ต่อมาไม่นานโดมินิคก็ขับรถมาจนถึงบริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ เป็นบริษัทหลักที่บริหารบริษัทในเครือทั้งหมดที่ผลิตเครื่องดื่ม เหล้า เบียร์ ไวน์ และน้ำดื่ม เรียกได้ว่าใหญ่ที่สุดในเมืองไทยเห็นจะได้ ป้ายบริษัทเขียนว่า คิงส์บริวเวอร์รี่จำกัด (มหาชน) ที่นี่แหละที่โดมินิคอยากจะทำงานด้วย แม้จะไม่มีกำลังทรัพย์มากพอที่จะก่อตั้งบริษัทเอง แต่ก็ขอมีส่วนร่วมในการทำงาน และด้วยความเป็นเพื่อน เจ้าของบริษัทจึงมอบตำแหน่งผู้บริหารให้ ทว่าก็ยังเทียบเพื่อนไม่ติดอยู่ดี เขาคิด ขณะที่จอดรถสนิทแล้วและกำลังจะเดินอ้อมมาเปิดให้กับอาทิตยา ทว่า รปภ.หน้าบริษัทกลับรีบเดินมาเปิดให้ประหนึ่งว่าเธอเป็นเจ้านายเลยทีเดียว
“เชิญครับคุณซัน ผมเห็นคุณซันขับรถออกไปเองนี่ครับ” รปภ.หนุ่มถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“อ๋อ ซันมาพร้อมกับลูกค้าของท่านน่ะค่ะ ส่วนรถเอาไว้ที่คอนโด” อาทิตยาบอกขณะที่โดมินิคเดินมาสมทบ รปภ.จึงทำความเคารพแบบไม่ต้องให้แนะนำเลย
“สวัสดีครับ” รปภ.ทักทาย
“สวัสดีครับ ฝากรถด้วยนะครับ”
“เชิญครับผมจะดูแลให้เป็นอย่างดี”
จากนั้นอาทิตยาจึงพาโดมินิคเข้าไปในบริษัททันที พร้อมกับสายตาหลาย ๆ คู่ของพนักงานที่อยู่บริเวณนั้น มองตาไม่วาง ทุกคนไม่รู้ว่านี่คือเพื่อนของเจ้าของบริษัท หากแต่มองว่าเขาหล่อเหลาทุกกระเบียดนิ้วเลยทีเดียว แต่หล่อแบบเจ้าชู้กรุ้มกริ่มมีเล่ห์ ไม่เหมือนเจ้านายที่หล่อแบบสุขุมนุ่มลึก
“หมั่นไส้ยัยซันชายน์นะแกว่าไหม” เสียงของพนักงานสาวคนหนึ่งเอ่ยขึ้น แบบกระซิบกระซาบกับเพื่อนร่วมงาน ด้วยความหมั่นไส้ เพราะอาทิตยาได้ใกล้ชิดกับคนหล่อ ๆ ทั้งนั้น โดยเฉพาะกับเจ้านายซึ่งเป็นที่หมายตาของสาว ๆ
“จะไปหมั่นไส้ทำไม” พนักงานสาวอีกคนพูด
“ก็ลูกค้าของท่านประธานแต่ละคนหล่อ ๆ ทั้งนั้น ท่านก็ให้แต่ยัยซันดูแล” พนักงานคนเดิมตอบ
“อันนี้ก็แล้วแต่บุญวาสนา ถ้าเราบุญถึงป่านนี้ได้ไปนั่งหน้าห้องท่านแล้ว ไม่ใช่ยัยซันหรอกแหม”
“เขาเรียกว่าแข่งบุญแข่งวาสนามันแข่งกันไม่ได้” เพื่อนอีกคนแทรกขึ้น
“ถ้ามีบุญจริง ๆ ต้องระดับผู้หญิงของท่านย่ะ ไม่ใช่เลขาหน้าห้อง”
“ท่านไม่จีบยัยซันหล่อนก็รู้ สวยแต่ไม่ตรงสเปกท่าน” ทุกคนได้ทีก็นินทาอาทิตยากันอย่างสนุกปาก แม้ว่าอาทิตยาจะไม่ได้ยินแต่ก็ดูออก สังเกตได้จากสายตา แต่เธอไม่ได้แคร์อะไร ขอแค่ไม่ริษยาจนหาเรื่องทำงานเป็นพอ เธอคิด
จากนั้นอาทิตยาจึงได้พาโดมินิคขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นผู้บริหาร เพื่อพบเจ้านายใหญ่ และเช่นเดียวกันเจ้านายใหญ่ก็รออาทิตยาอยู่ก่อนแล้ว แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดเลยคือโดมินิคจะมาด้วยนี่สิ
ก๊อก!!! ก๊อก!!! ก๊อก!!! อาทิตยาเคาะที่ประตูบานใหญ่เบา ๆ เพื่อเป็นมารยาท ก่อนจะเปิดประตูแล้วก้าวเข้าไปก่อน พร้อมกับเอ่ยกับเจ้านายหนุ่มที่กำลังนั่งพิงเก้าอี้ กอดอกอย่างผ่อนคลาย ไม่เหมือนคนกำลังทำงาน แต่คล้ายกับกำลังรอมากกว่า
“ขออนุญาตค่ะ คุณโดมินิคขอเข้าพบ” อาทิตยาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหวานผิดกับที่พูดกับโดมินิคโดยสิ้นเชิง เมื่อเจ้านายหนุ่มได้ยิน จึงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะมองหน้าเธอด้วยสายตาแปลก ๆ แล้วจึงถาม
“เชิญครับ” เบนจามินตอบเสียงเรียบ ติดจะเคร่งขรึมกว่าปกติด้วยซ้ำ ทำให้เธอประหม่าเล็กน้อย เพราะเจ้านายดูเหมือนอารมณ์ขุ่น แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ออกไปเชิญโดมินิค แค่เอี้ยวตัวเท่านั้นเขาก็ผลักประตูเข้ามาทันที
“ขนาดเพื่อนยังรอให้แกอนุญาตขนาดนี้ ถ้าเป็นคนธรรมดาจะว่ายังไงวะเนี่ย” เข้ามาถึงโดมินิคก็บ่นทันที
“ถ้าเป็นคนอื่น ฉันให้นัดวันเสียก่อนด้วยซ้ำ ไม่งั้นฉันไม่ให้พบ” เบนจามินตอบเสียงเรียบ สีหน้าไม่ได้ดีใจที่เพื่อนมาเอาเสียเลย
“จะเกินไปแล้วเพื่อน” พูดจบโดมินิคก็เดินเข้าไปหาใกล้ๆ จนถึงเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานแต่ยังไม่นั่งลง
“เอ่อ งั้นฉันขอตัวนะคะ จะไปเอาเครื่องดื่มเข้ามาให้” อาทิตยาบอกและกำลังจะเอี้ยวตัวก้าวออกไปจากประตูอีกครั้ง ทว่าเจ้านายหนุ่มเรียกเอาไว้เสียก่อน
“ซันชายน์!!! ไม่ต้อง พี่สั่งแม่บ้านให้เอาเข้ามาให้เรียบร้อยแล้ว ซันไปพักผ่อนเถอะ” เจ้านายหนุ่มเรียกหญิงสาวอย่างสนิทปากแถมยังแทนตัวเองว่าพี่ ทำเอาโดมินิคถึงกับมองหน้าสลับกัน
“ได้ไงวะ เลขาแกพาฉันมาคุยเรื่องงาน ก็คุยให้มันจบ ยังไม่ต้องออกไปไหน”
“ซันมีงานทำเยอะแยะ เรื่องที่แกคุยกับฉัน ไม่เกี่ยวกับซัน” เบนจามินตอบเสียงเรียบอีกครั้ง
“แต่ฉันอยากมองหน้าคุณอาทิตยา คุณอาทิตยาเข้ามาก่อนครับ” โดมินิคเอ่ยเรียกทำให้เธอถึงกับทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว
“งั้น... ซันไปเอาเรื่องดื่มเข้ามานะ” สุดท้ายเบนจามินก็ตัดสินใจให้เธอจัดการเอาเครื่องดื่มเข้ามาแทนแม่บ้าน เพื่อที่จะให้เธออยู่ในห้องด้วย
“ค่ะ” อาทิตยารับคำก่อนจะออกจากห้องเพื่อไปเอาเครื่องดื่มอย่างที่บอก