๓๔
'...คำบางคำที่พี่อยากให้น้ำจำเอาไว้ เรื่องให้เกียรติก็ส่วนให้เกียรติ แต่อย่ายอมให้ใครมาเอาเปรียบ บางครั้งยอมได้ แต่น้ำอย่าอ่อนแอ'
คำพูดของสามีที่จากไปแล้วผุดขึ้นมาในหัวเมื่ออยู่ในช่วงเวลาคับขัน หลังจากวันที่เปิดพินัยกรรม เรื่องที่เหมือนจะวุ่นวายจากอารตวรรณก็เหมือนจะเงียบหาย เขาไม่เคยเข้ามายุ่งวุ่นวาย เหตุเพราะอะไรบ้างเธอไม่รู้ รู้แค่ว่าเธอเซฟความปลอดภัยของตัวเองและลูกแม้กระทั่งความปลอดภัยภายในบ้านอย่างดีเยี่ยม นายแพทย์นเรศและนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่นายแพทย์หนุ่มและสามีของเธอรู้จักร่วมเป็นพยาน ซ้ำยังลั่นวาจาว่าพร้อมปกป้องเธอและลูกจากทุกอย่างต่อหน้าแม่เลี้ยงของสามีที่มาในวันเปิดพินัยกรรม พื้นที่แถวนั้นเป็นถิ่นของสามีเธอ มันยากแก่การลงมือของผู้ประสงค์ร้าย ไม่คิดว่าการออกนอกพื้นที่ครั้งแรกจะมีปัญหา เป็นปัญหาใหญ่ที่เธอไม่ทันได้คาดคิด แอบชะล่าใจว่าหลายต่อหลายปีที่อยู่อย่างสงบ คิดว่าจะสงบตลอดไป
สุดท้ายแล้วความประมาทของเธอก็กำลังทำให้ลูกของเธอเดือดร้อน
เธอไม่ยอมแน่ ได้แต่บอกกับตัวเองว่าหากครั้งนี้รอดไปได้เธอจะไม่ประมาท เธอจะเซฟตัวเองให้มากกว่านี้
"ผมว่ามีรถตามเรามานะพี่" เหมือนมีความหวังเมื่อหนึ่งในชายฉกรรจ์ทั้งสามเอ่ยคำพูดประโยคนั้นขึ้นมา หัวใจมันเต้นแทบผิดจังหวะ ภาวนาว่าขอให้เธอและบุตรที่เป็นดังแก้วตาดวงใจปลอดภัย
"กูบอกให้มึงยิงยางรถของมันไงไอ้โง่"
"มันไม่ใช่รถคันนั้นนะพี่ รถคันนั้นผมยิงยางมันแล้ว แน่ใจว่าไม่สามารถตามเราทันได้ด้วย แต่เราออกนอกเส้นทาง และมันมีรถที่เปลี่ยนเส้นทางตามเราด้วยพี่"
"เวรเอ้ย! มึงแน่ใจเหรอว่ามันตามเรา"
"ผมแน่ใจพี่ ผมสังเกตมาตั้งแต่ต้นแล้ว มันมีคนตามเรามาจริงๆ"
"โง่อะไรอยู่ล่ะวะ เร่งความเร็วสิไอ้โง่!"
"ฮื่อออ....!" คนในอ้อมกอดมารดาจิกมือบีบเข้าหากันบนสาบเสื้อของผู้เป็นแม่ด้วยความหวาดกลัว น้ำใจน้ำตาคลอเบ้า พยายามใช้มือลูบศีรษะบุตรสาว ใช้อ้อมกอดและรอยสัมผัสสื่อสารให้ลูกรู้ว่าหากแม่ยังอยู่ลูกจะต้องปลอดภัย
"กรี๊ดดดดดด!" การเปลี่ยนทิศทางของรถส่งผลให้ร่างสองแม่ลูกที่กอดกันอยู่เซถลา เสียงกรีดร้องของลูกบาดใจแม่อย่างจัง รถยังพุ่งทะยานไปที่เบื้องหน้าด้วยความเร็ว ป่าขนาดใหญ่ ไหนล่ะหนทางที่จะรอดได้ หัวใจคนเป็นแม่ทั้งหดหู่และใจหาย คิดไปต่างๆ นานาว่ามีคนตามมาจริงไหม แล้วเขาจะช่วยลูกของเธอได้หรือเปล่า
"ปล่อยฉันกับลูกของฉันไปได้ไหม อยากได้เงินเท่าไหร่ฉันพร้อมที่จะให้"
"หุบปาก!!"
"ฮื่อๆ คุณแม่"
"พวกแกไม่เคยมีลูกหรือไงทำไมไม่รู้สึกสงสารเด็กตาดำดำบ้าง"
"จอดตรงนี้!" พวกนั้นไม่ได้สนใจคำพูดของเธอเลยสักนิด รถตู้ที่ถูกปิดด้วยฟิล์มสีดำทึบ จอดสนิท ประตูถูกเลื่อนเปิดอย่างแรงตามด้วยการกระชากแขนเธอทั้งที่เห็นอยู่ว่าเธอโอบกอดลูกเอาไว้อยู่ คนพวกนี้อำมหิตเกินไป อำมหิตเกินคน
"ไม่มีคนตามมาแล้วพี่ ในป่านี่ก็ลึกมากแล้ว เราปล่อยมันไว้ตรงนี้แหละ ตอนกลางคืนที่นี่จะมืดมาก สัตว์ป่าก็เยอะ ถึงยังไงพวกมันก็ไม่รอดหรอก" หัวใจคนฟังตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม แต่ถึงอย่างนั้นคนเป็นแม่ก็โอบอุ้มตัวบุตรสาวขึ้นมาแนบอก หันหลังให้กับคนพวกนั้น พร้อมกับการวิ่งหนีทันที
สัตว์ร้ายในป่า สถานการณ์ตอนนั้นเธอค่อยหาทางเอาตัวรอดอีกที แต่วินาทีนี้ขอแค่เธอรอดพ้นจากคนพวกนี้ ขออย่าโดนยิง ขออย่าได้บาดเจ็บ ขออย่าโดนฆ่าเหมือนผักปลา ขอแค่เธอและลูกของเธอไม่โดนกระสุนจากคนพวกนั้นก็พอ
"นายสั่งว่ามันต้องตายเท่านั้น มันก็ต้องตายสิวะ"
แกร๊ก!
เสียงจากวัตถุกระบอกสีดับวาบวับทำคนเป็นแม่สั่นไปทั้งตัว ฟันสวยเบียดบดเข้าหากันแน่น สองขาตั้งท่าจะวิ่งเข้าป่าอย่างมุ่งมั่น
"นายสั่งว่ามึงต้องตาย มึงก็ต้องตาย!"
เอี๊ยดดดดด!
เปรี้ยงงง!
"กรี๊ดดดดดดด!" ไม่ทันมีโอกาสได้หันกลับไปมองด้วยซ้ำว่าเสียงเบรกรถยนต์ที่เกิดขึ้นเป็นเสียงรถของใคร ถัดจากนั้นไม่นานเสียงปืนก็ดังขึ้น ระยะของการลั่นไก ห่างจากลำตัวของหญิงสาวเพียงแค่น้อยนิด สติสตางค์แทบกระเจิดกระเจิง ความรู้สึกหวาดกลัวถาโถมเข้าใส่จนหญิงสาวน้ำตาไหลออกมาเป็นทาง
"ทำร้ายเด็กกับผู้หญิงไม่มีทางสู้ มันไม่น่าตัวเมียกันไปไหนเหรอ!" หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ ใบหน้าสวยหันขวับ อย่างกับว่าตอนนี้เธอกำลังอยู่ในห้วงของความฝัน ไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้าของคำพูดนั้นและคนที่ปรากฏตรงหน้าของเธอในตอนนี้จะคือคนคนนั้น คนที่บังเอิญพบกันเมื่อวาน
"เสือกเหี้ยไรด้วยวะ" ปลายกระบอกปืนเล็งไปยังชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า ทว่า เขาล้วงปืนออกมาจากข้างลำตัวเช่นเดียวกัน
"คิดว่ามีปืนคนเดียวงั้นเหรอ บอกก่อนว่ากูไม่ได้กลัวลูกปืนของมึง มันก็ขึ้นอยู่ที่ว่ามึงจะยอมเสี่ยงกับกระสุนปืนของกูหรือเปล่า อยากจะลองเป็นเป้านิ่งดูไหมว่ากูจะแม่นแค่ไหน" ดวงตาคมกริบตวัดมองสบตากับหญิงสาวที่ยังอยู่ในอาการหวาดกลัว เขาส่งสัญญาณให้เธอหนี แน่นอนว่า บุตรสาวที่อยู่ในอ้อมกอดเป็นเหตุผลที่ทำให้น้ำใจหอบลูกแล้ววิ่งหนีทันที
เปรี้ยงงง!
กระสุนปืนพุ่งไปที่เบื้องหน้า ร่างสมส่วนกระโดดทิ้งตัวใช้ฝ่าเท้าภายใต้รองเท้าหนังสีดำถีบเข้ากลางลำตัวของคนที่กำลังเผชิญหน้ากัน
ปึก! ผัวะ!
หมัดร้อนพร้อมทั้งปลายกระบอกปืนกระแทกเข้าใส่ที่สันจมูกเน้นๆ ผู้ถูกกระทำด้วยระยะเวลาอันรวดเร็วถึงกับนิ่งงันไปทันที
"เวรเอ้ย!"
เปรี้ยงงงง!
ปึกก~
"โอ๊ย!" เพราะคนพวกนั้นมีมากกว่า ถึงลำบากแก่การระวังตัว กระสุนปืนถากเข้าที่ท่อนแขนแกร่ง แต่ถึงอย่างนั้นคนที่แม่นยำเพราะมีความชำนาญในการใช้ปืนเล็งปืนไปยังชายฉกรรจ์คนนั้นพร้อมกับลั่นไกทันที
เปรี้ยงงงง!
"โอ๊ย!"
ขายาวภายใต้กางเกงยีนส์แบนด์ดังขยับถอย เขาไม่รู้ว่าภายในรถตู้คันนั้นมีคนอยู่กี่คน และมีคนที่จะตามมาสมทบอีกหรือเปล่า ความปลอดภัยของคนสองคนที่กำลังหนีความตาย อย่างน้อยเขาควรเข้าไปอยู่ข้างๆ เธอ
อัคนีไม่รู้ว่าควรเรียกความรู้สึกในตอนนี้ว่าแบบไหนดี เขาตั้งใจตามเธอตั้งแต่ต้น การกลับมาพบกันอีกครั้ง น่าแปลกที่เธอรบกวนเขาจนเขาไม่มีสมาธิที่จะทำอะไรทั้งนั้น อยากรู้เรื่องนั้นอยากรู้เรื่องนี้ อยากรู้เรื่องทุกเรื่องที่มันเกี่ยวข้องกับเธอสำหรับหลายต่อหลายปีที่ไม่ได้พบกัน เขาไม่ได้โอเคหรอกกับการที่มารู้ในตอนนี้ว่าเธอมีลูกแล้ว อาจจะเป็นเพราะรสชาติของการถูกทอดทิ้งที่ทำให้อยากรู้ความในใจ ผู้ชายคนนั้นดีกว่าเขาแค่ไหนทำไมเธอถึงเลือกที่จะทิ้งเขาแล้วไปอยู่กับมัน