แปลกไหมถ้าพี่จะหวง 1

1365 Words
“ใครเหรอที่ขี้บ่น” อยู่ ๆ เสียงหนึ่งก็ดังแทรกขึ้นทำเอาอาทิตยากับป้านิดถึงกับสะดุ้งโหย๋ง ก่อนจะหันไปที่ประตูทางเข้า เห็นแต่เบนจามินยืนกอดอกพิงประตูอยู่ “เอ่อ มาเงียบ ๆ ไม่ให้ซุ่มให้เสียง มาแอบฟังผู้หญิงคุยกันเหรอคะเจ้านาย” อาทิตยาแสร้งต่อว่าเขาไปอย่างนั้นเอง “แล้วผู้หญิงแอบคุยอะไรกันล่ะ ได้ยินว่าใครขี้บ่นนะ” เบนจามินถามย้ำอีกครั้ง “ก็จะใครซะอีกล่ะคะ ก็เจ้านายของซันไง ขี้บ่น” อาทิตยาว่าพลางบุ้ยหน้าใส่เขา ก่อนจะหันกลับมาตั้งใจทำอาหารต่อไป “ใกล้จะเสร็จหรือยังป้านิด” เบนจามินถามเสียงเข้ม พลางปรายตามองอาทิตยาคล้ายจะเอาเรื่อง “ใกล้แล้วค่ะอีกนิดเดียว คุณท่านไปรอด้านนอกก่อนก็ได้นะคะ” “งั้นก็บอกคุณซันของป้าด้วยนะครับว่าให้วางมือ เจ้านายมีเรื่องจะคุยด้วย” เบนจามินทำเป็นพูดทางอ้อมไปอย่างนั้นเอง ทั้งที่รู้ว่าเธอได้ยิน “คุณซันล้างมือเถอะค่ะ เดี๋ยวป้ากับเด็ก ๆ จะจัดการต่อ” ป้านิดบอกอีกครั้ง ซึ่งทำให้อาทิตยาหันกลับมามองหน้าเจ้านายแล้วขึงตาใส่เล็กน้อย แล้วก็วางมือก่อนจะไปล้างมือให้เรียบร้อย ขณะที่เบนจามินยืนรออยู่ “เหมือนบังคับไปในตัว” อาทิตยาแอบประชดเล็กน้อยก่อนจะตวัดหางตามองเจ้านายอีกครั้ง แล้วเดินผ่านเขาไป จากนั้นเบนจามินจึงได้เดินตามเช่นกัน “คุณบี๋มีธุระอะไรจะคุยกับซันเหรอคะ” อาทิตยาถามเมื่อเดินมาถึงหน้าห้องอาหาร ทว่าไม่ได้เดินเข้าไป “เปล่า ไปเดินเล่นหน้าบ้านดีกว่าไหม กว่าป้านิดจะทำอะไรเสร็จคงอีกสักพัก” “ก็ได้ค่ะ” เมื่อเธอรับปากแล้วจึงพากันออกไปยืนรับลมที่หน้าบ้านแทน “ถามป้านิดว่าอะไรนะ” เบนจามินเริ่มยิงคำถามทันที นั่นแสดงว่าเขาได้ยินที่เธอคุยกับป้านิดสินะ “เอ่อ แสดงว่าได้ยินแต่ทำเป็นไม่ได้ยินเหรอคะ” เธอถามกลับยิ้ม ๆ “ก็พอได้ยินแต่ไม่ชัดเจน และรู้แต่ว่ากำลังถูกนินทาระยะเผาขน” “ซันขอโทษค่ะที่นินทาเจ้านาย ซันแค่เป็นห่วง” มันเป็นความห่วงใยจากลูกน้องสู่เจ้านายกระมัง ฉะนั้นเขาไม่ควรคิดอะไรให้มาก “กลัวพี่จะแก่ตายโดยไม่มีคนดูแลใช่ไหม” ให้ตายสิ เขาได้ยินทั้งหมดสินะถึงพูดถูกขนาดนี้ “เอ่อ ก็ได้ยินหมดนี่คะ แล้วจะถามซันทำไมเนี่ย” “แค่อยากรู้ว่าทำไมถึงนึกเป็นห่วงเท่านั้นเอง หรือขี้เกียจดูแลเจ้านาย คนนี้แล้ว ใช่หรือเปล่า” น้ำเสียงของเขาดูมีความน้อยใจเจืออยู่ในนั้น จะว่าไปแล้วก็ถูกเพราะเธออยากให้เขามีคนดูแล ไม่ใช่ให้เลขาดูแลแบบนี้ “บางครั้งเลขาอย่างซันก็ทำอะไรได้ไม่เต็มที่หรอกค่ะ สมมุติเวลาคุณบี๋ไม่สบายใครจะดูแล อาศัยแต่ป้านิดอย่างเดียวก็ไม่ใช่ เวลามาบ้านคุณบี๋ทีไรแล้วมันก็ทำให้ซันอดเป็นห่วงไม่ได้ ยิ่งอยู่ตัวคนเดียวอยู่ด้วย” เวลาเธอพูดว่าเป็นห่วงที่ไรมันอุ่นหัวใจแปลก ๆ “ตัวเองไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวว่างั้นสิ” เขาเค้นเสียงถามกลับไปแบบประชดเล็กน้อย “ก็... ซันยังไม่ได้มีอายุอย่างคุณบี๋นี่คะ ซันยังเด็ก” “ขนาดซันยังไม่อยากเริ่มต้นกับใคร จะแปลกอะไรถ้าพี่ก็ไม่อยากเหมือนกัน” พูดแปลก ๆ เธอคิด พลางมองหน้าแสดงว่าเขามีปมเรื่องความรักมากก่อนสินะ “พูดเหมือนมีปม แต่ป้านิดบอกว่า...” อาทิตยาถามทว่าหยุดเอาไว้เพียงเท่านี้ไม่กล้าเอ่ย ขณะที่เขาก็แทรกขึ้น “ใช่ อย่างที่ป้านิดบอกนั่นแหละมีปม” เบนจามินตอบโดยที่เธอไม่ทันได้พูดจบเสียด้วยซ้ำ “ทำไมคะ มันแย่ขนาดนั้นเชียวเหรอถึงไม่อยากเริ่มต้นใหม่” “มันแย่กว่าที่คิดเสียอีก” ท่าทางเขาอัดอั้นตันใจอยู่ไม่น้อย หากเธอเป็นคนช่วยทำให้เขาได้ระบายความในใจ มันคงจะดีขึ้น แต่จะดูเป็นการเสียมารยาทเกินไปหรือเปล่านะ เธอคิด “ซันอาจจะไม่มีประสบการณ์ความรัก แต่การได้ระบายออกมาเสียบ้าง มันอาจจะทำให้จิตใจดีขึ้นนะคะ อย่างน้อยซันจะได้เห็นรอยยิ้มของคุณบี๋มากขึ้นไง” “พูดจามีเหตุผล” เบนจามินพูดพลางยักคิ้วเบ้ปากเล็กน้อย แล้วเมินหน้าออกไปทางหน้าบ้าน คล้ายกับกำลังจะเริ่มต้นเล่าให้เธอฟังอย่างนั้นแหละ “จริง ๆ แล้วพี่ก็ไม่ได้อยากพูดถึงสักเท่าไหร่ เอาไว้ให้พี่พร้อมกว่านี้แล้วจะเล่าให้ฟัง รับรองว่าซันจะเป็นคนแรกที่พี่จะเล่า” แปลว่าตอนนี้เขาก็ยังไม่ไว้ใจเธอสินะ แต่ไม่เป็นไร เธอจะไม่เซ้าซี้ “อ้าว มันคงจะเลวร้ายมากใช่ไหมคะ” “ใช่มันค่อนข้างจะเลวร้าย” “กลายเป็นเรื่องที่ทำให้คุณบี๋ไม่อยากเข้าใกล้ผู้หญิงเลยเหรอคะ หือ” “ก็ใช่เลยล่ะ จริง ๆ พี่ก็ไม่อยากทำงานกับผู้หญิงเลยด้วยซ้ำ จนกระทั่งมีเลขาผู้หญิงเข้ามาเพิ่มไง” “หมายถึงซันเหรอคะ” เธอถามพลางชี้มือมาที่ตัวเอง “แน่นอน หมายถึงซัน ความจริงพี่ก็ไม่ได้อยากได้หรอกนะ พี่กลัวผู้หญิงน่ะ” “หือ กลัวผู้หญิงเหรอคะ ทำไมเรื่องนี้ซันไม่ทราบนะ” น้ำเสียงของเธอเย้าแหย่มากขึ้น เพราะไม่อยากให้เขาซีเรียสเกินไปนัก “จะรู้ได้ยังไงในเมื่อพี่ไม่เคยบอกใคร” เบนจามินปรายตามองเธอเล็กน้อย “แล้วทำไมถึงได้กลัวผู้หญิงล่ะคะ ผู้หญิงไม่ได้แย่ไปเสียทุกคนนะคะ” “กลัวเจ็บอีก” เขาตอบสั้น ๆ ฟังให้ชัด ๆ น้ำเสียงค่อนข้างจะสั่นเล็นน้อย เธอคิด “มีอะไรอีกเยอะเรื่องของคุณบี๋ที่ซันยังไม่ทราบ แต่ซันจะไม่ถามนะคะเรื่องของเจ้านาย ถ้าอยากเล่าเมื่อไหร่ซันก็จะฟังเมื่อนั้น” “แปลว่าอะไรเนี่ย” “ก็แปลว่าซันยินดีรับฟังทุกเรื่องไงคะ ยกเว้นเรื่องเพื่อนของคุณบี๋” “ฮ่า ๆ เขาก็ไม่ได้แย่นะ หือ” “คำตอบเหมือนคุณบี๋เลย ซันกลัวเจ็บ เอาจริง ๆ ซันอยากรู้ตลอดสองปีที่ผ่านมา ซันไม่กล้าถามจนเจ้านายให้ความเอ็นดู” “ถามเรื่องอะไร” “ทำไมถึงรับซันเข้ามาทำงานคะ ทั้งที่คุณบี๋มีเลขาผู้ชายอยู่แล้ว” “นั่นสิ ทำไมพี่ถึงรับซันนะ ไม่เข้าใจเหมือนกัน สงสัยเป็นเพราะโปรไฟล์ล่ะมั้ง เรียนจบมาใหม่ ๆ เกรดดี แล้วก็โสดอีกต่างหาก” “สำคัญที่คุณสมบัติอย่างหลังมากกว่า” “ก็สำคัญนะ เพราะการมาเป็นเลขาของพี่ อาจจะได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน อย่างเช่นประชุมตามต่างจังหวัด พี่คิดว่าซันไม่มีภาระอะไรให้ต้องห่วง” อันที่จริงเขามีมากกว่านั้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องสาธยายให้เธอรู้ “ก็จริงค่ะ ไม่มีแฟนให้ตามหึงหวงเวลาที่ต้องมาทำงานด่วนบ้านเจ้านาย หรือเวลาที่เจ้านายให้คนขับรถไปรับไปส่ง ส่วนครอบครัวก็อยู่ต่างประเทศหมด” “หึ ๆ ใช่เลยล่ะ” การที่เธอเป็นสาวโสดก็เป็นส่วนประกอบหนึ่งในการเลือกเข้าทำงาน อย่างที่เธอบอกนั่นแหละ คือไม่ต้องมาพะวงว่าใครจะมาตามหึงหวง “คุณคุณคะ อาหารพร้อมแล้วค่ะ” ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่นั้นป้านิดก็ออกมาตาม ทั้งคู่จึงหันกลับไปมองทันที “ขอบคุณครับป้านิด” เบนจามินเป็นคนตอบ จากนั้นป้านิดจึงเดินกลับเข้าบ้าน เพื่อให้เจ้านายเดินตามเข้าไป กระทั่งถึงห้องอาหาร ทุกอย่างถูกจัดวางเอาไว้เป็นอย่างดีสำหรับคนสองคน จากนั้นป้านิดกับคนรับใช้อีกสองคนจึงได้พากันออกไป ปล่อยให้เจ้านายกับเลขานุการคนสนิทอยู่กันตามลำพัง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD