EP6.1 ll ฮั่นเเน่ [1]

1058 Words
บรื้น!! เสียงรถมอเตอร์ไซค์สี่สูบที่ทำให้คนรอบข้างหูแตกได้นั่นมาจากนาคิน ผู้ชายที่ใส่เสื้อยีนส์สีซีดๆ พร้อมกับความมั่นหน้าว่าตัวเองหล่อมาก เขายักคิ้วก่อนจะโยนหมวกกันน็อกกลมๆ มาให้ฉัน “โอ๊ย คราวหลังแว๊นไม่ใส่ชุดหนังมาเลยล่ะ จะได้ครบเซ็ต!” ฉันแขวะ “แม่งร้อนอ่ะดิ” เขาตอบ แม้ว่าฉันจะไม่ต้องการ บางทีฉันก็กวนประสาทไปแบบนั้น เขาน่าจะรู้บ้างอะไรบ้าง -*- “เกาะแน่นๆ นะ ระวังตก เครื่องพี่แรง!” เขาอวดอ้างสรรพคุณในขณะที่ฉันพยายามปีนขึ้นมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ของเขาซึ่งฉันโคตรจะเกลียด เพราะนอกจากมันจะไม่มีที่ยึดด้านหลังตัวรถแล้วฉันยังรู้สึกนั่งไม่เต็มก้นเหมือนจะหล่นทุกเวลาอีกต่างหาก บรื้นนนนน!!! “ว้ากกก!” ฉันแหกปากตกใจเมื่อเขาเร่งเครื่องและบิดโดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัว ลมแรงๆ ปะทะจนเซถลาไปด้านหลัง มือเล็กคว้าเอวร่างสูงตามสัญชาตญาณ “จะออกก็บอกกันบ้างดิ ไอ้บ้าแว๊น!” ฉันมอบค้อนวงโตให้คนขับที่ไม่รู้สึกรู้สา “นี่ไง ได้กอดแล้ว เอาไปเขียนดิ” และแล้วอีตานั่นก็ยังไม่จบเรื่องนิยายของฉัน ฉันไม่ได้ขอร้องซักหน่อย ฉันกัดฟันกรอดก่อนจะไถลมือออกจากเอวแข็งๆ ของเขา พลางดึงร่างที่นาบหลังอุ่นๆ ของเขาออกด้วย หนอยแน่ะ! ฉวยโอกาสเหรอฮะ! ถึงหน่มน้มฉันจะมีน้อย แถมการใช้สอยจำกัดเฉพาะคนหล่อมาก การที่เขาแกล้งออกตัวแรงๆ จนหน่มน้มฉันกระแทกกับแผ่นหลังนั่นต้องจงใจแน่ๆ เรดาห์ฉันบอกมา -_-+ “อยากกอดก็บอกกันตรงๆ ก็ได้นะแว๊น ไม่เห็นต้องเนียน” ฉันหรี่สายตาแล้วบีบบ่าอีตาบ้านั่นอย่างหมั่นไส้ ทำเป็นแอ๊บ ฉันรู้ทันหรอก! โลกภายนอกฉันอาจสัมผัสมาไม่มาก แต่จากประสบการณ์เขียนนิยายมาหลายเรื่อง ผู้ชายมักจะปากแข็ง! “จะหลงตัวเองก็ส่องกระจกก่อนไหมล่ะ?” เขาพูดเสียงดังมาตามสายลมทำเอาเส้นขมับฉันปูดโปนขึ้นมานิดนึง “พูดงี้ตัวตัวหลังเซเว่นปิดกันเลยดีกว่า” “ว่าไงนะ?” เสียงกวนประสาทนั่นมาพร้อมกับ... บรื้นนนน!!! “แว้กกกกก!!” หน้าท้องของฉันเบาโหวงเมื่อจู่ๆ อีตาอเวจีนี่ก็บิดคันเร่งมอเตอร์ไซค์รุนแรงขึ้นจนริมฝีปากสั่นพึ่บพั่บไปตามสายลมที่ปะทะเข้ากับใบหน้า แม้ว่าฉันจะใส่หมวกกันน็อก แต่หมวกกันน็อกที่ว่ามันป้องกันแค่ศีรษะ ไม่มีกระจกกั้นลมเหมือนที่แว๊นใส่ ทำให้ฉันพูดลำบาก! หนอยยยย! มันน่านัก! “คิดว่าบิดแรงแล้วจะกลัวเหรอฮะ? ฉันเกิดมามือข้างขวาถือแฮนด์ ข้างซ้ายถือหมวกกันน็อคนะเออ” ฉันแหกปากตะโกนสู้ให้คนข้างหน้าได้ยินว่าการกระทำของเขาไม่สะเทือนเจ้าแม่มอเตอร์ไซค์อย่างฉันสักนิด ต่อให้นายจะดริฟต์ครูดไปกับถนน ฉันก็ทนได้นะจะบอกให้ ถ้ามีรางวัลซ้อนมอเตอร์ไซค์ ฉันคงได้อันดับชนะเลิศอ่ะ เพราะฉันซ้อนมาตั้งแต่อนุบาลยันจะจบมหาวิทยาลัยเลยนะเออ! “ว่าไงนะ?” เขากวนประสาทขึ้นอีกแล้วก็วนลูปเดิม.... บรื้นนนน!!! “ไอ้แว๊นนนนน!!” ทนไม่ไหวแล้วนะเฟ้ย!! ฉันเผลอกอดเอวคนตรงหน้าแน่นตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ แถมเหมือนหมอนั่นจะหัวเราะชอบใจสุดๆ เออ สนุกอะไรนักหนาฟะ! “อยากกอดก็บอกว่าอยากกอดดิ ไม่ต้องแกล้งตกใจมอเตอร์ไซค์หรอก เกิดมามือถือแฮนด์นิ ยังต้องกลัวไรอีกวะ?” เขาขับเบาลงเพื่อ... ล้อเลียนฉัน!!! จุดประสงค์เห็นได้ชัดมาก ถ้าไม่ได้เอาคืนผื่นจะขึ้นหรือไงฟะ! “ถ้าไม่เลิกแกล้ง ฉันจะเอาแฮนด์ในมือนี่แหละทุบหัวนายให้ตายซะ -_-^” “ลองทุบดิ มอเตอร์ไซค์ล้ม หน้าแหก หมอไม่รับศัลยกรรมอ่ะ” “แล้วไงอ่ะ ไม่เคยได้ยินเหรอ สวยธรรมชาติอ่ะ” “ชาติไหนละก๊อย ชาติที่หน้าเหมือนผีไม่มีญาติก็ศัลย์เหอะ” “โทษที ชาตินี้บังเอิญสวย” ฉันเหยียดยิ้มมีชัย แม้เขาจะไม่เห็น ไม่สนหรอกเชอะ อยากพูดอะไรก็พูดไป ฉันเลิกกวนประสาทเขาและอยู่อย่างสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาดด้วยการขยับมือออกช้าๆ หากแต่ว่า... พรึ่บ! โอ๊ะ โอว... O-O? ฉันกะพริบตาปริบๆ เมื่อฝ่ามือหนาละจากแฮนด์มอเตอร์ไซค์มาจับมือฉันไว้ข้างนึงไม่ให้ขยับออก ทั้งที่แว๊นเป็นผู้ชายแต่มือเขากลับนุ๊มนุ่ม นุ่มจนชะนียังอาย “อะไร มาจับทำไม?” ฉันเลิกคิ้วสูง “เห็นบอกว่าอยากรู้ แต่ไม่มีคนให้ลอง” “...” แล้วยังไง...? “ลองกับฉันก็ได้นะ ว่างพอดี♥” น้ำเสียงกรุ้มกริ่มกับฝ่ามือหนาๆ นั่นได้ผลชะงัด ฉันนิ่งไปเพราะทำอะไรไม่ถูก ในขณะที่ปลายนิ้วของร่างสูงสอดประสานเข้ามาเบาๆ อ่ะ... อาร๊ายยยย?!? ว้อท?!? ทำอะไรแบบนี้ พ่อแม่สั่งสอนมายังไง มาจับไม้จับมือฉันได้ไงอ่ะ! “หูย หน้าแดงเลยอ่ะ หูยยยยยยย” น้ำเสียงล้อเลียนจากอีแว๊นนั่นทำเอาฉันสะดุ้งโหยง คาดว่าเขาคงลอบมองหน้าฉันผ่านกระจกข้างแน่ๆ อีตาบ้านี่ก็นะ! “อะไรเล่า!” ฉันฟาดมือเข้ากับบ่าของเขาเพื่อปรามการกระทำไร้มารยาทนั่นทว่า... “แน่ะ เขินแล้วอย่าใช้ความรุนแรงกลบเกลื่อนได้ปะ?” โอ๊ย ปวดหัวตัวร้อนหนุนหมอนก็คงไม่หาย ยิ่งคุยยิ่งเครียด คนบ้าอะไรวะเนี่ย! ฉันเบ้หน้าแล้วระดมจิกข่วนเขาอย่างเมามันส์ในอารมณ์ ฉันไม่ได้เขินกลบเกลื่อนซักหน่อย ฉันแค่หมั่นหน้าเขาเหอะ! เพี๊ยะ! ฉันตีอีกที เขากระตุกแขนข้างที่จับมือฉันไว้เป็นสัญญาณให้หยุด “ยังๆ” เขาทำเสียงเนิบ ทำเป็นพูด นี่แน่ะ! ทำตัวน่าหมั่นไส้ดีนัก! เพี๊ยะ! ฉันตีอีกที ทำให้แว๊นกระตุกแขนฉันแรงขึ้นพร้อมกับน้ำเสียงปราม “ยังอีก ยังอีก” ฉันเดานะ ว่าหมอนั่นคงหงุดหงิดที่โดนฉันตีแน่ๆ ฉันไม่ผิดนะ ก็หมอนั่นแกล้งฉันก่อน ฉันแค่เอาคืนนิดๆ หน่อยๆ เองเถอะ! “ยังอะไร ตีนิดหน่อยแค่นี้มีปัญหาใช่ปะ?”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD