“ขอโทษทีเถิดพี่ชาย ที่นี่ใช่จวนของท่านนายอำเภอหรือไม่เจ้าคะ” ทหารสี่นายที่ยืนเฝ้าหน้าจวนมองดูหญิงสาวที่มีผ้าคลุมปิดหน้าตาอย่างไม่ไว้วางใจ จึงกระชับมือกับอาวุธข้างกายตนก่อนจะเอ่ยตอบ
“ไม่ใช่หรอกแม่นาง เจ้ามาผิดที่แล้ว”
“อ้าว!แต่เพื่อนของข้าบอกมาว่าที่นี่ๆนา เอ ถ้าที่นี่ไม่ใช่จวนของนายอำเภอแล้วมันคือจวนของใครกันรึพี่ชาย ทำไมถึงได้ใหญ่โตเช่นนี้เล่า”
“ไม่เห็นป้ายหรืออย่างไร ที่นี่คือจวนของท่านแม่ทัพอุดร รู้แล้วก็ไปซะ อย่ามาเกะกะ” นายทหารอีกนายเร่งขับไล่หญิงสาวตรงหน้าที่ดูแล้วไม่น่าไว้วางใจ ก่อนที่นางจะได้เอ่ยสิ่งใด ก็มีรถม้าติดตราทหารวิ่งมาจอดก่อนผู้ที่อยู่ด้านในจะโผล่หน้าออกมา หญิงสาวได้แต่ยืนตะลึงมองใบหน้าหล่อเหลาที่ยื่นออกมาก่อนจะมุดกลับเข้าไป
”คารวะท่านหมอ! เปิดประตู” ทหารทั้งสี่นายทำความเคารพชายที่ยื่นหน้าออกมา ก่อนจะเร่งสั่งให้เพื่อนเปิดประตูให้รถม้าผ่านเข้าไปได้ ว่านถิงมองตามหลังรถม้าคันนั้นเข้าไปอย่างอึ้งๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อว่าจะยังมีชายใดที่รูปงามราวกับ’พานอัน’ กวีหนุ่มรูปงามผู้โด่งดังในอดีตหลายร้อยปีก่อน ที่มีคนเล่าขานกันว่าเป็นชายงามที่หาใครเทียบได้อยู่ในชีวิตจริงๆเช่นนี้ หญิงสาวถูกความหล่อสะกดเสียจนลืมไปว่าตนจะต้องทำสิ่งใด จนบุตรชายต้องตะโกนเรียกอยู่นาน
“ท่านแม่เป็นอะไรไปขอรับ ข้าเรียกตั้งนานท่านก็ไม่ขานรับ”
“ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่เราจะเข้าไปยังไงล่ะอาซู่ ทหารพวกนั้นไม่ยอมให้เราเข้าไปแน่ๆ”
“เดี๋ยวข้าจัดการเองขอรับ” ควันสีขาวพุ่งออกจากข้อมือของหญิงสาว พุ่งตรงไปยังทหารทั้งสี่ ฉับพลันราวกับถูกสะกดทหารทั้งสี่นายยืนนิ่งเเข็งทื่อไม่เคลื่อนไหวใดๆ
“มาเร็วเข้าท่านแม่” เห็นร่างบุตรชายเลือนรางกวักมือเรียก นางจึงรีบสาวเท้าแทรกกายเข้าไปด้านในจนสำเร็จ
“เก่งจริงลูกแม่ ว่าแต่ไปทางไหนต่อล่ะ”
“ทางนี้ขอรับตามข้ามาเลย ท่านพ่ออยู่ทางนี้” ร่างเล็กที่เลือนรางวิ่งตรงรี่เข้าไปยังเรือนหลังขนาดใหญ่ทางซ้ายมือ หญิงสาวจึงรีบวิ่งตามไป
“อ้ากกก!!” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดดังขึ้นมา
“ท่านพ่อ! ท่านแม่ท่านพ่อแย่แล้ว ไปเร็วเข้าขอรับ” เมื่อผ่านประตูเข้าไปก็เห็นว่ามีกลุ่มคนที่ออกันอยู่ในห้องโถงใหญ่ เมื่อร่างบางก้าวเข้าไป ทุกสายตาก็หันมามองยังนางเป็นตาเดียวกัน
“เจ้าเป็นใครกัน เข้ามาได้ยังไงกัน” เสียงของหญิงวัยกลางคนเอ่ยถามขึ้น
“ข้า ข้าเป็นหมอมาช่วยรักษาคนเจ็บ” ทุกคนต่างมองหน้ากันอย่างงงๆเพราะไม่มีใครรู้จักหญิงสาวที่อ้างว่าเป็นหมอ อีกทั้งหมอที่เป็นหญิงนั้น แทบจะนับนิ้วมือได้ไม่หมดเพราะหาได้ยากยิ่ง จึงเกิดเสียงอื้ออึงขึ้นมาในทันที
“จริงหรือ เจ้าจะช่วยอาหลางได้จริงๆหรือ” น้ำเสียงชราที่ดังแทรกขึ้นมา ทำให้ทุกคนเงียบเสียงลงก่อนจะหันไปมองยังต้นเสียง เช่นเดียวกับว่านถิงที่เผยรอยยิ้มบางๆให้หญิงชราที่มองมายังนางอย่างคาดหวัง
“ข้าจะพยายามอย่างสุดความสามารถเจ้าค่ะ” ฮูหยินผู้เฒ่าแม้จะชรามากแล้ว แต่สายตาที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชนของนางก็สามารถมองเห็นถึงความพิเศษของหมอหญิงผู้นี้ อีกทั้งนางยังรู้สึกถูกชะตากับหญิงสาวตรงหน้าอย่างแปลกประหลาด แต่ด้วยสถานการณ์ของหลานชายของตนที่กำลังคับขันอยู่ นางจึงเลือกที่จะวางเรื่องของตนเอาไว้ก่อน
“ให้นางเข้าไป”
“แต่ท่านหมอฝูสั่งไว้ว่าห้ามผู้ใดรบกวนการรักษาของเขานะเจ้าคะท่านแม่” สะใภ้รอง’เหยียนเชียน’เอ่ยขัดขึ้น ทั้งยังส่งสายตามองดูร่างบางอย่างสำรวจด้วยความไม่พอใจอยู่ลึกๆ
‘หึ!หากไร้’เช่อหลาง’เสียคนนึง บุตรชายของนางก็จะได้ขึ้นมามีบทบาทสำคัญในตระกูลเสียบ้าง หาใช่เป็นเพียงบุตรชายสายรองอยู่เช่นนี้ ครานี้ดูท่าว่าจะเป็นคราวเคราะห์ของชายผู้นั้นจริงๆ เรื่องดีๆเช่นนี้มีหรือที่นางจะอยากให้มีผู้ใดช่วยรักษาคนเจ็บที่นางไม่ปรารถนาจะให้หาย!’
“หากเกิดสิ่งใดขึ้นข้าจะรับผิดชอบเอง ท่านหมอเชิญ” เสียงชราเอ่ยอย่างดุดัน ใช่ว่าฮูหยินผู้เฒ่าเช่นนางจะไม่รู้ว่าใครคิดเช่นใด เพียงแต่ยามนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนางก็คือชีวิตของหลานชายคนโต ที่เป็นความภาคภูมิใจในชีวิตของคนเป็นย่า นางจึงเร่งให้หมอหญิงเข้าไปด้านใน เพราะแม้แต่เหอชานผู้ที่เป็นหมอมือดีที่สุดของแคว้นก็ยังบอกให้นางทำใจเอาไว้บ้าง ยามนี้เมื่อมีผู้ที่เดินเข้ามาบอกว่าจะสามารถรักษาชายหนุ่มได้ มีหรือที่นางจะหยุดฟังเสียงนกเสียงกาแล้วปัดโอกาสรอดของหลานชายของนางทิ้งไป
“เจ้าค่ะ” ร่างบางรับคำก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องกว้างตรงหน้าที่ปิดประตูอยู่ แต่ก็ไม่วายได้ยินเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวดของชายหนุ่ม
“ท่านพ่อ..” เสียงเล็กเอ่ยก่อนจะสะอื้นออกมาเบาๆเมื่อเห็นชายร่างหนาที่นอนตะแคงมีเลือดท่วมกายอยู่
“เจ้าเป็นใคร เข้ามาได้ยังไง” เสียงทุ้มที่ค่อนข้างจะแข็งกระด้างเอ่ยออกมาจากชายที่นางเห็นทหารเรียกเขาว่าท่านหมอ เขาเอ่ยถามพร้อมกับดึงเอาดาบข้างกายออกมาจากฝัก และชี้มายังร่างบางที่ยืนกั้นประตูอยู่
“ข้ามาช่วยเขา” หญิงสาวข่มใจที่ตื่นกลัวบอกออกไปก่อนจะชูมือขึ้นเหนือหัวของตน เพื่อให้ชายตรงหน้าได้เห็นว่านางไม่มีอาวุธใดๆที่จะมาทำร้ายพวกเขาได้
“เจ้าเป็นหมองั้นหรือ” น้ำเสียงที่ถามมาอย่างคลางแคลงใจ ทั้งมือก็ยังกระชับดาบของตนแน่นอย่างยังคงไม่ไว้วางใจ แม้จะคิดได้ว่าที่นางสามารถเดินเข้ามาถึงที่นี่ได้อาจจะหมายความว่า นางย่อมได้รับการอนุญาตแล้ว แต่ยามนี้เขากำลังกังวลใจเรื่องของคนเจ็บจนไม่สามารถทำตัวให้เยือกเย็นอย่างที่เคยได้อีกต่อไป