ขุนเขาขับรถมาจอดที่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ก่อนจะตวัดสายตามองคนข้างๆ ที่ถอนลมหายใจพร่ำเพื่อจนอดไม่ได้ที่จะพูดจาประชดประชัน
“เธอไม่บอกไอ้วินไปตรงๆ ล่ะว่าเคยคบกับพี่มัน”
“พูดแบบนั้นแล้วได้อะไรเหรอขุน เรื่องมันนานมาแล้ว และฉันก็เป็นคนทิ้งเขาไม่ใช่เขาที่ทิ้งฉัน”
“ใครทิ้งใครแล้วมันทำไม แค่พูดตรงๆ ว่าเคยคบให้มันจบๆ ไป”
“นั่นเป็นตัวเลือกสุดท้ายเลยที่ฉันจะทำ ฉันไม่อยากให้วินมันรู้เรื่องนี้ แกก็รู้ว่ามันมีโอกาสที่จะมองหน้ากันไม่ติดอ่ะ”
“แค่เคยคบกันทำไมต้องทำเหมือนเธอเคยไปด่าพ่อมันด้วย”
“ขุน… แกฟังฉันนะ ขนาดเราเป็นแค่เพื่อนของวิน วินมันยังดีกับพวกเราและจริงใจกับพวกเราขนาดนั้น มันไม่ต้องเดาเลยนะว่าเขารักครอบครัวแค่ไหน แกดูไม่ออกเหรอว่าที่วินยอมเฮียมันทุกอย่าง เพราะวินมันรักคนในครอบครัวอ่ะ มันเลยไม่อยากขัดใจไง”
“ถ้าจะเป็นคนดีขนาดนั้นไปบวชเลยไหม แม่ง!”
“ใครจะไปเถื่อนเหมือนแกล่ะขุน”
“เออ ปล่อยคนดีอย่างไอ้วินมันขึ้นสวรรค์ไปเดี๋ยวนี้เลย กูเนี่ยจะลงไปนอนเล่นในนรกเอง”
“นี่!”
“หยอก~” พอมันหันมามองตาขวางทีไรใครจะไปต้านมันได้ ก็มีเพื่อนเป็นผู้หญิงคนเดียวไหมวะ อะไรยอมมันได้ก็ต้องยอม ยอมไปเถอะ ยอมแม่งทุกอย่าง
“มีอะไรให้ช่วยปะ”
“ช่วยอะไร”
“เผื่ออยากให้ไปช่วยคุยกับพี่ไอ้วินไง”
“อย่างแกน่ะเหรอจะคุยดีๆ หัดใจเย็นกว่านี้ให้ได้ก่อน”
“ก็ไม่ได้เป็นคนใจร้อน แค่ชอบอะไรที่มันรวบรัด”
“รวบรัดแบบคุยด้วยหมัดน่ะเหรอ”
“เธอแม่ง!”
“ไม่ต้องมาช่วยอะไรเลย เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
“เออ รอบนี้ถ้าคุยแล้วไม่เคลียร์ ย้ายออกมาจากบ้านมันเลยนะ มาอยู่กับกูเนี่ย เดี๋ยวไอ้ขุนดูแลเอง” ขุนเขาเอ่ยออกมาอย่างจริงจัง ก็เข้าใจแหละว่าเหตุผลที่พลอยชมพูไม่ให้เขาเป็นตัวเลือกแรกเพราะเขาใจร้อน มีเรื่องกับทุกคนไปทั่ว กลัวพลอยมันจะมาเดือดร้อนไปกับเขาด้วย แต่ก็นั่นแหละ ถ้าเรื่องนี้มันไม่มีทางออกจริงๆ เดี๋ยวไอ้ขุนปรับตัวเอง
“อือ ขอบใจนะที่มาส่ง”
“เออ แล้วจำไว้นะ ถ้าผัวเก่าด่า…”
“ขุน!”
“โทษๆ ถ้าพี่ไอ้วินด่าหนึ่งคำ หมัดร้อนๆ กระแทกหน้ามันหนึ่งที”
“ไอ้บ้า ทำแบบนั้นเขาได้โยนฉันออกจากบ้านกันพอดี”
“ก็บอกว่ามือลั่นดิ มือมันลั่นไปเองอะไรแบบนี้” พลอยชมพูกลอกตาไปมาก่อนจะส่ายหน้ารัวๆ เหมือนจะมีสาระ สุดท้ายก็จบท้ายด้วยการบอกให้ใช้กำลังเหมือนเดิม
พลอยชมพูลงมาจากรถแล้วยืนเหม่อที่หน้าบ้านอยู่นานก่อนจะตัดสินใจโทรหาใครบางคนที่ก่อนหน้านี้โทรหาเธอ แม้จะเป็นการโทรมาเพื่อถากถางกันก็เถอะ น่าแปลกที่ทันทีที่เธอกดโทรออก ไม่ได้รอสายด้วยซ้ำไคเลอร์ก็รับสายเธอ
(มีข้อเสนองั้นเหรอ?) แปลกใจอยู่เหมือนกันที่เขาถามแบบนั้น แต่ก็นั่นแหละ เธอเอาแน่เอานอนกับคนอย่างเขาไม่ได้หรอก
“พลอยอยากคุยกับเฮียเลอร์ ออกมาเจอกันหน่อยได้ไหมคะ”
(คุยกันที่หน้าบ้านน่ะเหรอ?) คำถามจากคนในสายส่งผลให้คนตัวเล็กมองซ้ายมองขวาทันที
“พี่รู้…”
(นี่มันบ้านฉัน ไม่ว่าเธอจะทำอะไรตรงไหน จะคุยกับใครในบริเวณบ้านของฉัน ฉันรู้ทุกเรื่อง) ตากลมสวยหันมองรอบๆ อีกครั้ง พอเห็นว่าไม่มีความเป็นไปได้ที่เขาจะอยู่ใกล้บริเวณนี้คนตัวเล็กจึงมองในมุมที่สูงขึ้น ก่อนที่ตากลมจะประสานเข้ากับกล้องวงจรปิดที่จ่อมาทางเธอ
“ออกมาคุยกันหน่อยได้ไหมคะ”
(เธอรู้จักห้องฉันแล้วนี่ อย่าเคยชินกับการหลอกล่อให้ผู้ชายเข้าใกล้ดิ)
“พี่เลอร์ พลอยจริงจังนะ”
(ถ้าเธออยากคุยกับฉันเธอต้องเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาฉันเอง)
“พี่เลอร์… ขอร้องเถอะ อย่าทำให้ทุกอย่างมันมีปัญหาไปมากกว่านี้ได้ไหม”
(ไอ้วินมันไม่อยู่นี่ ไม่ต้องกลัวว่ามันจะรู้หรอกว่าเธอเข้ามาหาฉันที่ห้องอ่ะ เพราะฉันก็ไม่เคยอยากให้มันรู้ว่าเธอกับฉันเคยเป็นอะไรกันเหมือนกัน) ไคเลอร์วางสายก่อนจะมองใบหน้าซีดเซียวของอีกคนผ่านกล้องหน้าบ้าน
เขาเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างหมดแล้ว และเขานี่แหละที่จะเป็นคนกระชากหน้ากากเธอให้คาลวินมันเห็นเอง
ในตอนนี้บ้านหลังใหญ่เงียบมากราวกับไม่มีคนอยู่ เธอไม่รู้ว่าแม่ของพวกเขาอยู่บ้านไหม ถ้าจะให้สังเกตจากรถที่จอดอยู่ในบ้านเรื่องนั้นยิ่งไปกันใหญ่ บ้านหลังนี้มีรถเยอะมาก ท่านใช้รถคันไหนเธอยังไม่รู้เลย
เท้าเปลือยภายใต้รองเท้าสลิปเปอร์ก้าวขึ้นบันไดเพื่อตรงไปยังชั้นบนอย่างเชื่องช้า ครั้นในตอนที่คิดว่าอธิบายกับเขาผ่านทางโทรศัพท์ก็ได้แต่พอโทรกลับไปเขาก็ไม่รับสายเธออีกแล้ว
พลอยชมพูมองประตูห้องตัวเองก่อนจะเหลือบมองประตูอีกห้อง ในเมื่อตอนนี้มีโอกาสและเธอต้องการให้ทุกอย่างมันจบเร็วที่สุดก็เข้าไปคุยกับเขาให้มันจบๆ คาลวินเองก็จะได้ไม่ต้องเผชิญกับอะไรที่มันทำให้เขาลำบากใจ
มือเรียวยกขึ้นเคาะประตูเพื่อส่งสัญญาณให้เขารู้ว่าเธอมาแล้ว และในเมื่อรู้อยู่เต็มอกว่าเขาก็คงรอให้เธอเข้าไปคุย ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องปล่อยให้เขาปั่นประสาทเธอด้วยการปล่อยให้รอที่หน้าห้องนานๆ
มือเรียวผลักประตูห้องเข้าไปอย่างถือวิสาสะ ภายในห้องนอนที่เปิดไฟพอสลัว เธอมองเห็นร่างสูงที่นั่งไขว้ห้างที่โซฟากลางห้อง มือหนาควงแก้วไวน์ มุมปากแสยะยิ้มเมื่อเห็นหน้าเธอ
“คบกันมาตั้งนาน เพิ่งรู้เลยนะว่าเธอเข้าห้องผู้ชายง่ายฉิบหาย” คนฟังเม้มปากแน่น รู้อยู่แล้วแหละว่าเขาต้องพูดให้เธอเจ็บน่ะ
“จริงๆ แล้วพลอยกับวินเป็นเพื่อนกันค่ะ”
“เพื่อน?”
“ที่เราบอกกับทุกคนว่าเราสองคนคบกัน มันเป็นเพราะวินอยากช่วยพลอยเท่านั้น”
“เพื่อน… เพื่อนที่เอากับเพื่อนได้ เพื่อนที่ไม่ได้แปลว่าเพื่อนน่ะเหรอ”
“มันไม่ใช่แบบนั้นนะพี่เลอร์”
“งั้นถ้าเธอบอกว่าเธอกับไอ้วินเป็นแค่เพื่อนกัน ไอ้วินก็หมั้นกับน้องเทียนได้อ่ะดิ อยากให้ฉันบีบให้ทุกอย่างมันเกิดเร็วขึ้นไหมล่ะ”
“อย่าทำแบบนั้น วินไม่ได้ชอบน้องเทียน”
“แล้วมันชอบใคร มันชอบเธองั้นเหรอ”
“ไม่ใช่…”
“ย้อนแย้งดีจังเลยนะ คำพูดของเธอมันมีอะไรที่เชื่อได้บ้าง” คนฟังเม้มปากแน่น สบตากับคนที่หยัดตัวลุกและก้าวเข้ามาหาเธอ
“หรือที่บอกว่าเธอกับไอ้วินเป็นแค่เพื่อนกัน เพราะเธออยากให้ฉันกลับไปสนใจเธอ?”
“ไม่เคยคิดแบบนั้น”
“ดี! ก็อย่าได้คิด เพราะคนอย่างฉันไม่มีวันกลับไปรู้สึกอะไรกับคนอย่างเธอ”
“พลอยยังไปจากที่นี่ตอนนี้ไม่ได้ ในเมื่อบอกว่าเป็นแค่เพื่อนกันพี่ไม่เชื่อ และยังจะบังคับให้วินต้องหมั้น งั้นบอกมาสิว่าพลอยต้องบอกพี่ว่าอะไรพี่ถึงจะเลิกบังคับวิน”
“มาเป็นของเล่นของฉันสิ แล้วฉันจะปล่อยไอ้วิน”
“ขะ ของเล่นงั้นเหรอ”
“ก็เธอมีค่าแค่นั้น” มุมปากของคนฟังยกยิ้ม ฝ่ามือคว้าหมับที่ปลายคางเรียวก่อนจะดันให้เชิดขึ้น
“มาเป็นของเล่นของฉันจนกว่าฉันจะเบื่อ แล้วฉันจะไม่ยุ่งกับไอ้วิน” ไคเลอร์กระซิบข้างหูจนได้กลิ่นหอมจากลำคอขาว กรามขบกัดจนแน่นเมื่อรู้สึกหวิวๆ ที่ใจ
เพราะอะไรทุกอย่างที่เธอทิ้งเอาไว้ให้เขามันถึงไม่เคยลบออกไปจากใจได้เลย โกรธเกลียดคนไร้เหตุผลแบบเธอฉิบหาย
สาบานว่าในเมื่อตอนนี้เขามีโอกาส เขาจะเล่นกับของเล่นอย่างเธอให้สาสมและอิ่มหนำ จะเอาให้เบื่อจนเขาไม่มีเธอหลงเหลืออยู่ในความทรงจำ
***********************
เกลียดมากหรือรักมากกันแน่ เอาดีๆ 😅
หนึ่งคอมเมนต์เท่ากับหนึ่งล้านกำลังใจค่ะ ฝากกดไลก์และคอมเมนต์ให้เนมหน่อยนะ คอมเมนต์เยอะ เนมอัปให้อีกค่ะ 🥹🥹