คุณนายร้ายสะบัด

1225 Words
ตอนที่ 15 “ก็อยากจะสู้เหมือนกัน ถ้าสู้กับผมคุณจะชนะไหมทูนหัว ปิดประตูแพ้ตั้งแต่เกมแรกแล้ว อย่ามาหาเรื่องผมนะเลื่อมลนิน นี่คือการพูดดี” “อ้าว ฉันพูดร้ายกับคุณหรือไง” “อย่ายวน ขอร้อง” “ไม่ต้องมาขอร้อง ร้องขอ ฉันไม่อยากจะฟังคุณ” “อ้อ นี่เพิ่งมาจากข้างนอก ไม่แน่ใจว่าคุณไปหาเพื่อนหรือหาอย่างอื่น ผมชักไม่เชื่อใจคุณแล้วสิ” หล่อนเหนื่อยหน่ายใจเหลือเกิน “ถ้าจะหาเรื่องกรุณาออกไปข้างนอกเถอะ ฉันจะหลับพักผ่อน” “อ้อ ทียังงี้กะปลกกะเปลี้ยมาทีเดียว” “คุณกบิณฑ์!” หล่อนตะเบ็งเสียง “ทำไมจ๊ะนางบำเรอที่รัก ทุรนทุรายด่าวดิ้นเรื่องอะไรไม่ทราบครับ หรือไม่มีที่ระบายไม่มีที่ลง หรือไม่มีที่สนอง ผมสนองให้ก็ได้ครับ” “บ้า ออกไปเดี๋ยวนี้นะคุณกบิณฑ์ บ้า ลามกที่สุด พูดแต่เรื่องบนเตียง” “อ้าว ผัวเมียถ้าไม่ให้พูดเรื่องบนเตียง พูดเรื่องอะไรเล่า” “เรื่องสร้างสรรค์มีออกเยอะ ทำไมไม่พูด” “เรื่องสร้างสรรค์เอาไว้พูดกันเวลาอื่น เวลาอยู่กับเมียก็พูดเรื่องบนเตียง” “ฮึ” “ไม่พอใจล่ะสิท่า น่า วันนี้ยังไงผมก็อยากจะนอนบนเตียงเดียวกับคุณ” เลื่อมลนินพูดไม่ออกปฏิเสธไม่ได้ กับความปรารถนาของกบิณฑ์ พูดเพียงนั้น เขาก็ปิดริมฝีปากหล่อนด้วยริมฝีปากอุ่นจัดทาบลงไปบนเรียวปากที่ได้รูปและอิ่มบาง บดขยี้ลงไปจนเลื่อมลนินหายใจสะท้อนรุนแรง ด้วยความหวั่นไหวกับความดูดดื่มที่ได้รับแรงปรารถนาอย่างอัตโนมัติด้วยนั่นเอง ทำให้หล่อนเผลอจิกกอดเขาไว้แนบแน่น รวบกอดอย่างเผลอเสน่หา ไม่ได้ผลักไสต่อต้าน หล่อนตอบสนองเขาไปตามลีลาของมัน ความอบอุ่นบังเกิดขึ้นในใจของหล่อนเมื่อแนบชิดแน่นสนิทร่างของเขา เพราะดูเหมือนว่ามีมือขาวอุ่นของกบิณฑ์โอบกอดหล่อนไม่ยอมคลายจนถึงรุ่งเช้า เลื่อมลนินหวิวไหว รัญจวน ถามตัวเองเองว่าเกิดอะไรขึ้นกับหล่อนอย่างนี้ มันไม่มีการต่อต้านเลย หล่อนรู้สึกอายนัก ถ้าหากเขาไม่ใช่คนที่อาฆาตพยาบาทคนหนึ่ง หล่อนคงเผลอรักเขาอย่างสุดใจ นี่กระไรหรือไฟ ในหัวใจของกบิณฑ์มีไฟแค้นไม่แตกต่างไปจากหล่อนเช่นกัน เขามุ่งหวังทำลายตามคำสั่งบัญชาของมารดาเขา หล่อนก็มีไฟแค้นชนิดที่ไม่กะพริบตา ในเมื่อกบิณฑ์อยากจะมีอะไรกับหล่อน ทั้งๆ ที่เขาจัดว่าเป็นนางบำเรอ ไม่มีความหมาย ไม่สนใจไยดี หล่อนก็จะปล่อยเพื่อให้บางสิ่งบางอย่างเป็นหอกทิ่มแทงใจเขาในอนาคต หล่อนไม่ทราบเช่นกันกับสติของตนเอง ผลักไสปรารถนาเกลียดชิงชัง หรือแอบรักเขาอย่างล้นหัวใจ เลื่อมลนินไม่รู้ คล้ายกับว่าหล่อนสัมผัสไม่ได้ มันลอยวนอยู่เบื้องหน้าของหล่อนที่หูและสมองชาอื้อไปกับความรู้สึกเช่นนั้น ที่หล่อนปล่อยปละละเลยตัวเองไปหมด นับว่าครั้งที่สองแล้วที่กบิณฑ์แตะต้องเรือนกายของหล่อน บทรักของเขารุนแรงราวกับพายุในตอนแรกแล้วแปรสงบเป็นอ่อนโยนอ่อนหวานนุ่มนวลในคราวหลัง ทะนุถนอมแผ่วเบา จนหล่อนคิดว่าน่าจะเป็นหัวใจแท้ของกบิณฑ์ที่แสดงออกมาในยามนี้หมด มันหมายถึงการไม่มีอารมณ์กระด้างขุ่นเคืองกราดเกรี้ยวเอาเรื่องอย่างที่หล่อนพบเห็นในปัจจุบัน ถ้าสามีในชีวิตแท้จริงของหล่อนเป็นเช่นนี้ เลื่อมลนินคิดว่าหล่อนจะโชคดีอย่างที่สุด และหล่อนคิดว่าผู้ชายที่โชคดีคนนั้นต้องไม่ได้ชื่อกบิณฑ์อย่างแน่นอน เลื่อมลนินตื่นขึ้นมาก่อนเขาเพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย ในวันนี้หล่อนนึกอยากทานโอวัลติน จึงเสียบกระติกไฟฟ้าตั้งไว้ ครั้นออกมาจากห้องน้ำด้วยเส้นผมเปียกลู่หญิงสาวสวมด้วยเสื้อคลุมสีขาว เดินกลับมาดู จัดการชงโอวัลตินเติมน้ำตาลนมข้นให้ตนเองหนึ่งแก้ว พอดีนึกถึงร่างสูงที่นอนเคียงข้างเมื่อคืนนี้ได้ จึงจัดการชงกาแฟตามรสที่เขาชอบ ซึ่งหล่อนทราบดี ทิ้งเอาไว้ เขาจะทานหรือไม่ทานก็ช่าง รู้หรือไม่รู้ก็ตาม หล่อนไม่ชอบทานหวานมาก เช่นเดียวกับเขา แต่กบิณฑ์เน้นไปทางขมจัด น้ำตาลสองก้อน หล่อนยังมีขนมปังแผ่นกับคุกกี้อยู่ในตู้เย็น จากนั้นก้าวไปที่ห้องของตนเอง เพื่อเลือกเสื้อผ้าชุดใหม่แต่งกายในเช้าของวันนั้น หล่อนเลือกกระโปรงสีเหลืองนวลเช่นเดียวกับเสื้อ แต่รองเท้าส้นเตี้ยของหล่อนกลับเป็นสีม่วง เลื่อมลนินแต่งหน้าค่อนข้างเข้มจัด หล่อนจึงดูสวยหวานแบบท้าทายเช่นเดิม สวยแบบเฉี่ยวๆ ภายใต้ดวงหน้ารูปไข่ที่มีเส้นผมล้อมกรอบอยู่เบื้องหลัง เส้นผมของเลื่อมลนินผ่านการดัดจนหยิกหย็อยฟู เป็นลอนเงางาม นั่นหมายถึงความมั่นใจที่มีอยู่ในตัวตนของหล่อน จนกระทั่งกบิณฑ์มองเห็นยังแลตะลึง เขาเพิ่งลุกตื่นขึ้นมาด้วยซ้ำ เดินตรงเข้ามายังหล่อน “คุณจะออกไปทำงานแต่เช้าหรือ” “ค่ะ” หล่อนตอบ ผินดวงหน้าหวานหันไปมองเขาเล็กน้อย “ขอบคุณนะที่ชงกาแฟเผื่อผมเลื่อมลนิน” “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันชงทิ้งไว้เท่านั้นล่ะ คุณไม่ทานก็เรื่องของคุณ” หล่อนตอบน้ำเสียงปกติธรรมดา แต่ท้ายหางเสียงแว่วๆ ถึงความมีอารมณ์ของหล่อน ที่เป็นเลื่อมลนินคนเดิมที่เจ้าประชดเจ้าเย้ยหยันเหน็บแนม แต่กบิณฑ์ไม่สนใจหรอก เขามองข้ามผ่าน เพราะตัวเขาเองก็เป็นอย่างนี้เช่นกัน เขารู้สึกหวงแหนในตัวของผู้หญิงคนนี้อย่างมาก มันเกิดอย่างประหลาดที่สุด ซึ่งกบิณฑ์ไม่เข้าใจ อย่างน้อยเขาก็ทักทายหล่อนด้วยคำพูดปกติของสามีภรรยา ไม่ใช่อารมณ์ที่จะมาห้ำหั่นฟาดฟันกันเหมือนคราวอื่น ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมุ่งร้าย อยากให้อีกฝ่ายตกเป็นผู้ที่พ่ายแพ้ ซึ่งมันน่าแปลกอีกครั้งที่กบิณฑ์ไม่ใส่ใจความรู้สึกเหล่านี้ กลายเป็นความอ่อนโยนอนาทรที่เขาจะได้แสดงตอบหล่อนในวาระสักขณะจิตหนึ่ง ที่เขาพลั้งเผลอ หัวใจอ่อนโยนเช่นนี้ มิทราบว่าเลื่อมลนินเข้าไปถึง หล่อนเข้าใจความหมายหรือเปล่า หรือคิดเพียงว่ามันเป็นการเสแสร้งของเขาเหมือนเคย กบิณฑ์ก็ยากที่จะหยั่งรู้จิตใจของหล่อน “ต้องทานสิครับ เมียอุตส่าห์ชงให้ ถือว่าเป็นความมีน้ำใจของคุณ” “ฉันไม่มีน้ำใจหรอกค่ะ ฉันมีแต่ฟาดฟันกับคุณเท่านั้นแหละ” สีหน้าสีตาเขาชักมีอารมณ์ เลื่อมลนินเริ่มก่อน “นี่ อย่าคิดหาเรื่องผมตั้งแต่ตอนเช้าเลยเมียรัก” เลื่อมลนินนิ่งสงบคำ หล่อนถือแก้วของหล่อนมาทรุดนั่งห่างจากเขาพอประมาณ ยกถ้วยโอวัลตินที่อุ่นพอดีไม่ร้อนไม่เย็นขึ้นจิบแบบละเลียด รู้สึกสมองปลอดโปร่ง พร้อมหยิบชิ้นคุกกี้ บิชิ้นเล็กใส่ปากไปเรื่อยๆ หล่อนไม่ได้หันกลับมามองกบิณฑ์อีกครั้ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD