มณีรินพูดไม่ออก เพราะหล่อนไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย
“แกกำลังตกอยู่ในอันตรายนะ ริน”
อันดาเตือนเพื่อนอย่างเป็นห่วง
“คง... ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอกมั้งอันดา”
“ฉันก็หวังให้เป็นแบบนั้นแหละ และที่สำคัญฉันก็หวังว่าพี่มังกรจะปกป้องแกได้”
หล่อนนั่งนิ่งเงียบ ในหัวเต็มไปด้วยความคิดมากมายที่วิ่งพล่านอยู่
“ทำไมมานั่งรอตรงนี้ล่ะครับ พี่บอกให้รอที่หน้าคณะอักษรไม่ใช่หรือ”
เสียงนุ่มทุ้มของตัวต้นเหตุดังขึ้นข้างๆ และก็ทำให้หล่อนต้องรีบสลัดความวิตกกังวลทุกอย่างให้หลุดร่อนออกไปจากหัว
“คือ... เอ่อ...”
หล่อนอึกอัก จนอันดาต้องตอบแทน
“คือรินถูกผู้หญิงของพี่มังกรตามราวีน่ะค่ะ เลยต้องหนีมานั่งรอตรงนี้”
มังกรหรี่ตาแคบมองหล่อน เป็นเชิงถามนัยๆ ว่าอันดารู้เรื่องหรือเปล่า ซึ่งหล่อนก็พยักหน้ารับ
หล่อนเห็นเขาเป่าลมออกจากปากแรงๆ สีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย แต่น้ำเสียงก็ยังคงทุ้มลึกเหมือนเดิม
“แล้วเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าครับ”
“หนีออกมาทันค่ะ”
อันดาตอบแทนอีกครั้ง
“แต่ครั้งหน้าจะรอดแบบนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะ ดังนั้นพี่มังกรจะต้องปกป้องเพื่อนของหนูให้ดี”
“โอเค พี่จะพยายาม”
มังกรตอบรับเสียงเรียบ ก่อนจะคว้าแขนเรียวของมณีริน และรั้งให้ลุกขึ้นยืน
อันดามองมังกรที่จับมือเพื่อนซี้ของตัวเองแล้วก็อดที่จะฟินตามไม่ได้
“กลับบ้านกัน”
“เอ่อ... รินต้องกลับพร้อมกับอันดาค่ะ”
“อ้อ ไม่เป็นไรหรอกริน วันนี้แกกลับกับแฟนเถอะ ฉันกลับคนเดียวได้” อันดายิ้มกว้าง เปิดทางให้เพื่อนเสร็จสรรพ แต่ไม่รู้เลยว่ามณีรินลำบากใจแค่ไหน
“แต่ว่า...”
“ก็เพื่อนน้องบอกว่ากลับเองได้ ก็อย่าไปเซ้าซี้เลย เรากลับบ้านกันเถอะ”
มณีรินไม่มีทางเลือก จึงต้องยกมือโบกลาเพื่อนรักอย่างอันดา และยอมปล่อยให้มังกรลากเดินจากไป
ระหว่างทางก็พยายามบิดแขนออกจากมืออบอุ่นของเขา แต่ไม่สำเร็จ
“รุ่นพี่คะ ตรงนี้ไม่มีใครเห็นแล้ว ปล่อยแขนรินเถอะค่ะ”
“เธอรู้ได้ยังไงล่ะ”
“ก็... ไม่เห็นมีใครเดินตามมาเลยนี่คะ”
มังกรหยุดเดิน แต่ไม่ยอมปล่อยแขนของหล่อน แถมยังโน้มตัวลงมากระซิบใกล้ๆ หูอีกต่างหาก
มณีรินสะท้านไปทั้งตัว พยายามบอกตัวเองว่าอย่าหวั่นไหว แต่ก็ทำได้ยากเย็นเหลือเกิน เมื่อเขาคือชายคนแรกที่หล่อนตกหลุมรัก
มันบ้ามากที่ต้องซ่อนความรู้สึกรักเอาไว้ภายใต้ความเฉยเมย
“มองไปที่เสาไฟด้านหลังสิ เห็นผู้หญิงคนนั้นไหม เธอตามพวกเรามา”
หล่อนแอบชำเลืองมองไปตามคำพูดของมังกร และก็เห็นจริงๆ
“แล้วตรงนั้นที่หลังพุ่มไม้ มีผู้หญิงซ่อนอยู่อีกสองคน เห็นหรือเปล่า”
หล่อนหันไปมองตามที่เขาบอกอีกครั้ง และมันก็เป็นจริงเหมือนเดิม
“เห็นค่ะ...”
“แล้วยังจะให้ฉันปล่อยแขนเธออีกไหม”
หล่อนยิ้มเจือนๆ และถอนใจออกมา
“รุ่นพี่จะทำอะไรก็ตามใจเถอะค่ะ เพราะรินเป็นแค่ลูกจ้าง”
“ดีมาก”
เขาไม่ได้พูดเปล่า แต่กลับฉวยโอกาสจูบแก้มใสของหล่อนอีกครั้ง
มณีรินตกใจ แต่แสดงออกไม่ได้ ทำได้แค่เพียงหน้าแดงก่ำ และปล่อยให้เขาจูงมือเดินไปบนฟุตบาธเพียงเท่านั้น
“น้องพักอยู่ที่นี่หรือ”
มังกรเดินมาส่งหล่อนถึงหอพักเลยทีเดียว และเขาก็ทำหน้าสยดสยองเมื่อเห็นสถานที่ซุกหัวนอนของหล่อนเต็มตา
“ค่ะ”
“มันจะพังแล้วมั้งเนี่ย”
หล่อนหัวเราะเจือนๆ
“คงยังหรอกค่ะ แค่เก่าไปสักหน่อย”
“พี่ว่าที่นี่ไม่ปลอดภัยสักเท่าไหร่หรอกนะ”
มณีรินยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเล่าเหตุการณ์เมื่ออาทิตย์ก่อนให้กับเขาฟัง
“เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเพิ่งมีผู้หญิงถูกข่มขืนแล้วฆ่าตายที่นี่ค่ะ”
“เฮ้ย... จริงอ่ะ”
“จริงค่ะรุ่นพี่ แต่เป็นชั้นสามนะคะ ไม่ใช่ชั้นสองที่รินอยู่”
“พี่ว่าน้องควรจะย้ายออกให้เร็วที่สุดนะ”
“รินไม่ย้ายออกหรอกค่ะ”
“ทำไมล่ะ ไม่กลัวหรือไง วันดีคืนดี คนโชคร้ายอาจเป็นน้องนะ”
“รินก็กลัวอยู่เหมือนกันค่ะ แต่ค่าห้องที่นี่ถูกที่สุดแล้ว แถมยังใกล้กับมอด้วย รินต้องประหยัดรุ่นพี่ก็รู้นี่คะ” หล่อนยิ้มบางๆ
มังกรทำหน้าครุ่นคิดอยู่สักพักก็พูดออกมา
“งั้นไปอยู่คอนโดพี่เถอะ อยู่แถวนี้เหมือนกัน แต่ระบบรักษาความปลอดภัยดีกว่าห้องพักนี้มาก”
มณีรินส่ายหน้าพรืด
“ไม่เอาหรอกค่ะ ริน... เป็นผู้หญิงนะคะ จะไปอยู่ห้องเดียวกันกับผู้ชายได้ยังไง ถึงรุ่นพี่จะไม่ได้คิดเกินเลยกับรินก็ตาม...”
มังกรหัวเราะออกมา
“จะบ้าหรือไง พี่ไม่ได้บอกสักหน่อยว่าพี่จะอยู่คอนโดกับน้องด้วย”
“อ้าว แล้วรุ่นพี่จะไปอยู่ที่ไหนล่ะคะ”
“พี่มีบ้านนะ ไม่ใช่เด็กวัดสักหน่อย เอาเป็นว่าน้องเตรียมตัวเก็บข้าวของเลยก็แล้วกันนะ”
หล่อนรู้ดีว่ามังกรหวังดี แต่หล่อนก็ไม่อาจจะตอบรับความหวังดีของเขาได้
“ขอบคุณรุ่นพี่มากค่ะ แต่ริน... คงย้ายไปอยู่คอนโดของรุ่นพี่ฟรีๆ ไม่ได้หรอกค่ะ รินเกรงใจ”
“จะเกรงใจทำไม น้องเป็นแฟนพี่ลืมแล้วหรือไง”
“ไม่ลืมหรอกค่ะว่ารินเป็นแฟนกำมะลอของรุ่นพี่น่ะ แต่รินไปอยู่เปล่าๆ โดยไม่จ่ายค่าเช่าห้องให้รุ่นพี่ รินก็คงไม่สบายใจ”
มังกรระบายยิ้มกับความคิดของสตรีตรงหน้า เจ้าหล่อนเชยเฉิ่มก็จริง ความคิดน่ารักมากเลยทีเดียว
“งั้นก็จ่ายค่าเช่าพี่ก็ได้นี่”
“รินจ่ายไม่ไหวหรอกค่ะ น่าจะแพงมาก”
มังกรหัวเราะออกมา
“พี่คิดแค่ห้าร้อย โอเคไหม”
“ห้าร้อย?”
“อืม แค่ห้าร้อยบาทต่อเดือน น้องคงไม่ปฏิเสธน้ำใจของพี่แล้วนะ”
มณีรินส่ายหน้าไปมาอีกครั้ง
“รินรู้ค่ะว่ารุ่นพี่พยายามจะช่วยริน แต่รินไม่อยากเอาเปรียบรุ่นพี่น่ะค่ะ”
“อย่าเรื่องมากสิครับ ถือเสียว่าเป็นการตอบแทนที่น้องต้องมาถูกผู้หญิงพวกนั้นด่าทอเหน็บแนมก็แล้วกัน เก็บของนะ พรุ่งนี้พี่จะเอารถมาช่วยขนห้อง”
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น”
หล่อนยังคงยืนอึ้งอยู่ แต่คนเผด็จการไม่ยอมรับฟังเหตุผลเลย
“ขึ้นห้องพักเถอะ แล้วอย่าลืมล็อกประตูด้วยล่ะ พี่ไม่อยากขึ้นข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์เรื่องแฟนวันเดียวของพี่ถูกข่มขืนแล้วฆ่าตายน่ะ”
“รุ่นพี่ก็พูดไป...”
หล่อนตัดพ้อ ก่อนจะระบายยิ้มบางๆ ออกมา
“รุ่นพี่กลับบ้านดีๆ นะคะ รินขอตัวก่อน”
“ครับ”
หล่อนยกมือขึ้นโบกลาเขา ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าไปในหอพัก ทุกก้าวย่างเต็มไปด้วยความรู้สึกหวั่นไหวทรมาน
“รุ่นพี่ดีกับรินแบบนี้ แล้วริน... จะหักห้ามใจได้ยังไงกันคะ...”