ถึงแล้วผมจะปลุกเอง

1790 Words
“เดี๋ยวผมไปส่ง” “ไม่เป็นไรค่ะ” อารีเอ่ยปฏิเสธเสียงเรียบเธอลุกขึ้นบิดขี้เกียจเล็กน้อยหลังจากต้องนั่งตรวจเอกสารอยู่นานและพบว่ามันไม่มีความผิดปกติอะไรเลยเหมือนกับว่าทุกอย่างได้ถูกตรวจสอบไว้หมดแล้วร่างบางปรายสายตามองไปยังนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนังก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ เพราะตอนนี้มันห้าทุ่มกว่าแล้วทั้งๆ ที่เวลาเลิกงานมันอยู่ที่6โมงเย็นแท้ๆ “แฟนมารับหรอ?” ร่างสูงเอ่ยถามเสียงเรียบเหมือนไม่ได้คิดอะไแต่ใจจริงหวังคำตอบอย่างอื่นไว้อยู่ร่างบางชะงักมือที่กำลังเก็บของอยู่ทันทีแต่ไม่นานก็ตอบกลับไป “เลิกกันแล้วค่ะ” อารีตอบกลับเสียงเบาก่อนจะสพายกระเป๋าขึ้นเตรียมตัวกลับบ้านที่กว่าจะถึงก็คงกินเวลาไม่น้อยและพรุ่งนี้ยังคงต้องตื่นเช้ามาทำงานอีก “อ๋อ..โทษที” ร่างสูงเอ่ยบอกก่อนจะมองร่างบางที่เดินไปอย่างไม่สนใจเขา เช้าวันต่อมา “พี่อารีคะ พี่อารี พี่อารี!” “อ่าว่าไง” ร่างบางที่ฝุบหลับอยู่บนโต๊ะค่อยๆ โพล่ศรีษะขึ้นมาพร้อมกับอ้าปากหาวแบบไม่แคร์ภาพลักษณ์เพราะตอนนี้เธอรู้สึกง่วงขั้นสุดและพึ่งได้นอนไปไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาหลังจากถึงบ้านก็คิดว่าตัวเองจะได้นอนหลับอย่างสบายใจแล้วแต่ยังไม่ทันที่หัวจะถึงหมอนไลน์ก็เด้งเข้ามารัวๆ และมันไม่ใช่จากใครที่ไหนเป็นเจ้านายของเธอที่ส่งเอกสารการประชุมที่ไปประชุมมาเมื่อช่วงสายและขอให้เธอสรุปก่อนจะเอามาประชุมในตอนเช้านี้ “โหยพี่ได้นอนบ้างมั้ยเนี่ย คุณโรมก็นะ ใช้งานหนักขนาดนี้ได้ไงกัน!” พนักงานสาวที่ถือเอกสารมาส่งเอ่ยบ่นเธอมองไปยังใบหน้าของอารีที่แสดงถึงความอิดโรยอย่างเห็นได้ชัดก็ไมใช่ว่าไม่เคยเห็นหรอกแต่หลังๆ มานี้ดูเหมือนคนตรงหน้าจะทำงานหนักเสียเหลือเกินแถมยังพึ่งได้ข่าวมาว่าพึ่งเลิกกับแฟนที่คบกันมาหลายปีนี้อีก “พี่สบายดีแค่ง่วงนิดหน่อยนี่เอกสารที่พี่ฝากปริ้นซ์ใช่มั้ย ขอบใจมากนะ” ร่างบางกล่าวด้วยรอยยิ้มก่อนจะตีหน้าตัวเองเบาๆ เพื่อให้ตัวเองตื่นหมุนนาฬิกาข้อมือมาดูและพบว่าอีกไม่กี่นาทีเจ้านายของเธอจะถึงบริษัทแล้วเพราะฉะนั้นเธอต้องรีบไปจัดห้องประชุมและเตรียมกาแฟให้ทันที ร่างสูงเดินเข้าบริษัทด้วยใบหน้าแจ่มใสออร่าความหล่อที่มีใครเห็นก็ต้องหันมองมือและสายตาง่วนอยู่กับไอแพดตรงหน้าที่กำลังดูตารางงานที่เลขาส่งมาให้เมื่อเช้าตรู่อย่างพิจารณาและพบว่าวันนี้ตารางของเขาไม่ได้หนักอะไรมากนัก “สวัสดีครับท่านประธาน/สวัสดีค่ะท่านประธาน” โรมันเพียงพยักหน้ารับเล็กน้อยท่ามกลางการต้อนรับที่พบเจอทุกเช้าร่างสูงตรงดิ่งเข้าไปยังห้องทำงานที่มีเลขาสาวกำลังวางกาแฟไว้ให้เขาอย่างพอดิบพอดี “อรุณสวัสดิ์ค่ะ” อารีเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มโรมันพยักหน้ารับก่อนจะนั่งลงพร้อมยกกาแฟขึ้นจิบ “เดี๋ยวอีก10นาทีจะมีการประชุมฝ่ายอีเว้นท์อีกรอบนะคะ” “อืม..ว่าแต่ช่วงนี้ขอบตาดูคล้ำๆ นะรักษาหน่อยก็ดี” จากปากที่กำลังยิ้มก็ค่อยๆ หุบลงทันทีอารีมองจ้องลึกไปยังคนตรงหน้าที่เอยคำพูดออกมาอย่างไม่แคร์แถมยังนั่งจิบกาแฟดูหนังสือพิมพ์อย่างสบายใจ แล้วที่เธอเป็นแบบนี้มันเพราะใครกันที่ชอบให้ทำงานล่วงเวลา แถมยังสงงานมาให้ช่วงดึกอีก เธออยากจะตะโกนแบบนี้ออกไปแต่ก็ทำได้เพียงอดกลั้นและครี่ยิ้มรับมันเท่านั้น “ค่ะ ดิฉันจะรีบไปรักษาทันที” อารีเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะขอตัวออกไปถ้าไม่ติดว่างานนี้ได้เงินดีเธอคงลาออกไปตั้งแต่1ปีแรกแล้วแต่เพราะต้องเลี้ยงดูที่บ้านพร้อมกับการจ่ายหนี้ที่ไปกู้มาเรียนเลยได้แต่นั่งหน้าทนทำมันไป “อืมมม” โรมันนั่งจ้องโฆษณาที่แทรกเข้ามาในน้าเพจเฟสบุ๊คของตัวเองมันคือโฆษณาร้านอาหารชื่อดังมือหนาเลื่อนดูรูปอาหารที่มีหน้าตาน่ากินด้วยความพอใจแถมวันนี้ยังเป็นวันศุกร์คงดีไม่น้อยถ้าเขาได้ผ่อนคลายตัวเองด้วยการทานอาหารดีๆ แบบนี้ โรมันกดคัดลอกเบอร์โทรของร้านก่อนจะกดโทรออกทันที “สวัสดีครับขอจองโต๊ะหน่อยครับ” (เป็นกี่ท่านดีคะ) ร่างสูงคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตอบกลับไป “สองที่ครับ เวลาหนึ่งทุ่ม” (รับทราบค่ะ) โรมันตัดสายไปด้วยความพึ่งพอใจที่จริงก็กะจะไปนั่งกินคนเดียวแต่จู่ๆ ภาพในหัวที่ฉายให้เห็นภาพเลขาของตัวเองเจ้าตัวเลยอยากเลี้ยงอาหารดีๆ ให้สมกับที่เธอทำงานดีมาตลอด “หลังจากนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วค่ะ” หลังจากผ่านการทำงานมาทั้งวันวันนี้ก็จบตารางงานของเขาแล้วเจ้าตัวดูนาฬิกาที่บ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเย็น “งั้นเลิกงานได้” โรมันเอ่ยขึ้น “ได้เลยค่ะ!^^” อารีเอ่ยขึ้นอย่างดีใจตอนแรกก็แอบคิดว่าจะได้อยู่เคลียร์งานอะไรอีกหรือป่าวแต่ผิดคาดที่ตอนนี้เธอจะได้กลับบ้านไปพักผ่อนอย่างเต็มที่เสียที ร่างบางกำลังจะหมุนตัวเดินออกจากห้องด้วยความอารมณ์ดีแต่สุดท้ายก็ต้องหยุดชะงักด้วยคำเรียกของอีกฝ่าย “อารี” “คะ? ต้องการอะไรรึเปล่าคะ?” อารีเอ่ยถาม “ผมจองร้านอาหารไว้” “อ่าค่ะ ทานให้อร่อยนะคะ^^” ร่างบางเอ่ยบอกก่อนจะฉีกยิ้ม “คุณก็ไปทานกับผมด้วยสิผมอุส่าห์จองไว้สองที่” คำพูดของอีกฝ่ายทำเอาเธอหุบยิ้มทันที “คะ? แต่ดิฉันยังไม่..” “จะปฏิเสธว่างั้น?” ร่างบางมองไปยังสายตาคมที่จ้องมาหาเธออย่างจะกินเลือดกินเนื้อ “แหมมจะปฏิเสธได้ยังไงกันคะ นานๆ คุณโรมจะเลี้ยงอาหารทั้งที..” ร่างบางเอ่ยตอบกลับอย่างเป็นธรรมชาติที่สุดแต่ภายในใจได้แต่ร้องไห้เพราะตอนนี้เธอแทบไม่เหลือแรงจะทำอะไรหรือไปไหนแล้วทั้งนั้น “ดี งั้นไปเตรียมตัวเลย” “ค่ะๆ -.-” ร่างบางเดินออกมาด้วยสภาพห่อเหี่ยวปากของเธอแบะคว่ำลงใช่ว่าไม่ใช่เรื่องดีที่เจ้านายของเธอจะเลี้ยงอาหารเพราะพาไปแต่ละที่ก็หรูๆ แพงๆ ทั้งนั้นถือว่าเป็นบุญปากที่จะได้กินของดีๆ แต่ทำไมมันต้องเป็นวันนี้ด้วยวันที่เธออยากกลับไปนอนมากที่สุดฮื่อออ “หาวววเอ่อขอโทษค่ะ” ร่างบางรีบเอ่ยขอโทษทันทีหลังจากนั่งรถมาได้สักพักก็เกิดอาการง่วงนอนจนเผลออ้าปากหาวออกไปแน่นอนว่าเย็นวันศุกร์รถต้องติดเป็นธรรมดาอยู่แล้วแต่วันนี้มันติดมากติดนานจนคนง่วงๆ ที่มานั่งเบาะนุ่มๆ พร้อมกับแอร์เย็นๆ จากรถจะอดที่จะง่วงนอนไม่ได้ “ถ้าง่วงก็หลับก่อน ถึงแล้วผมจะปลุก” โรมันเอ่ยบอกเสียงเรียบเจ้าตัวกดปิดเพลงที่เปิดฟังเพื่อให้ร่างบางให้นอนสบายๆ เขารู้ว่าเธอคงเหนื่อยเลยจะพยายามตอบแทนด้วยการเลี้ยงอาหารดีๆ นี่ไง “ขอบคุณค่ะ” นาทีนี้เธอไม่คิดจะปฏิเสธมันอย่างแน่นอนร่างบางเอนเบาะลงเล็กน้อยก่อนจเอียงตัวหันเข้ากระจกและหลับตาลงซึ่งไม่น่าเชื่อว่าเพียงไม่กี่นาทีเธอก็หลับสนิทไปซะแล้วจนร่างสูงถึงกับแปลกใจที่เห็นร่างบางหลับง่ายเสียเหลือเกิน รถหรูขับเข้ามายังร้านอาหารสุดหรูเจ้าตัววนหาที่จอดก่อนจะดับเครื่องและหันมามองร่างบางที่ยงขดตัวนอนหลับฝันดีอยู่ “อารี..” ร่างสูงเอ่ยเรียกชื่อของเธอเบาๆ แต่คนตรงหน้าก็ยังคงไม่ไหวติงใดๆ ทั้งสิ้น “อารี ถึงร้านแล้ว” โรมันยังคงเอ่ยเรียกเขาไม่กล้าใช้มือสะกิดเพราะปกติก็ไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวกันอยู่แล้วร่างสูงตัดสินใจปลดเข็มขัดของตัวเองออกก่อนจะโน้มหน้าไปมองร่างบางที่มุดหน้าผิงประตูรถ “อารีครับ” “เฮือกกอ๊ะ!” ร่างบางสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันทีหลังจากรับรู้ถึงลมร้อนที่มาปะทะบริเวณใบหน้าแต่ก็ต้องตกใจขึ้นไปอีกเพราะตอนนี้จมูกของเธอและอีกฝ่ายชนกันดวงงตาสวยจ้องลึกไปยังดวงตาคมที่เบิกตากว้างไม่นานร่างสูงก็รีบผละตัวออกไป “เอ่อขอโทษค่ะ!” อารีเอ่ยขอโทษหัวใจของเธอเต้นด้วยความรัวเร็วไม่รู้ว่าเพราะตกใจหรือเพราะอะไรกันแน่และเธอเองก็ไม่รู้เลยว่าทำไมอีกฝ่ายถึงยื่นหน้าเข้ามาใกล้ถึงเพียงนี้ได้ ในส่วนของร่างสูงเองก็ตกใจไม่แพ้กันและไม่คิดว่าแค่จะชะโงกไปมองดูแค่นั้นและเขาเองก็เรียกเธอตั้งหลายครั้งใครจะคิดว่าครั้งนี้เธอจะสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างรวดเร็วปานนี้ “ลงกันเถอะผมจองไว้ตอนหนึ่งทุ่มเดี๋ยวจะสายเอา” เป็นร่างสูงที่เอ่ยพูดขึ้นมาก่อนหลังจากที่ต่างคนต่างเงียบเจ้าตัวเปิดประตูรถลงพร้อมกับใช้มือถูกปลายจมูกเล็กน้อย “เจ็บมากมั้ยคะ” ร่างบางเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทีของอีกฝ่าย “ไม่เป็นไร” ร่างสูงตอบกลับเสียงเรียบเขาผายมือให้อีกฝ่ายเดินนำไปก่อนความรู้สึกแปลกๆ ก่อตัวขึ้นที่เขาถูจมูกไม่ใช่เพราะว่าเจ็บตอนมันชนกันแต่เพราะกลิ่มหอมๆ ของเธอมันติดมาด้วยนี่สิทำเอาผู้ชายมากเสน่ห์อย่างเขาถึงกับไปไม่เป็นทั้งๆ ที่ผ่านหญิงมาเยอะแต่ก็ไม่เคยเจอใครตัวหอมเท่าเธอมาก่อน กรี๊ดดดดดดเขินอยู่นะเอาดีๆ ที่หอมคือไม่ใช่น้ำหอมนะแต่เป็นกลิ่นแป้งที่ฉาบปกปิดความเหนื่อยล้ามากกว่ายิ่งนอนน้อยยิ่งต้องโบกหนาๆ ฮ่าๆๆ อย่างลืมคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD