่างเจรจา จึงรู้เรื่องราวมากกว่าคนอื่นๆ เมื่อเจ้าตัวจะไม่รอช้าหากอยากรู้เรื่อง
แค่ชื่อก็กินขาด เคียวนึกในใจ เขาชักอยากเห็นแล้วสิว่าเจ้าของร้านเบเกอร์รี่นั่นจะสวยมากมายขนาดไหน?
พิมพ์ประพายแทบจะถลาเข้าไปหาชายหนุ่ม เธอทนนั่งอึดอัดอยู่เป็นนาน ก็อะไรเสียอีกล่ะ สายตาของหนุ่มๆ แต่ละคนเหมือนกับตำหนิเธอกลายๆ รอก่อนเถอะ รอให้เธอได้เป็นเจ้าของมกราเต็มตัว เธอจะอบรมกริยามารยาทของลูกน้องของเขาทั้งหมด ให้รู้เสียบางว่าเธอคือใคร?
“มีธุระอะไรกับพี่ไหมพาย?” ประโยคคำถามที่เป็นทางการเสียจนเธอสะอึก จึงอดไม่ได้ที่จะตวัดสายตาไม่พอใจให้ แต่ก็ต้องรีบปรับเปลี่ยน เพราะชายหนุ่มชักสีหน้าใส่เธอเหมือนกัน มกราไม่เคยอยู่ในการคอนโทรนของเธอสักครั้ง ไม่ว่าเธอจะมีแบล็คดีอย่างคุณหญิงเพชรนภามารดาของชายหนุ่มเป็นคนดันหลังก็เถอะ
“พายไม่มีธุระ พายมาหาพี่เรียวไม่ได้เหรอคะ?” เธอแสร้งบีบเสียงให้สั่นเครือ ช้อนสายตามองเขาอย่างเว้าวอน
มกราผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ เขามองใบหน้าพิมพ์ประพาย ก่อนจะคลี่ยิ้มอ่อนๆ
“พายก็รู้ว่าพี่งานยุ่ง พี่ไม่มีเวลาเทคแคร์ใคร? เลยอาจทำให้คนอื่นเสียอารมณ์ แค่งานที่ทำทุกวันนี้ เวลาของพี่ก็แทบไม่มีเหลือ...เลยไม่ยากให้ใคร!! เสียเวลา” เป็นการบอกอ้อมๆ และเขาหวังว่าสิ่งเขาบอก หญิงสาวจะเข้าใจ ไม่วอแวให้เขาเบื่อหนักกว่าเดิม
“เป็นเจ้าของกิจการแล้วทำให้พี่เรียวไม่มีเวลา พายว่าจ้างคนมาทำต่อดีกว่าไหมคะ? เราจะได้ไม่เหนื่อย”
“แล้วจะภูมิใจตรงไหนล่ะพาย หากไม่ได้เป็นคนลงมือเอง พี่ไม่อยากให้ใครกระแหนะกระแหนว่าเป็นลูกเศรษฐีเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ แค่บริหารร้านกาแฟเล็กๆ ยังต้องยืมจมูกคนอื่นมาหายใจ”
“ก็มันทำให้พี่เรียวกับพายห่างกันนี่คะ...พายอยากมีเวลาส่วนตัวบ้าง ไม่ใช่มาหากี่ครั้งพี่เรียวก็ยุ๊งยุ่ง!!”
“พี่ต้องขอโทษด้วยนะที่ไม่สามารถ...พี่อยากโฟกัสเรื่องงานมากกว่า” ชายหนุ่มพูดเสียงเย็นชา พิมพ์ประพายออกตัวเหมือนกับว่าทั้งสองคนเป็นอะไรกัน ทั้งๆ ที่เป็นแค่คนรู้จัก ความต้องการของมารดา ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องสานต่อนี่...ความรัก...เป็นสิ่งล่ำค่า...เป็นความรู้สึกที่ผุดพรายขึ้นในหัวใจ...ไม่มีใครสามารถกะเกณฑ์ได้...มันเหมือนกลีบดอกไม้บางเบา...ที่ถักทอและเบ่งบาน...
พิมพ์ประพายอยากลุกขึ้นยืน แล้วร้องกรีดๆ เธอเฝ้าเทียวไล้เทียวขื่อ...มกรามานานปี เขาถูกตาตั้งแต่แรกเห็น เพราะคุณหญิงแม่สนิทสนมกัน ท่านเลยอยากให้ลูกสาว ลูกชายได้คบหาดูใจ ทั้งสองท่านจัดแจงนัดหมาย แนะนำให้มกรากับพิมพ์ประพายรู้จักกัน เธอเกิดอาการปิ้งรัก!! แอบถูกใจเขาตั้งแต่แรกเห็น...แต่ชายหนุ่มกลับเฉยเมย เขาวางเธอในตำแหน่งคนรู้จัก แต่คิดเหรอว่าเธอจะยอมหยุด เธอตามติด เกาะเกี่ยวไม่ยอมปล่อย ให้มันรู้ไปสิว่ามกราจะทานไหว เมื่อมีแรงสนับสนุนจากคุณแม่ของเขาเอง
แต่...ดูเหมือนเธอจะคาดการณ์ผิด ชายหนุ่มหนักแน่น...เขาไม่สนใจคำยุยงของบิดา มารดา หรือคนรอบข้าง
การมีรักนั้นยากนัก!! แต่การดูแลรักษารักให้ยืนยาวนั้นยากกว่า...และการทำให้คนที่ไม่มีใจหันมารัก...มันทั้งหนักและเหนื่อย...
พิมพ์ประพายซึมไปเลย เธอสลดลงไปเยอะ และหมดอารมณ์ที่จะพูดคุยกับมกรา เธอปล่อยให้เขาไปทำงาน โดยที่ตัวเองยังจมอยู่กับความเศร้า สายตาเหม่อลอย มองเลยไปไกล ไม่ได้โฟกัสตรงไหน แม้แต่ยวดยานที่วิ่งกันควักไขว่บนท้องถนน ในหัวของเธอมีความขัดแย้งกันเอง เสียงเล็กๆ แหลมๆ ร่ำร้องให้เธอหยุด เพราะมันน่าอายที่ต้องวิ่งไล่ตามผู้ชายหนึ่งคน ที่เขาไม่ได้สนเหลียวแลเธอสักกะผีกเดียว
‘หยุดได้แล้วพาย...เธอจะทำให้ตัวเองดูด้อยค่า ไม่ได้มีผู้ชายคนเดียวบนโลกใบนี้น่ะ ยังมีผู้ชายอีกหลายคนที่พร้อมจะหมอบราบอยู่แทบเท้าของเธอ’
‘เธอท้อหรือพาย...พี่เรียวคือผู้ชายที่เธอรักไม่ใช่หรือ?’
เสียงหวานนุ่มของผู้หญิงในชุดขาว เธอดูเรียบร้อยผิดกับอีกคนที่อยู่ในชุดสีแดงเพลิง และคนทั้งคู่คือส่วนหนึ่งในความคิดของเธอ
‘เขาไม่ได้รักเธอนะ เขาเฉยชาจะตาย แล้วจะทนให้เสียเวลาทำไม สู้มองหาคนใหม่ไม่ดีกว่าเหรอ?’
...นั้นสินะ เธอจะวิ่งไล่มกราจนถึงเมื่อไร? เธอไม่มีศักดิ์ศรีหรือยังไง ทำไมถึงทำให้ตัวเองดูน่าสมเพช...
พิมพ์ประพายคลี่ยิ้ม มุมปากเธอกดลงต่ำ เป็นรอยยิ้มที่เหยียดหยันตัวเอง มกราเป็นคนไร้หัวใจสำหรับเธอ เขาไม่เคยมองเธอเป็นอื่น นอกจากลูกสาวเพื่อนของแม่ แต่เธอสิ!! ดันไปตกหลุมรักเขา...จนต้องมานั่งเจ็บใจตัวเอง เอาเป็นว่า...เธอจะขอสู้ครั้งนี้ครั้งสุดท้าย ถ้ายังไม่สามารถทำให้มกราหันกลับมาสนใจตัวเองได้...เธอจะถอนตัว!!
แต่จะทำยังไงได้ล่ะ เธอหลงรักเขาไปแล้วจนยอมทำตัวโง่ๆ เป็นผู้หญิงน่าไม่อาย วิ่งไล่ตามผู้ชายยิกๆ
ก่อนอื่นเธอต้องหาตัวช่วย และเตรียมแผนสำหรับการจู่โจม...คงไม่มีใครที่ฉลาดพอจะช่วยเธอได้ เท่ากับ...กันภัย เบอนาร์ด
“พายกลับก่อนนะคะพี่เรียว ไว้ว่างๆ จะแวะมาใหม่”
หญิงสาวหยุดยืนที่ด้านหน้าเคาน์เตอร์ และมกรากำลังตรวจทานบัญชีรายได้ของร้าน เขาเงยหน้าขึ้น ส่งยิ้มอ่อนๆ ให้เธอก่อนจะพยักใบหน้ารับ แล้วก็หันไปสนใจงานของตัวเองต่อ ไม่ได้รั้ง หรือยื้อเธอไว้สักนิด หญิงสาวจึงจำใจถอยทัพ เธอขอกลับไปตั้งหลัก แล้วจะกลับมาอีกครั้งพร้อมแผนการมัดใจ!!
“วันนี้คุณพายแปลกๆ ไปนะพี่เรียว ยอมถอยง่ายๆ ไม่รู้มีแผนอะไรอีกหรือเปล่า?” ยังเป็นแลมโบคนเดิม ที่โฉบเข้ามาสัพยอก
“ไปทำงานเลยไป ชอบจังเลย...” ชายหนุ่มส่ายหน้า เขาโบกมือไล่ และหมดความสนใจพิมพ์ประพาย เมื่อเธอไม่เคยอยู่ในความคิด เวลานี้ในหัวของมกรา มีแต่ภาพของวันวาด ไม่รู้สิ...ไม่รู้เหมือนกันว่าติดใจอะไรเธอหนักหนา...รู้แค่ว่า อยากทำให้ดวงตาของเธอไม่มีแววตารันทดท้อ...
“อืม...” มกรายกมือขึ้นคลึงขมับ เขานั่งจ้องหน้าคอมเป็นเวลานานหลายชั่วโมง จนนัยน์ตาล้า
ชายหนุ่มพลิกหลังมือ หมุนแขนดูนาฬิกา ก่อนจะอุทานเสียงหลง “โอ๊ะ!! ตายห่า...เกือบหกโมงแล้ว...”
ชายหนุ่มกดหน้าจอพับลง เขาผุดลุกขึ้นยืน เตรียมตัวที่จะไปหาวันวาดที่ร้าน เพื่อดูขนมอบที่จะเตรียมมาวางขายในร้าน
“เคียว...ฝากร้านด้วย เดี๋ยวพี่มา...”