ิีอีกประมาณสิบนาทีต่อมา ในที่สุดฉันกับจอนนี่ก็พากันเดินเท้ามาจนถึงจุดที่เพื่อนๆ ของฉันกำลังปิ้งย่างอาหารทะเลกัน
"ว้า...ขี้เกียจแกะจัง" ฉันที่กำลังจะงับกั้งเผาตัวใหญ่เข้าปากถึงกับชะงักกึกเมื่อจู่ๆ ก็มีมือใหญ่ๆ ของไอ้จอนยื่นเข้ามาอุดปากของฉันเอาไว้พร้อมกับออกปากบ่นเชิงว่าฉันจะต้องรับหน้าที่แกะกุ้งแกะปูให้กับมันเหมือนกับในหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา
"โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้วกูก็ยังต้องแกะกุ้งแกะปูให้มึงกินอีกจอน" ถึงปากของฉันจะบ่นออกมาแบบไม่มีพักแต่ความเป็นจริงแล้วไม่เคยมีเลยสักครั้งที่ฉันจะไม่ปฏิบัติตามความต้องการของไอ้หมาหัวทองที่ชื่อว่าจอนนี่
"เอาไปไอ้จอน... เป่าด้วย อย่าโง่..."
"น่ารักที่สุด"
"เจ็บนะไอ้คนบ้า! ถ้ามึงจะหยิกแก้มกันขนาดนี้ก็เชิญมึงหาเมียมาไว้สำหรับหยิกแก้มเถอะจะได้ไม่เป็นภาระเบ้าหน้าชาวบ้านเขาไอ้จอน!"
"ถ่ายรูปกันหน่อย" นอกจากมันจะไม่สำนึกต่อสิ่งที่มันพึ่งจะทำกับฉัน มันยังมีหน้ามาชวนฉันถ่ายรูปอีกต่างหาก ดูเอาเถอะ!
"ไม่! กูขี้เกียจ"
"อะไรวะรูปเดียวเอง"
"เชิญไปถ่ายกับแฟนมึงค่ะ" ฉันก็เลยได้ทีโยนภาระหน้าที่ในการดูแลทารกในร่างเด็กวัยรุ่นอย่างไอ้จอนนี่ไปให้ยัยแนนซี่ที่พึ่งจะตกลงคบกันกับมันแทน
"ไม่!"
"กูไม่ใช่พ่อแม่มึงนะไอ้จอนที่มึงจะมากอดอกเชิดหน้าใส่กูเวลาที่มึงไม่ได้ดั่งใจอะ! พอ! กูจะไม่ทนกับคนอย่างมึงอีกต่อไปไอ้จอน ถอยไปกูจะแดก! กูหิว!"
พรึ่บ!
"คิกๆ ไอ้จอนปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะ ฮ่าๆๆ อย่ามาจิ้มเอวกันเซ่มันจักจี๊นะเว้ย! ฮ่าๆ"
พลั่ก!
ร่างสูงใหญ่ของชายที่ได้รับรายงานมาโดยลูกน้องสาวคนสนิทว่าคนรักของตัวเองนั้นได้เข้ามาจองห้องพักเพื่อหลับนอนกันสองต่อสอง ตรงเข้ามากระชากร่างเล็กของหญิงสาวออกมาจากวงแขนของชายที่ตนคิดเอาไปเองว่าเป็นชายชู้อย่างแรงจนร่างเล็กนั้นเสียหลักล้มลงกระแทกกับเก้าอี้ชายหาดอย่างแรง จนเผยให้เห็นมวลของเหลวสีแดงฉานที่ค่อยๆ แทรกซึมออกมาจากบาดแผลฉกรรจ์บริเวณหางคิ้วโก่งสวยนั้นในนาทีต่อมา
"มึงเป็นใคร!" คนที่กำลังกรุ่นโกรธได้ที่เมินเฉยต่ออาการบาดเจ็บของหญิงที่คิดจะมีใครอื่นมาแทนที่เขา ก่อนจะตรงเข้าไปขย้ำร่างสูงโปร่งของคนที่บังอาจกระทำให้ตัวเองต้องเจ็บปวดหัวใจอย่างคนที่ขาดซึ่งการควบคุมสติสัมปชัญญะของตัวเอง
"ไอ้จอน! , ไอ้เฮีย!"
