ลินจันทร์นอนไม่หลับทั้งคืน เปล่า...หล่อนไม่ได้จมจ่อมอยู่ในบ่วงรักของรหัทอย่างที่ควรจะเป็น แต่นึกหวั่นภัยผู้ชายที่มีอยู่ค่อนขบวนมากกว่า หล่อนเลยนอนไม่หลับ คอยมองไปนอกผ้าม่านสีฟ้า ด้วยเกรงว่าจะมีผีผ้าห่มบุกเข้ามาทำมิดีมีร้าย
เมื่อแสงสว่างจากดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า ทุกอย่างก็เปลี่ยน รวมทั้งภาพผู้ชายที่น่ากลัว เช้าตรู่แบบนี้พวกเขาเอาแต่นั่งสัปหงกส่งเสียงกรนแข่งกันสนั่นหวั่นไหว ลินจันทร์อมยิ้มกับภาพนั้นความอวดดีพุ่งปรี๊ดขึ้นมาทันที ผู้ชายก็แค่นี้ถือว่าหมู่มากก็คุมเกม แหย่จนหล่อนกลัวหัวหด ครั้นเหลียวหาพี่ยักษ์ เจ้าของผ้าเช็ดหน้าสื่อรัก หล่อนก็ไม่เห็นเขาแล้ว หล่อนคิดเล่นๆ เขาคงจะเป็นจินนี่ยักษ์ในตะเกียงวิเศษที่หายตัวอยู่กับสาวๆ สักคน
พอก้าวลงรถไฟปัญหาก็เริ่มเกิด การเดินครั้งนี้อะไรๆ ไม่มีการวางแผนล่วงหน้าสักนิด ดังนั้นทุกอย่างเลยติดขัดไปหมด ความหงุดหงิดใจจึงเปลี่ยนดวงหน้าสวยหวานให้งอหงิก ยิ่งต้องเจอการยื้อแย่งกระเป๋าจากสามล้อเครื่อง หล่อนก็ยิ่งต้องหัวเสีย “ไม่...เอ๊ะ บอกว่าไม่ เดี๋ยวมีคนมารับ”หล่อนเสียงเขียวใส่คนที่เข้ามาถามไถ่
ครั้นได้รับคำยืนยันจากริมฝีปากสวย บรรดาสามล้อเครื่องจึงค่อยๆ ถอยห่างไปทีละคน
ลินจันทร์เดินหลบออกมาที่ม้านั่งไม้ แต่มิวายจะมีสายตาตามติด ความรู้สึกหวงเนื้อหวงตัวทำให้ขยับเสื้อปกปิดสัดส่วนเย้ายวน ชุดที่สวมใส่ก็ใช่ว่าจะโป๊ แต่เพราะขนาดหน้าอกหน้าใจที่ไม่ธรรมดาของหล่อนนั้นยั่วสายตาผู้ชายเหลือเกิน
หญิงสาวนั่งมองหน้าจอมือถือที่ไร้แบตเตอรี่ หล่อนบ่นให้กับความสะเพร่าของตัวเอง พอการสื่อสารขาดหายเลยไม่รู้จะติดต่อหนึ่งฤทัยอย่างไร...
ทองภูมิขับรถเข้ามาจอดชิดริมฟุตบาทด้วยความเร็วสูง เมื่อได้หนึ่งฤทัยมาช่วยดูแลขนุนเลยมีอาการดีขึ้น ครั้นเข้าไปอยู่ในคลินิกขนุนก็เริ่มออกลวดลายอีกครั้ง ทองภูมิจึงต้องขู่เป็นระยะๆ กระทั่งได้นอนพักบนเตียง เด็กชายจึงสงบปากสงบคำลง
โล่งใจได้สักพักหนึ่งฤทัยก็บอกให้ทองภูมิช่วยออกมารับใครบางคน
‘น้องเค้าจะมาช่วยงานที่โรงเรียนสักพักน่ะอ้ายทิก ช่วยไปรับแทนน้องที’
ใจจริงหนึ่งฤทัยอยากไปรับลินจันทร์ด้วยตัวเอง แต่เพราะขนุนใจไม่ค่อยดี เธอจึงอาสาอยู่เฝ้าไข้เด็กชาย
ทองภูมิกดเบอร์ที่หนึ่งฤทัยให้มาหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ติดต่อไม่ได้ เขาเลยเดินวนรอบบริเวณชานชาลา กวาดตามองหาคนที่หนึ่งฤทัยบอกลักษณะไว้คร่าวๆ
‘ผู้หญิงผิวขาวๆ ตัวไล่เลี่ยกับน้องนี่แหละชื่อว่า...น้องลูกจันทร์’ หนึ่งฤทัยอ้อมแอ้มบอกเขา
‘ลูกจันทร์’ อย่างนั้นหรือเขาคันหัวใจยิบๆ คุ้นเคยชื่อนั้นอย่างประหลาด
‘เอ...ตัวเท่ากัน แล้วงามเท่าแหม่มบ่....อ้ายอยากเห็นหลายๆ ผู้สาวเมืองหลวง’ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ หญิงสาวเลยค้อนพองามให้ ก่อนจะทำเสียงงอนๆว่า ‘เดี๋ยวอ้ายทิกเห็นก็จะรู้ว่านางฟ้ามีจริง’
ทองภูมิเดินวนรอบสถานีรถไฟหลายรอบแล้ว ก็ไม่เห็นเงาของผู้หญิงคนนั้นเขาจึงเริ่มเดือด
“นางฟ้าตกสวรรค์มัวไปมุดหัวอยู่ไหนวะ...สวยตายละมั้งถึงเล่นตัวแบบนี้”ชายหนุ่มไม่มีกะจิตจะใจตามหาใคร เพราะเป็นห่วงลูกชาย
พอหาไม่เจอ เขาก็เปลี่ยนเส้นทาง เขาก้าวไปด้านหลังสถานีรถไฟ กระทั้งเห็นร่างบอบบางนั่งหลบมุมอยู่
จึงระเบิดเสียงหัวเราะร้ายกาจขึ้น
‘หึๆ เป็นนางอายหรือแก้วหน้าม้าละเนี่ย ขี้เหร่ขนาดต้องไปหลบมุมอย่างนั้น...’ เขานึกหยัน แต่ขณะที่สืบเท้าเข้าไปใกล้ร่างหล่อน ความรู้สึกที่มีก็เปลี่ยน
ทองภูมิยอมรับว่าสะดุดตาร่างบอบบางนั้น ท่ามกลางผู้คนที่ขวักไขว่ หล่อนมีแรงดึงดูดมหาศาล
ดวงหน้าสวยเก๋ไก๋เชิดสูงนิดๆ ริมฝีปากอวบอิ่มนั้นเบ้ให้เขาหน่อยๆ กระนั้นก็เป็นความประทับใจเมื่อแรกเห็น ครั้นสายตาสานสบ ใจเขาก็สั่น นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่เคยเผลอไผลกับความงามเช่นนี้ “ลูกจันทร์!”
ลินจันทร์มองร่างสูงใหญ่ซึ่งดูดีในชุดเสือยืดกับกางเกงยีน หัวใจหล่อนเต้นผิดจังหวะกับดวงหน้าคมเข้มคร้ามแดด เรือนผมสีน้ำตาลยาวหยักสลวยปรกต้นคอ เขาเหมือนหนุ่มในฝันที่หล่อนเคยวาดไว้ไม่ผิดเพี้ยน หุ่นสูงสมาร์ต ไหล่กว้าง แผงอกแน่น ขานั้นก็ยาวรับช่วงตัว นี่ละผู้ชายที่สาวๆ ปรารถนาอยากจะตื่นมาเจอในทุกๆ เช้า
เมื่อเพ่งพิศให้นานอีกหน่อย โครงหน้าที่โดดเด่นนั้น ทำให้หล่อนเดาว่าเขาคงเป็นลูกผสมระหว่างคนพื้นที่บวกกับชาวตะวันตก อาจจะมีเชื้อญี่ปุ่นอีกนิดหน่อย เพราะเวลายิ้มเขาดูน่ารักน่าหยิกเสียจริง!
“มองนานไปแล้วมั้งคุณ”ริมฝีปากสีสวยบิดโค้งลง แต่เขาก็ยังมองหล่อนราวกับเป็นคนคุ้นเคย “...ยังไม่หยุดมองอีก เสียมารยาทจัง”หล่อนค้อนควัก จนหน้าสวยๆ บิดเบี้ยว
“เอ๊ะ ยังจะยิ้มอีก บ้าที่สุด! “ลินจันทร์ลุกขึ้นยืนประจันหน้าเขา
“รอคนมารับใช่ไหม งั้นก็ไปกันได้แล้ว”เสียงห้าวๆ นั้นทำให้หล่อนหันซ้าย แลขวา นี่คงไม่ใช่พวกสิบแปดมงกุฎหรือแก๊งค้ามนุษย์ จะมาล่อลวงหล่อนไปขายที่ชายแดนหรอกนะ
“เอ้า...เร็วสิ...ถ้าเธอชื่อลูกไม้ ลูกลิง อะไรนั่น ฉันนี่ละที่มารับเธอแทนแหม่ม เข้าใจ้”เขามองหล่อนอย่างกวนๆ ท่าทางฤทธิ์เยอะกับเสียงแว้ดๆ นั่นทำให้เขาซู่ซ่าเสียจริง ผู้หญิงอะไร! ทำให้ร้อนรุมจนแทบจะห้ามใจไม่ไหว
“ไอ้บ้า! ฉันชื่อลูกจันทร์ย่ะ กรุณาบันทึกในหน่วยความจำใหม่เสียด้วย”หญิงสาวเท้าสะเอวอย่างเอาเรื่อง
“โอเค ลูกจันทร์ก็ลูกจันทร์ หึๆ ”เขาหัวเราะเสียงต่ำ
...เห็นคนสวยแล้วชอบแหย่ สงสัยเป็นพวกโรคจิต! ชอบเรียกร้องความสนใจ
“แล้วคุณชื่ออะไร?”ดวงตาคู่สวยมีประกายคมกล้า หล่อนมองลึกไปที่ดวงตาเขาซึ่งกระตุ้นความทรงจำให้ผุดพรายทีละนิด ท่าทางแบบนี้เคยเห็นทีไหนนะ?
“ฉันเป็นแค่คนขับรถ ชื่ออะไรเธออย่ารู้เลย รีบๆ ไปเถอะ”
เอ่ยจบก็ก้าวพรวดเข้าไปหยิบกระเป๋าหล่อน
“ฉันจะไว้ใจคุณได้ยังไงจู่ๆโผล่มาแบบนี้ ตัวก็ใหญ่อย่างกับหมีควาย! ถามจริง มาหลอกฉันไปขายหรือเปล่าก็ไม่รู้”หล่อนทำท่าแขยงใส่ และคำว่า ‘หมีควาย’ก็จงใจเน้นให้เขาโกรธ
“ถ้าไม่อยากไปก็รออยู่นี่ แต่กว่าแหม่มจะทำธุระเสร็จคงเที่ยง ถ้าอยากรอก็ตามใจ”เขาพูดชัดแจ้ง เหมือนจะตั้งใจปล่อยให้หล่อนรออยู่ที่นี่คนเดียวจริงๆ
“เออ...ฉัน...”ลินจันทร์คิดหนัก มองเขาสลับกับสามล้อเครื่องรับจ้างซึ่งจอดเรียงอยู่หลายคัน จะตามผู้ชายคนนี้ไป หรือจ้างสามล้อเครื่องให้ไปส่งดีหนอ
“เร็วสิจะเอาไง ฉันไม่มีเวลามาคอยตารับตามส่ง ‘เด็ก’ อย่างเธอหรอกนะ”
“เด็กเหรอ ตาบ้า!”หล่อนกรี๊ด เขาเอาส่วนไหนคิดถึงมองหล่อนเป็นเด็ก
“ไม่ไปใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นก็ระวังตัวด้วยละแถวนี้มันน่ากลัว...”ไม่พูดเปล่ายังหิ้วกระเป๋าหล่อนออกไปด้วย ทองภูมิไม่ได้แกล้งหล่อน แต่เขาเป็นห่วงลูกชาย จึงไม่อยากเสียเวลากับหญิงสาว
ลินจันทร์หน้าแดงก่ำ จ้ำพรวดตามร่างสูงไป กล้าดียังไงถึงหิ้วกระเป๋าแล้วเดินลิ่วๆโดยไม่สนใจหล่อน
“นี่ๆ หยุดนะ บอกให้หยุด”หล่อนดึงแขนเสื้อเขาอย่างแรง จนเขาหันมาคำรามใส่ แล้วคว้าข้อมือบางๆ หล่อนมาบีบไว้
“ว้ายฉันเจ็บนะคนบ้า... ไอ้ฝรั่งดองบอกให้หยุดเดี๋ยวนี้”สิ่งที่หล่อนปรามาสเขา ส่งผลให้ดวงตาสีเทาเข้ม จ้องหล่อนเขม็ง เวลาเขามีอารมณ์กรุ่นๆ ช่างดุดันเหมือนเสือร้ายที่พร้อมตะครุบคอหอยเหยื่อให้สิ้นใจต่อหน้า
ชายหนุ่มขบกรามแน่น พ่นลมหายใจหนักหน่วงรดหน้าหล่อน
“เตือนไว้เลย ขืนเรียกฉันแบบนั้นอีกทีเธอเจอดีแน่”เขาข่มใจที่เดือดปุด เกือบพลั้งมือทำร้ายหล่อนด้วยความโมโห “เจอดีอะไร้ ไม่ต้องมาขู่ให้กลัวเลย”หล่อนเถียงข้างๆ คูๆ
“โอ้...ชอบท้าทายนักใช่ไหม ได้...คราวหน้าถ้าฉันได้ยินว่าเรียกฉันแบบนั้นอีก ฉันจะจูบเธอให้ร้อนฉ่าไปทั้งตัว แล้วถ้ายังเรียกไม่หยุด ฉันก็จะ จะ ขยำ....ตูมๆ เธอ”สีหน้าสีตาเขาทำให้หล่อนกลัวจนลนลาน
“โรคจิต! ”ลินจันทร์สบถคำนั้นในใจ ไม่กล้าเอ่ยให้เขาได้ยิน กลัวคนโรคจิตตรงหน้า ดวงหน้าหล่อนซีดเผือด ขอบตาร้อนผ่าว ผู้ชายคนนี้ใจร้ายที่สุด!
ครั้นเห็นหล่อนนิ่งไป ชายหนุ่มจึงปลอบใจด้วยการยื่นมือถือของเขาให้หล่อน กระทั่งได้ยินเสียงหนึ่งฤทัยจากโทรศัพท์ถึงใจชื้นขึ้น หล่อนยอมเดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย โดยไม่ทันได้เฉลียวใจว่ากำลังจะย่างเท้าเข้าไปหาแผลเก่าซึ่งเคยก่อร่วมไว้กับผู้ชายคนนี้!