“ไม่เป็นไรค่ะคุณพี่ เดี๋ยวน้องไปส่งค่ะ”
ศศิมลฝืนยิ้ม ทั้งๆ ที่ภายในอกเดือดปุดปุด
‘กลับมาก่อนเถอะ เจอดีแน่ นายศาสตรา!’
“แต่น่าเสียดายนะคะ ลูกของเราสองคนเลยไม่ได้เจอหน้าคร่าตากันเลย”
“งั้นเอาอย่างนี้ พรุ่งนี้คุณน้องพาหนูจอมไปกินข้าวบ้านพี่ จะได้เจอพ่อศาสตราด้วย”
ศศิมลบอกเพื่อนรัก ในขณะที่เพื่อนรักหันไปถามลูกสาวของตัวเอง
“ลูกว่ายังไงล่ะ จอมนาง”
“จอมแล้วแต่คุณแม่ค่ะ”
สองหญิงสูงวัยระบายยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนที่ศศิมลจะเอ่ยชมออกมา
“ถ้าลูกชายพี่น่ารักได้เสี้ยวหนึ่งของหนูจอม พี่คงมีความสุขกว่านี้เยอะ”
“ลูกชายคุณพี่ก็น่ารักค่ะ”
“น่าลักไปทิ้งนรกต่างหากล่ะ ผู้ชายอะไรเจ้าชู้ประตูดิน นี่ก็หวังว่าหนูจอมจะปราบให้เชื่องได้นะ”
จอมนางระบายยิ้มบางๆ หล่อนไม่เคยเห็นหน้าคร่าตาของลูกชายเพื่อนแม่มาก่อน แต่ก็หวังว่าเขาจะนิสัยดีกว่าไอ้ผู้ชายบ้ากามคนนั้นสักเสี้ยวหนึ่งก็ยังดี
“จอมจะพยายามค่ะ”
“ความหวังของป้าก็อยู่ที่หนูจอมคนเดียวนี่แหละจ๊ะ”
ศศิมลกุมมือจอมนางเอาไว้ มองอย่างเอ็นดู
“เพราะหนูจอมเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ป้าอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้”
“ขอบคุณค่ะคุณป้า”
“หนูจอมเต็มใจใช่ไหมจ๊ะ”
“เอ่อ... จอมแล้วแต่คุณแม่น่ะค่ะ”
ผู้ใหญ่ทั้งสองคนมองหน้ากัน ก่อนจะอมยิ้มวาดฝันกันอย่างมีความสุข
“โอ๊ยยย... คุณแม่ครับ เบาๆ ครับ หูผมจะขาดอยู่แล้วคร๊าบบบ...”
ทันทีที่ศาสตรากลับเข้ามาในบ้าน ศศิมลที่รอคอยอยู่ก็ต้องเข้าไปบิดหูของลูกชายเต็มแรง และลากเข้าไปในห้องรับแขก
“ผู้ชายหน้าหม้ออย่างแก มันต้องโดดหนักกว่านี้อีก นายศาสตรา!”
“โธ่ คุณแม่ครับ... ผมทำอะไรผิดอีกล่ะครับ”
ชายหนุ่มยกมือขึ้นกุมใบหูของตัวเองที่แดงก่ำอย่างเจ็บปวด
“ยังจะมีหน้ามาถามอีกนะ”
“ก็ผมไม่รู้จริงๆ นี่ครับ”
“แกไปป๊าบๆๆ กับผู้หญิงที่เจอในวัดได้ยังไง แถมยังรอให้พระฉันท์เสร็จก่อนไม่ไหว ต้องไปขย่มกันในโรงแรมม่านรูด นี่ฉันอยากจะรู้จริงๆ สมองของแกมันอยู่ที่หัว หรือที่เป้ากางเกงกันแน่”
“โอ๊ย คุณแม่ครับ ผมเจ็บ”
มารดาตบกบาลเขาแรงๆ จนเขาเจ็บระบม
“มันยังน้อยไป นี่ฉันทำหน้าไม่ถูกเลยนะ ถามเพื่อนถามว่าแกไปไหน”
“คุณแม่ก็บอกเขาไปตามตรงสิครับ ว่าผมกำลังยุ่งอยู่”
“บอกไปแบบนั้น เขาก็คงไม่ยกลูกสาวให้แกน่ะสิ”
คนฟังเบิกตากว้าง
“อะไรนะครับคุณแม่”
“แกไม่ต้องมาทำตาโตเลย แกจะต้องแต่งงานกับหนูจอม ผู้หญิงที่แม่เลือกให้”
“โธ่ๆๆ คุณแม่ครับ หน้าตาผมก็ยังไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วผมจะไปแต่งงานด้วยได้ยังไงกันครับ”
“ไม่ต้องมาแหล นายศาสตรา ทีผู้หญิงที่แกลากไปขย่มในโรงแรมเมื่อเช้า ก็เพิ่งเจอกันไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมจะแต่งงานกับผู้หญิงที่แม่เลือกให้ไม่ได้”
“แต่มันคนละประเด็นกันนะครับ ผู้หญิงที่ผมลากเข้าโรงแรม นั่นมันสเป็ค เอวดี นมใหญ่ หอยเบ่อเริ้ม... โอ๊ยยยย คุณแม่พอแล้วครับ ผมเจ็บ”
เขาถูกแม่ทุบไปทั่วทั้งตัวอย่างโมโห “ฉันน่าจะเอาขี้เถ้ายัดปากแกให้ตายตั้งแต่เด็กๆ จะได้ไม่ต้องโตมาลามกจกเปรตอย่างนี้”
“ผมล้อเล่นครับ”
ศศิมลทุบลูกชายจนเหนื่อยก็ทรุดตัวลงนั่ง ก่อนจะพูดต่อ
“แกห้ามขัดใจแม่เด็ดขาด ยังไงก็ต้องแต่งงานกับหนูจอมนาง”
“แต่ผมไม่อยากแต่งงานนี่ครับ ผมชอบกินไปเรื่อยๆ เบื่อก็เขี่ยทิ้ง”
“เสียใจด้วยพ่อลูกบังเกิดเกล้า เพราะฉันตัดสินใจแล้ว และถ้าแกขัดคำสั่ง เตรียมไปเป็นเด็กวัดได้เลย”
“นี่คุณแม่จะตัดผมออกจากกองมรดกเลยหรือครับ กับอีแค่เรื่องแต่งงานเนี่ย” ศาสตราแทบไม่เชื่อสิ่งที่หูของตัวเองได้ยิน
“ใช่”
“โธ่ คุณแม่ครับ”
“ไม่ต้องมาธง มาโธ่ แกไปเตรียมตัวได้เลย พรุ่งนี้เย็นหนูจอมนางกับคุณจริยาเพื่อนแม่จะมากินข้าวที่นี่”
“พรุ่งนี้ผมไม่ว่างครับ”
“ห้ามเบี้ยว เพราะแกจะต้องเจอกับว่าที่เจ้าสาวของตัวเอง ก่อนวันแต่งงาน”
“คุณแม่ครับ ผม... ไม่อยากแต่ง”
ชายหนุ่มคัดค้านทำเสียงออดอ้อนเป็นเด็กๆ แต่ศศิมลไม่คิดจะใจอ่อนอีกแล้ว
“เลือกเอา จะมีเมีย หรือว่าจะไปอยู่วัด”
“คุณแม่ใจร้าย”
“ไม่ต้องมาโอดครวญ ฉันให้เวลาแกมาเป็นสิบปีแล้วไม่ยอมแต่งเสียที”
ศาสตราหน้าตาเคร่งเครียด “ก็ผมยังวัยรุ่นอยู่นี่ครับ ก็เลยยังไม่อยากแต่งงาน”
“สามสิบหกแล้วเนี่ยนะ แกบอกว่ายังวัยรุ่นอยู่ หุบปาก แล้วขึ้นไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้เตรียมแต่งตัวหล่อๆ รอเจอหนูจอมนางของแม่”
ศาสตราหน้ายุ่งมากๆ ขณะลุกขึ้นยืน
“ก็ได้ครับ พรุ่งนี้ผมจะรีบกลับมาเจอผู้หญิงที่คุณแม่เลือกให้”
ศศิมลเลิกคิ้วแปลกใจ “แกพูดเหมือนกับว่าคืนนี้จะไม่ค้างที่บ้าน”
“ไม่ค้างหรอกครับ จะออกไปเอาผู้หญิงส่งท้ายเสียหน่อย”
“ศาสตรา...”
ศศิมลลากเสียงยาวอย่างไม่พอใจ แต่พ่อลูกชายไม่สนใจแม้แต่นิดเดียว
“ผมไปก่อนนะครับ คืนนี้ไม่กลับ”
“พ่อศาสตรา... กลับมาเดี๋ยวนี้นะ ศาสตรา!”
ศศิมลเต็มไปด้วยความไม่พอใจ มองตามหลังลูกชายไปอย่างหงุดหงิด
“ถ้าเบี้ยวนัดล่ะก็ จะไล่ไปอยู่วัดจริงๆ เสียให้เข็ด ไอ้ลูกบ้าตัณหา”