ใจร้ายเกินไปแล้วนะคะ

1455 Words
“สั่งได้เต็มที่เลยนะ” ร่างสูงเอ่ยบอกหลังจากที่เดินมาถึงโต๊ะที่จองไว้แล้วบรรยากาศภายในร้านเต็มไปด้วยความอบอุ่นและกลิ่นของเนื้อย่างที่ชวนน้ำลายหกเสียงเพลงบรรเลงเพลงสากลที่มีนักร้องเสียงดีขับร้องอย่างนุ่มนวลจากที่ตอนแรกไม่อยากมาตอนนี้อารีรู้สึกพอใจและรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก มือบางเปิดเมนูอาหารก่อนจะตาลุกวาวกับภาพประกอบและราคาที่แค่หนึ่งจานก็อาจเทียบได้กับแรงงานขั้นต่ำประมาณ3-4วันเห็นจะได้ “เอ่อ..ดิฉันกินตามคุณโรมก็แล้วกันค่ะ” ร่างบางเอ่ยบอกเพราะไม่รู้จะสั่งอะไรมองไปทางไหนก็มีแต่ของแพงๆ แต่ใจจริงก็อยากกินนั่นกินนี่ไปหมดแต่ก็เกรงใจถ้าหากว่าตัวเองจะสั่งเยอะขนาดนั้นและราคาก็ไม่ใช่น้อยๆ ด้วย ร่างสูงพยักหน้ารับเขาเองก็ไม่เก่งเรื่องเลือกอาหารเลยได้แต่ยกมือเรียกพนักงานให้มาแนะนำซึ่งแน่นอนว่าพนักงานก็ล้วนแต่แนะนำของแพงๆ ให้ทั้งนั่นและคนตรงหน้าเธอก็เออออห่อหมกสั่งมาทั้งหมดที่พนักงานพูดอีก “มันไม่เยอะไปหรอคะ?” อารีเอ่ยถามเท่าที่ฟังแทบจะเกือบ10อย่างได้ที่สั่งมาทั้งๆ ที่มากันแค่สองคน “กินไม่หมดก็ค่อยเอากลับ” ร่างสูงตอบกลับเสียงเรียบก่อนจะเปลี่ยนสายตาไปมองบรรยากาศร้านแทนมุมปากหนายกยิ้มขึ้นด้วยความพอใจที่ทุกอย่างตรงปกอย่างที่โฆษณาไว้รอไม่นานอาหารมากหน้าหลายตาก็ถยอยเข้ามาเสริฟ์ “อึก” ร่างบางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ให้กับความน่ากินของอาหารไม่ว่าจะเป็นพาสต้าครีมที่ท็อปด้วยไข่กุ้งหรือจะเป็นสเต็กเนื้อหอมฉุยที่ย่างมาแบบมีเดี่ยมหรือจะเป็นสลัดผักชามโตทุกอย่างมันดูน่ากินไปเสียหมด “จะถ่ายรูปรึเปล่า” “คะ?” อารีขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ เขาคงรู้สึนะว่าผู้หญิงมักชอบถ่ายรูปอาหารลงโซเซียลกันอารีรีบหยิบมือถือมากดถ่ายรูปด้วยความตื่นเต้นรอยยิ้มหวานปรากฏต่อหน้าชายหนุ่มจนอดไม่ได้ที่จะเผลอจ้องมองไปแบบไม่รู้ตัวและไม่รู้เลยว่าเลขาของเขาเวลายิ้มแบบนี้ก็ดูน่ารักไปอีกแบบ เมื่อถ่ายรูปเสร็จสิ้นทั้งสองจึงเริ่มลงมือทานอาหารเงียบๆ โดยมีเสียงเพลงและเสียงนักร้องคอยขับกล่อมเนื่องจากโต๊ะที่จองเป็นแบบเอ้าท์ดอร์เวลามีลมพัดมาก็ยิ่งรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นไปอีก “อ่าาอิ่มมากเลยค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะอาหารอร่อยมาก^^” ร่างบางเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มวันนี้ก็ถือว่าไม่แย่ที่โดนลากตัวออกมาทั้งได้ผอนคลายแถมยังได้อาหารเอากลับไปกินที่บ้านได้อีกหลายมื้ออีกด้วย “ขึ้นรถเถอะเดี๋ยวผมไปส่ง” ร่างสูงเอ่ยบอกเมื่อเห็นอีกฝ่ายดูแฮปปี้เขาก็พอใจ “ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวดิฉันนั่งแท็กซี่กลับได้” อารีเอ่ยปฏิเสธเพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้วเธอไม่อยากให้ร่างสูงขับรถวนไปวนมาเนื่องจากบ้านของเธออยู่คนละทางกับบ้านเจ้านาย “ไม่เป็นไรผมอยากขับรถย่อยก่อนเข้าบ้าน” แม้ประโยคจะดูแปลกประหลาดแต่สุดท้ายร่างบางก็ยอมให้อีกฝ่ายไปส่ง “จูบกันไม่อายใครเลยแหะ” อารีเอ่ยขึ้นเบาๆ มองคู่รักคู่หนึ่งที่ยืนจูบกันบริเวณเสาของลานจอดรถก่อนจะเบะปากคว่ำให้กับความไม่เหมาะสมโรมันปรายตามองตามแม้คนข้างจะพูดเสียงเบาแต่เขาก็พอได้ยินบ้างแต่ไม่ได้สนใจและกดสตาร์ทรถแน่นอนว่าเสียงของรถทำให้คู่รักสะดุ้งและผละตัวออกจากกันเพราะฉะนั้นเลยทำให้ทั้งสองได้เห็นใบหน้าของคู่รักเต็มๆ โรมันปรายตามองร่างบางเงียบๆ เพราะเขารู้ได้ทันทีเลยว่าคู่รักที่ยืนจูบกันทางฝ่ายชายคืออดีตแฟนหนุ่มของร่างบางอารีจ้องมองไปที่ทั้งสองเงียบๆ ก่อนจะปรายตามองไปยังกระจกข้างๆ เหมือนไม่สนใจร่างสูงจึงขับรถออกไปทันที ทั้งรถตกอยู่ด้วยความเงียบมีเพียงเสียสะอื้นเบาๆ มาจากร่างบางซึ่งโรมันเองก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะเข้าใจในตัวร่างบางดีและนี่เป็นเหตุผลที่เขาไม่ชอบการมีแฟนหรือการผูกมัดใดๆ ทั้งสิ้นเพราะถ้าหากมีความรู้สึกไปแล้วมันก็ยากที่จะทำใจได้ถ้าหากว่าไปกันไม่รอด “ผมลืมบอกไปว่าคุณยามาดะเขาเร่งรัดจะเอาเอกสารสัญญาภายในวันจันทร์” “คะ!?” จากที่แอบร้องไห้เงียบๆ พอเจอประโยคนี้อารีถึงกับต้องตะโกนเสียงหลงในทันที “ระเรื่องจริงหรอคะ” อารีเอ่ยถามพร้อมปาดน้ำตาออกจากใบหน้าตอนนี้แม้จะอายที่นั่งร้องไห้แต่เธอไม่สนแล้ว “อืม รบกวนระบุสัญญาอย่างรอบคอบด้วยนะ” ร่างสูงเอ่ยบอกเสียงเรียบเพราะไม่รู้จะคุยอะไรเลยยกเรื่องงานปลอมๆ มาคุยแทน “ใจร้ายเกินไปแล้วนะคะ” ปกติการทำสัญญากว่าจะเสร็จเรียบร้อยมันต้องใช้เวลาอย่างน้อยเป็นเดือนเลยนะคะ “ผมรู้ แต่ทำไงได้อีกฝ่ายเขาอยากร่วมงานกับเราเร็วๆ” “เห้ออให้ตายสิ” ร่างบางผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิดวันหยุดที่ไม่ได้หยุดอีกแล้วแถมพวงมาด้วยกับคำว่าไม่ได้นอนด้วยมั้งเพราะการทำสัญญามันต้องละเอียดมากๆ ซึ่งเธอมีเวลาแค่2วันแค่2วันเท่านั้น “จบงานนี้ฉันขอลาออกได้มั้ยคะ” เอี๊ยดดด! ร่างสูงที่ได้ยินแบบนั้นก็เผลอเหยียบเบรคกระทันหันจนร่างบางถึงกับตัวโยนดีที่ด้านหลังไม่มีรถตามมาไม่งั้นคงเกิดอุบัติเหตุเป็นแน่ “โทษที” ร่างสูงเอ่ยบอกยอมรับว่าคำพูดของเธอเมื่อกี้ทำเขาสติหลุดไม่น้อย จากที่ทำงานมาด้วยกันหลายปีมีครั้งนี้แหละที่เขาพึ่งได้ยินคำว่าลาออกจากปากเลขาสาว “เกือบเกิดอุบัตเหตุแล้วนะคะ!” ร่างบางแว้ดใส่ทันทีหัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำด้วยความกลัว “เมื่อกี้พูดเล่นใช่ไหม” ร่างสูงเอ่ยถามก่อนจะขับรถต่อ “พูดอะไรคะ! อ๋อเรื่องลาออกหรอคะ” ร่างสูงพยักหน้ารับเงียบๆ “ค่ะพูดเล่นค่ะ…บ้านฉันยังมีหนี้อยู่ถ้าดิฉันลาออกไปกว่าจะหางานใหม่ได้ที่บ้านคงลำบากพอดี” ร่างบางเอ่ยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจแม้ในหัวอยากคิดที่จะลาออกจริงๆ จังๆ สักทีแต่ถ้าให้ออกตอนนี้ก็คงไม่ได้เพราะยังไม่ได้เตรียมพร้อมหางานใดๆ รองไว้ทั้งสิ้น ร่างสูงที่พอได้ยินคำตอบแบบนั้นก็เบาใจลงยอมรับว่าใจหายไม่น้อยที่ได้ยินประโยคนั้นเพราะตั้งแต่ทำงานมาเขาไม่เคยคิดเลยว่าถ้าหากไม่มีเลขาคนนี้อยู่แล้วตัวเขาจะทำงานได้ดีแบบนี้รึเปล่าซึ่งผลจากที่เขาทำงานออกมาได้ดีก็เพราะมีเลขาดีนั่นเองและคนดีๆ แบบเธอใครบ้างจะไม่ต้องการตัวซึ่งเขาเองก็ไม่ยอมปล่อยเธอให้ใครด้วยเช่นกัน “ขอบคุณที่มาส่งนะคะ” อารีเอ่ยบอกร่างสูงก่อนจะโค้งให้เล็กน้อยและเดินขึ้นตึกคอนโดไปโรมันมองร่างบางจนลับสายตาก่อนจะถอนหายใจและเอนกายพิงเบาะรถเนื่องจากคำพูดของร่างบางยังคงวนอยู่ในหหัวสมองแลถ้าหากว่าเธอรู่ว่าสัญญาของคุณยามาดะไม่ได้ถูกเร่งรัดขนาดนั้นเธอจะรู้สึกอย่างไรที่หัวหน้าอย่างเขาใช้งานเธอหนักอย่างกับทาสแต่สำหรับเขาก็คิดเพียงว่าให้เธอทำงานดีกว่านั่งจมปลักกับรักเก่าซะยังดีกว่า นี่เขาคิดถูกแล้วใช่ไหมที่ทำแบบนี้ ติ้ง (คืนนี้ว่างนะคะเบบี๋) ร่างสูงปรายตามองข้อความเขาครุ่นคิดชั่วครู่ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไป ‘เจอกันโรงแรมเดิม’ เป็นห่วงเขา=ให้งานเขาไปทำ5555555 เป็นการแสดงความเป็นห่วงที่แย่มากค่ะคุณโร๊มมมมม อย่าลืมคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD