ท่านประธาน

1455 Words
ผมตัดสายจากเธอแล้วเรียกเลขาเข้ามาพบทันที ยังไงวันนี้ผมก็ไม่มีทางให้นาราทำงานที่นั่นแน่ "คุณพิมพ์ลดาช่วยจัดการเรื่องนาราให้ผมที ด่วนเลยนะ รีบไปหาเธอตอนนี้ เธออยู่ที่ไลน์ผลิตแล้วย้ายเธอมาเป็นผู้ช่วยฝ่ายบัญชี ห้ามให้เธอทำงานที่ไลน์ผลิตเด็ดขาด!" "อะไรนะคะท่านประธาน! แต่ตำแหน่งผู้ช่วยบัญชีเต็มแล้วนะคะ" "ผมบอกให้คุณรีบไปจัดการเรื่องนี้ ผมกำชับแล้วใช่ไหมมีแค่ผมกับคุณที่รู้" "ค่ะท่านประธาน พิมพ์จะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้ละค่ะ" ตอนนี้เหลืออีกประมาณไม่ถึงสิบคนก็จะถึงคิวฉันแล้ว แต่ใจฉันยังคงเต้นรัวๆ ไม่รู้ว่ามันตื่นเต้นอะไรนักหนา ในที่สุดก็มาถึงคิวฉันจนได้ ขณะที่ฉันกำลังจะสแกนนิ้วมือลงไปที่เครื่องสแกน ก็มีผู้หญิงสวยอายุประมาณสามสิบปลายๆ เรียกชื่อฉันเสียงดังมาก "นารา! ใครชื่อนารา!" ฉันก็งงๆ มันคงไม่ใช่ฉันหรอกมั้ง ชื่อฉันอาจจะไปซ้ำกับคนอื่นก็ได้ คนที่ใช้ชื่อเดียวกันในโลกนี้มีเยอะแยะ "ใครชื่อนารา น้ำใจงามประเสริฐยิ่งเจริญทรัพย์” นั่นไงนามสกุลชั้นที่แม่ตั้งให้ไม่มีซ้ำใครแน่นอน "ฉันเองค่ะ" "ตามฉันมา" "แต่ฉันยังไม่ได้สแกนนิ้วมือเลยนะคะ" "ไม่ต้องสะกงสแกนมาแล้วตามฉันมา" ฉันทำหน้างงๆ แต่ก็เดินตามพี่คนสวยไป ฉันมาทำอะไรที่นี่ นั่นคือคำถามระหว่างที่ฉันเดินตามพี่คนสวยไป สักพักก็ถึงตึกอีกฟากที่นี่น่าจะเป็นบริษัท เพราะมันเต็มไปด้วยออฟฟิศ และน่าจะเป็นเจ้าเดียวกันกับโรงงานแค่แยกกันออกมาเฉยๆ "เธอรออยู่ที่นี่ก่อนนะเดี๋ยวฉันมา" พูดเสร็จพี่คนสวยก็เดินเข้าไปด้านใน ปล่อยให้ฉันยืนเก้ๆ กังๆ อยู่คนเดียว สักพักพี่คนสวยก็เดินออกมา แล้วก็เรียกฉันเข้าไปด้านในด้วยกัน "นี่คุณกนกฝ่ายบัญชี..และนี่รัศมีกับตาลเป็นผู้ช่วย" ฉันยกมือขึ้นไหว้คนทั้งสาม เพราะดูจากใบหน้าแล้วพวกเธอน่าจะอายุมากกว่าฉันแน่นอน “ส่วนนี่นารา จะมาเป็นผู้ช่วยอีกคนฝากด้วยนะ" แล้วเธอก็เดินออกไป สรุปฉันได้ทำงานเป็นผู้ช่วยฝ่ายบัญชีเหรอ อ้าว! ไหนบอกว่าเต็มไง ฉันบ่นพึมพำเบาๆ กับตัวเองแล้วยิ้มกว้างให้กับพวกพี่ทั้งสามคน "เธอไปทำอีท่าไหนล่ะ ท่านประธานถึงได้ฝากงานให้ ขนาดยอมเปิดตำแหน่งผู้ช่วยบัญชีคนใหม่เพิ่มให้เธอเลยนะ ตั้งแต่ฉันทำงานมาสิบกว่าปี เธอเป็นคนแรกที่ท่านประธานให้อภิสิทธิ์นี้" "ท่านประธานใครเหรอคะฉันไม่รู้จัก แล้วท่านประธานอะไรนั่นจะฝากงานให้ฉันได้ยังไง ในเมื่อหน้าตาฉันก็ยังไม่เคยเห็นเลย ว่าหน้าตาเขาเป็นยังไงพี่กนกพูดมั่วหรือเปล่า" "นี่เธอว่าฉันโกหกเหรอ มาทำงานวันแรกเป็นลูกน้องเขาก็อย่าทำตัวให้มันกร่างนัก หรือว่ามีท่านประธานหนุนหลังจะทำอะไรก็ได้" "เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ นาราไปช่วยตาลดูเอกสาร เดี๋ยวตาลจะสอนงานให้ หนูขอนะพี่กนกอย่ามีเรื่องกันเลย” "ฉันเห็นแก่พวกเธอสองคนนะไม่อยากมีเรื่องกับเด็ก..ชิ!" พี่กนกอะไรนั่นพูดขึ้นและมองฉันอย่างไม่เป็นมิตรสักเท่าไรนักส่วนผู้ช่วยทั้งสองก็น่าจะพอคบได้ วันแรกฉันก็ได้รับมอบหมายให้ทำงานด้านเอกสารโน่นนี่นั่นสารพัด แต่ฉันก็ยังข้องใจกับคำพูดของพี่กนก ท่านประธานฝากงานให้ ใครกัน ฉันจะรู้จักกับท่านประธานอะไรนั่นได้ยังไง ไม่มีทางเป็นไปได้ ฉันชักอยากจะเห็นหน้าท่านประธานคนนั้นแล้วสิ หลายวันต่อมาหลังจากเลิกงานแล้ว เมื่อมาถึงบ้านสิ่งแรกที่ฉันต้องทำคือกวาดบ้านถูบ้าน เพราะตอนเช้าแค่ทำอาหารก็หมดเวลาแล้ว จากนั้นก็รีดผ้าให้กับตาลุงนั่น แล้วมาทำกับข้าวอีก บอกตรงๆ ร่างฉันจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อยู่แล้ว กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปทุ่มกว่า วันนี้ตาลุงนั่นยังไม่กลับบ้าน ไม่รู้ว่าไปแวะที่ไหนหรือเปล่า ฉันเลยนั่งกินขนมดูทีวีรอ สักพักก็ได้ยินเสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น ฉันเลยออกไปดูมีรถเก๋งคันหรูจอดอยู่ ซึ่งฉันไม่คุ้นเลยสักนิด ฉันจึงเดินออกไปที่ประตู ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูเล็กถามให้แน่ใจ "คุณมาพบใครคะ" "ฉันมาพบพี่ภูน่ะ แล้วนี่เธอเป็นใคร ทำไมถึงได้มาอยู่บ้านหลังนี้" สาวสวยตรงหน้าทำท่าทางสงสัย เธอดูสวยน่ารักสดใสผิวขาวผ่องยังกับไข่ปอก หรือว่าจะเป็นแฟนของตาลุงนั่นตายแล้ว “อ๋อ..คือฉันเป็นหลานป้าสา เจ้าของบ้านหลังนี้ค่ะ" ฉันไม่รู้จะตอบยังไงก็เลยตอบไปตามความจริง ถ้าเป็นแฟนตาลุงนั่น เขาจะไล่ฉันออกจากบ้านไหมนะ "ช่วยเปิดประตูให้ฉันหน่อย ฉันจะเอารถไปจอดรอพี่ภูข้างใน" " ได้ค่ะ..เชิญคะ" จากนั้นฉันก็เปิดประตูให้กับเธอแล้วเชิญเธอไปนั่งรอตาลุงนั่น ที่ห้องรับแขก เธอมักจะถามโน่นถามนี่ แต่ดูเธอน่ารักเป็นกันเองมาก ฉันคุยกับเธอได้สักพักตาลุงนั่นก็มาพอดี "สวัสดีค่ะพี่ภู" เธอกล่าวทักทาย พร้อมกับวิ่งไปสวมกอดชายตรงหน้า ที่กำลังเดินเข้ามาหา แล้วตาลุงนั่นก็กอดตอบแถมยังหอมแก้มเธอซ้ายขวาอีก แต่ทำไมนะใจฉันถึงสั่นๆ ราวกับว่ากำลังโกรธผู้ชายตรงหน้า อ้อมกอดนั่นฉันรู้สึกหวงมันยังไงบอกไม่ถูก "แล้วนี่น้องมาได้ยังไงคิดถึงพี่ล่ะสิ" สรรพนามที่เขาเรียกกันมันฟังดูน่ารัก แต่ทำไมนะมันช่างขัดหูฉันไปเสียหมด กิริยาอ่อนหวานที่เขาแสดงออกมานั้น มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกอิจฉาผู้หญิงคนนี้เสียเหลือเกิน เธอช่างโชคดีที่มีตาลุงนี่คอยดูแลเอาอกเอาใจ "เชิญตามสบายนะคะ ฉันขอตัวก่อนพอดีตั้งหม้อแกงไว้ค่ะ" ความจริงฉันทำกับข้าวเสร็จแล้ว ฉันแค่อยากออกไปจากตรงนี้ให้มันพ้นๆ แค่นั้นเอง ทำไมฉันถึงรู้สึกใจหายแบบนี้ด้วย ยิ่งเห็นภาพเขาคุยกันกะหนุงกะหนิงมิ หนำซ้ำน้ำตาเจ้ากรรมของฉัน มันยังไหลซึมออกมา ราวกับว่าฉันกำลังถูกแย่งคนรักไป ทั้งที่ฉันกับเขาเป็นเพียงแค่คนรู้จักกันเท่านั้น "ยังไงเนี่ยมีแอบหญิงไว้ด้วย ยังเด็กอีกต่างหาก เธอบรรลุนิติภาวะหรือยังคะพี่ชาย" "แอบหญิงบ้าบออะไร นั่นหลานป้าสา ที่เคยเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ พอดีเธอเพิ่งได้งานทำเดี๋ยวก็ย้ายออกไปแล้ว" "ผีดิบอย่างพี่ยอมให้ใครมาอยู่ร่วมชายคาด้วย แสดงว่าเธอต้องมีอะไรดีแน่ๆ เลย สรุปเธอบรรลุนิติภาวะหรือยังคะ" "เธออายุยี่สิบ" "ว้าว! แจ๋วเลย" อะไรของน้องสาวผมเนี่ย ทำไมเด็กสมัยนี้ชอบทำเสียงดัง ทั้งๆ ที่คุยกันใกล้ๆ แค่นี้ "น้องทานข้าวมาหรือยัง ถ้ายังทานด้วยกันนะ" "เดี๋ยวก่อนสิพี่ชาย พี่ช่วยทำตัวเป็นแสง ให้มันเร็วกว่าเสียงหน่อยได้ไหม" “อะไรของน้องอีกละ จะมาสอนวิทยาศาสตร์อะไรพี่ตอนนี้" "สอนวิทยาศาสตร์ส่งวิทยาศาสตร์อะไรกันล่ะ! ตอนนี้คุณแม่กับคุณเจสซี่เขาเริ่มเตรียมงานแล้วนะ ไม่รู้ว่าเตรียมไปถึงไหนกันแล้ว แต่ก็ช่างเถอะ น้องมีแผนแล้ว แผนนี้ดีที่สุดเลยได้ผลแน่" นับดาวพูดพร้อมกับฉายแววตาเจ้าเล่ห์ออกมา จนผมสงสัยในแผนการของเธอ "แผนอะไรของน้อง" "เอาหูมาใกล้ๆ จะพูดให้ฟัง" แล้วนับดาวก็เริ่มบรรยายถึงแผนการของเธอให้พี่ชายฟัง เมื่อผู้เป็นพี่ชายของเธอฟังแล้วถึงกับส่ายหัว เพราะว่าไม่เห็นด้วยกับแผนการของน้องสาวเลยสักนิด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD