“ทำไมถึงเป็นลูกเถ้าแก่เส็ง”
ภูเมฆถึงกับขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย ว่าเด็กคนนี้ไปรักไปชอบกับลูกชายเถ้าแก่นั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมเขาถึงไม่รู้
เขาจ้องจะงาบ เอ๊ย! คอยดูแลมาตลอดไม่เห็นรู้เรื่องแบบนี้เลยแม้แต่น้อย เขาในฐานะพ่อเลี้ยงที่เป็นที่รู้จักไปทั่วของคนทั้งจังหวัดพลาดเรื่องแบบนี้ไปได้ยังไงกัน
“ก็เห็นยายบอกว่ารวย แล้วก็เขาเพิ่งเรียนจบปีนี้พอดีคงยังไม่มีเมีย แล้วเถ้าแก่ก็คงอยากได้ลูกสะใภ้ที่อายุน้อยหน่อยจะได้มีหลานให้แกได้เร็วๆและก็เยอะๆ ไม่เหมือนกับแกที่มีเมียแก่พอมีลูกได้คนเดียวก็มดลูกทำงานไม่ได้แล้ว”
พูดพร่ำไปตามคำยายโดยที่ไม่ได้รู้อะไรมากไปกว่านั้นเลย เพราะลึกๆแล้วก็ไม่อยากแต่งงานกับคนที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน เธออยากมีความรักเหมือนแม่ถึงแม้ว่าแม่จะหนีไปกับคนรักจนตัวตายก็ตาม
“ก็คิดให้ดี ระวังเหอะไปเสนอตัวให้เขา เขาจะไม่เอา”
พ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่แอบหนักใจไม่น้อยเพราะกำลังเสียดายของ ใจก็ภาวะนาให้ฝ่ายนั้นไม่ยอมรับตั้งแต่ยังไม่มีการดูตัว
“ทำไมเขาจะไม่เอาของดีๆอย่างหนู”
พูดถึงอะไรก็ได้แต่อย่าพูดดูถูกความสวยตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของเธอ ถึงเธอจะจนแต่รับรองได้เลยว่าดูดีทุกส่วน ตั้งแต่หน้าตายันรูปร่าง
แล้วทำไมใครถึงจะไม่เอาเธอไปทำพันธุ์ ใครเห็นก็ต้องการทั้งนั้นแหละ มีแต่พ่อเลี้ยงที่ไม่ยอมงาบเธอสักทีทั้งที่เธอมาอ่อยจนทางลึกเป็นศอกแล้ว
“คนสมัยนี้เขาเลือกมาก ยิ่งมีการศึกษาเขาก็ยิ่งเลือกเป็น”
พยายามพูดให้เด็กสาวเลิกคิดตามคำพูดของยายโดยที่ไม่ได้ดูน่าเกลียดจนเกินไป
โดยที่มือก็ยังคงกุมเป้ากางเกงเอาไว้ในท่าทางยืนอย่างสงบ พยายามสะกดจิตไปด้านล่างเพื่อให้มันสงบไม่มาชูคอชี้เด่ให้ต้องอายขายขี้หน้าต่อหน้าเด็กมัน
“เขาต้องเอาหนูอยู่แล้ว เพราะขนาดพ่อเลี้ยงทั้งเรียนสูง ทั้งรวย ยังอยากเอาหนูเลย”
เกตุแก้วพูดไปก็มองเป้ากางเกงของอีกฝ่ายไป เพราะก็แอบเห็นก่อนที่อีกฝ่ายจะกุมเป้ากางเกงเอาไว้ว่ามันตุงขึ้นมาแค่ไหน
และครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนอย่างพ่อเลี้ยงภูเมฆมีอาการเป้าตุงแบบนี้ มันแทบจะทุกครั้งที่เธอมาบ้านนี้ก็ว่าได้
เธอก็ไม่ว่าอะไรถ้าเขาคิดจะทำอะไรเธอ เพราะเธอก็อยากรู้อยากเห็น แต่ว่าเขากลับเก็บอาการนิ่งเป็นขอนไม้ใส่เธอตลอด น่าอารมณ์เสียชะมัด
“จะมากไปแล้วไอ้เกตุ ระวังปากระวังคำบ้าง อย่ามาล่ามปาม ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่น”