Chapter IX : ฉัน! ต้อง! รอด!

2755 Words
. . . . “อื้ออออออ !!! อื้ออๆๆๆๆ ! .. อื้อ..” . . . ‘จะมีใครรู้สึกไหมว่าฉันหายไป..’ . . . . LINE AShTON1 : Sent a sticker. AShTON1 : Sent a sticker. AShTON1 : Sent a sticker. AShTON1 : Sent a sticker. JForJ.NO : อะไรเฮียยยย รัวติ๊กมาทำไม AShTON1 : มีเรื่องจะถาม JFORJ.NO : ว่า? AShTON1 : คือว่า เอ่อ JForJ.NO : ว่าาาาาาา ??? AShTON1 : ได้คุยกับยัยเด็กฝึกงานบ้างไหม? JForJ.NO :  น่อววววววววววว ทำไมอ่ะ? คิดถึงหรอแจ๊ะ ? AShTON1 : ก็เปล่าเว้ย ก็ไม่เห็นมาทำงานเฉยๆเลยถามดู JForJ.NO : อ่อวว ก็คุยอ่ะแต่หายไปตั้งแต่เย็นละเห็นบอกว่าคิดงานไม่ออกเลยจะออกไปทำงานข้างนอก AShTON1 : หรอ อืม JForJ.NO : เรื่องแค่นี้เองเดินมาหาผมอยู่ห้องก็ได้มะ งั้นเดี๋ยวผมไปหาๆๆๆรอแป๊ป AShTon1 : ไม่ได้! ไม่ต้องมา JForJ.NO : ทำไมอ่ะแค่นี้เอง -.- AShTON1 : คือ มีเบอร์ยัยเด็กฝึกงานไหม JForJ.NO : โอ่ววววววววววววว แบบนี้นี่เองงง ฮิ้ววว AShTON1 : หยุดแซว!! แล้วเอามา! - -+ JForJ.NO : ค้าบบ กลัวแล้วครับบ 5555555 จดๆ 066-543-xxxx AShTON1 : เออ ก็แค่นั้นแหละ ขอบใจ ร่างสูงไม่รอช้ารีบกดไปตามหมายเลขทึ่พึ่งได้มาและรอฟังเสียงสัญญาณอย่างใจจดใจจ่อ .. ตี๊ด.. ตี๊ด..รอแล้วรอเล่าจนกระทั่งสัญญาณตัดไปโดยไร้การตอบรับจากปลายสายโดยสิ้นเชิง “อะไรอ่ะ หลับไปแล้วรึเปล่านะ” ว่าพลางมองดูนาฬิกาที่กำลังบอกเวลาว่าเข้าวันใหม่แล้วก็ต้องถอดใจไป..ในขณะเดียวกันกับที่แรงสั่นจากโทรศัพท์ที่ร่างเล็กพกไว้สั่นเรียกสติจากเจ้าของให้กลับคืนมา ตากลมค่อยๆลืมขึ้นก่อนกระพริบถี่ๆเพื่อปรับการมองเห็นให้ชัดขึ้นยังไม่ทันจะตื่นเต็มตาความปวดที่หัวก็แล่นจี๊ดเข้าสู่สมอง “โอย.. ปวดหัวชะมัดเลย” ร่างเล็กที่ถูกวางทิ้งไว้บนเตียงค่อยๆขยับตัวก่อนจะพบว่าตัวเธอนั้นถูกพันธนาการที่ข้อมือไว้ด้วยเชือก “อ..อะไรกันเนี่ย” คนตัวเล็กรีบดีดตัวขึ้นนั่งในทันดีโดยมีมือที่ถูกมัดไว้ไขว้อยู่ด้านหลัง ตากลมกวาดดูรอบห้องที่ขาวสะอาดมีเพียงเตียงที่เจ้าหล่อนนั่งอยู่กับชุดโต๊ะรับแขกพร้อมเก้าอี้เพียงไม่กี่ตัวก่อนจะจิ๊ปากอย่างขัดใจขึ้นไปอีกเมื่อพบว่าทั้งห้องนี่หน้าต่างต่างถูกปิดไว้ด้วยเหล็กดัด “นี่ฉันตกมาอยู่ในสถานการณ์อะไรวะเนี่ยใหห้ตายเถอะ ก่อนอื่นคงต้องเอาแขนที่ขยับยากๆเนี่ยมาไว้ข้างหน้าก่อนสินะ” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืนลงกับพื้นก่อนค่อยๆย่อตัวลงโดยพยายามให้แขนด้านหลังที่ถูกมัดอยู่ลงไปต่ำที่สุดก่อนค่อยๆเอาขาสอดกลับไปด้านหลังทีละข้างและเอาแขนอ้อมขึ้นมาอยู่ด้านหน้า ทุกขั้นทุกตอนเป็นไปตามอย่างที่คนตัวเล็กเคยเรียนมาจากคุณจาฟาลูกน้องคนสนิทของป๊ะป๋า “เฮ้อ แล้ว แล้วจะไปยังไงต่อเนี่ย เอ้อ โทรศัพท์! ” ในขณะที่ร่างบางกำลังยุ่งกับการล้วงเอาโทรศัพท์ที่แสนจะยากลำบากในกระเป๋ากางเกงทำให้ร่างบางไม่ทันได้ระวังตัวถึงการมาถึงของใครบางคน จู่ๆประตูห้องที่เคยปิดอยู่ก็โดนเปิดออกโดยใครบางคนก่อนที่เขาจะก้าวเข้ามาในห้องแล้วยิ้มให้อย่างอบอุ่น “สวัสดีสาวน้อย เธอตื่นแล้วหรอ” ชายสูงอายุในชุดสูทภูมิฐานเอ่ยทักทายสาวสวยตรงหน้า “! ..ค คุณเป็นใคร” คนตัวเล็กสะดุ้งโหยงก่อนจะรนรานรีบเก็บเครื่องมือสื่อสารลงที่เดิม “เป็นคนที่จ่ายค่าตัวเธอไปไง แพงใช่เล่นเลยนะเราแต่ถ้าเทียบกับสินค้าอย่างเธอแล้ว.. มันก็คุ้มที่จะเสีย” ไม่ว่าเปล่าชายร่างตุ้ยเดินเข้ามาใกล้ก่อนยื่นหน้ามาสูดดมกลิ่นกายของหญิงสาวอย่างหลงใหล การกระทำของอีกคนทำให้ร่างเล็กรู้สึกขยะแขยงอย่างมากจนต้องถดตัวออกอัตโนมัต “โอ๊ะๆ ..ไม่ต้องกลัวฉันหรอกนะ ฉันจะไม่รุนแรงกับเธอเลยแม้แต่น้อย” “...” คนตัวเล็กยืนแข็งทื่อพยายามคิด คิดวิธีที่จะปัดป้องตัวเองจากเหตุการณ์นี้แต่ดูเหมือนในหัวมันวุ่นวายจนคิดอะไรไม่ออกเลย “ยืนเงียบทำไมหละจ๊ะ ตื่นเต้นหรอ หูยยตัวสั่นไปหมดเลย” ว่าแล้วมืออันหยาบกระด้างค่อยๆเลื้อยเข้ามาโอบเอวบางอย่าถือวิสาสะ “....” คนตัวเล็กยังคงยืนเงียบฟันคมขบลงบนริมฝีปากบางของตัวเองจนห้อเลือดเพื่อดึงสติของตัวเอง เธอคุ้นหน้าคุ้นตาชายมีอายุคนนี้เสียเหลือเกินแต่พยายามนึกเท่าไหร่ก็ไม่ออกแต่เธอก็พอจะเดาได้ว่าเขาต้องเป็นผู้มีอิทธิพลเป็นอย่างแน่ เพราะเจ้าหล่อนเหลือบไปเห็นชายในชุดสูทสองสามคนยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูและแน่นอนว่าคงต้องเป็นลูกน้องหรือบอดี้การ์ดอะไรเทือกนั้นแน่..และงานนี้มันก็คงไม่ง่ายเลยที่จะหลุดออกไป “ถ้าหนูยังเงียบอยู่แบบนี้ลุงจะลงมือแล้วนะจ๊ะ” ปากหนาอันหน้ารังเกียจค่อยๆชะโลมจูบลงบนเรือนผมนุ่มจากด้านหลังในขนาดที่มือใหญ่ๆนั่นยังคงลูบคลำไปทั่วไม่หยุด “...” ร่างเล็กเองก็ได้แต่ยืนนิ่งจนกระทั่ง.. ความอดทนวินาทีสุดท้ายได้หมดลง คนตัวเล็กค่อยๆหันหลังกลับไปหาชายด้านหลังก่อนส่งยิ้มหวานให้อย่างออดอ้อนพร้อมยกมือที่ถูกมัดไว้ขึ้นมาคล้องคอชายแก่ยิ่งทำให้ความกระสั่นในตัวชายสูงวัยพุ่งพร่านอย่างเห็นได้ชัด และดูเหมือนว่ามันกำลังเคลิ้บเคลิ้มไปกับการกระทำของร่างบางอย่างง่ายดาย.. ตุ๊บบ!! “โอ๊ยยยย!!” เสียงกระแทกดังขึ้นเมื่อคนตัวเล็กกระชายหัวชายสูงไวเข้ามากระแทกกับหัวตัวเองอย่างจงใจก่อนจะกระทุ้งเข่าใส่ท้องตุ้ยๆนั่นหลายทีจนมันล้มลงไปกองกับพื้น และก็เป็นอย่างที่คิดเหล่าลูกสมุนรีบกรูกันเข้ามาในห้องกันใหญ่ต่างพากันงงงวยกับเหตุการณ์ตรงหน้าจนไม่ทันได้ระวังหญิงสาวตัวเล็กที่วิ่งตรงปรี่เข้ามาหา “ย๊าาาาาาาาาา! เอาหละเว้ย ไม่รอดก็ให้ฉันตายอยู่ตรงนี่ซะยังดีกว่า!”  เสียงประกาศกร้าวของเด็กสาวที่พุ่งเข้าใส่ชายฉกรรจ์อย่างไม่คิดชีวิต เหล่าชายฉกรรจ์ต่างรนรานหยิบอาวุธที่พกมาอย่างไม่ทันตั้งตัวแต่ก็ดูเหมือนจะไวสู้คนตัวเล็กไม่ได้ ขาเรียวยกขึ้นเตะกระบอกปืนที่พึ่งถูกชักออกมาอย่างจังจนกระเด็นไปกระแทกชายอีกคนข้างๆ!!! และไม่รอช้าร่างบางกระโดดขึ้นเหยียบเก้าอี้รีบแขกก่อนจะฟาดสันขาลงกับต้นคอของชายอีกคนที่อยู่ใกล้ๆจนกระเด็นล้มพับไปกับพื้น ตุ๊บบ!! เห็นทีจะไม่ได้การชายฉกรรจ์ที่เหลือต่างรีบไปหยิบปืนที่ตกอยู่พื้นขึ้นมาแต่ดูเหมือนจะทันคนตัวเล็กกว่าอีกตามเคย เพียงแค่คว้ากระบอกปืนได้จู่ๆร่างกายอันกำยำก็ถูกกระแทกเข้าอย่างจังจากแรงพุ่งชนของร่างเล็กจนกระเด็นไปกระแทกกับกำแพง อั่กกก!! “แฮ่ก..แฮ่ก อ้ะ!! โอ๊ยย!!” คนตัวเล็กที่ยืนหอบอย่างหนักไม่ทันระวังด้านหลังจู่ๆมีแรงบางอย่างกระชากผมจนเซไปด้านหลังก่อนจะโดนล็อคคอไว้! “ยัยเด็กนี่แสบนักนะ! เชอร์รีนไม่เห็นบอกว่าแกแสบขนาดนี้ฉันจะได้เตรียมคนไว้เยอะกว่านี้!!  ฮึ่ย!” เสียงชายแก่ที่ดังอยู่ข้างหูไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาโมโหและเสียหน้ามากแค่ไหน แต่ชื่อที่ถูกกล่าวถึงส่งผลให้เหมือนมีก้อนเหนียวจุกอยู่ตรงอกคนฟังอย่างบอกไม่ถูก “ปล่อย ปล่อยฉันไป!” “จะปล่อยไปได้ยังไงฉันเสียเงินไปตั้งเท่าไหร่เพื่อซื้อเธอมา!” ไม่ว่าเปล่าแรงรัดจากแขนยิ่งเพิ่มความแน่นขึ้นส่งผลให้คนตัวเล็กหายใจลำบากขึ้นไปอีกเท่าตัว “อึ่ก! ฉ ...ฉัน บอกให้ป ปล่อยไง!” “แกนี่พูดไม่รู้เรื่องรึยังไง!” “โว๊ยยยยยยยยยยยยยย !! ” เมื่อดูเหมือนว่าคงไม่จบง่ายๆคนตัวเล็กถึงกับปรอทแตกตะเบงเสียงออกมาด้วยความหงุดหงิดก่อนศอกแหลมๆของเจ้าหล่อนจะถูกกระทุ้งไปด้านหลังกระแทกท้องท้วมๆอย่างจังจนชายแก่เผลอผละออกด้วยความจุก ร่างเล็กไม่รอช้ารีบหันกลับไปพร้อมยกขาสวยเตะเข้าที่ก้านคออย่างจังก่อนจะหมุนตัวเพื่อเตะเข้าอีกดอก!!! ตุ้บ! ตุ้บ!! เมื่อร่างท้วมล้มพับไปกับพื้นเป็นสัญญาณว่าเธอต้องรีบวิ่งไปจากที่นี่ให้ไกลที่สุด คนตัวเล็กไม่รอช้ารีบออกสตาร์ทวิ่งออกจากห้องอย่างไม่คิดชีวิต “ฉัน! ต้อง! รอด!” ร่างบางวิ่งไปเรื่อยแม้เหมือนจะหมดแรงแต่ก็ต้องฝืนวิ่งไปให้ได้ไกลที่สุดถึงแม้จะไม่รู้ว่าระแวกนั้นคือที่ไหน ขอ..ขอเพียงให้ไปถึงที่ๆมีคนอยู่เยอะๆ คนที่จะสามารถช่วยเธอได้.. . . . . ‘ใครสักคน..ได้โปรดเถอะ ช่วยฉันที’ . . . . . ‘หูยๆเธอดูนั่นสิ หน้าตาก็ดีทำไมกระแซะกระเซิงขนาดนั้น’ ‘เออน่าสงสารเขานะเจอเรื่องไม่ดีอะไรมารึเปล่า ดึกดื่นมานั่งอะไรตรงนี้แถมมือโดนมัดด้วยอ่ะ’ ‘ไปถามดูหน่อยมะ?’ ‘เห่ยไม่เอาอ่ะไม่อยากยุ่งเดี๋ยวติดร่างแหไปด้วยไม่เอาหรอก’ เสียงคนกระซิบกระซาบกันเรียกสติของคนที่นั่งหมดแรงจนเผลอหลับไปให้ตื่นขึ้นก่อนจะพบว่าเจ้าหล่อนมาหยุดนั่งอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ “โอย.. ปวดตัวไปหมดให้ตายสิ” ร่างบางค่อยๆขยับตัวก่อนพยายามล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงอย่างยากลำบากเพราะมือที่ถูกพันธนาการไว้ ตากลมเหลือบขึ้นมองที่มาของเสียงเมื่อครู่ก่อนจะตรงเข้าไปหาแต่ดูเหมือนว่าเจ้าหล่อนจะสร้างความหวานกลัวให้คนที่พบเห็นโดยไม่ได้ตั้งใจ “อ เอ่อ ค คือพวกเรา ไม่ได้..” “ช่วยแก้มัดให้หน่อยค่ะ” ยังไม่ทันที่คนตรงหน้าจะพูดจบร่างเล็กก็พูดแทรกขึ้นมาทำให้คู่สนทนาเมื่อครู่มองหน้ากันอย่างชั่งใจ “ช่วย แก้ มัด ให้ หน่อยค่ะ แค่แก้ให้เฉยๆค่ะ” เมื่อดูเหมือนว่าจะไม่มีสัญญาณตอบรับจากคนทั้งคู่ร่างเล็กเองจึงจำเป็นต้องพูดย้ำอีกครั้งเพื่อย้ำให้อีกฝ่ายมั่นใจว่าเจ้าหล่อนต้องการความช่วยเหลือเพียงเท่านี้และแน่นอนว่ามันได้ผล เมื่อมือทั้งคู่เป็นอิสระลูน่าก็โค้งหัวน้อยๆแทนคำขอบคุณก่อนจะฉีกยิ้มหวานราวกับเด็กๆให้คนทั้งคู่แล้วกลับไปนั่งที่เดิมพร้อมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรขอความช่วยเหลือ “... ตี๊ด... ตี๊ด.. ตี๊ด..” ไร้การตอบรับจากปลายสายจู่ๆแสงไฟที่หน้าจอโทรศัพท์ก็ดับลงมืดสนิท “เอ้า! ซวยซ้ำ ซวยซ้อน ซวยซ่อนเงื่อนจริงๆ ;__; ฮือ” คนตัวเล็กนั่งคอตกอย่างหมดหนทาง เงินก็ไม่มีสักบาท โทรศัพท์ก็แบตหมด ที่นี่ที่นี่ไหนก็ไม่รู้แล้วจะกลับที่พักได้ยังไงกัน “เอ่อ.. คือว่ามีอะไรให้ช่วยไหมคะ” เสียงของคู่สนทนาเมื่อครู่เข้ามาถามคนตัวเล็กอย่างเห็นใจ “ T T จะช่วยฉันจริงๆใช่ไหมคะ ขอบคุณนะ” . . . . . . ‘ฉันอยากกลับบ้าน’ . . . . เมื่อเช้าของวันที่นัดส่งโปรเจคมาถึง ลูน่าเองก็เข้าบริษัทตั้งแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวพรีเซนต์งานต่อหน้าทั้งทีมงานและก็สมาชิกในวง แม้เรื่องในวันนั้นจะผ่านไปแล้วแต่มันก็ยังคงสร้างรอยแผลแห่งความทรงจำไว้ในใจเธอเสมอ..และแน่นอนว่าเรื่องแย่ๆนี้ไม่มีใครรู้นอกจากเธอและเจ้าของชื่อที่ถูกกล่าวอ้างถึงในตอนนี้ “เอาหละค่ะ นี่เป็นสไลด์ของรูปชุดของสมาชิกแต่ละคนที่ฉันสเก็ตออกมา จะมีแตกต่างกันนิดหน่อยตามแต่เสนห์ของแต่ละคนค่ะ ฉันพยายามจะออกแบบชุดที่สามารถดึงเอาความเป็นตัวของแต่ละคนออกมาในแบบผู้ชายในแบบที่เนื้อหาของอัลบั้มนี้กล่าวถึงค่ะ” เหล่าสตาร์ฟคนอื่นๆรวมไปถึงศิลปินต่างมองคนตัวเล็กด้วยสายตาแห่งความชื่นชมและแน่นอนว่าใครบางคนก็นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียวจนกระทั่ง.. “อั่ก! อะไรวะโน่!” ชายร่างใหญ่หันมาทำตาขวางใส่น้องชายทันทีเมื่อโดนแรงกระทุ้งเข้าที่สีข้างอย่างจัง “ผมเห็นนะเฮีย~ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรคนเดียวอ่ะ ^___,^” “- -+ เงียบๆไปเหอะน่า ตั้งใจฟัง!” ว่าจบก็หันกลับไปสนใจการพรีเซนต์งานของคนตัวเล็กต่อโดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าการกระทำของตัวเองเป็นที่จับตามองของใครบางคนอยู่ตลอดเวลา “หึ..แอชตันหวังว่านายจะมีคำอธิบายดีๆให้ฉันนะ” ว่าจบหญิงสาวก็ลุกจากห้องประชุมไปทั้งๆที่การนำเสนองานยังไม่จบ . . . “งั้นฉันขอจบการนำเสนองานเพียงเท่านี้ค่ะ ^^” ว่าจบลูน่าก็ไม่ลืมที่จะโค้งหัวอย่างสุภาพต่อหน้าทุกคนและแน่นอนว่าเธอต้องได้รับการชมเชยกลับมาอย่างล้นหลาม ผู้ใหญ่หลายคนผลัดกันเข้ามาเอ่ยชมเชยการทำงานและไอเดียดีๆของเธอนั่นทำให้เธอแทบจะหายเหนื่อยเป็นหริดทิ้งเลยหละ! “เก่งมากเลยนะลูน่า~~ ฉันชอบมันนะชุดของฉันอ่ะ ” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นพร้อมดอกไม้สีหวานแสนสวยและแน่นอนว่าเจ้าของมันต้องเป็นเพื่อนรักของเธออยู่แล้วหละ “ขอบใจมากนะจูโน่ ^^ กว่างานนี้จะออกมาได้นี่ก็เล่นเอาเกือบตายเหมือนกัน” ว่าพลางเก็บเอกสารต่างๆ “คราวนี้เธอก็พักได้แล้วนะ ยังพอมีเวลาก่อนพวกฉันจะคัมแบค” “อื้ม! ฉันจะพักให้เต็มที่แล้วกลับมาสู้งานไปพร้อมกับพวกนายนะ! งั้นฉันขอตัวเอาของพวกนี้ไปเก็บก่อนนะ” ว่าแล้วก็โบกมือบ๊ายบายเพื่อนชายก่อนมุ่งตรงไปยังห้องที่มีโต๊ะของทำงานของตัวเอง แต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวเข้าห้องไปเธอก็พบว่ามีใครบางคนมาถึงก่อนเธอแล้วเพราะเสียงของบางคนที่กำลังคุยกันเล็ดรอดออกมาจากประตูจนเธอต้องหยุดชะงักฝีเท้าไว้เพียงหน้าประตู “นายมาทำอะไรที่นี่แอชฉันเจอนายที่นี่สองครั้งแล้วนะ” เสียงอันคุ้นหูทำให้เจ้าของห้องที่ยืนฟังอยู่ด้านนอกต้องขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจสถานการณ์ “ผมแค่เอ่อ..” “แค่อะไรคะ?” “ผมแค่..มาหาลูน่า” เสียงของประโยคที่ตามมาเบาลงจนคนที่ฟังอยู่แทบจะไม่ได้ยิน “เหอะ! อย่าที่พี่คิดไว้ไม่มีผิด” “....” “นายเงียบแบบนี้แสดงว่านายยอมรับใช่ไหมแอช! นายกับเด็กนั่นมีอะไรกันจริงๆใช่ไหม!” เสียงตวาดกันที่ดังออกมาจากห้องส่งผลให้คนที่ฟังอยู่กำมือแน่น “ม..ไม่ใช่นะพี่!ฟังผมก่อน!” “แล้วนายเอาพี่ไปไว้ที่ไหน! นายจะเดทจะมีข่าวกับไอดอลคนอื่นพี่ไม่เคยว่าแต่ที่นี่!ตรงนี้! นายต้องเป็นของพี่!” “พี่เชอรีน!” เมื่อดูเหมือนว่าเรื่องนี้คงไม่จบลงง่ายๆคงเป็นเธอที่ต้องเป็นฝ่ายเข้าไปอธิบายทุกอย่างเพื่อที่จะไม่ให้เธอโดนลุกล้ำไปมากกว่านี้ มือเล็กตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปด้วยความกล้าที่มีแต่ภาพที่ได้เห็นกลับกระชากใจดวงน้อยให้ขาดเป็นชิ้นๆ กองเอกสารในมือร่วงหล่นกระจัดกระจายไปทั่วพื้น.. พรึ่บ!! . . . . . ‘ฉันไม่น่าเข้ามาเลย..’  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD