‘ชิ! นี่คิดว่าเราจะหน้ามืดไปปล้ำเขางั้นสิ ถึงได้กั้นหมอนข้างไว้แบบนี้’
ดาวเรืองต่อว่าคนตัวใหญ่ในใจ ขณะที่ล้มตัวลงนอนบนเตียงใหญ่ข้างๆ สามีป้ายแดง โดยมีหมอนข้างใบใหญ่ก้านกลางเอาไว้ ด้วยฝีมือของชายหนุ่ม
“มองอะไร ไม่เต็มใจแต่งงานก็ต่างคนต่างอยู่สิ”
“คิดว่าตัวเองหล่อตายเลยงั้นสิ ถึงได้มโนเอาว่าคนอื่นเขาจะมองตัวเองตลอดเวลา”
ดาวเรืองสวนกลับด้วยความหมั่นไส้ ดึงผ้าห่มจากเขาแรงๆ เพื่อมาห่มให้กับตัวเอง เนื่องจากมีผ้าห่มแค่ผืนเดียว ซึ่งเขาก็ยอมให้เธอแย่งไปแต่โดยดี
“ยายเด็กนี่ปากจัดเป็นบ้าเลย!”
คีรินบ่นพึมพำกับตัวเอง แต่ดังพอที่จะทำให้คนข้างๆ ได้ยิน เลยสวนขึ้นมาอย่างคนชอบเอาชนะ
“คุณก็คนแก่ บ้าอำนาจเหมือนกันนั่นแหละ!”
“ได้ผ้าห่มแล้วก็คลุมหัวปิดหน้าหลับได้แล้ว และอย่าคิดจะมาปล้ำผมกลางดึกก็แล้วกัน”
“ประโยคนี้ฉันควรจะพูดมากกว่านะ”
“ก็คอยดู”
คีรินทร์ตัดจบบทสนทนาด้วยการพลิกตัวนอนหันหลังให้กับเธอ เช่นเดียวกับดาวเรืองที่พลิกนอนตะแคงหันหลังให้เขาเช่นกัน
………………………………………
เช้าวันใหม่…
ดาวเรืองค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ ก่อนจะอ้าปากค้างเมื่อพบว่าตัวเองกำลังข้ามเขตมาซบอยู่ตรงหน้าอกกว้างแข็งแกร่งของชายหนุ่ม เธอเกือบหลุดเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ แต่ก็ปิดปากเอาไว้ได้ทันก่อนที่จะทำเจ้าของอกกว้างตกใจตื่น
‘บ้าที่สุด! มานอนกอดเขาไว้แบบนี้อีตาบ้าจะคิดว่าเราเป็นคนอ่อยเขาไหมเนี่ย’
คิดแล้วดาวเรืองรู้สึกอยากจะกลั้นใจตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด เธอตั้งสติแล้วพยายามที่จะยกศีรษะเล็กออกจากอกเขาช้าๆ และเบาที่สุดเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว แต่แล้วดวงตาคู่สวยก็ต้องเบิกโพลงเมื่อเอวเล็กของเธอถูกแขนใหญ่รั้งไว้ไม่ให้ขยับตัวไปไหนได้
“ปล่อยนะ คนบ้า!”
เธอแผดเสียงดังร้องลั่นทันทีที่รู้ว่าเขาไม่ได้หลับ หากแต่แค่แกล้งนอนนิ่งๆ เท่านั้น
“ว่าฉันบ้าอย่างนั้นเหรอดาวเรือง”
“อยู่กันแค่สองคน ถ้าไม่ว่าคุณแล้วจะให้ฉันว่าใคร”
“เด็กแสบ! มานี่เลย!”
คีรินทน์หมดความอดทนกับเจ้าสาวจอมแสบ เขาจับเธอพลิกให้นอนหงายกับที่นอนก่อนที่จะพลิกตัวขึ้นมาคร่อมร่างของเธอเอาไว้ มือเล็กทั้งสองข้างถูกเขาตรึงไว้เหนือศีรษะหมดหนทางปัดป้องตัวเอง
“ว้าย! คุณทำบ้าอะไรเนี่ย!”
“ปากเก่งนักไม่ใช่เหรอ ว่ามาอีกสิ”
“คน…อุ๊บ!”
ยังไม่ทันที่เสียงหวานจะได้ต่อว่าคนตัวใหญ่มากไปกว่านั้น เสียงของเธอก็ต้องถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอ เมื่อปากหยักได้รูปประกบมาปิดปากเรียวสวยของเธอแนบแน่น ไม่ให้ด่าเขาได้อีก
คีรินทร์จัดการสอนแม่สาวปากดีด้วยการบดขยี้จูบเร่าร้อน เพื่อที่คราวหลังเธอจะได้ไม่ปากเก่งกับเขาอีก ทว่าพอได้สัมผัสเธอจริงๆ แล้วกลับเกิดความรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเกิดกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน ริมฝีปากที่หวานละมุนและท่าทางไร้เดียงสาของคนใต้ร่างทำให้เขาต้องหลุดเสียงครางต่ำในลำคออย่างพึงพอใจ
เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มรับรู้รสชาติของความไร้เดียงสาจากผู้หญิง มันช่างหอมหวาน และน่าลุ่มหลงจนเขาแทบคลั่ง ความรู้สึกของเขาด่ำดิ่งลงไปในคำว่าลุ่มหลงอย่างง่ายดาย แต่เพียงไม่นานก็ต้องตัดใจถอดถอนริมฝีปากออกเมื่อรับรู้ได้ว่าคนอ่อนประสบการกำลังจะขาดอากาศหายใจ
“จูบแรกเหรอ”
เขาอดที่จะถามออกไปตรงๆ ไม่ได้ แต่คนที่กำลังโดนปล้นจูบกลับสะบัดหน้าไปทางอื่นด้วยความโกรธปนอับอาย ที่ถูกเขาปราบอย่างง่ายดาย
‘ปากนุ่มจริงๆ อีกสักทีดีไหมเนี่ย!’
คีรินทร์ทำได้เพียงคิด เพราะรู้ดีว่าไม่ควรจะทำมันอีกเป็นครั้งที่สอง แต่ถึงจะรู้สึกผิดต่อเธอก็ทำได้เพียงนั่งเงียบๆ มองดูร่างอรชรที่ลุกพรวดออกจากเตียงนอน แล้วตรงดิ่งไปยังห้องน้ำอย่างเงียบๆ
………………………………………………
“อาหารเช้าของผมล่ะ”
คีรินทร์หย่อนสะโพกนั่งลงบนเก้าอี้พลางถามหาอาหารเช้าในส่วนของตัวเอง นึกคาดโทษแม่ครัวที่ไม่ได้จัดเตรียมอาหารเช้าไว้สองที่ตามที่ควรจะเป็น ทว่าคนที่นั่งตักข้าวต้มร้อนๆ เข้าปากอย่างเอร็ดอร่อยกลับทำหูทวนลมราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด
“ได้ยินที่ผมถามหรือเปล่า ดาวเรือง”
“ได้ยิน”เธอตอบกวนๆ และยังคงตักอาหารเข้าปากต่อ
“ได้ยินแล้วไหนล่ะ อาหารเช้าของผม”
“ไม่มีอาหารเช้าสำหรับคุณ อยากกินก็หาวิธีเอาเอง เพราะแม่ครัวออกไปจ่ายตลาดแต่เช้าแล้ว ตอนนี้ไม่มีใครอยู่บ้าน และอีกอย่างเมื่อคืนคุณบอกเองว่าต่างคนต่างอยู่ เพราะฉะนั้นฉันก็จะอยู่และหากินของฉัน ส่วนคุณก็อยู่และหากินของคุณเองก็แล้วกัน”
‘เด็กอะไร เจ้าคิดเจ้าแค้นชะมัด!’
คีรินทร์คิดในใจ เพิ่งตระหนักได้ว่าที่แม่ครัวไม่ได้เตรียมอาหารเช้าเผื่อเขานั้นอาจจะเป็นเพราะเจ้าหล่อนเป็นคนสั่งไว้นั่นเอง
“ไม่ทำให้กินแล้วนึกว่าผมจะง้อเหรอ ผมก็มีสมองเดี๋ยวสั่งอาหารโรงแรมมาทานเองก็ได้”
“มีสมองด้วยเหรอ ก็นึกว่าจะถนัดแต่ใช้กำลังซะอีก”
“อย่าประชดผมนะดาวเรือง”
“ไม่ได้ประชด แต่ฉันพูดความจริง เมื่อเช้าคุณรังแกฉัน ฉันจะไปฟ้องคุณพ่อ”
เธอยังคงเจ็บใจไม่หายกับการโดนปล้นจูบแรกไป เพราะกำลังเธอไม่มากพอที่จะสู้กับเขาได้ เลยโดนเอาเปรียบเสียง่ายๆ
“เป็นเด็กขี้ฟ้องงั้นเหรอ”
“คุณก็เป็นผู้ใหญ่ชอบรังแกเด็กเหมือนกัน”
“ทำไม โกรธที่ผมจูบคุณเมื่อเช้าอย่างนั้นเหรอ”
คีรินทร์ชอบนักเวลาที่เห็นเจ้าหล่อนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เพราะมันทำให้ใบหน้าขาวเนียนนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อน่ามองอย่างประหลาด
“คุณคิดว่าฉันจะติดใจจูบเมื่อเช้าจนลืมไม่ลงงั้นสิ นี่คุณคีย์ ถ้าหลับอยู่ก็ตื่นซะ เพราะฉันไม่ใช่เด็กน้อยอ่อนหัดอย่างที่คุณคิดหรอก เพราะงั้นอย่ามาขู่ฉันด้วยวิธีแบบเมื่อเช้าอีก เข้าใจนะ!”
พูดจบดาวเรืองก็ลุกพรวดจากที่นั่ง แล้วเดินออกจากห้องอาหารไป ปล่อยให้ชายหนุ่มมองตามด้วยความอึ้ง แต่พอได้สติก็ต้องตะโกนตามหลังร่างอรชรด้วยน้ำเสียงขุ่น
“ไม่ใช่เด็กอ่อนหัด แล้วเธอไปหัดมากับผู้ชายที่ไหนกัน ดาวเรือง!”
คีรินทร์ขบกรามแน่นจนเป็นสันนูนเมื่อไม่ได้รับเสียงตอบรับจากภรรยาป้ายแดง เขาเลยต้องคว้าโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูมากดดูเพื่อระบายอารมณ์กับมัน
‘โรส คุณเป็นอะไร คุณขาดการติดต่อแบบนี้ผมเป็นห่วงคุณมากนะ’
“บ้าชิบ!”
นิ้วเรียวยาวกดพิมพ์ข้อความแล้วส่งให้กับคนรักสาวที่อยู่ต่างแดน ก่อนที่จะสบถออกมาด้วยความหงุดหงิด เพราะวันนี้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรได้ดั่งใจเลยสักกะอย่างเดียว