7
“หนูสองคนต้องตอบแทนบุญคุณคุณหญิงและคุณชายนะลูกปลาดาว ลินิน ท่านมีบุญคุณกับเรา ให้ที่อยู่ให้ที่กิน ให้งานเราทำ ส่งเสียหนูสองคนให้เรียนหนังสือ ถ้าท่านเดือดร้อน เราต้องช่วยเหลือ เท่าที่เราสองคนจะทำได้นะจ๊ะหลานยาย”
“แล้วแต่เธอนะนิล จะเอายังพี่ไม่ขัดขวาง แต่สำหรับพี่ ยังไงก็ไม่ตกลง!” ปลาดาวปล่อยให้ลินินตัดสินใจเองว่าจะเอายังไง
ลินินจับมือคุณหญิงอาภรณ์ มองเข้าไปในดวงตาเหี่ยวย่น “ตกลงค่ะ นิลจะช่วยคุณหญิง”
สิ้นคำพูดของลินิน คุณหญิงอาภรณ์ก็ผวาเข้ากอดหญิงสาวพลางลูบมือบนแผ่นหลังบางแผ่วเบา
“ขอบใจนะแม่นิล ฉันคิดไม่ผิดที่มาขอร้องให้เธอสองคนช่วย” คุณหญิงคลายอาการหมองเศร้าและยิ้มออก ในขณะที่คนรับคำขอบใจกลับมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก มองไปยังพี่สาวอย่างขอความช่วยเหลือ
“ในเมื่อยายนิลรับคำขอแล้ว คุณหญิงก็คงจะพอใจแล้ว” ปลาดาวถอนใจเฮือกใหญ่ “ปลาขอเวลาคุณหญิงสักเดือนนะคะ จะฝึกยายนิลให้สามารถมองหน้าและพอรับมือกับไอ้คุณพี่จักรก่อน ไม่ใช่ว่าพอเจอหน้านายนั่น ยายนิลก็เป็นลมล้มพับเสียก่อนที่จะทันได้ทำอะไร”
“เอาอย่างนี้สิแม่ปลา เดือนหน้าปลายเดือนจะมีงานแซยิดคุณพี่สถาพร ฉันจะเปิดตัวคู่หมั้นตาจักรในงานเสียเลย ยายนิลเองก็มีเวลาเดือนกว่าที่จะเตรียมตัวเตรียมใจ แล้วก็เตรียมแผนรับมือกับตาจักรด้วย ดีไหม” คุณหญิงรีบหยิบกระเป๋าลุกขึ้นยืน เตรียมออกจากห้องพักของสองสาว เพราะกลัวว่าถ้ากลับช้าไป คนที่รับปากแล้วจะเปลี่ยนใจ
“อ้อ...ฉันลืมบอกไป ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง เธอสองคนเก็บบิลไปเบิกที่ฉันได้เลย ทุกอย่างที่จะทำให้ยายนิลกล้ารับมือกับลูกชายฉันและสวยที่สุดในงานวันนั้นนะปลาดาว” คุณหญิงอาภรณ์ย้ำอย่างมั่นใจ ปลาดาวจะทำให้ลินินเกิดความมั่นใจ กล้าและสามารถสู้กับจักรธรได้
“ขอบใจนะลินิน ฉันอยากจะบอกให้เธอรู้ไว้ ฉันจะยินดีเป็นอย่างมาก ถ้าเธอจะมาเป็นสะใภ้ฉันและทำให้ตาจักรหลงรักและยอมแต่งงานกับเธอจริงๆ ไม่ใช่การเล่นละครหลอกคนอื่น”
ลินินยืนอึ้ง หน้าร้อนผ่าว คิดว่าคงจะแดงก่ำทั้งหน้า
“ไม่คิดว่าคุณหญิงจะยินดีรับเธอเป็นลูกสะใภ้นะนิล งานนี้นายจักรมีหวังหนาวแน่ และเธอคงจะต้องเตรียมรับมือกับนายนั่นให้ได้ก่อน ว่าแต่คุณน้องนิลคนสวยจะทำยังไงดีเอ่ย บอกคุณพี่มาหน่อยสิจ๊ะคุณน้องคนสวย” ปลาดาวนั่งไขว่ห้างกระดิกปลายเท้า วางมือบนเข่า เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ขณะมองลินินด้วยความห่วงใยระคนกังวล
ลินินยิ้มแหยๆ ส่ายศีรษะแรงๆ ทำหน้าตาน่าสงสารใส่พี่สาว “พี่ปลาช่วยหน่อยสิคะ นิลต้องทำยังไงบ้าง แค่ได้ยินชื่อ...พี่...เอ่อ....พี่จักร นิลก็สั่นแทบจะแย่แล้ว ถ้าให้ไปเผชิญหน้าตรงๆ แหะ...แหะ นิลคงจะเป็นลมจับเหมือนวันนั้นอีกแน่ๆ เลย”
“ยังเก็บรูปนายนั่นไว้หรือเปล่าล่ะ” ปลาดาวถาม เพราะคุณหญิงอาภรณ์หมั่นส่งรูปของจักรธรมาให้เธอและลินินทุกเดือนก็ว่าได้ บางเดือนใจดีแถมซีดีมาให้ด้วย
‘สงสัยยายคุณหญิงจอมเจ้าเล่ห์จะวางแผนไว้ตั้งแต่ต้น’ ปลาดาวกลอกตาไปมา
ลินินพยักหน้ารับ
“เคยได้ยินเขาบอกว่าหนามยอกต้องเอาหนามบ่งไหม ถ้าเธอมั่นใจว่าจะรับทำงานนี้จริง เธอก็ต้องอดทนและทำตามที่พี่แนะนำ ห้ามโต้เถียงโต้แย้ง ตกลงไหม”
ลินินทำหน้าแหย แต่ก็พยักหน้ารับ “ค่ะ แล้วพี่ปลาจะให้นิลทำไง
ละคะ”
“ยายเคยเอาหนังสือธรรมะมาให้พี่อ่าน พี่จำได้ว่าครั้งหนึ่งพระพุทธองค์ทรงเล่าเป็นเชิงแนะ เรื่องการเอาชนะความหวาดกลัวไว้ว่า” ปลาดาวหลับตาลง ท่องให้ลินินฟังถ้อยคำที่เธอจำได้ขึ้นใจ เพราะเธอเคยนำมันมาใช้กับเองหลายครั้งเวลาที่เกิดความกลัวกับอะไรสักอย่าง
“ถ้าความหวาดกลัวเกิดขึ้นในขณะที่กำลัง เดิน อยู่ จะไม่ทรงยืน ไม่ทรงนั่ง และไม่ทรงนอนเลย
จะทรง เดิน จนกว่าความหวาดกลัวจะหายไป
ถ้าความหวาดกลัวเกิดขึ้นในขณะที่กำลัง ยืน อยู่ จะไม่ทรงเดิน ไม่ทรงนั่ง และไม่ทรงนอนเลย
จะทรง ยืน จนกว่าความหวาดกลัวจะหายไป
ถ้าความหวาดกลัวเกิดขึ้นในขณะที่กำลัง นั่ง อยู่ จะไม่ทรงนอน ไม่ทรงยืน และไม่ทรงเดินเลย
จะทรง นั่ง อยู่จนกว่าความหวาดกลัวจะหายไป
ถ้าความหวาดกลัวเกิดขึ้นในขณะที่กำลัง นอน อยู่ จะไม่ทรงนั่ง ไม่ทรงยืน และไม่ทรงเดินเลย
จะทรง นอน อยู่จนกว่าความหวาดกลัวจะหายไป”
“และสำหรับเธอ ลินินในเมื่อเธอกลัวนายจักรธรขนาดแค่เห็นหรือได้ยินเสียงก็ตัวสั่น ได้เห็นหน้าก็เป็นลม เราก็นำรูปนายจักรมาติดให้ทั่วบ้าน พี่จะทำหน้ากากเป็นรูปนายจักรสวมไว้เวลาอยู่กับเธอ เลียนแบบเสียงพูด พฤติกรรมความโกรธของนายนั่นให้เธอชิน”
“เอาแบบนั้นหรือคะพี่ปลา นิล...นิล...”
“ใช่ และเราต้องรีบด้วย เริ่มลงมือกันตั้งแต่ตอนนี้เลยด้วย”
ปลาดาวสั่งให้ลินินรื้อหารูปภาพของจักรธรที่มีทุกภาพ ซีดีที่คุณหญิงอาภรณ์ส่งมาให้ทุกแผ่น จัดการนำภาพจักรธรทากาวและช่วยกันติดจนทั่วห้อง
ปลาดาวปรายตามองดูน้องสาวที่ทำตามคำสั่งของเธอทั้งที่กลัวจนตัวสั่น จากนั้นก็เริ่มให้ลินินหาข้อมูลที่มีรูปจักรธรมาจากเน็ต ขยายจนใหญ่ ตัดทำเป็นหน้ากากมาสวม ดัดเสียงพูดให้ห้าวและใหญ่ขึ้นพอให้ฟังดูเป็นเสียงผู้ชาย ก่อนจะทดลองกับลินิน
“ว่าไงน้องนิลเราเจอกันอีกแล้วนะคนสวย”
“กรี๊ด!!!” ลินินสะดุ้ง กรีดร้องเสียงดังลั่นห้อง ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นห้อง สองมือปิดใบหน้า ใบหน้าซีดเซียว หายใจหอบแรง เหงื่อผุดเต็มใบหน้าพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม เนื้อตัวเย็นยะเยือกและสั่นเทา
“พี่ปลา ฮือๆ ช่วยด้วย ฮือๆ ช่วยนิลด้วย” ลินินร้องเรียกปลาดาวน้ำเสียงสั่นปนสะอื้น
ปลาดาวไม่ยอมถอดหน้ากากรูปใบหน้าจักรธรออก เธอโอบแขนรอบตัวลินิน “ไม่เป็นไรนิล นี่พี่เอง เธอต้องทำได้ เชื่อพี่สิ นายจักรก็คนเหมือนกับเราๆ นี่แหละ ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นสักหน่อย” ปลาดาวดึงกระดาษภาพจักรธรวางบนโต๊ะ เอื้อมมือหยิบปากกาใส่มือลินิน
“มันทำให้นิลกลัวใช่ไหม นี่แน่ะ...นี่แน่ะ” ปลาดาวจับมือลินินไว้แน่น วาดปากกาไปบนใบหน้าจักรธรจนเลอะเทอะเปรอะเปื้อน “ภาพเดียวคงไม่พอและไม่สะใจ เอาอีกนะนิล” หญิงสาวยื่นมือไปหยิบภาพจักรธรวางบนโต๊ะ จับมือลินินทำแบบเดียวกันจนรู้สึกว่ามือน้องสาวเริ่มจะอุ่นขึ้นและลมหายใจก็ดีขึ้น
“พี่ปลา” ลินินสะอื้น น้ำตาไหลอาบสองแก้ม ซบหน้ากับบ่ากว้างพลางโอบและแขนรอบตัวพี่สาว
“ไม่เอา อย่าร้องสินิล ในเมื่อตัดสินใจทำลงไปแล้ว ถึงพี่จะห้ามไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร พี่ทำได้เพียงแค่ช่วยนิลให้หายกลัวนายจักรธรมากที่สุดเท่านั้น แต่พี่ก็เชื่อนะ น้องของพี่เป็นคนเก่ง จะทำได้อยู่แล้ว ใช่ไหมจ๊ะ” ปลาดาวให้กำลังใจ
“ค่ะ นิลต้องทำได้ จะต้องเอาชนะความกลัวที่มีต่อพี่จักรให้ได้ นิลสัญญาค่ะ” ลินินยกมือชูสามนิ้วเหมือนลูกเสือให้สัญญากับพี่สาวและยิ้มให้ทั้งที่ดวงตาแดงก่ำ
ตลอดเวลาเกือบหนึ่งเดือนที่ปลาดาวช่วยลินินให้คลายความหวาดกลัวจักรธร แต่เธอก็ยังไม่แน่ใจว่าจะได้ผลแค่ไหน จึงต้องขอความช่วยเหลือจากคุณหญิงอาภรณ์เพื่อทดสอบลินิน จนได้รู้ว่าทุกวันพุธ พฤหัสและวันเสาร์ จักรธรจะต้องไปออกกำลังกายที่สปอร์ตคลับพร้อมกับศิริอรทุกอาทิตย์
เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่คิดหวังกันไว้...ลินินเผชิญหน้ากับจักรธรได้โดยไม่มีอาการตื่นตระหนกหวาดผวาจึงต้องให้หญิงสาวเผชิญหน้ากับจักรธรตรงๆ
วันนี้เป็นเพียงวันแรกที่ลินินต้องเจอกับจักรธร จึงจัดเพียงแค่แอบดูอยู่ห่างๆ ก่อน
“เป็นไงบ้างนิล คิดว่าพอจะไหวไหม” ปลาดาวถามพลางตบบ่าลินินเบาๆ
“ค่ะ คิดว่าพอไหวค่ะพี่ปลา แต่นิลยังสั่นอยู่เลย” ลินินบอกพี่สาว ขณะมองไปที่ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ที่กำลังออกกำลังกายอยู่บนลู่วิ่ง ใกล้ๆ กันก็มีร่างอวบอั๋นของผู้หญิงอีกคนยืนให้กำลังใจ ทำให้เธอเกิดความรู้สึกอิจฉาขึ้นมา
“สู้ค่ะพี่ปลา!”