สูตรรักฉบับคนเถื่อน | 30

1388 Words
๓๐ ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ เชื่อแล้วว่า ทำดีย่อมได้ดี "น้องนิจะใส่บาตรให้พ่อจ๋าทุกวันเลยค่ะ" เสียงสดใสของเด็กหญิงวัยห้าขวบดังขึ้นด้านข้าง มือเล็ก ของ นิทาน เด็กหญิงปภาวดี ธาราอภิบาล ยังยกประนมแม้พระสงฆ์ที่มาบิณฑบาตจะเดินจากไปแล้ว "พ่อจ๋าที่อยู่บนสวรรค์ เวลาที่มองลงมาจะต้องยิ้มกว้างให้ลูกสาวคนเก่งที่ใส่บาตรกับคุณแม่ให้พ่อจ๋าทุกวันแน่ๆ เลยค่ะ" ปุ้มปุ้ยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใส เรียกรอยยิ้มกว้างจากคนตัวเล็ก อวดฟันซี่เล็กสะอาดสะอ้านให้ปรากฏออกมา ห้าปีที่น้ำใจต้องอยู่โดดเดี่ยวปราศจากสามีเคียงข้าง แต่โชคดีที่มีบุตรสาววัยน่ารักอยู่ข้างๆ ทุกวัน หลายครั้งที่มีอุปสรรค แต่มีคนคอยช่วยเหลือ จนเธอผ่านอุปสรรคเหล่านั้นมาได้เสมอ เชื่อว่าบุญเก่าคงหนุนนำเธอ อย่างน้อยๆ การมีน้ำใจของพ่อของลูกที่เขาเคยสร้างในตอนที่มีชีวิตอยู่ ก็ส่งผลให้มีคนรักคนเอ็นดูลูกสาวของประภาสและน้ำใจเสมอ นิทานเป็นที่รักของทุกๆ คน ความหมายของคำว่า 'นิทาน' ที่เป็นชื่อเล่นของลูก เปรียบคือเรื่องราวระหว่างเธอและสามี เป็นเรื่องราวดีๆ ที่ควรกล่าวถึง มีความสุขทุกครั้งที่พูดถึงและได้ฟังดังเป็นนิทาน "คุณแม่ขา วันนี้น้องนิอยากกินไข่ตุ๋นค่ะ" "ได้ค่ะ งั้นเราไปทำไข่ตุ๋นกันนะคะ" "ค่ะ น้องนิจะตีไข่เองนะคะคุณแม่" "ถ้าอย่างนั้นพี่ปุ้ยจะหั่นปูอัดให้เองค่ะ" "ถ้าอย่างนั้นคุณแม่รอชิมฝีมือลูกสาวของคุณแม่ก็แล้วกันนะคะ" "ได้ค่ะ" เสียงสดใสดังเจื้อยแจ้วจนคนฟังยิ้มตาม ดวงตากลมโตมองบุตรสาวที่จูงมือพี่เลี้ยงอย่างปุ้มป้ยเข้าบ้านตรงไปยังส่วนห้องครัวไปจนสุดสายตา น้ำใจโอบอุ้มชุดขันลายไทยสำหรับใส่บาตรเอาไว้แนบอก ครู่หนึ่งที่ตวัดสายตามองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่วันนี้แจ่มใสบ่งบอกว่าตอนสายแดดคงแรงจ้า ในวันที่พ่อของลูกจากไป สิ่งที่เธอทำเพื่อเขาได้ก็คือการใส่บาตรทำบุญหาอยู่เสมอ ดูแลทุกอย่างที่เขาเคยดูแล สานต่อในทุกๆ อย่างที่เขาเคยทำ และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือการมอบความรัก อบรมสั่งสอนลูกสาวเพียงคนเดียวของเขา ที่เขาไม่ทันมีโอกาสได้รู้ด้วยซ้ำว่ามีให้ดีที่สุดเท่าที่คนเป็นแม่คนหนึ่งจะทำได้ "คุณน้ำคะ โทรศัพท์จากคุณหมอนเรศค่ะ..." เสียงของปุ้มปุ้ยส่งผลให้หญิงสาวที่ยืนเหม่อหลุดจากภวังค์ คนตัวเล็กพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะเดินไปรับโทรศัพท์ที่ต่อตรงมาจากกรุงเทพฯ ในเวลาต่อมา "หมอนเรศ น้ำพูดสายอยู่ค่ะ" [ พักนี้เป็นยังไงบ้างครับน้ำ อาของนายภาสไประรานคุณและน้องนิที่บ้านอยู่หรือเปล่า ] เสียงจากคนที่อยู่ทางปลายสายเปี่ยมล้นไปด้วยความห่วงใย เพื่อนรักของสามีอย่างนายแพทย์หนุ่มประจำโรงพยาบาลชื่อดังคอยต่อสายมาถามไถ่เธออยู่เสมอ พูดคุยกับบุตรสาวของเธอบ้าง และเหมือนว่า พวกเขาจะสนิทสนมกันมาก "ตั้งแต่วันนั้นที่เปิดพินัยกรรม ไม่มีการเคลื่อนไหวจากอาวรรณเลยค่ะ" [ ผมว่ามันดูแปลกๆ อยู่นะครับ เป็นไปไม่ได้เลยว่าเขาจะยอมหยุดง่ายๆ ถ้ายังไงแล้ว น้ำระวังตัวด้วยนะ ] "ขอบคุณหมอเรศที่เป็นห่วงน้ำกับน้องนิมาโดยตลอดและไม่เคยทอดทิ้งไปไหนนะคะ น้ำขอบคุณคุณหมอมากจริงๆ" [ ไอ้ภาสมันเป็นเพื่อนรักของผม ที่ผ่านมาเราช่วยเหลือกันมาโดยตลอดอยู่แล้ว น้ำไม่ต้องเกรงใจผมนะ ] "เป็นบุญของน้องนิค่ะที่มีอาหมอนเรศและคนอื่นๆ ที่รักและเอ็นดูอยู่เสมอเลย" [ ครับน้ำ คือผมจะโทรหาน้ำนอกจากจะถามไถ่ด้วยความห่วงใยแล้ว ผมอยากคุยกับน้ำเรื่องครบรอบวันตายของพ่อนายภาสครับ วันระรืนนี้ครบรอบแล้ว ปกตินายภาสจะขึ้นกรุงเทพฯ มาทำบุญตลอด ช่วงแรกผมรู้ว่าน้ำ ต้องเรียนรู้และยังต้องเหนื่อยกับอะไรหลายๆ อย่าง หากตอนนี้งานที่นู่นลงตัวแล้ว ผมอยากขอให้น้ำมาทำบุญให้พ่อนายภาสแบบที่นายภาสเคยทำในตอนที่มีชีวิตอยู่น่ะครับ ไม่รู้ว่าผมรบกวนน้ำเกินไปไหม ] "ยินดีค่ะหมอเรศ ขอโทษนะคะที่น้ำไม่เคยนึกถึงเรื่องนี้เลย" [ ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ น้ำไม่ได้ผิดอะไรเลย เท่าที่ผมเห็น คุณพาลูกหมั่นทำบุญถึงเพื่อนผมอยู่เสมอ ไหนจะต้องเหนื่อยกับการเรียนรู้และทำงานที่นั่นอีก เท่านั้นมันก็ดีมากแล้วครับ ] "น้ำเต็มใจค่ะ น้ำอยากให้พี่ภาสมองเห็นการเติบโตของลูกไปพร้อมน้ำในทุกๆ วัน" [ ถ้าอย่างนั้นเรื่องการเดินทางมาทำบุญ น้ำและน้องนิมาพักบ้านผมนะครับ ผมจะโทรคุยกับลุงพัฒน์เรื่องการเดินทาง พาป้าหมอนมาด้วยก็ได้ ขอให้ทุกคนมาพักที่บ้านของผมเลย ] "ขอบคุณที่เป็นธุระจัดการทุกอย่างให้นะคะหมอเรศ ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ" "...คุณแม่ขา น้องนิปวดขาจังเลยค่ะ" คนตัวเล็กในชุดนอนลายเป็ดสีเหลืองสดใสออดอ้อนมารดาทันทีที่มารดาขยับตัวขึ้นมาอยู่บนเตียงกว้างหอมฟุ้งไปด้วยกลิ่นน้ำยาซักผ้าอย่างดี แขนป้อมขาวผ่องสอดเข้าไปกอดผู้เป็นแม่ เด็กหญิงตัวเล็กได้มาทั้งผิวของพ่อและแม่ ดวงตากลมโตใสแป๋วคือของแม่ ส่วนใบหน้าจิ้มลิ้ม ริมฝีปากรูปกระจับ จมูก ใบหู หรือแม้กระทั่งรอยยิ้ม ได้ผู้เป็นพ่อมาทั้งหมดเลย "เดินบ่อยเหรอลูก วันนี้น้องนิเดินตามคุณแม่ทั้งวันเลยนะ" "น้องนิอยากช่วยคุณแม่ค่ะ ย่าหมอนบอกว่าเก็บดอกดาวเรืองสีเหลืองไปขายได้ตังค์ด้วย น้องนิหาตังค์ซื้อนมช่วยแม่น้ำค่ะ" ความช่างพูดช่างคุยช่างออดอ้อนส่งผลให้ผู้เป็นแม่ยิ้มกว้าง สองแขนโอบกอดตัวบุตรสาวเข้ามาแนบอก ฝังปลายจมูกเชิดรั้นสูดดมกลิ่นหอมของแป้งเด็กบนแก้มนิ่ม เสมือนเป็นการเพิ่มพลังกายพลังใจให้กับตัวเอง ฟอด~ "ลูกสาวคุณแม่เก่งที่สุดเลยค่ะ" "ย่าหมอน ปู่พัฒน์ พี่ปุ้มปุ้ย บอกให้น้องนิเป็นเด็กดีของคุณแม่ค่ะ" "คุณแม่ดีใจที่น้องนิจะเป็นเด็กดีของคุณแม่นะคะ แม่รักน้องนินะลูก แม่รักหนูที่สุดในโลกเลยค่ะ" "น้องนิรักคุณแม่ค่ะ" ความสดใสของคนตัวเล็ก เสมือนเป็นน้ำทิพย์ชโลมจิตใจ นิทานปีนตัวขึ้น หยัดกายลุกมาหอมแก้มของแม่ทั้งซ้ายและขวา ไม่ลืมที่จะจุ๊บเบาๆ ที่จมูกและริมฝีปากของผู้เป็นแม่ แบบที่แม่เองก็เคยทำกับเขาเหมือนกัน "ไหนคะ หนูปวดขาข้างไหน ให้คุณแม่นวดให้ดีไหม" "ปวดตรงนี้ค่ะ" นิ้วเล็กจิ้มลงที่น่อง ก่อนที่เจ้าตัวจะนั่งลงบนที่นอนในท่าเหยียดขา ผู้เป็นแม่วางมือขยับเบาๆ เหมือนเป็นการนวดให้ เจ้าของร่างขาวผ่องในชุดลูกเป็ดสีเหลืองถึงกับยิ้มกว้างออกมา "คุณแม่ปวดขาไหมคะ น้องนิจะนวดขาให้คุณแม่บ้างค่ะ" "ลูกสาวของคุณแม่น่ารักจังเลยค่ะ เก่งแบบนี้ คุณแม่จะให้รางวัลนะคะ" คนตัวเล็กทำตาโตพลางเอียงคอตั้งท่ารอฟัง "อีกสองวันคุณแม่จะพาน้องนิไปกรุงเทพฯ ไปหาอาเรศที่กรุงเทพฯ ไปดูตึกสูงๆ ด้วยค่ะ" "น้องนิอยากไปค่ะ เย้!" น้ำเสียงสดใส เสียงเจื้อยแจ้วดังก้องไปทั่วทั้งห้องนอน สมาชิก วัยห้าขวบภายในบ้านหลังนี้ เป็นรอยยิ้ม เป็นเสียงหัวเราะให้กับทุกๆ คน โดยเฉพาะคนเป็นแม่ที่มีลูกเป็นดั่งหัวใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD