@ทางด้านเกมส์
ผมมองพริ้งเดินออกไปจากห้องจนสุดสายตาก่อนจะยกยิ้มมุมปาก จากนั้นก็เบี่ยงสายตามองไอ้คิวที่มันยืนมองหน้ากันอยู่ก่อนหน้าแล้ว
“กูมาขัดจังหวะอะไรมึงไหม?” มันถามด้วยสีหน้าสงสัย ก่อนจะเดินตามเข้ามาในห้อง
“ขัดเหี้ยอะไรกูกับพริ้งไม่ได้จะทำอะไรกันสักหน่อย”
“กูเชื่อคนอย่างมึงได้?” ไอ้เพื่อนเวรมองผมตั้งแต่หัวยันตีน ไม่ผิดที่มันจะคิดแบบนั้น ก็ดูสภาพผมในตอนนี้ที่ดูไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ไหนจะจังหวะนรกที่มันเข้ามาเห็นผมกำลังแกล้งพริ้งอีกใครจะไปเชื่อ
“กับคนอื่นมึงไม่ต้องเชื่อแต่กับพริ้งกูไม่ทำอะไรแน่นอน”
“แล้วที่กูเห็นมึงกำลังล้วงน้องมันคืออะไร”
“แค่แกล้งเด็กมันเล่นเฉย ๆ น่า” ตอบพร้อมกับยกไหล่ขึ้นไม่ได้สนใจว่าเพื่อนจะมองยังไงเพราะแท้จริงในใจรู้ดีว่ายังไงก็ไม่คิดจะทำอะไรพริ้งแน่ ๆ
“ที่มึงอ่อย ที่มึงอ้อน เพราะมึงอยากเอาน้องพริ้งใช่ไหมวะ?”
“เอาห่าอะไรเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก”
“กูจะรอดู”
“เออรอไปเลยชาติหน้า แล้วมีเหี้ยอะไร”
“จะชวนไปแดกเหล้าที่สนาม” ไอ้คิวพูดจบก็ยังไม่ได้ตอบคำถามมันเพราะโทรศัพท์ในมือสั่นก่อน เมื่อเห็นเบอร์แม่ก็รีบกดรับทันที
“ครับคนสวย”
(หายไปไหนไม่ยอมรับโทรศัพท์แม่เลย) แม่ถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเหมือนอย่างทุกครั้ง
“ไม่ได้ตั้งเสียงโทรศัพท์ไว้ครับ”
(ทำไมกลัวอยู่กับผู้หญิงอีกคนแล้วอีกคนโทรหาหรือไง) สมแล้วที่เกิดเป็นแม่ลูกกัน รู้ทันไปหมด
“ใช่แล้ว แล้วแม่มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
(เปล่าหรอก แม่เป็นห่วงเห็นเกมส์ไม่รับโทรศัพท์แม่)
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอตัววางสายนะครับ จะไปดื่มกับไอ้คิวต่อ”
(ดูแลตัวเองด้วยอย่ามัวแต่ดูแลคนอื่นละ)
“ครับผม” หลังจากวางสายแม่ไปแนนก็โทรเข้ามาพอดี ผมมองเบอร์เธออยู่พักหนึ่งก่อนจะเลือกวางโทรศัพท์บนโซฟา จากนั้นเธอก็รัวข้อความมาไม่หยุด ผมหยิบโทรศัพท์มาเปิดดูข้อความเธอที่ส่งมาบอกให้ลงไปรับข้างล่างคอนโดเพราะขึ้นมาไม่ได้อยู่พักหนึ่งจากนั้นก็เลือกโยนโทรศัพท์ลงบนโซฟาอีกครั้ง
“ยังไง กลับมาแดกของเก่าแล้วเหรอมึง” ไอ้คนขี้เสือกถามขึ้น
“ก็อยากอ่อยเองแล้วคนขี้เงี่ย*อย่างกูจะทนเพื่อ” ยอมรับว่าเมื่อเห็นรูปแนนที่ส่งมาให้ก็อยากเอาเธอจึงนัดแนนมาที่ห้อง แต่อีกคนนั้นดันมาก่อนทำให้ผมลืมแนนไปเลย
เมื่อนึกถึงไอ้เด็กดื้อใบหน้ามันยิ้มออกมาไม่หยุด
“ยังไงจะไปแดกเหล้าไหม มัวแต่นั่งยิ้มอยู่นั่นแหละ”
“ไปดิ” ตอบพร้อมกับดันตัวลุกขึ้น
“มึงจะไปสภาพนี้ไงไอ้สัส”
“กูได้หมด แต่ห่วงสายตาคนที่มองหุ่นกูกลัวจะคลั่งตายก่อน” พูดจบก็เดินเข้าไปในห้องทันทีโดยไม่สนใจเสียงพูดไอ้คิวที่ดังขึ้นจากทางด้านหลัง
“จะอ้วกไอ้สัส”
#ทางด้านพริ้ง
หลังจากที่หอบร่างกายเข้ามาในห้องได้สำเร็จก็เอาแต่นั่งกระดกเบียร์ไม่พักไม่ยอมพูดจาอะไรทั้งนั้นกระทั่งเดซี่ที่นั่งมองอยู่นานถามขึ้น
“เป็นห่าอะไร?”
“เปล่า”
“ไปห้องเฮียเกมส์เจออะไร ทำไมมึงถึงดูเปลี่ยนเป็นคนละคน” ฉันดื่มเบียร์เข้าไปอึกใหญ่ก่อนจะกระแทกวางลง
“ก็เฮียเกมส์ดิแม่งชอบแกล้งกู”
“แกล้งยังไงวะ?”
“ชอบแกล้งให้กูเสียว” จากที่ไม่คิดจะเล่าให้มันฟังแต่พอแอลกอฮอล์เข้าปากมันก็ยากที่จะเก็บไว้คนเดียวได้จึงเล่าตั้งแต่ก้าวเข้าไปในห้องกระทั่งเดินออกมาให้เพื่อนฟังหมด
“ถ้าแกล้งแรงขนาดนี้มึงอย่าไปยอมนะ” เดซี่ตบเข่าตัวเองเมื่อฟังฉันเล่าเรื่องทั้งหมดจบ
“แล้วมึงจะให้กูทำยังไง?”
“มึงต้องสั่งสอนเฮียเกมส์กลับบ้าง”
“ยังไงล่ะ?”
“จับกดไง”
“จะบ้าหรือไงกูรู้จักเฮียเกมส์มาตั้งแต่เด็กเห็นกันมาตั้งแต่นมยังไม่ตั้งเต้าจะให้กูไปมีอะไรกับเขาแบบนั้นได้ไงมองหน้ากันไม่ติดแย่” ฉันรีบส่ายหัวปฏิเสธกับคำแนะนำของเพื่อนทันควัน
“กูให้มึงแกล้ง ไม่ใช่ให้มึงเอาจริง ๆ”
“อ่าวเหรอ” ฉันยิ้มแห้งส่งไปให้เดซี่ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะก็คิดว่าให้เอาจริง ๆ
“แต่ถ้าเอาจริง ๆ ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยขนาดเพื่อนสนิทยังเย*กันได้”
“แค่คิดก็ขนลุก” สำหรับคนอื่นจะยังไงก็ช่างแต่สำหรับฉันกับเฮียเกมส์คงเป็นไปไม่ได้แน่นอน เราสองคนเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก สถานะไม่ต่างจากพี่ชายกับน้องสาวเลยสักนิดถ้าจะให้เกินเลยคงเป็นไปไม่ได้หรอก
“อย่าเห็นกลับลำนะมึง”
“ไม่มีทาง” ตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น จากนั้นเราก็นั่งดื่มกันต่อกระทั่งเบียร์หมดจึงแยกย้ายกันเข้านอน...