สูตรรักฉบับคนเถื่อน | 05

1664 Words
๕ ครืด~ ครืด~ โทรศัพท์มือถือที่วางบนโต๊ะข้างลำตัวส่งเสียงร้องครั้งแล้วครั้งเล่า หญิงสาวไม่ได้คว้ามันมากดรับ จริงๆ แล้วเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่กำลังต่อสายหาเธอคือใคร หลายความรู้สึกที่เผชิญเมื่อตอนเย็นมันกำลังประเดประดังเข้าใส่ ความกดดัน เสียใจ น้อยใจ หลายเรื่องที่ถาโถมกันเข้ามาทำน้ำตาของเธอไม่แห้งหายไปเลย เธอควรจัดการเรื่องนี้แบบไหน ที่เธออยากเรียน หวังเพียงว่าการศึกษาอาจจะมอบอนาคตที่ดีกว่า หากถึงตอนนั้น เธอก็พร้อมที่จะช่วยเหลือครอบครัวอย่างเต็มที่ แม้มารับรู้ปัญหาในตอนนี้หากพ่อและแม่รับฟังทางออกของเธอ เธอก็พร้อมที่จะทำงานพิเศษในทันทีที่ไม่มีคลาสเรียน แต่พ่อกับแม่กลับหยิบยื่นทางออกมาให้ หนทางของเธอที่เธอเสนอออกไป ริบหรี่ไม่มีหนทางที่จะเป็นไปได้เลย เรื่องแต่งงานมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ใครก็ไม่รู้ที่จะให้เธอแต่งงานด้วย อีกทั้งเธอยังมีคนรักอยู่แล้ว แม้จะไม่ใช่การคบหาในระยะเวลาที่ยาวนานแต่ระหว่างที่คบกัน มันมีแต่เรื่องราวดีๆ ทั้งนั้น เธอมีความสุขในตอนที่ได้อยู่กับเขา เธอไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะหยิบยื่นมือมาช่วยเหลือ คนที่เพิ่งจะคบหากันไม่ควรด้วยซ้ำที่จะคุยกันเรื่องเงิน หากเป็นแบบนั้น คำพูดจาร้ายๆ ดังตามหลังมาด้วยปากของใครต่อใครอย่างแน่นอน เธอคบเขาเพราะตัวตนของเขา ไม่ใช่เพราะเงินของเขา ต่อให้ใครต่อใครจะคิดแบบไหนแต่นี่คือความคิดของเธอ และวิธีที่พ่อขอร้องมันมีผลต่อคนที่เธอกำลังคบหาแน่ หรือเธอควรเล่าให้เขาฟัง หรือเธอควรจัดการปัญหานี้แบบไหนดี ครืด~ ครืด~ โทรศัพท์ที่ดังไม่ยอมหยุดส่งผลให้หญิงสาวใช้หลังมือเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้มลวกๆ โน้มหัวที่หนักอึ้งไปในทิศทางของโทรศัพท์คว้ามันมาถือเอาไว้ พบเบอร์โทรของเพื่อนที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ "น้อยหน่า..." [ ยัยน้ำ เฮ้ย ...ทำไมเสียงเป็นแบบนั้น ] "เรามีปัญหานิดหน่อย โทรมามีอะไรหรือเปล่าหน่า" [ แค่จะโทรมาปรึกษาเรื่องงานที่ต้องส่งอาจารย์พรุ่งนี้แต่ได้ยินเสียงเธอแบบนี้ มีอะไรเธอคุยกับเราได้เลยนะ ] "ขอบใจนะ แต่เรา..." [ น้ำ เราเป็นเพื่อนกันมานานแล้วนะ มีปัญหากับที่บ้านอีกหรือเปล่า อย่าบอกนะว่าพี่สาวของเธอแกล้งอะไรเธออีก ] "เปล่าหรอก มันไม่ใช่เรื่องนั้น" ใช่แล้วแหละ หากเทียบเรื่องราวในตอนนี้กับก่อนหน้านี้ที่พี่สาวของเธอคอยกลั่นแกล้งต่างๆ นานา คอยพูดจาร้ายๆ ใส่เธอ มันเทียบกันไม่ได้เลยจริงๆ [ ถ้าไม่ใช่ แสดงว่ามีเรื่องอะไรที่หนักหนามากกว่าเรื่องนี้ใช่ไหม ปกติเธอไม่ใช่คนชอบร้องไห้เลยนะ บอกเราเถอะ อยากให้เราไปหาหรือเปล่า ] "ไม่เป็นไร มืดค่ำแล้วเราเกรงใจ" [ เพราะความใจดีเห็นอกเห็นใจคนอื่นไม่เคยเปลี่ยนแบบนี้หรือเปล่าที่เป็นต้นเหตุของน้ำตาในครั้งนี้ เราเป็นเพื่อนแกนะเว้ยน้ำ ต่อให้จะมืดค่ำแค่ไหน หากเพื่อนมีปัญหาเราก็สามารถไปหาเพื่อนได้ทันที ] "แต่ตอนนี้เรายังไม่พร้อมที่จะเจอใคร สภาพเราไม่พร้อมเจอใครจริงๆ น้อยหน่า" [ ถ้าเป็นแบบนั้นเธอก็ระบายสิ่งที่อยู่ในใจออกมาให้เราฟังสิ เรารอฟังเธออยู่ บอกไว้ก่อนเลยนะว่าถ้าครั้งนี้เธอร้องไห้เพราะยัยพี่ปลายฟ้าของเธออีกล่ะก็ เราไม่ยอมแน่ เป็นพี่ประสาอะไรอ่ะ เกลียดน้อง อิจฉาน้อง กลัวน้องตัวเองได้ดีกว่ายืนหนึ่งเลย ] "มันไม่เกี่ยวกับพี่ฟ้าหรอกหน่า ที่เราร้องไห้มันไม่เกี่ยวกับเขาเลย" [ ถ้าอย่างนั้นก็บอกเราสิน้ำ ถ้าเห็นเราเป็นเพื่อนเธอก็บอกเราสิ เล่าให้เราฟังเลย ] คนที่มีน้ำตาเชิดหน้าขึ้น เธอกับน้อยหน่าเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม สนิทสนมกันมาก เธอรู้ดีว่าเพื่อนเป็นห่วงเธอมากจริงๆ "ถ้าสมมุติว่าเธอมีปัญหา ปัญหามันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่มาก อาจจะสั่นคลอนกับความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับแฟนที่กำลังคบกันอยู่ เธอกล้าเล่าปัญหาของเธอให้แฟนฟังหรือเปล่าหน่า" [ ปัญหาใหญ่งั้นเหรอ ถ้าคบกันอย่างจริงจัง จริงๆ มีเรื่องไหนก็ต้องเล่าให้เขาฟังนั่นแหละน้ำ เธอกำลังคิดว่าจะเล่าปัญหาให้เฮียไฟของเธอฟังงั้นเหรอ ] "อืม เราไม่รู้ว่าควรเล่าปัญหาของเราให้เขาฟังหรือเปล่า ลึกๆ แล้วเราไม่กล้าเล่าแต่เราก็อยากให้เขาเข้าใจเรา เราไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือจากเขาหรอก เราก็แค่อยากให้เขารับรู้และอยู่ข้างๆ เราแค่นั้นเอง" [ เราแนะนำให้เล่านะน้ำ คนรักกัน คบกัน มีอะไรก็ต้องเล่าให้กันฟังแหละ ] "ตะ แต่ปัญหาของเราเป็นปัญหาเรื่องเงิน เราไม่ได้ต้องการเงินของเขาหรอกนะ เราแค่กลัวว่าปัญหาของเรามันจะกระทบกับความสัมพันธ์ เราแค่กลัวอ่ะหน่า เรากลัวว่าหากเราคุยเรื่องนี้กับเขา คนจะเข้าใจว่าที่เราคบเขาสุดท้ายแล้วก็เพียงแต่ต้องการเงิน" [ ใครจะพูดแบบนั้นก็ช่างหัวพวกมันสิ นี่มันชีวิตของเรา คนที่รู้ดีที่สุดคือเรา คนที่เธอควรแคร์ก็มีแค่เฮียไฟด้วย หากแฟนของเธอไม่ได้เป็นคนพูดคนอื่นก็ไม่ควรเสนอหน้ามาพูดนะน้ำ ] "เราควรคิดแบบนั้นจริงๆ เหรอหน่า" [ เชื่อเรานะน้ำ การที่เราเล่าให้เขาฟัง ต่อให้จะมีหรือไม่มีประโยชน์อะไร อย่างน้อยเราก็เลือกที่จะเล่าให้เขาฟังไง เราไม่ได้คิดที่จะปิดบังเขา เท่านี้แหละที่เราว่าเธอควรสนใจ ] "...อืม ขอบใจเธอมากนะ เอาเป็นว่าเรื่องที่เราเผชิญอยู่ในตอนนี้ หากเราพร้อมเราจะเล่าให้เธอฟังเอง" [ เคๆ มีอะไรโทรมานะ เราเพื่อนกัน เธอคุยกับเราได้ทุกเรื่องนะ ] "อืม..." เสียงขานรับดังออกมาเบาๆ ก่อนที่สายสนทนาจะตัดไป มือเรียวเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้มลวกๆ ครู่หนึ่งที่เผลอครุ่นคิดว่าควรโทรกลับไปหาคนที่พยายามโทรหาเธอก่อนหน้านี้ไหม เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูห้องถูกผลักเข้ามา "พี่ฟ้า" "ว่าแล้วว่าแกต้องมัวแต่นั่งร้องไห้เสียน้ำตาโง่เง่าแบบนี้" "เรื่องที่พ่อกับแม่พูด มันก็สมควรที่น้ำจะร้องไห้เพราะไม่มีทางออกไม่ใช่เหรอคะ" "ดูนี่ซะ เผื่อว่าแกจะตัดสินใจอะไรได้ง่ายขึ้น" ปึกก~ โทรศัพท์มือถือเครื่องหรูถูกโยนลงมาบนเตียงขนาดห้าฟุต ดวงตากลมโตที่มีน้ำตาหล่อเลี้ยงในดวงตาหันไปมองเพียงนิด มีเพียงเสียงของพี่สาวที่ดังซ้ำ "ดูซะให้เต็มตา แล้วแกจะได้ตัดสินใจในสิ่งที่พ่อกับแม่ขอเร็วๆ" น้ำใจมองหน้าพี่สาวเพียงนิด ท้ายที่สุดเธอก็ยอมคว้าโทรศัพท์พี่สาวขึ้นมาดู "ที่แกเห็นน่ะ บ้านพี่ไฟ บ้านที่แทบไม่ใช่บ้าน มันเป็นคฤหาสน์ซึ่งใหญ่เวอร์มาก" "พี่เอามาให้น้ำดูทำไม" "เพื่อให้แกเลิกโง่ไง" ว่าจบ ปลายฟ้าก็เดินมาหย่อนสะโพกลงเคียงข้างน้องสาวพร้อมกับการแย่งโทรศัพท์กลับไป "ที่ให้ดู จะได้รู้ว่าเขารวยมาก คนรวยระดับนั้น เขาไม่มีวันมาเอาคนระดับอย่างเราหรอกเว้ย หรือถ้าเขาจะเอาแก แกก็คงเป็นได้แค่ของเล่น" "พี่ฟ้า!" "แล้วดูนี่ นี่คือบรรดาผู้หญิงคนก่อนๆ ของพี่ไฟ สวย แพง ไฮโซ คิดเหรอว่าเขาจะมาจริงจังกับผู้หญิงหน้าเซ่อๆ แบบแก" หน้าจอโทรศัพท์ปรากฏภาพของหญิงสาวหลายต่อหลายคน แต่เท่าที่เห็น สวยหรูดูแพงกันทั้งนั้น รู้อยู่เต็มอกจุดประสงค์ของพี่สาวเพียงเพราะอยากให้เธอถอดใจ และที่ผ่านมาทุกอย่างก็เป็นแบบนี้มาตลอดเลย "พูดจบหรือยัง ถ้าจบแล้วก็ออกไป" "ยัยน้ำ แกควรช่วยเหลือพ่อแม่ไหมวะ เลิกกับพี่ไฟซะ จากนั้นก็มาตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ที่เลี้ยงแกมาจนโต" "ใครจะอยากแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก อย่าว่าแต่รักเลย รู้จักก็ไม่รู้จัก จะมาบังคับกันแบบนี้ไม่ได้" "เพราะแกมันหลงผู้ชายซ้ำยังเนรคุณน่ะสิ อยากให้พ่อตายต่อหน้าแกเหรอ" "พี่ฟ้า!" "น้ำหน้าอย่างแกมันก็เห็นแก่ตัวจนเป็นนิสัย คิดบ้างสิว่าคนอื่นเสียสละเพื่อแกแค่ไหน พ่อแม่ทำงานหนัก ฉันไม่ได้เรียนหนังสือก็เพราะแก ช่างหัวแกเถอะ อยากเห็นพ่อตายต่อหน้าแก แกก็รอดูเอาเลย!" "..." "แต่แกระวังตัวแกเอาไว้ให้ดีล่ะ ระวังว่าจะเสียตัวและถูกทิ้ง แทนที่จะเอาความสาวของตัวเองมาช่วยเหลือครอบครัว หากสิ่งที่ฉันคิดมันคือเรื่องจริง พอวันนั้นมาถึง แกเสียศูนย์จนชีวิตพังแน่" "เราช่วยกันทำงาน ช่วยแบ่งเบาภาระพ่อกับแม่ไม่ได้เหรอพี่ฟ้า ฉันจะทำงานในเวลาเลิกเรียน แต่พี่ไม่ได้เรียนพี่มีเวลาว่างทั้งวันนี่" "ต่อให้ฉันและแกจะทำงานเป็นสิบปีก็ไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้หนี้ได้อยู่ดี วิธีเดียวที่ครอบครัวจะรอด คือแกต้องแต่งงาน"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD