ตอนที่ 3

914 Words
ครั้งล่าสุดที่หล่อนนำกล่องข้าวมาให้กับเมธวัฒน์ เขาเย็นชาและไม่สนใจหล่อน ก่อนจะหย่อนกล่องข้าวที่หล่อนอุตส่าห์นำมาให้ลงถังขยะ ตอนที่เห็น หล่อนน้ำตาร่วง หัวใจเจ็บปวดจนแทบล้มทั้งยืน และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา หล่อนก็พยายามที่จะไม่มายุ่งเกี่ยวกับเขาอีก แม้ว่าจะรักแค่ไหนก็ตาม “เฮ้ออ...” หญิงสาวถอนใจแผ่วเบาอย่างไร้ทางเลือก ขณะก้าวเดินไปข้างหน้าทีละน้อย หล่อนอยากเจอเขา แต่เมธวัฒน์ไม่เคยอยากเห็นหน้าหล่อน ดังนั้นเมื่อส่งกล่องข้าวให้แล้ว หล่อนก็จะต้องรีบกลับไปทันที ในที่สุดก็มายืนอยู่หน้าห้องตรวจประจำของเมธวัฒน์ ที่ด้านหน้าห้องไม่มีใครอยู่แล้ว คงเป็นเพราะเป็นเวลาพักเที่ยง มือเล็กยกขึ้นเคาะเบาๆ ลงบนบานไม้ตรงหน้า รอจนคนในห้องอนุญาตจึงก้าวเข้าไป เมธวัฒน์ที่กำลังก้มหน้าอยู่กับแป้นพิมพ์ เงยหน้าขึ้น และเมื่อเห็นหล่อน เขาก็ชะงักไปชั่วขณะ ทรายทองรู้สึกร้อนผะผ่าวกับสายตาที่เขาจ้องมองมา หล่อนทำตัวไม่ถูก และอยากออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด “มาทำไม” “ทราย... ทรายเอาข้าวกล่องมาให้ตามคำสั่งของคุณหญิงค่ะ” เขายิ้มเยาะเต็มใบหน้า ขณะกวาดตามองไปทั่วทั้งเรือนกายสาว “คุณแม่สั่ง หรือว่าเธอนำเสนอกันแน่” หล่อนเบิกตากว้างตกใจ และส่ายหน้าปฏิเสธน้ำเสียงสั่นเทา “ไม่... ไม่ใช่อย่างที่คุณเมธคิดนะคะ ทราย...” เขาไม่ทนรอจนหล่อนพูดจบ เพราะเขาแทรกขึ้นมาในทันที “แล้วเธอรู้หรือว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่” ทรายทองแทบจะร้องไห้ กับสายตาเหยียดหยามที่เมธวัฒน์มองมา “ทราย... ทราย...” “เธอกำลังพยายามจะล่อลวงให้ฉันลากเธอขึ้นเตียง” “คุณเมธ...?!” “หรือว่าไม่จริงล่ะ” รอยยิ้มเยาะหยันยังคงเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลา “เธอใช้คุณแม่เป็นเครื่องมือ เพื่อให้ได้เข้าถึงตัวฉันให้ง่ายขึ้น” “มันไม่ใช่แบบนั้นนะคะ” กว่าหล่อนจะเปล่งถ้อยคำปฏิเสธออกมาได้ ก็แทบขาดใจเลยทีเดียว “อย่าคิดว่าฉันไม่เห็นสายตาของเธอเวลามองฉันนะ ทรายทอง” “คุณเมธ...” “ที่โต๊ะอาหาร เธอมองฉันราวกับจะกินเข้าไปทั้งตัว” หญิงสาวน้ำตารื้น ส่ายหน้าไปมาอย่างจนปัญญาจะช่วยเหลือตัวเอง “ทราย... ทรายไม่ได้...” “เธอโกหกไม่เก่ง เหมือนอ่อยผู้ชายหรอกทรายทอง” แต่ละคำของเขาช่างบาดลึกลงมาในหัวใจ ราวกับคมของใบมีดโกน หล่อนเจ็บ... เจ็บจนแทบจะยืนทรงตัวไม่ไหวอยู่แล้ว ในที่สุดหล่อนก็หลั่งน้ำตาออกมา แต่เขากลับไม่ได้เห็นใจเลย “อย่ามาแสร้งทำเป็นนางเอก เธอมันก็ตัวอิจฉาดีๆ นั่นเอง” หล่อนพูดไม่ออก กำกล่องข้าวในมือแน่นจนแทบแตกคามือ “จำเอาไว้นะ ฉันไม่มีทางสนใจผู้หญิงจืดชืดไร้เสน่ห์อย่างเธอหรอก ไม่ต้องมาอ่อยอีก เข้าใจหรือเปล่า” หล่อนควรจะหายไปจากโลกใบนี้ใช่ไหม ควรจะหายไปจากสายตาของเขาเสียที “ทราย... ทรายวางกล่องข้าวไว้ตรงนี้นะคะ” ในที่สุดก็กัดฟันพูดออกมา แม้ว่าน้ำตาจะยังไหลไม่หยุดก็ตาม เมธวัฒน์ด่าทอหล่อนแบบนี้ทุกครั้ง ในยามที่เจอหน้ากันเพียงลำพัง แต่หล่อนไม่เคยปริปากเล่าให้คุณหญิงเมธาวีฟัง เพราะไม่ต้องการทำให้ท่านไม่สบายใจ “ทิ้งลงถังขยะ” “คุณเมธ...” “ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนทำ ดังนั้นฉันไม่กิน เอาทิ้งลงถังขยะ และเธอก็รีบไสหัวออกไปได้แล้ว” หล่อนเจ็บจนแทบจะขาดใจอยู่แล้ว ทำไมเมธวัฒน์ถึงใจร้ายแบบนี้นะ “วันนี้ทราย... ไม่ได้เป็นคนทำนะคะ ป้านิดเป็นคนทำ” เมื่อเห็นเขาชะงัก หล่อนจึงพูดออกไปอีก “ทรายไม่ได้โกหกหรอกค่ะ ป้านิดเป็นคนทำจริงๆ ถ้าคุณเมธไม่เชื่อ เย็นนี้ถามป้าแกดูก็ได้ค่ะ” “งั้นก็เอามาวางไว้บนโต๊ะ ส่วนเธอก็ไสหัวไปได้แล้ว” หล่อนขยับตัวเข้าไปใกล้โต๊ะทำงานของเขาด้วยเนื้อตัวที่สั่นราวกับลูกนก “วางสิ แล้วก็ไปซะ” หล่อนรีบวางและถอยออกห่างอย่างรวดเร็ว เมธวัฒน์ปรายตามองอย่างหงุดหงิด “แล้วทำไมยังไม่ไปอีกล่ะ จะอยู่ดูจนฉันกินข้าวอิ่มหรือไง” “คือ... คือคุณหญิงฝากมาเรียนคุณเมธว่า เย็นนี้คุณหญิงมีธุระนอกบ้าน และคงกลับดึก คุณเมธไม่ต้องรอรับประทานอาหารกับท่านนะคะ” เขาเงยหน้าขึ้น และจ้องหน้าหล่อนเขม็ง “เธอไปด้วยหรือเปล่า” “เอ่อ ไปค่ะ” กรามแกร่งขบกันแน่น ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งขรึมขึ้นมาในทันที “งั้นบอกคุณแม่ว่าฉันจะตามไปด้วย” “เอ่อ” “ไปบอกท่านตามที่ฉันสั่ง” ทรายทองไม่เข้าใจเมธวัฒน์นัก แต่ก็ไม่อาจจะขัดคำสั่งเผด็จการของชายหนุ่มได้ “ค่ะ” หล่อนก้มหน้าตอบรับ “ทราย... ทรายขอตัวกลับก่อนค่ะ” “น่าจะไปได้ตั้งนานแล้ว” หล่อนน้ำตาร่วงอีกครั้ง ขณะหมุนตัวเดินออกจากห้องทำงานของเมธวัฒน์อย่างรวดเร็ว เมื่อไหร่เขา... จะใจดีกับหล่อนบ้างนะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD