bc

รักต่างวัยของเจ้านายจอมเก๊ก

book_age18+
820
FOLLOW
1.8K
READ
HE
heir/heiress
sweet
bxg
brilliant
loser
like
intro-logo
Blurb

นารา หญิงสาวต่างจังหวัดอายุยี่สิบปี รูปร่างผอมเพรียวแลดูสมส่วน เธอเป็นหญิงสาวน่ารัก มองโลกในแง่ดี บ๊องแบ๊ว ใครเห็นต่างก็ชอบในความสดใสน่ารักของเธอ แต่ใครเล่าจะรู้ลึกๆ แล้ว หญิงสาวแค่สร้างมันขึ้นมา เพื่อเป็นกำแพงในใจที่ปวดร้าว เมื่อบิดากับมารดาต้องหย่ากัน เธอเจ็บลึกไปถึงก้นบึ้งหัวใจ แต่ยังทำตัวสดใสร่าเริง เพื่อให้มารดากับน้องชายรับรู้ว่าเธอสามารถ ที่จะเป็นเสาหลักที่ดีและแข็งแรงให้กับครอบครัวได้ พอจบมัธยมปลาย เธอตัดสินใจเรียนต่อแค่อนุปริญญา เพราะหวังว่าเรียนจบมาแล้วจะได้หางานทำทันที เพื่อให้น้องชายเพียงคนเดียวที่อายุห่างกันกับเธอเพียงแค่สองปีได้เรียนต่อ และแล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่นาทีน้องชายคนเดียวของเธอสอบติดแพทย์ นาราไม่ลังเลเลย เมื่อเรียนจบเธอรีบเดินทางไปหาป้าที่กรุงเทพฯทันที ทั้งที่ขาดการติดต่อกันมานานหลายปีแล้ว เธอหวังจะไปขออาศัยระหว่างที่หางานทำ ชีวิตของเธอจะผกผันแปรเปลี่ยนหักเหเพียงใด เมื่อเดินทางมากรุงเทพฯ ครั้งนี้

ภูตะวัน พ่อเลี้ยงหนุ่ม หล่อล่ำสูงขาวกล้ามโต หุ่นนายแบบ อายุสามสิบห้าปี ที่มีไร่องุ่นส่งออกรายใหญ่ของประเทศ ไร่ของเขาอยู่ทางภาคเหนือ แต่ทว่าโรงงานผลิตไวน์อยู่แถวชานเมือง เขาเป็นนักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อไฟแรง ที่บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ต่างหมายตา แต่เขากลับไม่เคยประกาศหรือควงผู้หญิงคนใดให้เห็นเลยสักราย สถานะของเขาคือโสด

ชายหนุ่มเคยมีแฟน แต่รักครั้งนั้นมันยังฝังใจ เมื่อแฟนสาวอันเป็นที่รักนอกใจ หนีไปแต่งงานกับหนุ่มลูกครึ่ง เมื่อครั้งที่เธอไปเรียนต่อต่างประเทศ ความสนิทชิดใกล้หรือที่เขาเรียกว่ารักแท้แพ้ใกล้ชิด มันเลยทำให้ความรักของเขาและเธอขาดสะบั้นลงไม่เป็นท่า แต่ตอนนี้เรื่องวุ่นๆ กำลังจะเกิดขึ้นกับเขา แน่นอนมันอาจจะไม่สงบอีกต่อไป และชีวิตของเขาต้องกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อเธอคนนั้นเดินเข้ามาในบ้านของชายหนุ่ม

chap-preview
Free preview
การพบเจอ
หญิงสาวต่างจังหวัดอายุยังน้อย ต้องระหกระเหินจากบ้านเกิดเมืองนอนมา หวังจะหางานทำ เพื่อสานฝันให้กับน้องชายเพียงคนเดียวได้เรียนต่อ ใครจะรู้ว่าโชคชะตากำลังจะเล่นตลกกับชีวิตของเธอ ครอบครัวที่อบอุ่น บ้านที่เคยเป็นบ้าน เวลานี้มันแตกสาแหรกขาด ตั้งแต่บิดาของเธอนอกใจผู้เป็นมารดาไปมีหญิงอื่น จากนั้นนาราก็ไม่เคยหวังอะไรจากผู้เป็นบิดาอีกเลย ไม่คิดจะขอความช่วยเหลือ แม้ในวันที่ตกทุกข์ได้ยาก เธอก็พร้อมที่จะฝ่าฟันไปด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เธอก็มุ่งมั่นตั้งใจเอาไว้แล้ว จะหางานทำให้ได้ ยังไงก็จะไม่ถอย ไม่ว่าจะเป็นงานหนักหรืองานเบาเธอก็จะไม่เกี่ยง จะไม่เลือกงานใดๆ ทั้งสิ้น ความฝันของน้องชายคือสิ่งที่จุดประกายให้เธอสู้ อย่างน้อยก็มีป้าที่พอจะพึ่งพาได้ หากว่าเธอไปอาศัยอยู่ที่นั่น                                                                          คนที่นาราเป็นห่วงที่สุดในเวลานี้คือผู้เป็นมารดา หากเธอกับนาทีไม่อยู่บ้าน นางคงจะโดดเดี่ยว เมื่ออยู่ที่บ้านคนเดียว ความเหงาของมารดานั้นคงทวีคูณเป็นสองเท่า แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่น หากนาทีเรียนจบทุกอย่างจะเหมือนเดิมจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง                 เวลาจะเยียวยาทุกสิ่ง เหมือนที่มารดาเคยรักษาและเยียวยาบาดแผล ที่บิดาของเธอเคยทำเอาไว้ เพื่ออนาคตของลูกนาราเชื่อว่ามารดาต้องยอม เหมือนที่เธอยอมเรียนแค่อนุปริญญา ทั้งที่นารามีความสามารถและฉลาดเก่ง สามารถที่จะเรียนจบปริญญาตรีไม่ยากเลย            รถแท็กซี่วิ่งเข้ามาในซอยของหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ที่บอกได้เลยว่าถ้าไม่คุ้นนี่มันทางไปเขาวงกตชัดๆ เมื่อรถแล่นเข้ามาบ้านหลังที่หญิงสาวคุ้นเคย นารารีบพูดออกมาเสียงดัง                                      "ลุงๆ จอดๆ บ้านหลังนี้ค่ะ หนูเคยมาหลายครั้งแล้ว"                       เมื่อฉันจ่ายค่าโดยสารเสร็จแล้ว จึงลงมาจากรถ ก่อนจะมองเข้าไปในบ้าน ที่เวลานี้มืดสนิทไฟก็ไม่เปิดสักดวง ฉันกดกริ่งกดแล้วกดอีกก็ไม่มีใครมาเปิด ลุงกับป้าไปไหนกันหมด นั่นคือคำถามในหัวของฉันเวลานี้         ฉันนั่งตบยุงตั้งแต่หนึ่งทุ่มจนเวลาล่วงเลยมาจะสามทุ่มกว่าแล้ว ฉันมองซ้ายแลขวาก่อนจะตัดสินใจ โยนกระเป๋าเป้ใบเดียวที่ติดตัวมา เข้าไปในบ้าน จากนั้นฉันก็ปีนข้ามรั้วที่ไม่สูงนัก แน่นอนฉันปีนป่ายที่ต่างจังหวัดเก่งจะตาย ต้นมะม่วงต้นมะขามก็ขึ้นมาแล้วรั้วเตี้ยแค่นี้จึงไม่ใช่ปัญหา                                                                                        "ป้าสาคะป้าอยู่ไหมคะ.." ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก ฉันบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งพิงกับประตูบ้าน แล้วเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เพราะเดินทางมาทั้งวันความเพลียทำให้นาราหลับลงได้อย่างง่ายดาย ภูตะวัน                                                                                   ผมภูตะวันที่บ้านเรียกมักเรียกสั้นๆ ว่าภูครับ ผมเดินทางไปเหนือหลายวันขับรถไปกลับเอง วันนี้ก็มาถึงดึกเลย ไม่ดึกธรรมดานี่มันปาเข้าไปจะตีสองกว่าแล้ว                                                                                               ผมมีคอนโด แต่ส่วนมากผมจะพักที่บ้านหลังนี้มากกว่า เพราะมันใกล้กับโรงงานผลิตไวน์ ส่วนบ้านใหญ่คือบ้านที่แม่และน้องๆ อยู่กันนานๆ ทีผมจะเข้าไปที ซึ่งบ้านหลังนี้ผมซื้อต่อจากเจ้าของเดิมที่เขาขายให้ ก่อนที่พวกเขาจะเดินทางไปต่างประเทศ และผมเห็นว่ามันใกล้กับโรงงานเลยตัดสินใจซื้ออย่างไม่ลังเลใจ หลังจากที่ผมเอารถไปเก็บแล้วจะเดินเข้าไปในบ้าน ขณะที่ผมกำลังจะเปิดประตูนั้นได้เหยียบโดนอะไรนุ่มๆ                  "โอ๊ย!" ฉันร้องออกมาเสียงหลง เมื่อมีใครคนหนึ่งเหยียบมาที่เท้าของฉัน ขณะที่กำลังหลับเพลินๆ เพราะเมื่อยจากการนั่งรถมาทั้งวัน                       "เฮ้ย! นี่เธอเป็นใคร เข้ามาในบ้านฉันได้ยังไง เป็นขโมยหรือเปล่าเนี่ย!"                                                                                                  “นี่ลุง! เหยียบลงมาได้ยังไงตาบอดหรือไง โอ๊ย! เจ็บชะมัดเลย" ฉันนั่งชันเข่าพร้อมทั้งเอามือลูบเบาๆ ไปมาที่หลังเท้าอย่างรู้สึกเจ็บ เพราะว่าฉันใส่รองเท้าแตะ ส่วนเขาน่าจะใส่รองเท้าผ้าใบส้นหนาด้วยมั้ง           "นี่! เธอเรียกใครว่าลุงปากเธอเนี่ยนะ เข้ามาแอบในบ้านคนอื่นแล้วยังปากเสียอีก เป็นขโมยใช่ไหมเนี่ย!"                                                           "นี่ลุง! ลุงนั่นแหละเข้ามาได้ไง! นี่มันบ้านป้าฉันนะ อย่าทำเป็นเนียน ลุงเป็นขโมยหรือเปล่าเนี่ย! " ฉันพูดกับเขาพร้อมกับตะเกียกตะกายลุกขึ้น เพราะยังเจ็บที่หลังเท้า ภายในใจก็ยังกล้าๆ กลัวๆ ตาลุงนี่อยู่ เพราะมองไม่ค่อยชัดไฟมันสลัว แต่ก็เห็นลางๆ พอเดาได้ว่าเขาอายุเยอะกว่าฉันหลายปี เขาดูดีจากการแต่งตัวภูมิฐานโครงหน้าก็น่าจะหล่อพอใช้ทีเดียว                                                                                                 "นี่เธอ ใคร ใครเป็นขโมยนี่มันบ้านฉันนะ!"                                                "มั่วแล้วลุง นี่มันบ้านป้าสา ป้าของฉัน คุณเป็นใคร แล้วถือวิสาสะอะไรเข้ามาอยู่ในบ้านป้าฉันเนี่ย ฮะ"                                                   ผมพอเดาได้แล้ว ถ้ายายเนี่ยไม่โกหก ผมเธอคงจะเป็นหลานสาวป้าสาจริงๆ แล้วเธอไปอยู่ไหนมา ทำไมไม่รู้ว่าป้าสาย้ายไปอยู่ที่ต่างประเทศหลายปีแล้ว                                                                       "นี่เธอหลบไปก่อนซิ ฉันจะเปิดประตู เราค่อยไปคุยกันในบ้านฉันเหนื่อย ขับรถมาตั้งไกลยังต้องมาเจออะไรแบบนี้อีก" ที่ผมสงสัยคือผมคุ้นหน้ายัยเด็กนี่มากเลย แต่นึกไม่ออกเคยเจอที่ไหนมาก่อน รู้แต่ว่าคุ้นเอามากๆ ผมจึงให้เธอเข้ามาข้างใน เพราะตอนนี้มันดึกมากแล้ว        "ว้าว!..ลุงจัดบ้านใหม่เหรอ เปลี่ยนไปเยอะเลยแต่ก็คลาสสิคดี" ผมหันไปตามเสียงเจี๊ยวจ๊าวนั่นเธอน่ารักมาก ดูสดใสทำไมเธอทำให้หัวใจของผมเต้นแรงไม่เป็นจังหวะแบบนี้ ผมไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมความรู้สึกของผม มันเริ่มรู้สึกเหมือนกำลังตกหลุมรักแรกอีกครั้ง เธอใส่เสื้อยืดกางเกงยีนต่างกับผู้หญิงที่ผมเจอแทบทุกวัน ผู้หญิงพวกนั้นแต่งตัวเปรี้ยวโชว์ส่วนเว้าส่วนโค้งแต่ผมกลับรู้สึกเฉยๆ ผิดกับเด็กคนนี้ ยัยเด็กนี่กำลังทำให้ผมรู้สึกใจเต้นแรงขึ้น เมื่อเธอเข้ามาใกล้ตอนนี้หัวใจของผมมันเต้นดังกลองเพล ผมบ้าไปแล้ว เด็กคนนี้ไม่น่าใช่สเปกของผมด้วยซ้ำ แต่พอเห็นหน้าเธอแล้ว ทำให้ผมถึงกับตาสว่าง ความง่วงเหล่านั้นได้หายไปเป็นปลิดทิ้ง มันจะแปลกไหมถ้าผมจะตกหลุมรักยัยเด็กจุ้นคนนี้ ดูจากหน้าตาของเธอแล้ว ไม่รู้ว่าบรรลุนิติภาวะหรือยัง ผมยังไม่อยากเจอข้อหาพรากผู้เยาว์ แต่ความรักไม่มีกฎเกณฑ์ไม่มีกติกา มีเพียงหัวใจที่เป็นที่ตั้งมั่นไม่ใช่หรือ?

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

เถื่อนรักมาเฟีย | NC+++

read
2.0K
bc

เมีย(น้อย)ของมาเฟีย

read
6.2K
bc

สะดุดรัก Lady cook.

read
1.0K
bc

สตรีแกร่ง หลินซูเหมย

read
3.4K
bc

ราชินีหนังโป๊

read
14.6K
bc

คนหัวใจเถื่อน

read
1.3K
bc

รักใส ๆ ของนายรุ่นน้อง

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook