"ว่าไง ให้โทรเรียกประกันไหม"
"คะคือประกันรถหนูเพิ่งขาด"
"เฮ้อ หรือไปตกลงค่าเสียหายที่โรงพัก นี่ฉันไม่มีเวลามาเล่นกับเธอมากหรอกนะเด็กน้อย เสียเวลา!" เขาถอนหายใจมองตรงหน้าอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ ก่อนที่เหล่าบรรดาการ์ดประจำผับจะรีบกรูกันเข้ามา
“มีอะไรหรือเปล่าครับนาย”
“ไม่มี พวกนายไปเถอะตรงนี้ฉันจัดการเอง”
เขาเอ่ยปากไล่การ์ดที่กรูกันเข้ามา ก่อนจะยืนกอดอกกดดันคนตรงหน้าต่อ ในขณะที่เธอเอาแต่ยืนก้มหน้า สมองอื้ออึงและมึนงง จนไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรกับใครว่ายังไง เพราะสมองเบลอไปหมด
“อย่าเงียบดิ ตกลงจะเอาไง”
อ่า...พอเขาพูดต่อ สติของเธอเลยกลับมาก่อนจะพยายามหาทางออกให้ดีที่สุด
“งั้น เออหนูจะจ่ายค่าเสียหายให้ค่ะ แต่ตอนนี้เงินในบัญชีมีอยู่สองหมื่นโอนให้คุณก่อนก็ได้ ไม่ ๆ ขอโอนก่อนหมื่นเก้า ขอเก็บไว้พันหนึ่งเอาไว้ไปเรียน”
แน่นอนว่าถ้าตกลงค่าเสียหายตอนนี้คงดีกว่าไปตกลงที่โรงพัก เสียเวลาไม่พอยังเสียเงินอีกต่างหาก ยังไงก็เสียเงินอยู่ดีจ่ายซะตั้งแต่ตอนนี้จะได้จบ
“คิดว่าเศษเงินหมื่นเก้าพอค่าซ่อมรถ?”
“ละ แล้วคุณจะเรียกเท่าไหร่ล่ะ”
“แสนหนึ่ง”
“บ้าไปแล้ว เงินตั้งแสนหนูจะไปเอามาจากไหน”
“เพิ่มข้อหาทำร้ายร่างกายด้วยอีกหนึ่ง เมื่อกี้เธอทำร้ายฉัน”
“ทำร้ายร่างกาย?”
“ตรงนี้” เขาชี้ไปตรงเป้า แล้วสายตาของหญิงสาวก็ดันเผลอไปมองตามปลายนิ้วชี้ที่มือเขาชี้อยู่
อึก...เธอกลืนน้ำลายอึกใหญ่
จุดที่เขาชี้มันตุงมาก ขนาดว่ามันอยู่นิ่ง ๆ ใต้กางเกงสแล็คสีดำก็ตามเถอะ
“จะมองอีกนานไหม หรืออยากมองข้างในด้วย”
อ่า....
“บะ บ้าเหรอคะ” ใบหน้าขาวร้อนฉ่าเงยหน้าขึ้นมามองสบตาคมกริบของคนตรงหน้า ดาเมจรุนแรงมากทำลายล้างสมองของสโนว์ไปชั่วขณะหนึ่ง
“งั้นก็ว่ามาเรื่องค่าเสียหาย”
“ขะ ขอเวลาหนึ่งเดือน หนูจะหาเงินมาชดใช้ค่าเสียหายให้กับคุณ เอ่อ รถคุณด้วย”
“นานไป”
“ตะ แต่เงินตั้งแสนคุณคิดว่าหนูจะไปหาเงินชดใช้คุณไวขนาดนั้นจากไหน”
“ไม่รู้ เพราะเธออยากไม่ดูตาม้าตาเรือมาคนรถชนรถฉันเอง”
ตอกย้ำความผิดเข้าไปอี๊กก....
“งะ งั้นขอเวลาสัก สะ สองอาทิตย์ได้ไหมคะ ส่วนวันนี้คุณเอาไปก่อนหมื่นเก้าแล้วกัน มาค่ะ เอาเลขบัญชีมาหนูโอนให้”
“หมื่นเก้ากินมื้อเดียวก็หมด เธอเก็บไว้กินข้าวเถอะ”
เหมือนดูขิงใส่กลาย ๆ ใช่ซี้ของเขามันรถซูปเปอร์คาร์สุดหรู ส่วนของเธอรถกระป๋องมู่ทู่ดูโบราณนิด ๆ
“ถ้างั้นคุณเอาเบอร์คุณมาก็ได้ค่ะ เดี๋ยวถ้าหนูหาเงินได้แล้วจะติดต่อเรื่องโอนเงินค่าเสียหายไปให้”
“แล้วถ้าเธอไม่โทรมาล่ะ”
“หนูไม่ใช่คนแบบนั้นซะหน่อย”
“ฉันไม่รู้จักเธอ”
“หนูก็ไม่ได้รู้จักคุณ แต่ในเมื่อคุณเป็นผู้เสียหายก็เอาเบอร์มาให้หนูหนูจะจ่าย....”
“เอาเบอร์เธอมา” ไม่ว่าเปล่าเขายังคว้าโทรศัพท์จากมือของสโนว์ที่กดค้างหน้าจอเอาไว้ แล้วกดเบอร์มือถือของเขาพร้อมเมมชื่อไปว่า ‘เจ้าหนี้’ ก่อนส่งกลับคืนไปให้เธอ
“สองอาทิตย์! ถ้าเธอไม่โทรกลับมา หรือหาเงินมาชดใช้ฉันตามเธอถึงมหาวิทยาลัยแน่”
“ห๊ะ คุณรู้ได้ไงว่าหนูเรียนที่ไหน”
“รูปหน้าโปรไฟล์ในโทรศัพท์”
เขาตอบเสียงเรียบ ก่อนจะหมุนตัวกลับขึ้นรถแล้วขับ ทิ้งสโนว์ให้ยืนเหวอมองรายชื่อที่เขาเมมทิ้งเอาไว้
“โฮะ...เจ้าหนี้ อย่างงั้นเหรอ”
“โอ๊ย ทำไมซวยแบบนี้เนี่ย จะไปหาเงินจากไหนมากมายขนาดนั้น”