8
แรกๆ ไม่มีอะไร หากเมื่อเวลาผ่านไปครู่ใหญ่ ปลาดาวรู้สึกเหมือนว่าตัวเองถูกใครบางคนมองอยู่ จนขนคอลุกซู่ แต่เมื่อเหลียวไปมองดูกลับไม่เห็นใครที่น่าสงสัยเลยสักคนเดียว ...หรือเราคิดไปเอง
“มีอะไรหรือเปล่าคะพี่ปลา นิลเห็นพี่ปลาทำท่าแปลกๆ มองหาใครอยู่” ลินินถาม เมื่อเธอล่ะสายตาจากจักรธรมาแล้วเห็นปลาดาวหันไปมองทางโน้นทีทางนี้ที
“เปล่าจ๊ะ ไม่มีอะไร ว่าแต่นิลเถอะ” ปลาดาวถามกลับ เพราะไม่อยากให้ลินินกังวลกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง “เป็นยังไงบ้าง คิดว่าพอจะเผชิญหน้ากับนายจักรธรได้ไหม”
ลินินพยักหน้ารับ แต่ดวงตาและสีหน้ายังคงหวาดหวั่นและไม่แน่ใจในตัวเอง แค่เพียงแอบมอง เธอยังคงตัวสั่นใจสั่นขนาดนี้ ถ้าต้องเจอหน้าพูดคุยก็คงจะ...พอทำได้ แต่ถ้าต้องผจญกับโทสะของชายหนุ่ม เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่า จะเป็นลมไปก่อนหรือเปล่า
ปลาดาวตบบ่าลินินให้กำลังใจ “เอาน่านิล วันนี้แค่วันแรกเอง เดี๋ยวกลับบ้านไปพี่ก็จะแสดงตัวเป็นจักรธรตอนกำลังโกรธ จะได้ทำให้เธอคุ้นกับเวลาที่นายนั่นโมโห”
“ขอบคุณค่ะพี่ปลา” ลินินจับมือปลาดาวเดินออกจากสปอร์ตคลับ “นิลขอตัวไปห้องน้ำหน่อยนะคะ”
“จ้า เดี๋ยวพี่ไปรอนิลที่รถนะ แล้วนิลก็รีบๆ เข้าด้วยล่ะ เกิดเจอกับจักรธรโดยยังไม่ทันตั้งตัว นิลนั่นแหละจะแย่เอา”
“ค่ะ”
ลินินรับปากและเดินจากไปแล้ว ปลาดาวก็เริ่มกวาดสายตามองไปทั่วๆ แล้วดวงตากลมโตก็เบิกกว้างเมื่อเห็น...
โยชิอยู่พิงพนัก มองตรงมายังเธอราวกับว่าเขาจำได้ หัวใจปลาดาวเต้นแรงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“เจอกันอีกแล้วนะจ๊ะเมียจ๋า” โยชิเดินเข้ามาใกล้ก้มกระซิบข้างใบหูปลาดาว
หญิงสาวก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวทันที ปลาดาวทำเป็นไม่สนใจและพยายามจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่กลับไปไม่พ้นร่างแกร่งเดินมาดักหน้าไว้ พลางใช้นิ้วแตะเบาๆ ที่ข้อมือทำเอาเธอสะดุ้ง ร้อนวาบส่วนที่ถูกสัมผัสไปถึงหัวใจที่สั่นไหวหวาดหวั่น
“ขอโทษนะคะคุณ เอ่อ...ขอทางหน่อยได้ไหมคะ ฉันจะรีบไป” ปลาดาวบอกขอทางเสียงสั่น ทำไมไอ้บ้านี่ทำเหมือนจะจำเราได้วะ
โยชิเหยียดยิ้ม เขากวาดตามองปลาดาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เขาสอดมือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงออกกำลังกายสีขาว โดยยังยืนที่เดิม ไม่ยอมหลีกทางให้ปลาดาวดังที่หญิงสาวขอ
“ขอโทษนะคะคุณ กรุณาหลีกทางให้ฉันด้วยค่ะ” ปลาดาวเริ่มคุมสติได้ ใจก็เริ่มมีโทสะผสมกับความรู้สึกบางอย่างที่จู่โจมพุ่งเข้าสู่หัวใจอย่างที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว
โยชิมองใบหน้าขาวแดงก่ำราวกับลูกตำลึงสุก สองมือกำแน่น ขบเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ตามองเขาราวกับจะฉีกเนื้อออกเป็นชิ้นแล้วเอาเกลือทาให้สะใจ
“จะรีบไปไหนล่ะ ฮืม...ลูกผมล่ะ เป็นยังไงบ้าง สบายดีหรือเปล่า”
ปลาดาวถึงกับผงะ เผลอก้าวถอยหลังเล็กน้อย “ลูก! ลูกอะไรของคุณ เราไม่รู้จักกันเลยนะ คุณอย่ามาคิดจีบสาวด้วยมุกแบบนี้นะ ฉันไม่หลงกลหรอกย่ะ”
ปลาดาวรีบสาวเท้าก้าวไปอีกทาง หวังจะหนีให้พ้นโยชิ แต่กลับโดนเขาจับมือและดึงเข้าหาตัว
“เฮ้ย! ปล่อยฉันนะไอ้บ้า”
แต่...นอกจากโยชิจะไม่ปล่อยแล้ว เขายังจับแขนเรียวบิดไปด้านหลัง กับกดปิดปากอวบอิ่มที่กำลังจะแผดเสียงร้องไว้ทันควัน
เขากดไล้ปลายลิ้นไปตามขอบปากนุ่มนิ่ม บดคลึงขบเม้มก่อนจะแทรกลิ้นอุ่นเข้าไปในปากปลาดาว หลอกล้อเล่นกับปลายลิ้นที่พยายามขับไล่สิ่งแปลกปลอมออกไป อีกมือจับอกกลมกลึงเคล้นเคล้าคลึงอย่างย่ามใจ
“อื้อ...” ปลาดาวพยายามขัดขืน หากสัมผัสที่ได้รับ ทำให้เธอถึงกับตัวสั่นระริก วาบหวามปั่นป่วนตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า สองขาสั่นเทาจนแทบจะยืนไม่อยู่
โยชิปล่อยมือเรียว พลางกดฝ่ามือบนแผ่นหลังนวลเนียนจนอกปลาดาวแนบไปกับอกกว้าง
“นี่หรือเมียผม แค่จูบยังไม่เป็นสับปะรดเลย” โยชิผลักกายอรชรออกพลางยิ้มใส่ตากลมโตที่เบิกกว้าง
“แล้วเจอกันใหม่นะจ๊ะเมียจ๋า” ชายหนุ่มก้มบอกเสียงพร่าข้างหูคนที่กำลังจะทรุดตัวลงกองกับพื้น เขาหันหลังเดินไปที่ลานจอดรถ ยิ้มทั้งปากและตาที่โชนแสง มือใหญ่ยกชูสองนิ้วโบกลาสาวใจกล้า
ปลาดาวเซถลาจนแผ่นหลังไปอิงกับผนัง เธอมองแผ่นหลังคนที่กำลังเดินจากไปใจสั่นและหวาดหวั่น เธอยกมือจับปากที่ถูกโยชิบดขยี้เอาตามแต่ใจ ความร้อนผ่าวร้อนรุ่มยังคงติดอยู่บนริมฝีปาก
“พี่ปลา...พี่ปลาเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” ลินินที่เดินเข้ามาตามปลาดาวด้วยเธอยืนรออยู่ที่รถนานแล้วแต่ก็ไม่เห็นวี่แววของพี่สาว
“พี่ปลา...” ลินินเขย่ากายพี่สาวจนหญิงสาวได้สติ “เกิดอะไรขึ้นคะ...ใครทำอะไรพี่หรือเปล่า”
“ปะ...เปล่าจ๊ะ พอดีพี่ตาฝาด เห็นถุงขยะเป็นหนูนะ เลยตกใจนิดหน่อย"
“พี่ปลาขับรถไหวหรือเปล่า ถ้ายังไงให้นิลขับเองก็ได้นะคะ” ลินินยื่นมือขอกุญแจรถจากปลาดาว
“ไม่เป็นไรจ้ะ พี่ขับได้” ปลาดาวลวงกุญแจรถในกระเป๋า รีบเปิดขึ้นไปแต่ยังรู้สึกขนลุกวูบที่ต้นคอ จนต้องเหลียวมองไปรอบๆ ก็ได้เห็นโยชิยืนพิงประตูรถสปอร์ตสีดำอยู่ มือหนึ่งล้วงในกระเป๋ากางเกงอีกมือยกชูสองนิ้วแตะที่ขมับแล้วยกออก ในดวงตาเป็นประกายโชนแสง พลางยิ้มเหยียดๆ ส่งมาให้เธอ
“ไอ้บ้า!”
“อะไรคะพี่ปลา”
“เอ่อ...เปล่าจ้ะ” ปลาดาวรีบขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็แอบมองกระจก เธอยังคงเห็นแววตาแปลกๆ ของโยชิที่ติดตามมาหลอกหลอน สลัดยังไงก็ยังคงติดหนึบอยู่ในหัว
หลังจากเพียรฝึกลินินให้เข้มแข็งและแกร่งเพื่อจะต่อสู้รับมือกับจักรธร เธอจึงพาน้องสาวมายังสปอร์ตคลับ เพื่อดูของความพยายาม
ลินินยกมือชูสองนิ้ว ยิ้มแต่ใบหน้าตาซีดเซียว “สู้ค่ะพี่ปลา”
“สู้ๆ นะนิล เธอทำได้อยู่แล้ว” ปลาดาวบอกขณะบุ้ยใบให้ลินินมองไปยังคู่กรณี “นั่นไงโจทย์นิลมาแล้ว พร้อมแล้วใช่ไหมคนเก่ง”
“ไม่พร้อมก็ต้องพร้อมแล้วค่ะพี่ปลา” ลินินบอกทั้งที่ตัวยังสั่นหน้าตายังขาวซีด ขณะสาวเท้าเดินไปหาจักรธรอย่างเชื่องช้าไม่มั่นใจ หญิงสาวปรายสายตาไปมองพี่สาวที่ยืนแอบมองพร้อมส่งรอยยิ้มแห่งรักและอบอุ่น พร้อมให้กำลังใจเธออยู่อีกด้านหนึ่งของห้อง ทำให้เธอต้องพยักหน้ารับว่า...สู้ไหว เมื่อตัดสินใจไปแล้วก็ต้องทำให้ได้
ลินินเดินเลี่ยงไปอีกด้าน เพื่อไม่ให้จักรธรสงสัย ก่อนจะถอยหลังมาจนชนกับเขาแทน
“อุ้ย! ขอโทษค่ะ นิลไม่ได้ตั้งใจ” ลินินอุทานพร้อมคำขอโทษที่ฝึกพูดเป็นหลายสิบครั้งมาตั้งแต่ที่บ้าน
“พี่จักร!!!” ไม่ได้แกล้ง เพียงเห็นหน้าจักรธรใจเธอก็เต้นแรงเร็ว แข้งขาสั่นจนแทบจะทรุดกองกับพื้นจริงๆ
“ไม่เป็นไร” เสียงห้าวตอบกลับมา มองหน้าคนชนสายตาโชนแสง ชายหนุ่มแยกเขี้ยวใส่ พลางจับมือเรียวดึงเข้าหาตัวอย่างแรง
“เธอมาทำอะไรที่นี่ลินิน” จักรธรแยกเขี้ยวถาม ขณะมองลินินตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะสอดส่ายสายตาหาหญิงตัวร้ายปลาดาวว่าซ่อนตัวอยู่ที่ไหน
ไม่มีทางที่แม่ตัวร้ายจะปล่อยให้น้องสาวสุดที่รักคลาดสายตา ยิ่งมาเจอกับเขา...ปลาดาวจะต้องตามมาคุ้มกันเป็นอย่างดี ที่ทำให้เขาสงสัยเมื่อไม่เห็นเงาของยายตัวแสบ
สองคนพี่น้องตัวแสบและแม่เขาจะต้องคิดทำอะไรกันแน่นอน...
“เอ่อ...นิลมาออกกำลังกายค่ะ” ลินินตอบกลับขณะหลบสายตาคนที่มองมาราวกับจะฉีกเนื้อเธอออกเป็นชิ้นๆ ดวงตาแข็งกร้าวดุจนใจเธอฟ่อ ขาสั่นจนแทบจะทรุดไปกองอยู่กับพื้นห้อง แต่ต้องพยายามฝืนยืนให้มั่นคง พยายามนึกถึงสิ่งที่ปลาดาวบอกก่อนหน้าที่เธอจะเผชิญหน้ากับจักรธร
“พี่เชื่อ นิลเป็นคนเก่ง เรื่องแค่นี้ทำได้อยู่แล้ว สู้ๆ จ๊ะ” ปลาดาวยกมือชูสองนิ้วพร้อมรอยยิ้มให้กำลังใจน้องสาวที่ทำหน้าแหยๆ
“อย่างเธอนี่นะ จะมีปัญญามาออกกำลังกายที่หรูๆ อย่างนี้” จักรธรพูดดูถูก บีบมือลินินอย่างแรง ขณะมองหญิงสาวด้วยสายตาประเมินค่าและไม่เป็นมิตร ก่อนจะยิ้มเหยียดๆ
“ใช้อะไรแลกเพื่อจะได้มาที่นี่ล่ะ เธอถนัดทำแบบนี้ตั้งแต่เด็กอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง”