“เอ่อ..จะว่าเช่นนั้นก็ได้ ข้ารู้วิธีรักษาคนเจ็บที่ถูกพิษเช่นนี้”
“เจ้ารู้ได้ยังไงว่าเขาถูกพิษ หรือว่าพิษนี้จะเป็นฝีมือของเจ้า!” น้ำเสียงที่ดุดันหาได้ลดทอนความหล่อเหลาบนใบหน้าของเขาไม่ หญิงสาวรู้สึกตาพร่าไปหมดกับความหล่อเหลาที่เปล่งประกายแยงตาของอีกฝ่าย
“ไม่ใช่เช่นนั้น เพียงแต่ข้ารู้วิธีรักษาเขาเท่านั้น เราอย่ามัวพูดอยู่เลย มิเช่นนั้นคนเจ็บอาจจะยิ่งแย่กว่านี้” นางเอ่ยเตือนสติเขาและตนเอง ก่อนจะค่อยๆก้าวเดินเข้าไปชะเง้อมองรอยบาดแผลข้างสีข้าง ที่เริ่มเขียวช้ำออกสีดำคล้ำอย่างน่ากลัว
“เจ้ารักษาได้หรือไม่” ‘เหอชาน’เอ่ยถามขึ้น ทั้งๆที่เขาเองก็ยังไม่วางใจในตัวของหญิงสาวตรงหน้า แต่ตนก็จนใจกับอาการของเพื่อนรักที่แย่ลงในทุกขณะ เอาเถิดไหนๆก็เป็นความหวังสุดท้ายแล้วเพราะขนาดเขาเองที่จัดว่าเป็นหมอมือดี ที่หาตัวจับยากในทั่วทั้งสี่แคว้นก็ยังจนปัญญา พิษของพวก’แคว้นฉวน’นับว่าร้ายแรงยิ่งนัก หากเป็นผู้อื่นที่ไม่ใช่เช่อหลางที่ได้รับพิษ ป่านฉะนี้คาดว่าคงจะได้ทำพิธีศพแล้ว แต่ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะมีกำลังภายในที่กล้าแข็ง ก็ยังย่ำแย่เสียจนแทบจะสิ้นลมอยู่แล้ว
“ท่านช่วยออกไปก่อนได้หรือไม่ ข้าขอรักษาเขาเพียงลำพัง” ขืนมีใบหน้าหล่อๆมาด้อมๆมองๆอยู่ใกล้ๆมีหวังนางจะต้องไม่มีสมาธิในการรักษาเป็นแน่ อีกทั้งวิธีที่รักษาก็ยังไม่สามารถให้ผู้อื่นเห็นได้อีกด้วย
“ไม่ เพราะหากเจ้าเป็นคนร้ายคิดฉวยโอกาสทำร้ายเพื่อนของข้าเล่า“
“นี่ท่าน! หากข้าคิดจะทำร้ายเขา ข้าจะเดินเข้ามาให้พวกท่านเห็นทำไม ท่านรีบออกไปเถิด หรือหากไม่ไว้ใจข้า ท่านก็เปิดประตูเอาไว้และยืนเฝ้าได้เลย ขอเพียงแต่ห้ามแอบดูยามที่ข้ากำลังรักษาเท่านั้น” เห็นเขาอ้ำอึ้งเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปยืนหันหลังให้ขวางประตูอยู่ นางจึงค่อยโล่งใจ จึงหันกลับมาสนใจร่างหนาที่นอนตะแคงข้างอยู่
“ข้าต้องทำยังไงล่ะอาซู่ บอกมาเร็วเข้า”
“ท่านแม่กรีดเลือดของท่านหยดลงไปบนแผลเลยขอรับ ข้าจะส่งพลังเข้าไปชำระล้างพิษเอง” เด็กน้อยที่ยามนี้ออกมายืนด้านข้างกายหนาเอ่ยขึ้น
“แล้วเจ้าจะไม่เป็นอะไรหรือ” หญิงสาวยังกล่าวอย่างเป็นกังวล เพราะยามนี้เป็นยามกลางวัน วิญญาณน้อยมักจะอ่อนแรงอยู่เสมอหากจะต้องใช้พลัง
“ข้าไม่เป็นอะไรหรอกขอรับ ยามนี้ข้ามีท่านพ่อกับท่านแม่อยู่ใกล้ๆ ข้าก็เลยสามารถซึมซับธาตุของท่านทั้งสองมาเป็นพลังได้ขอรับ” เมื่อได้ยินดังนั้นนางจึงค่อยวางใจ
ฝ่ายเช่อหลางที่นอนกัดฟันข่มความเจ็บปวดฟังเหตุการณ์อยู่ นึกสงสัยยิ่งนักว่าทำไมเขาถึงได้ยินเสียงของเด็กเล็กๆอยู่ข้างกาย ทั้งๆที่ยามที่หญิงสาวแปลกหน้าก้าวเข้ามา เหอชานก็ไม่ได้กล่าวถึงเด็กที่ไหนเลยแม้แต่น้อย เขาจึงฝืนพลิกกายหันกลับมา ร่างบางที่ค่อนข้างจะมอมแมมที่ยืนอยู่ก็เข้าสู่ระยะสายตา ใบหน้าหวานธรรมดาไร้เครื่องประทินโฉมใดๆแลดูไร้จุดน่าสนใจเสมือนหญิงสาวชาวบ้านทั่วไป มีเพียงดวงตาดำขลับคู่นั้นที่ยามที่จับจ้องมายังเขาราวกับว่ามีแรงดึงดูดอย่างแปลกประหลาด ที่ทำให้ในอกแกร่งกระตุกสั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก
“ท่านพ่อ” ยินเสียงเล็กๆเรียกขึ้นมาทำให้ชายหนุ่มหันซ้ายแลขวาหาที่มาของเสียง แต่ก็ไร้วี่แววว่าจะเห็นใครอื่นนอกจากหญิงสาวตรงหน้า
“เสียงเด็กที่ไหนกัน” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามขึ้นก่อนจะใช้สายตาคมนั้นมองสำรวจหญิงสาวตรงหน้าอย่างพิจารณา ก่อนจะเห็นร่างบางดึงเอามีดสั้นเล่มเล็กที่ซ่อนไว้ที่เอวออกมา
”หยุด วางมีดลง ก่อนที่ข้าจะบั่นคอเจ้าทิ้ง” หางตามองเห็นแสงวิบวิบพุ่งตรงมา ก่อนที่ดาบยาวคมกริบจะพาดลงบนลำคอของหญิงสาว เหอชานที่จับตามองการกระทำของหญิงสาวอยู่ดึงเอามีดเล็กในมือของนางไปถือไว้ โดยมือที่ถือดาบพาดคออยู่ก็ยิ่งลงน้ำหนักลงมาจนหญิงสาวรู้สึกแสบเมื่อถูกคมดาบบาด
“นี่!ข้าเจ็บนะ แล้วข้าก็ไม่ได้คิดที่จะทำร้ายเขาด้วย ที่ข้าเอามีดออกมาก็เพราะข้าจะต้องใช้มัน”
“ใช้ทำสิ่งใด บอกมาให้หมด ไม่อย่างนั้นข้าจะให้ทหารลากตัวเจ้าไปทรมานหาเหตุผลที่เจ้าเข้ามาที่นี่”
“เอาล่ะข้าจะให้ท่านอยู่ด้วยเพื่อดูวิธีที่ข้ารักษาเขา แต่ท่านจะต้องสาบานต่อฟ้า ว่าท่านจะไม่มีวันแพร่งพรายวิธีการรักษาของข้าโดยเด็ดขาด ตกลงหรือไม่” เมื่อเห็นชายหนุ่มตรงหน้าไม่สามารถคลายความระแวงลงได้ นางจึงตัดสินใจที่จะให้เขารับรู้ถึงสิ่งที่นางกำลังจะกระทำ เพราะหากชักช้าบิดาของบุตรนางอาจจะไม่รอดก็เป็นได้
“ย่อมได้ ถ้าเช่นนั้นรีบรักษาเร็วเข้า”
“คืนมีดข้ามา” ชายหนุ่มลังเลเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจยื่นมีดสั้นคืนให้ เมื่อเห็นหญิงสาวใช้สายตามองไปยังดาบของเขาที่ยังคงพาดคอของนางอยู่ เขาจึงตวัดมันกลับคืนมาเก็บเข้าปลอกข้างตัว ก่อนจะจับจ้องมองการกระทำของนางอย่างตาเขม็ง
ว่านถิงถอนหายใจก่อนจะใช้มีดเล่มเล็กที่ถือไว้ปาดด้านคมลงบนฝ่ามือของตน ใบหน้าหวานหรี่ตาอย่างหวาดเสียว เมื่อเห็นเลือดเริ่มไหลออกมานางจึงก้าวเข้าไปหาร่างหนาที่นอนมองอยู่ ยกมือข้างที่เต็มไปด้วยเลือดสูงขึ้นเล็กน้อยก่อนจะปล่อยให้เลือดของตนหยดลงบนแผลที่ดำคล้ำเพราะพิษร้ายนั้น
!ชี่ ชี่ๆๆ!
เสียงที่ดังขึ้นทั้งยังมีควันที่พวยพุ่งขึ้นมาเมื่อเลือดของหญิงสาวหยดต้องลงบนแผล
“อ้ากกๆๆ” ร่างหนาร้องออกมาก่อนจะกัดฟันกรอด เมื่อรู้สึกราวกับว่ากำลังถูกเปลวไฟอันร้อนแรงแผดเผาผิวกายของตนอยู่
“ท่านพ่อ อดทนหน่อยนะขอรับ ข้ากำลังชะล้างพิษออกให้ท่าน เจ็บนิดเดียวนะขอรับ” เสียงเล็กๆที่ดังขึ้นข้างหูนั้น พาลให้ความรู้สึกเอ็นดูไร้ที่มาเกิดขึ้นในความรู้สึกของตน จนเขาต้องเผลอนึกตอบกลับไปอยู่ในความคิด
!พ่อทนได้ เจ้าอย่าห่วงเลยเจ้าก้อนแป้งน้อย!