ไม่มี ไม่มีอีกแล้ว คนเมื่อคืน ตอนนี้มีแต่เจ้านายใจโฉด ที่ไล่ฉันมาล้างห้องน้ำ ให้ตายเถอะ พอล้างเสร็จฉันต้องรีบวิ่งออกมานั่งในสวนทันที เพราะกลิ่นจากน้ำยาล้างห้องน้ำมันทำให้ฉันแทบจะเป็นลม
“คุณอยู่นี่เอง ผมหาคุณจนทั่ว ผมนึกออกแล้วนะ ผมเจอคุณที่ไหน”
“คุณที่ช่วยฉันเมื่อวาน”
“ผมเป็นแฟนหนังสือคุณ นี่ไงผมยังไปต่อคิวรับลายเซ็นจากคุณอยู่เลย” ผู้ชายตรงหน้า หยิบหนังสือที่ฉันเขียนขึ้นมาโชว์ให้ฉันดู มันทำเอาฉันอดยิ้มออกมาไม่ได้ มันเป็นเรื่องแรกของฉันที่ตีพิมพ์ มีมารอซื้อหนังสือของฉันไม่มากนัก
“ดีใจจัง มีคนชอบงานของฉัน” ไม่รู้จะดีใจ หรือเมาน้ำยาล้างห้องน้ำก่อนดี
“ตอนนี้คุณไม่เขียนแล้วหรอครับ ผมยังรอหนังสือคุณอยู่นะ” สีหน้าที่พูดด้วยรอยยิ้ม มันเหมือนเขากำลังบอกว่าเขารอหนังสือของฉันจริง ๆ มันตื้นตันจนน้ำตาไหลเลย ฉันต้องเงยหน้ามองฟ้า เพื่อให้น้ำตามันกลับเข้าไป
“ดีใจจนน้ำตาไหลเลย”
“ไม่เอา ไม่ร้องสิ ผมมาบอกให้คุณดีใจ ไม่ได้อยากเห็นน้ำตาคุณ” มือใหญ่ ๆ พยายามจะเอื้อมมาปาดน้ำ แต่ฉันต้องเอี้ยวตัวหลบ ไม่ได้หวงตัว แต่แค่มันสั่น
“ขอโทษค่ะ ฉันแต่งนิยายอยู่นะคะ แค่ตอนนี้มันยังลงออนไลน์อยู่ ถ้ามีคนสนใจเยอะมันก็จะได้ตีพิมพ์ ไว้เข้าไปอ่านอุดหนุนฉันเยอะ ๆ นะคะ ฉันจะได้มีตังกินหนม” ฉันยิ้มให้คนตรงหน้า
“คุณชื่ออะไรครับ ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย ผมณคุณ จะเรียกผมว่าคุณเฉย ๆ ก็ได้”
“แบบนี้ฉันต้องเรียก 2 คุณ หรือคุณเดียวคะ”
คนที่ถูกถามมีสีหน้าครุ่นคิด จะให้เรียกคุณคุณ มันก็ยังไงอยู่ แต่จะให้เรียกคุณเดียว ก็ดูไม่สุภาพนะ คิดได้ไงชื่อคุณ ชื่อแปลกดีจัง
“งั้นคุณเดียวละกัน ถ้าคุณคุณมันยังไงก็ไม่รู้”
“ฉันชื่อชิค่ะ มาจากพชิรา คุณ ก็มาจาก ณคุณใช่ไหมคะ”
“อ่อออ ชื่อเดียวกับนามปากกาคุณเลย ดีเลยผมจะได้ไปหานิยายเรื่องใหม่ของคุณอ่านบ้าง”
เรานั่งคุยกันอยู่สักพัก พี่ทีก็เดินเข้ามาหาฉัน แล้วบอกคนเป็นเจ้านายเรียก ทำให้ฉันต้องบอกลาคุณณคุณ เพื่อไปหาเจ้านายเอาแต่ใจของฉันก่อน บอกเลยฉันไม่ได้อู้งานนะ แต่มันเมาน้ำยาล้างห้องน้ำจริง ๆ
พอฉันเข้ามาในห้องของคนเป็นเจ้านาย ฉันก็พยายามจะอธิบายว่าที่ฉันไปนั่งในสวนเพราะอะไร แต่ดูเหมือนเขาไม่ได้สนใจจะฟัง แล้วเรียกฉันมาทำไม เอาแต่นั่งเงียบแล้วทำงานเงียบ ๆ แล้วปล่อยให้ฉันนั่งเฉย ๆ อยู่แบบนี้
“คุณปฐพี จะให้ฉันนั่งอีกนานไหมคะ”
ไม่มีคำตอบใดออกจากปากเขา มีเพียงสายตาดุ ๆ ที่ช้อนขึ้นมาเพื่อมองฉัน เหมือนกำลังจะบอกให้ฉันเงียบ ฉันก็เลยต้องเงียบ แต่จะให้อยู่อีกนานแค่ไหน
“ให้ฉันนั่งหายใจทิ้ง เสียเวลาจริง ๆ” ฉันสบถออกด้วยความไม่พอใจน้อย ๆ
“แล้วอยากทำอะไร”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!! แล้วพี่ทีก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับบอกว่าคุณณคุณกลับไปแล้ว แล้วจู่ ๆ เจ้านายที่กักตัวฉันไว้เป็นชั่วโมง ก็ยอมปล่อยตัวฉันกลับไปทำงาน แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
“ไปทำงานได้แล้วปะ”
“ค่ะ” ฉันถอนหายใจออกมาเบา ๆ
“ชิ คืนนี้มาหาฉันด้วย สัก 2 ทุ่ม ถ้าไม่มาจะให้ไอ้ทีไปอุ้มมา”
“สนิทถึงขั้นกับเรียกชื่อเล่นแล้วหรอคะ เฮ้ออออ!!!!!” แล้วฉันก็ถอนหายใส่เขาเสียงดัง จนพี่ทีถึงกับต้องขำออกมา
บอกให้ต่างคนต่างอยู่ทำไมเขาถึงทำไม่ได้นะ กำลังคุยกับคุณคุณสนุก ๆ เลย คุณคุณงั้นหรอ เออตลกจริงนั่นแหละ เรียกคุณณคุณแหละดีละ ฉันเดินกลับมาที่ล็อบบี้ พี่ลี่ก็รีบถามด้วยความเป็นห่วง ว่าทำไมถึงโดนเรียกเข้าห้องเย็นอีกแล้ว ถ้าตอบว่าเจ้านายเรียกไปหายใจทิ้ง เขาจะโกรธฉันไหม
“ดูสิเพลง เอาตัวเข้าแลก เขายังไม่เห็นค่าเลย เช้าก็ล้างห้องน้ำ บ่ายก็มีผู้ชายอีกคนมาปลอบใจ เสน่ห์แรงน่าดูเลย” ฉันจะทนอยู่ที่นี่ไม่ได้เพราะ 3 คนนี้ ทำไมถึงจ้องกัดฉันนัก
“อดทนไว้ชิ เพลงอะมันชอบนายมานาน ส่วนอีออยมันก็อ่อยพี่ทีมานาน หอยแห้งแล้ว เขายังไม่สนใจเลย ยังมีน่าจะมาแขวะคนอื่น” พี่ลี่ทำเหมือนพูดกับฉัน แต่พวกนั้นคงจะหน้าชากันเป็นแถบ ฉันหันไปยิ้มให้พี่ลี่ที่ช่วยฉัน
การทำงานเป็นไปอย่างปกติ จนกระทั่งคนเป็นเจ้านายเปิดประตูออกมาออกมาจากห้อง คนที่เอาแต่นั่งเฉย ๆ ก็ขยันขึ้นมาทันที บางที่ฉันก็ไม่ชอบหน้าเก๊ก ๆ นั่นหรอกนะ เปลี่ยนพระเอกดีเปล่า ข้อหาขี้เก๊กเกินไป แต่จริง ๆ คุณณคุณก็เป็นคนดีอยู่นะ ที่สำคัญเขาชอบงานฉัน คิกคิก
พอถึงเวลา 20:00น.
ถึงเวลานัดฉันก็เกิดอาการอิดออดไม่อยากไป บอกไปว่าหลับเขาไม่รู้หรอก แต่ไม่ทันจะ 2 ทุ่ม 10 นาที เสียงประตูห้องของฉันก็ดังขึ้น โอ้ยยย ให้คนมาอุ้มฉันจริง ๆ งั้นหรอ ใจร้ายไปหน่อยมะ ฉันเลยแกล้งทำเป็นหลับ ฉันไม่ออกไปเปิด เขาก็เข้ามาไม่ได้หรอก
แป๊ก!! เสียงเด้งของล็อกลูกบิดประตู ทำให้ฉันรู้ได้ว่ามีคนปลดล็อกประตูห้องของฉันเรียบร้อย
“บอกแล้วไงว่าอย่าช้า ฉันไม่ชอบการรอคอย” เขาไม่ได้ส่งพี่ทีมา แต่เขามาเอง
“กำลังจะไปค่ะ เพิ่งแต่งตัวเสร็จ” อาการแถเอาตัวรอด มันแสดงออกมาเองโดยไม่ต้องคิดให้ผ่านสมองเลย
คนตัวใหญ่แบกฉันพาดบ่า แล้วอุ้มออกไปเลย โอ้ยยยยย ฉันทุบที่หลังของเขาอย่างแรง ทั้งทุบทั้งตีให้เขาปล่อยฉันลง เพราะอาการสั่น ๆ มันทำงานอีกแล้ว แต่นอกจากจะไม่ยอมปล่อยฉันลงแล้ว เขายังตีก้นฉันคืนด้วย โอ้ยยยยย
พอเข้ามาในห้องเขาก็โยนฉันลงบนเตียงอย่างแรง จนร่างของฉันเด้งขึ้นมาจากเตียงเล็กน้อย แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะ
“บอกแล่าอย่ามาพยศกับฉัน”
“แต่ฉันไม่อยากให้คุณอุ้มอะ ฉันกลัวคุณ เข้าใจไหม พอคุณมาแตะมันก็สั่น เหมือนกับตัวเองรู้สึกว่าจะไม่ปลอดภัยอะ” เขากลับไม่ฟังที่ฉันพูดซะงั้น เดินหนีไปเฉย ๆ คนอะไรแบบนี้เนี่ย!!!
“หนังสืออ่านจบรึยัง”
“จบแล้วค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะเอามาคืนนะคะ มีเรื่องไหนแนะนำอีกไหมคะ”
“เรื่องนี้” เขาเปิดลิ้นชัก แล้วดึงหนักสือออกมาให้ฉันเล่มหนึ่ง
“สามชาติ สามภพ ป่าท้อสิบหลี่ นิยายจีนหรอคะ” นิยายเล่มนี้หน้าปกคล้ายที่เขาอ่านเมื่อวานเลย สงสัยอันนี้จะเป็นเล่มแรก เขาอ่านนิยายจีนกำลังภายในด้วยหรอ เป็นคนอ่านหนังสือทุกแนวเลยแฮะ
ตอนนี้ในห้องนี้เหมือนชมรมคนช่างอ่าน คือเราอยู่กันเงียบ ๆ อ่านหนังสือ โดยที่ตัวฉันเองก็นอนหนุนตักเขาอยู่แบบนั้น วันนี้อาบน้ำมาแล้วด้วยแฮะ กลิ่นสบู่หอมจัง แต่พอฉันอ่านไปได้ครึ่งเล่มด้วยความรวดเร็ว กลับหลงรักตัวละครหนึ่งขึ้นมาจับใจ เป็นตัวละครที่เป็นมหาเทพ ต้องละซึ่งตัณหา แต่ดันมีเซียนจิ้งจอกสาวมาแอบหลงรัก แม้ตัวเองจะปฏิเสธแต่ก็เผลอมีให้จิ้งจอกน้อยทีละนิด มันฟินตรงที่แม้จะเย็นชาใส่ แต่ก็ยังเป็นห่วง แม้รู้ว่ารักไม่ได้
“โอ้ย น่ารักจังเลย ชอบจัง” ฉันเผลอระบายความในใจออกมา
“ชอบใคร” เสียงเรียบถามขึ้น
“ตงหัวตี้จวินค่ะ มหาเทพ ที่กำลังเริ่มมีใจให้จิ้งจอกสาว” ฉันลุกขึ้นมาเพื่อคุยเรื่องนี้กับคนที่ยื่นหนังสือเรื่องนี้ ให้ฉันอ่าน
“ก็เพราะจิ้งจอกทำตัวน่ารัก เราก็หัดทำตัวให้มันน่ารักบ้าง ไม่งั้นชาตินี้ก็ไม่มีใครเขามารักหรอก” เสียงตอบที่ราบเรียบทำไมมันทำเอาฉันจุกแทบกระอักเลือด
“ใจร้ายอะ อ่านหนังสือไปเลยไป ไม่คุยด้วยละ แบบคุณก็คงไม่มีเหมือนกัน”
“คุยอะไรกับคุณณคุณวันนี้”
“อ่ออ เขาบอกว่าเขาเป็นแฟนหนังสือฉันค่ะ เขาเอาหนังสือที่ฉันเคยเซ็นให้มาให้ดู ก็เลยคุยกันนานนิดนึง ไม่นึกเลย ว่าเค้าจะมาตามหาฉันที่นี่ เพื่อแค่เอาหนังสือมาให้ดู น่ารักจัง ดูเป็นคนอัธยาศัยดีมากเลยนะคะ ตอนเขาบอกว่าเขารอหนังสือฉันอยู่ ฉันดีใจจนร้องไห้เลย คนอะไรน่ารักเป็นบ้าเลย”
พรึบ!!! คนข้าง ๆ ฉันปิดหนังสือดังพรึบ แล้วมองฉันด้วยสายตาเย็น ๆ อีกแล้ว อะไรอะ ฉันทำอะไรผิด ฉันก็ตอบคำถามคุณไง
“ชอบเขารึไง”
“เขาก็หล่อดี พูดจาดี นิสัยก็ดี เมื่อวานก็ยังมาช่วยฉันหาแว่นอีก.....” ฉันยังพูดไม่ทันจบคนตรงหน้าก็ ประกบริมฝีปากลงมาทันทีเลย ถึงมันจะไม่ใช่จูบแรกอีกแล้วแต่มัน แต่...ทำไมมัน...เจ็บไม่ต่างจากครั้งแรกเลย
ร่างฉันถูกกดลงกับที่นอนอย่างรวดเร็ว ความเจ็บที่ริมฝีปากเริ่มจางหาย หัวใจของฉันมันเต้นรัวอีกแล้ว จะดิ้นหนีริมฝีปากนั้นยังไง ฉันพยายามหลบซ้ายทีขวาที จนคนตรงหน้าต้องล็อกหน้าฉันไว้ให้มองเขา ฉันเลยเม้มปากเอาไว้แน่น เพื่อไม่ให้เขาจูบอีก
“เม้มไว้แบบนี้แหละ จะได้ไม่ต้องพูดมาก นี่ถือเป็นการลงโทษ ของคนที่ตอบมากกว่าสิ่งที่ฉันถาม ดิ้นให้มันน้อยหน่อย ดิ้นจนปากแตกเลย ไหนดูซิ๊” ฉันคลายปากที่เม้มไว้ออกมาช้า ๆ เพราะสายตาของคนตรงหน้ามันหาดูได้ยากจริง ๆ แม้จะยังมีกลิ่นคาวเลือดอยู่ในปาก แต่ตอนนี้มันดันหายเจ็บแล้ว
อะไรกันสายตาแบบนี้ เหมือนโดนตบหัวแล้วลูบหลังเลย สายตาของเขาตอนนี้ดาเมจแรงมาก มันทำเอาฉันแทบจะหยุดหายใจเลย ใกล้จังอยากจะหนีหายไปจากตรงนี้ ต้องทำยังไง
“อ่านหนังสือไปปะ แล้วอยู่เงียบ ๆ”
“แต่เมื่อกี้คุณเป็นคนถาม” ฉันแย้งออกไปเสียงอ่อย ๆ แต่มันทำให้เขายกคิ้วสูงใส่ฉัน แล้วพยายามจะประกบปากอีกครั้ง จนฉันต้องเอามือขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้
“ถ้ายังไม่หยุด แค่มือก็เอาฉันไม่อยู่หรอกจะบอกให้” พอพูดจบเขาก็ปล่อยฉันเป็นอิสระ จากตัวหนัก ๆ ของเขาที่กดฉันเอาไว้เมื่อครู่
แต่เป็นฉันนะสิ ที่ตอนนี้ดันทำตัวไม่ถูก หยิบหนังสือขึ้นมานั่งอ่านต่อ แต่หัวใจที่เต้นรัวมันทำเอาฉันไม่มีสมาธิเลย
“ที่ของเธออยู่ที่ไหน” เสียงดุ ทำเอาฉันต้องล้มลงใส่ตักของเขาอย่างไม่เต็มใจนัก คนประหลาด ฉันไม่รู้แล้วว่าคุณเป็นคนแบบไหน
มือใหญ่ลูบผมของฉันช้า ๆ ตักนี่เป็นที่ของฉันแล้วรึยังไง จะบอกว่าขาคุณอะแข็งไปหน่อยนะ ถึงจะอุ้นดีก็เถอะ ฉันอ่านนิยายไป ก็อินไป คู่เอกเรื่องนี้พระเอกนี่ทาสเมียเลย แบบนี้ก็น่ารัก ดูแล ใส่ใจทุกความรู้สึก นี่สิผู้ชายที่ผู้หญิงต้องการ ส่วนคู่รอง พระเอกนี่เย็นชาจนทำลายความรู้สึก แต่ก็ดูแล ปกป้อง โอ้ย นิยายเรื่องนี้คุณค่าที่คูควรจริง ๆ
ฮ้าวววว จบสักที กี่โมงแล้วเนี่ย ไม่ไหวแล้ว ฉันปล่อยสติให้เลื่อนลอยไปกับหนังตาที่หนักอึ้ง เลือกแบบไหนดีนะ ไม่เลือกได้ไหม
“ฉันเลือกไม่ถูกเลย ดีนะที่เขาทำเป็น 2 คู่ ไม่งั้นฉันจะต้องเสียใจแน่ ๆ ถ้าคนใดคนหนึ่งถูกทิ้ง” ฉันปิดตาลง พร้อมกับเรื่องที่คิดอยู่ในใจ
“เธอไม่ต้องเลือกมันหรอก เพราะมันไม่สมหวัง” ปฐพีปิดหนังสือลง แล้วจับให้แมวน้อยของเขาได้นอนดี ๆ ก่อนจะห่มผ้าให้เธออย่างเรียบร้อย แล้วเดินออกจากห้องไป มันแค่เป็นการหาเพื่อนอ่านหนังสือที่กินเวลายาวนาน ก่อนจะขับรถกลับไปนอนที่บ้านของตัวเอง