"หยุดเดี๋ยวนี้นะ! อย่ามายุ่งกับแฟนของแนนซี่!"
ในขณะที่บุคคลทั้งสองต่างก็ยังตกตะลึงหลังได้เห็นอย่างเต็มตาว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นใคร แนนซี่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักจอนนี่ก็รีบเอาตัวเองเข้าไปขวางกั้นระหว่างกลางคนทั้งคู่เอาไว้อย่างปกป้องแฟนหนุ่มของตนในทันที
"อ๋อ...ใช่ โอเค" อั๋นที่รับรู้แบบนั้นจึงไม่รอช้าที่จะปล่อยตัวจอนนี่ให้เป็นอิสระ
"อีเหน่... ไปบอกให้น้าบุญรวยพามึงไปโรงพยาลกันดีกว่าเนอะ..." เมื่อสถานการณ์เริ่มที่จะคลี่คลาย แนนซี่จึงเลือกที่จะเบี่ยงตัวเองออกไปเพื่อนำตัวคนที่ได้รับบาดเจ็บอย่างเสน่ห์ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลและปลาอยให้แฟนหนุ่มของตัวเองและแฟนของเพื่อนสาวได้ปรับความเข้าใจกันโดยลำพัง
"ขอบใจมึงอีแนน... ขอบใจที่รีบเข้าไปอธิบายให้แฟนกูเข้าใจ"
"มึงคงจะเจ็บมากใช่ไหมอีเหน่... ไปหาหมอกันดีกว่าเนอะ"
"เดี๋ยวฉันพาไปเอง" อั๋นที่รับรู้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าตนเองได้กระทำผิดพลาดไปมากแค่ไหนในครั้งนี้จึงไม่รอช้าที่จะออกปากอาสาตัวเองในการพาแฟนสาวไปโรงพยาบาล
"ไม่ต้อง! อีเหน่มันยังไม่อยากคุยกับนายในตอนนนี้หรอกนะอั๋น! จะไปไหนก็ไป!" แนนซี่โบกมือไล่คนรักขอบเพื่แนสาวก่อนจะพยุงร่างเล็กนั้นออกไปโดยมีคนขับรถอย่างบุญรวยคอยช่วยพยุงอยู่อีกแรง
โรงพยาบาล
สวัสดีค่ะทุกคน ฉันชื่อแนนซี่หรือจะเรียกว่าแนนก็ได้นะ ตอนนี้แนนกับน้าบุญรวยกำลังนั่งรอเสน่ห์ที่ได้รับบาดเจ็บจากการที่หัวไปกระแทกเข้ากับเก้าอี้ชายหาดเมื่อก่อนหน้านี้อยู่ตรงหน้าห้องฉุกเฉินค่ะ
ยอมรับเลยว่าในตอนที่ได้เห็นว่าใบหน้าสวยๆ ของนางมีเลือดสีแดงไหลลงมาแบบไม่ขาดสายนั้นมันทำให้รู้สึกฉันใจเสียไม่น้อยเลยละค่ะ
"เป็นไงบ้างมึง" ฉันถามเพื่อนที่ฉันรักที่สุดอย่างเป็นห่วงในทันทีที่ได้เห็นว่านางกำลังเดินออกมาจากข้างในห้องฉุกเฉิน
"มึนนิดหน่อย แตกแค่สี่เข็มเองมึงแต่เลือดในร่างกายกูมันดันเล่นใหญ่ไปนิดนึง ฮ่าๆๆ"
นางว่าอย่างติดตลก จริงๆ นี่ก็พอจะรู้อยู่แล้วแหละว่านางไม่มีความคิดที่จะถือโทษหรือโกรธแฟนเด็กของนานหรอกเพราะนางรักของนาง... ครั้นจะให้ฉันไปยุยงส่งเสริมให้เลิกกันฉันก็คงไม่พ้นที่จะกลายสภาพเป็นเป็นหมาน้อยเอาซะเอง
"เกิดอะไรขึ้น ละแฟนมึงโผล่มาได้ยังไงก่อน?"
"กูว่าพี่นวลแน่ๆ" นางเอ่ยตอบคำถามเมื่อก่อนหน้าของฉันและชื่อของบุคคลที่สามที่นางกำลังเอ่ยถึงนั้นมันทำให้ต้องงงเป็นไก่ตาแตกกันเลยทีเดียว
"นวล? นวลไหนวะ?"
"พนักงานต้อนรับที่รีสอร์ทป๊าของอั๋น นางจ้องกูที่เดินกระหนุงกระหนิงกับไอ้จอนตาแทบจะถลนออกมาทั้งๆ ที่กูบอกไปแล้วว่ากูกับมันเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน"
"แล้วคือมึงกำลังจะพูดว่าอีนังนั่นมันก็โทรไปรายงานนายน้อยของมันทั้งที่มึงบอกอยู่ว่าเป็นญาติกันนี่นะ... แหม...ลูกอีเสือกหลานอีสอด!" อีแนนละเหลือจะเชื่อจริงๆ กับอีคนประเภทบ้าบอแบบนี้อะ!
"แต่... ส่วนหนึ่งมันก็เป็นความผิดของกูกับไอ้จอนด้วยแหละที่เที่ยวไปโอบรัดกันซะจนขนาดนั้น... มันก็ไม่แปลกหรอกถ้าเขาจะไม่เชื่ออะจริงปะละ? แต่ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ! กูเองก็ไม่คิดว่ามันจะหนักจนถึงขั้นที่หล่อนสู่รู้ต่อสายไปฟ้องนายน้อยของตัวเอง ถามจริงเถอะว่าถ้าหากกูมีชู้จริงๆ กูจะพาอะจึ๊กกะดึ๋ยกันที่รีสอร์ทของแฟนทำไมละ! อีนังนั่นมันคงประสาทไปแล้วแน่ๆ เวรของกูจริงๆ"
"นี่อีเหน่..."
"หือ...ว่า"
"มันไม่เกี่ยวหรอกนะ... ว่าในวันนี้มึงจะเดินคู่อยู่กับใครอะไรยังไง อีนวลอะไรนั่นมันสู่รู้อย่างที่มึงว่าจริงๆ นะแหละ คิดตามกูสิว่าถ้าเกิดมึงกับจอนนี่บังเอิญเป็นพี่น้องพ่อแม่เดียวกันจริงๆ กูละอยากรู้นักว่านางจะรับผิดชอบผลกระทบจากการสอดรู้สอดเห็นของตัวเองยังไงไหว ประสาทเกิน...เที่ยวโทรไปฟ้องอย่างกับเด็กเจ็ดแปดขวบไปได้ อีแนนจะไม่ทน!"
ถึงตอนนี้แล้วแนนซี่ก็อยากจะรู้จริงๆ ค่ะทุกคนว่าถ้าหากอีเหน่กับจอนนี่เป็นพี่น้องในสายเลือดเดียวกันขึ้นมาจริงๆ อีนวลมัตจะรับผิดชอบกับคำพูดพล่อยๆ สนุกปากของตัวเองได้ยังไง!
"อืม..."
"แล้วนี่เอาไง มึงกลับบ้านเลยปอีเหน่ กูจะได้แจ้งน้าบุญรวยเขาถูก" ฉันแกล้งถามไปอย่างนั้นแหละค่ะทุกคน เพราะเอาจริงๆ ฉันก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว!
"ไม่อะ... ขอไปคุยกับอั๋นก่อน ยังไงกูก็ยังผิดที่เสือกไปสนิทกับจอนนี่มากถึงขนาดนั้น" แกควรโทษความใจร้อนของผัวแกบ้างเนอะอีเหน่ สติสำคัญมากนะคะทุกคน!
"ก็พอรู้" ฉันตบบ่าเล็กนั้นเบาๆ อย่างเคารพในทุกๆ การตัดสินใจของมัน
"รู้ใจตลอด"
"เพื่อนรักกูนิ...ไปเหอะ"
ก็โขกหัวเมียจนเลือดสาดกระจายไปเลยสิคะ คริคริ