๓๑
"...ตึงสูงมากเลยค่ะคุณแม่" เสียงกรีดร้องของความตื่นเต้นดังก้องไปทั่วบริเวณ เด็กหญิงปภาวดีในชุดเสื้อแขนตุ๊กตาสีขาวสวมทับด้วยเอี๊ยมยีนส์ตัวเก๋ สวมใส่รองเท้าผ้าใบสีชมพูอ่อนเดินวนมองตรงนั้นทีตรงนี้ทีจนคนเป็นแม่ที่เก็บโทรศัพท์หลังจากที่โทรหานายแพทย์หนุ่มเพื่อบอกกล่าวว่าเธอมาถึงแล้วต้องเดินมาคว้าหมับจับมือบุตรสาวเอาไว้
"ระวังชนคนอื่นค่ะลูก"
หลังจากการทำบุญให้บิดาของสามีผ่านพ้นไป อาหมอของน้องนิก็มีการตกลงกับหลานสาวตัวน้อยเรื่องที่จะไปทานไอศกรีมกัน แต่ทว่า อาหมอมีเคสด่วนที่ต้องเข้าโรงพยาบาลก่อน จึงกลับกลายเป็นว่า เธอและบุตรมาที่ห้างสรรพสินค้าล่วงหน้าด้วยตัวเอง ส่วนนายแพทย์หนุ่มจะตามมาทีหลังเอง
"ห้างใหญ่มากเลยค่ะคุณน้ำ ปุ้ยไม่เคยมาห้างที่ใหญ่แบบนี้มาก่อนเลยค่ะ"
"ห้างในกรุงเทพฯ จะใหญ่กว่าห้างตามบ้านเราค่ะพี่ปุ้ย ที่นี่มีครบทุกอย่างเลยนะคะ"
"จริงสิ คุณน้ำเคยอยู่กรุงเทพฯ มาก่อนนี่คะ คุณน้ำต้องเคยมาที่นี่บ่อยแน่ๆ เลยค่ะ" คำพูดของพี่เลี้ยงสาวอย่างปุ้มปุ้ยที่ติดตามมาด้วยในขณะที่ป้าหมอนและลุงพัฒน์พักผ่อนรอที่บ้านของหมอนเรศ ส่งผลให้คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองมารดาตาละห้อย แต่หญิงสาวก็เพียงแต่คลี่ยิ้มให้บุตรธิดา ก่อนจะเอ่ยปากชวนเข้าไปด้านในแทน
"อาหมอนเรศของน้องนิกำลังออกจากโรงพยาบาล เราไปรอที่ร้านไอศกรีมกันดีกว่านะคะ ด้านในจะเย็นมากค่ะ"
"เย้ๆ ดีค่ะ" ท่าทางดีอกดีใจมาพร้อมกับการกระโดดโลดเต้น เด็กหญิงเผลอปล่อยมือจากแม่เพราะมีการตบไม้ตบมือ ทว่าการทรงตัวไม่ทันส่งผลให้ร่างเล็กเซถลา ชนเข้ากับบุคคลอื่นที่อยู่ทางด้านหลังทันที
ปึกก~
"โอ๊ย..."
"น้องนิ!..." เป็นเรื่องธรรมดาที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ผู้คนจะค่อนข้างเยอะมาก การตื่นตาตื่นใจกับสิ่งแปลกใหม่อาจจะเพิ่มความตื่นเต้นมากเกินไปจนไม่ทันได้ระวังตัว
"เจ็บไหมลูก ขอโทษค่ะ ขอโทษนะคะ..." คล้ายหัวใจจะหยุดเต้นชั่วขณะ เมื่อดวงตากลมโตสอดประสานกับคนที่ลูกเธอขยับตัวเข้าไปชนเขา และในตอนนี้เขาก็กำลังช่วยประคองลูกของเธอ
ความรู้สึกของเธอมันบอกว่า อีกฝ่ายหยุดมองเธอเช่นกัน แว๊บหนึ่งที่ดวงตาคมกริบวูบไหว มีความรู้สึกไม่แน่ใจไม่มั่นใจปะปนอยู่ในนั้น แต่ก่อนที่เธอจะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น มือเรียวรั้งตัวบุตรสาวเข้าสู่อ้อมกอดทันที
"เจ็บไหมคะลูก ทีหลังหนูไม่ต้องปล่อยมือคุณแม่นะคะ"
"แม่..." เสียงที่ดังออกมาจากปากของอีกฝ่ายดังคล้ายกับละเมอ ส่งผลให้ดวงตากลมโตตวัดมองไปทางด้านหลังอีกครั้ง เขายังคงนั่งยองๆ อยู่ตรงนั้น กำลังมองมาที่เธอพร้อมกับการมองบุตรสาวของเธอสลับกัน
"ไม่เจ็บค่ะคุณแม่ ...น้องนิขอโทษค่ะ" หัวใจของคนเป็นแม่แทบหยุดเต้น มองบุตรสาวของตัวเองที่หมุนตัวกลับไปหาอีกฝ่ายพร้อมกับการยกมือไหว้เพื่อเป็นการขอโทษ ซึ่งเธอสั่งสอนให้ลูกรู้จักคำว่าขอบคุณและขอโทษมาโดยตลอด
"น้องนิดีใจที่คุณแม่พามาเที่ยวค่ะ เลยกระโดดไม่ทันระวัง อย่าโกรธน้องนิเลยนะคะ" อัคนีมองเด็กผู้หญิงตรงหน้าด้วยความรู้สึกคับแน่นอยู่ในใจจนไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ รู้สึกว่าลำคอของเขามันแห้งผาก วินาทีแรกที่สบตากับหญิงสาวที่เด็กคนนี้เรียกว่าแม่ แม้กาลเวลาจะผ่านมากี่ปีหรือกี่วัน สายตาคู่นั้นไม่เคยเปลี่ยน และเขา ไม่เคยลืม
น้ำใจ ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขาใช้เวลาจีบนานกว่าใคร จริงใจด้วยมากกว่าผู้หญิงคนไหน สุดท้าย เธอคือคนที่เทเขาแล้วหนีไปแต่งงาน
ทั้งที่เหมือนอยู่กันคนละโลกแล้วด้วยซ้ำ แต่แปลกดีที่ใจยังสั่น และมันไม่เคยเกิดขึ้นกับใครเลย
"หนูชื่ออะไรนะครับ" มือหนาคว้าหมับที่มือเล็ก ความอุ่นมันแผ่ซ่านเข้ามาชวนให้รู้สึกแปลกๆ อัคนีกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ จับจ้องไปทั่วทั้งใบหน้าจิ้มลิ้ม แววตาเหมือนคนที่เด็กน้อยเรียกว่าแม่ไม่มีผิด อาจจะเป็นไปได้ว่า พวกเขาคือแม่ลูกกันจริงๆ เพียงแค่คิดหัวใจแกร่งกลับกระตุกวูบ เขาไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย
"น้องนิทานค่ะ เป็นลูกของแม่น้ำ"
"น้องนิคะ ไปกันได้แล้วลูก เราต้องไปจองโต๊ะคอยอาหมอนะคะ พี่ปุ้ยช่วยน้ำทีค่ะ" หญิงสาวลนลานยัดกระเป๋าให้พี่เลี้ยงของบุตรสาว ก่อนที่เธอจะโน้มตัวไปแกะมือของชายหนุ่มที่กำลังพูดคุยกับลูกสาวของเธออยู่ จากนั้นก็จูงมือคนตัวเล็กออกมาจากตรงนั้นทันที
อัคนีหยัดกายลุกขึ้นจนเต็มความสูง ยิ่งได้สัมผัสกับมือนั้นแม้จะแค่แป๊บเดียวแต่ใจของเขาเต้นแรงมาก ดวงตาคมกริบไม่สามารถดึงออกจากมาจากร่างของสองแม่ลูกนั่นได้ รู้สึกแปลกๆ ในตอนที่เห็นเด็กหญิงหันกลับมามองเขา ผิดกับอีกคนที่ไม่แม้แต่จะหันกลับมา
"น้ำ..." ริมฝีปากบางเฉียบเอ่ยชื่อหญิงสาวที่ครั้งหนึ่งเคยคบหากันออกมาเบาๆ ตั้งแต่เหตุการณ์ในวันนั้นที่โรงพยาบาล หลังจากที่มีการออกสืบจนแน่ใจ เขาไม่เคยคิดที่จะเข้าไปก้าวก่าย คิดเพียงว่าเธอได้เลือกไปแล้ว
ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธเขามาก่อน แต่ผู้หญิงคนนี้กลับพูดใส่หน้าเขาว่าเธอมีสามีแล้ว เขาไม่ควรไปยุ่งกับเธออีกต่อไป หากได้พูดออกมาถึงขนาดนั้น จะมีสักกี่คนกันที่ยังทนอยู่
ขายาวภายใต้กางเกงยีนส์แบรนด์ดังขยับไปที่เบื้องหน้าทันที ในส่วนลึกของหัวใจสั่งให้เขาเดินตาม อยากรู้อะไรที่มากกว่านั้น หากเด็กคนนั้นที่ชนเขาคือลูกของเธอ แล้วสามีของเธอล่ะอยู่ไหน มันยังรักเธออยู่ไหม ยังดีกับเธออยู่หรือเปล่า หลายต่อหลายปีที่ไม่เจอกันเธอมีความสุขแค่ไหน ไม่เคยเลยด้วยซ้ำที่เขาจะสนใจและอยากรู้เรื่องราวของใครมากได้เท่านี้ ไม่ทันมีโอกาสได้ลงลึกค้นหาความหมายว่าความรู้สึกที่เขากำลังเป็นอยู่ในตอนนี้มันคืออะไร สุดท้ายเขาก็เดินตามเธอ ตามเข้าไปในร้านไอศกรีม
"...คุณแม่โกรธน้องนิเหรอคะ..." คำถามจากบุตรสาวส่งผลให้ผู้เป็นแม่หันกลับมามองที่ลูก ไม่รู้ว่าเมื่อสักครู่เผลอหลุดความรู้สึกแบบไหนออกมาบ้าง แต่ท้ายที่สุดน้ำใจก็เลือกที่จะปฏิเสธในสิ่งที่บุตรสาวเอ่ยถามออกมา
"เปล่าค่ะ คุณแม่ไม่ได้โกรธอะไรลูกเลยค่ะ"
"แต่น้องนิไม่ระวังตัว ชนคุณลุงคนนั้นค่ะ น้องนิเห็นคุณแม่ไม่ยอมพูด"
"คุณแม่เอ่ยขอโทษเขาแล้วนี่คะ คุณแม่ไม่ได้โกรธลูกนะคะ"
"นั่นลุงคนนั้นที่น้องนิเดินชนนี่คะ เข้าร้านไอศกรีมเหมือนเราเลย" เสียงของปุ้มปุ้ยเรียกสายตาของนายสาวให้หันขวับ ทำให้รู้ในวินาทีต่อมาว่าเขาเดินตามมาในร้านไอศกรีมจริงๆ
---
ฝากเรื่องของฝาแฝด เฮียไฟด้วยนะคะ
I'm sorry ว่าที่สามีของฉันขี้หึง (จบแล้ว)
ซีรีย์ >< สายลม