.
.
.
.
.
‘ฉันไม่น่าเข้ามาเลย..’
.
.
.
.
“เหอะ! อย่าที่พี่คิดไว้ไม่มีผิด”
“....”
“นายเงียบแบบนี้แสดงว่านายยอมรับใช่ไหมแอช! นายกับเด็กนั่นมีอะไรกันจริงๆใช่ไหม!” เสียงตวาดกันที่ดังออกมาจากห้องส่งผลให้คนที่ฟังอยู่กำมือแน่น
“ม..ไม่ใช่นะพี่!ฟังผมก่อน!”
“แล้วนายเอาพี่ไปไว้ที่ไหน! นายจะเดทจะมีข่าวกับไอดอลคนอื่นพี่ไม่เคยว่าแต่ที่นี่!ตรงนี้! นายต้องเป็นของพี่!”
“พี่เชอรีน!”
“อื้อ! ปล่อยพี่บอกให้นายปล่อยพี่ไง!” คนในอ้อมกอดดิ้นสุดแรงหวังให้หลุดจากการเกาะกุม
“ก็พี่ไม่ฟังผมเลย!”
“ทำไมพี่ต้องฟังนาย! นายกำลังทำให้พี่อิจฉาเด็กนั่น! พี่ไม่ยอมหรอ..ก พี่จะ!! อื้อ!” ยังไม่ทันจะพูดจบก็ต้องกลืนคำพูดนั้นลงไปในคอเมื่อจู่ๆปากหนาก็โถมลงมาทาบทับอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
“!!! …” คนในอ้อมกอดยังฝนดิ้นคลุกคลักอย่างไม่ยอมแพ้และเป็นจังหวะเดียวกับเจ้าของห้องที่กลับเข้ามา..
“พรึ่บ! … ” กองเอกสารในมือร่วงหล่นกระจัดกระจายไปทั่วพื้น.. คนตัวเล็กตาเบิกโพรงเมื่อสถานการณ์ที่เจ้าหล่อนไม่ได้คาดไว้กำลังเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า ใจดวงน้อยกระตุกวูบก่อนบีบรัดแน่นจนเจ้าของร่างรับรู้ถึงความร้าวรานไปทั้งทรวง..
“... ล ลูน่า!” เพียงได้ยินเสียงร่างสูงก็รีบผละออกจากคนตรงหน้าก่อนหันกลับมาแล้วพบว่าเป็นคนที่เขาเฝ้ารออยากพบมาหลายวัน
“...” เจ้าของชื่อไม่ตอบโต้ใดๆในขณะที่ขาเรียวค่อยๆก้าวถอยหลังทั้งๆที่ยังไม่ละสายตาจากพวกเขาทั้งสอง.. ความรู้สึกในใจตีกันสับสนวุ่นวายไปหมดจนสุดท้ายก็เป็นเจ้าหล่อนเองที่ตัดสินใจวิ่งหนีออกจากตรงนั้นไป
“ด เดี๋ยว! ลูน่า!” ขายาวรีบก้าวกำลังจะออกวิ่งไปแต่จู่ๆก็ต้องชะงักเมื่อโดนรั้งไว้ด้วยใครอีกคน
“แอช..ถ้านายไป..”
“ผมจะไป” เพียงเท่านั้นร่างสูงก็ไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไรอีก ร่างโปร่งรีบปรี่ตามคนตัวเล็กที่วิ่งหนีหายไปก่อนหน้าทิ้งให้อีกคนมองตามไล่หลังด้วยหัวใจที่แตกเป็นเสี่ยงๆ
.
.
.
.
‘พี่รู้อยู่แล้วหละว่าสักวันนายก็ต้องทิ้งพี่..’
.
.
.
.
.
.
‘แต่จะให้ทำยังไงในเมื่อพี่เผลอรักนายไปแล้วจริงๆ..’
.
.
.
.
.
.
“ยัยเด็กฝึกงานรอฉันด้วยสิ!” ร่างสูงเองก็ยังไม่เลิกพยายามที่จะตามแต่เหมือนยิ่งเข้าใกล้เธอก็ยิ่งพยายามห่างออกไป
“...”
“ลูน่า! ฟังฉันก่อน” ไม่ว่าปล่าวคราวนี้มือหนาเอื้อมไปกระชากข้อมือเล็กให้หยุดวิ่งแล้วหันกลับมาเผชิญหน้ากับเขา
“ฉันมีอะไรต้องฟังนาย! เลิก! ยุ่ง! กับ! ฉัน! สักที!!” ว่าแล้วก็สะบัดมือออกแล้วหันกลับไปหวังจะตีจากร่างสูงด้านหลัง
“เธอนี่มันดื้อชะมัด!” แต่ไม่วายมือใหญ่คว้าหมับเข้าที่เดิมก่อนจะออกแรงลากคนตัวเล็กให้เข้าไปในห้องซ้อมใกล้ๆก่อนล็อคประตูลงกลอนเสียให้เรียบร้อย
“นายทำแบบนี้ทำไม!”
“ก็เธอมันดื้อ!” ไม่ว่าเปล่าผลักร่างเล็กกระแทกเข้ากับกำแพงด้านหลังก่อนเข้าไปยืนสวมคร่อมร่างเล็กไว้
“น..นายจะทำอะไร!” ตาคู่สวยฉายแบบสั่นระริกด้วยความกลัวพร้อมดิ้นคลุกคลักขัดขืนแต่ดูเหมือนว่าท่าทางของคนตรงหน้าจะเรียกรอยยิ้มที่กระตุกขึ้นบนมุมปากของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายๆ
“จะสั่งสอนเด็กดื้อไง..” ไม่ว่าเปล่าหน้าคมค่อยๆโน้มลงไปหวังจะช่วงชิงริมฝีปากอันอิ่มเอิบตรงหน้า
“...”
“...” เหมือนร่างหนาตรงหน้าจะยิ่งได้ใจที่จู่ๆคนตัวเล็กก็หบุดนิ่งไปเสียดื้อๆ .. ‘เธอยอมฉันแล้วสินะ..หึ’
“เฮ้อ...” คราวนี้เป็นคนตัวเล็กเองที่จู่ๆก็ถอนหายใจออกมาอย่างไม่มีเหตุผลก่อนสายตาที่ทองคนตรงหน้าจะเปลี่ยนไปจนร่างสูงตรงหน้าต้องขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
“...อะไรของเธอ” แววตาสั่นระริกเมื่อครู่หายไปดั่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและถูกแทนที่ด้วยสายตาที่มองเขาด้วยความเฉยชา
“น่าผิดหวังชะมัด..” เสียงหวานเอ่ยไปอย่างเรียบๆโดยที่คนตัวสูงตรงหน้าไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์ได้เลยทั้งๆที่เขาเองเป็นคนได้เปรียบแท้ๆ
“เธอพูดอะไรของเธอ”
“น่าผิดหวังที่นายเป็นแบบนี้ นายคิดว่าฉันจะเหมือนผู้หญิงของนายทุกคนงั้นหรอ..?”
“หยุดพูดได้แล้ว!” ว่าจบปากหน้าก็พุ่งเข้าใส่ทันทีหวังจะครอบครองปากสีหวานนั่นให้จงได้
“ตุ๊บ!! พลั่กก! ” ยังไม่ทันที่จะได้ลิ้มรสความหวานของปากสีสวยนั่นร่างสูงตรงหน้าก็กระเด็นลงไปนอนกับพื้นทันทีเมื่อสันมือเล็กเสยเข้าที่คางเจ้าตัวอย่างจังพร้อมกับแรงถีบที่กระแทกเข้าตรงหน้าท้องแกร่งอย่างจัง
“อรั่กก!!” ตามลงมาด้วยเจ้าของร่างเล็กที่ถูกคุกคามเมื่อครู่นั่งลงทับบนอกแกร่งของร่างหนาที่นอนจุกอยู่กับพื้น มือเล็กบีบเข้าที่คางของชายหนุ่มก่อนออกแรงบีบจนคนโดนกระทำต้องโอดครวญพร้อมเลือดจากการที่ฟันกระแทกกับริมฝีปากค่อยๆซึมออกมา
“โอ้ยย! เธอนี่มัน!?”
“ฉันทำไมหรอ? ..ฉันไม่เหมือนผู้หญิงพวกนั้นหรอกนะ อย่ามายุ่งกับฉันอีก!”
“...” เพียงได้เห็นสายตาของคนบนตัว ร่างหนาเองก็คงต้องจำใจยอมแพ้ไปเมื่อนัยตานั้นมีแต่ความเกรี้ยวกราดจนทำให้เขาลืมภาพของเด็กสาวที่แสนสดใส
“....” เมื่อไม่มีอะไรที่ต้องพูดแล้วร่างเล็กเองก็รีบลุกจากตรงนั้น..หนีจากสถาการณ์ตรงนั้น..หันหลังวิ่งกลับไป..ก่อนที่เขาจะเห็นน้ำตาที่หยดลงผ่านแก้มนวลนั่น
“...” ร่างหนาเองก็ได้แต่มองตามแผ่นหลังบางของคนตัวเล็กที่วิ่งห่างออกไปโดยที่ไม่ทันรู้เลยว่าภายใต้ความเกรี้ยวกราดนั้นมีหัวใจดวงน้อยที่กำลังแตกสลายอยู่
.
.
.
.
.
.
.
‘ฮึก..ขอบคุณนะลูน่า ที่ตอนนั้นเธออดทนไม่ร้องไห้ให้เขาเห็น’
.
.
..
.
.
.
.
เมื่อใกล้จะถึงห้องพักคนตัวเล็กรีบเช็ดน้ำที่ชุ่มบนใบหน้าออกอย่างลวกๆเพาะไม่อยากให้ใครต้องมาเห็นภาพแบบนี้ และแน่นอนด้วยว่ายิ่งเป็นเธอคนนั้น คนที่ทำให้เจ้าหล่อนต้องมาเจอเรื่องแบบนี้
“....” เท้าเล็กที่พึ่งก้าวพ้นประตูห้องทำงานตัวเองเข้ามาก็ต้องหยุดชะงักเมื่อพบว่ามีใครบางคนกำลังรอเธออยู่
“เธอนี่แสบไม่เบาเลยนะ ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ เล่นเอาฉันต้องไปขอโทษลุงแก่นักการเมืองนั่นซะใหญ่โต”
“ต้องการอะไรอีก?” บัดนี้ความเคารพที่เคยมีให้ในฐานะรุ่นพี่หายไปจนสิ้นเหลือเพียงทิฐิในใจที่ถูกก่อขึ้น
“หึ..อ๊ะ!” มีเพียงโอกาสได้หัวเราะเพียงเท่านั้นก่อนที่จะโดนคนตัวเล็กตรงหน้าปรี่เข้ามาประชิดโดยไม่ได้ตั้งตัวพร้อมกับมือเล็กที่กำบีบเข้าที่คอของคนตรงหน้า
“อย่า..มา..ยุ่ง..กับฉันอีก” สายตาดุร้ายที่ไม่เคยได้เห็นที่ใดมาก่อนทำให้คที่ถูกกระทำต้องกลืนน้ำลายเอือกพร้อมพยักหน้ารัวๆด้วยความหวาดกลัว
“....ดี” ว่าเพียงเท่านั้นคนตัวเล็กก็ปล่อยให้อีกคนให้เป็นอิสระแล้วกลับลงไปเก็บเอกสารของตนก่อนหยิบเป้ประจำกายแล้วหายออกไป..
นับตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้นร่างเล็กไม่แม้แต่จะย่างกลายผ่านสองคนนั้นแม้แต่หน้าก็ไม่อยากจะมอง จนเพื่อนรักเจ้าหล่อนต้องออกปากถามด้วยความสงสัย
“นี่..ลูน่าฉันว่าช่วงนี้เธอแปลกๆนะ”
“แปลกไงอ่ะ?” เจ้าของชื่อที่ทำหน้าที่แต่งหน้าให้เพื่อนหนุ่มเพื่อขึ้นทำการแสดงถามกลับเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ก็..ช่วงนี้เธอดูตึงๆกับเฮียแอช..แถมแต่ก่อนก็เห็นออกจะสนิทกับพี่เชอร์นี่” ชายหนุ่มว่าพลางแอบชำเลืองตามองหญิงสาวที่ถูกเอ่ยถึงกำลังแต่งหน้าให้พี่ชายที่ถูกกล่าวถึงด้วยเช่นกัน
“ไม่มีอะไรหรอกนายคิดมากไปเองรึเปล่าโน่”
“แต่ฉันรู้สึกจริงๆนี่นา..” ว่าแล้วก็ช้อนตามองเพื่อนอย่างออดอ้อนด้วยควมอยากรู้อยากเห็น
“เสร็จแล้ว พอเลยนายมาทำหน้าหมาบ้องแบ๊วก็ไม่มีประโยชน์อ่ะ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า!” เพื่อนรักย่นจมูกใส่แต่ก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย ใช้เวลาเพียงไม่นานการแสดงทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดีสตาร์ฟทุกคนพร้อกับศิลปินเดินทางกลับบริษัทและก็แยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนเพราะนี่ก็ดึกมาแล้ว คงจะเหลือก็แต่คนตัวเล็กเองที่หลบขึ้นไปนั่งเล่นบนดาดฟ้าคนเดียว
“โทรหาใครก็ไม่รับ ปาป๊าก็ปิดเครื่อง รันก็ไม่รับ จะปล่อยให้คิดถึงตายเลยคอยดู!” ปากบางบ่นอุบอิบอยู่คนเดียวโดยทันได้รู้ตัวเลยว่ามีใครบางคนกำลังแอบมองเธออยู่ห่างๆด้วยความกล้าๆกลัวๆ
“เฮ้อ...อดทนนะลูน่า อีกนิดเดียวก็จะฝึกเสร็จแล้ว” คนตัวเล็กพูดกับตัวเองเบาๆพร้อมกับโผล่หน้าออกนอกระเบียงเพื่อรับลม
“เธอ..จะฝึกเสร็จตอนไหนหรอ” จู่ๆเสียงของแขกที่ไม่ได้รรับเชิญก็เอ่ยขึ้นมาเบาๆ เมื่อคนตัวเล็กรู้ตัวว่าเจ้าของเสียงนั้นคือคนที่เจ้าหล่อนพยายามเพิกเฉยมาโดยตลอดร่างกายมันก็หันกลับไปตั้งการ์ดใส่เพื่อป้องกันตัวโดยอัตโนมัติ
"เฮ้ๆๆๆๆ.. ค ..คือ คือฉันมาดีนะ ฉันไม่ได้มาทำอะไรเธอ แค่จะมา..ขอโทษ" ร่างหนาตรงหน้ารีบยกแขนขึ้นบังตัวเองแทบจะทันที
“...”
“คือ..ฉันขอโทษ เรื่องวันนั้น..ฉันขอโทษจริงๆ”
“...” แต่ดูเหมือนว่าคำขอโทษจะโดนปฏิเสธอย่างไรอย่างนั้น
“ฉันขอโทษจริงๆนะ..จากใจ ฉันไม่เคยมองเธอเป็นผู้หญิงแบบนั้นเลย” ร่างสูงรีบยืนยันความรู้สึกของตัวเองทันทีแต่ก็ดูเหมือนว่าจะมีเพียงความเงียบตอบกลับมาจนรู้สึกว่าเหมือนตัวเองอากาศธาตุไปเสียแล้ว
“....”
“ฉันขอเอ่อ.. ขอนั่งด้วยคนได้ไหม”
“...” แต่ก็มีเพียงความเงียบตอบกลับมาเช่นเดิมพร้อมกับร่างเล็กที่เอาแต่มองไปยังท้องฟ้าที่สุกสว่าง
“...” และแน่นอนว่าร่างสูงเองก็ใจกล้าหน้าหนาพอที่จะนั่งตรงนั้นถึงแม้จะไม่ได้รับการอนุญาตจากคนที่มาก่อนก็ตาม
“เอ่อ..เธอไปฝึกต่อสู้แบบนั้นมาจากไหน ดูๆแล้วคงไม่ใช่แค่ทำๆไปเพื่อป้องกันตัว” มันชักจะเงียบเกินไปจนต้องเป็นฝ่ายลองถามออกไปบ้าง!
“...” แต่ก็เหมือนเดิม มีเพียงความเงียบงันแทนคำตอบทุกสิ่ง
“เอ่อ..คือ ฉัน..”
“เรียนมา..เรียนมาตั้งแต่เด็ก โตมาก็เป็นนักกีฬาเทควันโด” ในที่สุดคนตัวเล็กก็เลือกที่จะตอบออกไปถึงแม้จะด้วยน้ำเสียงอันราบเรียบแต่ก็ทำให้ชายหนุ่มข้างๆใจชื้นขึ้นมาบ้าง
“แต่ฉันว่า..กีฬาแบบนี้มันไม่เหมาะกับผู้หญิงเลยนะ เธออยากเรียนเองหรอ?”
“เปล่า ปาป๊าให้เรียน คนสนิทของปาป๊าสอนให้ แต่ฉันก็ชอบ” ร่างเล็กตอบไปทั้งๆที่ยังไม่ละสายตาจากท้องฟ้าเบื้องหน้า
“อ่อ..เอาไว้ป้องกันตัวสินะ”
“อืม เพราะปาป๊ากลัวสิ่งที่ปาป๊าเคยทำไว้มันจะเกิดกับฉัน”
“...หมายความว่ายังไงน่ะ” อาจจะดูยุ่มยามแต่ร่างสูงเองก็หยุดความอยากรู้ของตัวเองไว้ไม่ได้จนแทบอยากจะเอามือตะปบปากตัวเองเสียเดี๋ยวนั้น!
“...หมายความว่าจริงๆแล้ว ฉันไม่ได้เกิดมาจากความรักเหมือนนาย หรืออย่างใครๆหรอกนะ.”
“...”คำตอบที่ได้ทำให้คนที่ถามแทบหยุดหายใจ.. ‘ไม่น่าถามเลยว่ะ..’
“ปาป๊าเขาไม่ได้ตั้งใจให้ฉันเกิดมา แต่ฉันก็ดันเกิดมา..ตอนที่ปาป๊ายังไม่ได้รักแม่” เสียงเล็กสั่นเครือเล็กน้อยเมื่อเลือกที่จะเล่าให้อีกคนฟัง
“...” ร่างสูงเองที่ตั้งใจฟังก็รับรู้และเข้าใจด้วยหัวใจว่าทำไมคนตัวเล็กตรงหน้าคนนี้ถึงได้ขัดขืนเขาจนสุดตัว แต่ยิ่งฟังหัวใจอันแข็งกร้าวมันก็ยิ่งบีบรัดตัวเองราวกับเป็นตัวเองที่เผชิญเรื่องราวนี้ และแทบไม่ต้องคิดเลยว่าหัวใจดวงน้อยของคนตัวเล็กจะบอบช้ำเพียงใด..
“แต่ว่าฉันก็รักปาป๊านะ รักมาตลอด ถึงจะผิดพลาดในอดีตแต่หลังจากนั้นเขาก็เลี้ยงฉันมาด้วยความรัก ปาป๊าบอกว่าถึงมันจะชดใช้ให้ได้ไม่หมดแต่เขาก็รักฉันกับแม่สุดหัวใจแล้ว” ว่าจบคนตัวเล็กก็หันมาระบายยิ้มบางๆให้กับคนข้างๆ..แต่เหตุใดรอยยิ้มที่ส่งมาทำให้คนที่ได้รับสัมผัสได้เพียงแต่ความเศร้าที่ฝังลึกอยู่ในนั้น
“ฉันเข้าใจแล้ว.. ปาป๊าเธอคงจะรักและเป็นห่วงเธอมากสินะ..”
.
.
.
.
.
.
“อื้ม และอีกไม่นานฉันก็จะกลับไปสู่อ้อมกอดของพวกเค้าแล้วแหละ”
.
.
.
.
.
.