ERIC & SNOW - 1 จำเมียตัวเองไม่ได้เหรอ
“ฮือ สโนว์ แกช่วยฉันด้วย ฮือ” เสียงคร่ำครวญจากปลายสายพร้อมกับเสียงดนตรีแทรกเข้ามาจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์แต่ก็พอจับใจความได้ว่าปลายสายน่าจะมีอาการเมามายพอประมาณ ไหนจะเสียงร้องไห้ที่สะอึกสะอื้นเข้ามาอีก ทำเอาคนที่รับสายอย่างสโนว์เริ่มใจคอไม่ดี
“กะ แก เสียงแกร้องไห้อยู่นี่ แกอยู่ไหนอะ วาวา!”
“ฮือ ฉันอกหักอะแก ฉันจับได้ว่าแฟนฉันมีคนอื่น อึก ฮือ”
“เสียงแกเมามากเลยนะ ใจเย็น ๆ ก่อน ค่อย ๆ บอกฉันว่าแกอยู่ที่ไหน บอกมาดิ้เดี๋ยวฉันรีบไปหา”
“ผับแองเจิล”
“หา…ผับแองเจิล”
“ฮือ แกจะมาหาฉันจริง ๆ เหรอ แต่แกไม่ชอบมาที่แบบนี้นินา ฮือ”
“เออไม่ชอบ แต่ฉันจะไป ที่ไปคือจะไปรับแกกลับมาหอนะ โอเคปะ แกอย่าไปไหนนะ เดี๋ยวฉันจะรีบออกไป แค่นี้นะ”
สโนว์รีบเปลี่ยนกางเกงขาสั้นที่ใส่นอนก่อนจะสวมกางเกงยีนสีซีดตัวเก่ง ส่วนเสื้อก็เสื้อยืดคอย้วยเพราะเตรียมจะนอนอยู่รอมร่อเลยไม่ได้พิถีพิถันอะไรมากนัก ก่อนจะรีบคว้ากุญแจรถเก๋งคันเก่า แล้วขับรถออกไปหาเพื่อนรักของเธอที่น่าจะเมามายอยู่ในผับชื่อใกล้มอ.
ซึ่งนั่นก็คือ…
ผับแองเจิล เป็นผับที่เป็นศูนย์กลางแห่งแสงสีเสียงที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนจากทั่วสารทิศมีทั้งนักศึกษา และผู้คนวัยทำงาน โดยผับจะถูกแยกเป็นสองโซนคือโซนที่เป็นผับสำหรับบุคคลทั่วไปที่นักศึกษาชอบเข้า กับ อีกโซนที่เป็นโซนวีไอพีคลับที่ต้อนรับเฉพาะคนนักธุรกิจหรือคนทำงานที่พอมีฐานะเท่านั้น
สโนว์เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปีสาม เธอมีเพื่อนสนิทชื่อวาวา สนิทกันตั้งแต่มัธยมปลายและมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยเดียวกัน แค่เรียนคนละคณะ แต่ถึงไม่ได้เรียนด้วยกันทั้งคู่ก็เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนที่สนิทกันพอสมควร
ยี่สิบนาทีต่อมา สโนว์ก็มายืนอยู่ที่หน้าผับแองเจิล ทว่าพอมาถึงการ์ดเกือบจะไม่ให้เธอเข้าไปข้างใน ด้วยเพราะว่าหน้าตาของสโนว์ดูเด็กมาก หน้าตาท่าทางบุคลิกไม่ต่างกับเด็กอายุไม่ถึงสิบแปด หน้าใสผมดำยาวสนิท ส่วนสูงแค่ 165 เซนติเมตร ตัวเล็กผอมบาง ยิ่งไม่แต่งหน้าแล้วดูเผิน ๆ แทบไม่ได้แตกต่างจากเด็กมัธยมปลายคนหนึ่ง โดยเฉพาะการแต่งตัวแบบเสื้อยืดตัวโคร่ง กางเกงยีนเก่า ๆ ผมมัดรวบเป็นหางม้าแบบง่ายๆ
ดูยังไงก็…
“เข้าไม่ได้นะครับหนู กลับไปเถอะ”
“หนูบ้าอะไรล่ะ ฉันอายุยี่สิบแล้วนะ”
สโนว์กัดริมฝีปากด้วยความโมโห ไม่ใช่การ์ดคนนี้คนแรกหรอกที่คิดว่าเธอเป็นเด็กมัธยมปลาย เธอเจอคนทักเรื่องอายุมานับสิบ หน้าเด็กก็ลำบากหน่อย
แต่ที่ลำบากสุด ๆ คือต้องเสียเวลาค้นบัตรประชาชนเพื่อแสดงตัวตนว่าตัวเองอายุยี่สิบของจริง
“ดูบัตรค่ะลุง อะนี่”
การ์ดรับบัตรประชาชนมามองพร้อมกับหลี่ตาเหมือนไม่เชื่อ ทว่ารูปในบัตรยืนยันตัวตนเป็นอย่างดี การ์ดยกบัตรมาเทียบใบหน้ากับสาวน้อยที่ยืนจ้องหน้าเขาอยู่
“ขโมยบัตรประชาชนพี่สาวมาหรือเปล่า”
“แล้วหน้าตาฉันกับในบัตรประชาชนต่างกันตรงไหนไม่ทราบ!”
สโนว์จ้องหน้าเอาเรื่อง แถมยังยื่นหน้าไปให้การ์ดมองดูใกล้ ๆ นั่นแหละการ์ดเลยจำยอมต้องเชื่อในหลักฐานที่เห็น แล้วถึงจะยอมปล่อยให้สโนว์เข้าไปด้านในได้ แต่กว่าจะเข้าไปก็ยื้อเวลากันอยู่นาน
โคตรเสียเวลาเธอเลย
#ด้านในของผับแองเจิล
เพียงก้าวขาเข้ามาเสียงดนตรีที่เร้าใจก็ดังกระหึ่ม ทำเอาสโนว์ถึงกับยกมือขึ้นมาปิดหูเพราะเธอไม่ชอบสถานเที่ยวที่แบบนี้ จะว่าเป็นวัยรุ่นเฉย ๆ คนหนึ่งเลยก็ได้
เป็นคนไม่ชอบเสียงดัง ไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ ไม่ชอบสถานที่อโคจร ไม่ชอบทั้งหมดที่เป็นที่สถานที่แบบนี้
และถ้าจะมีแฟนสักคน สาบานได้ว่าจะไม่มีวันเลือกผู้ชายที่มาเที่ยวสถานที่แบบนี้ไปทำสามีเด็ดขาด! เธอเกลียดมากกกกก
“ให้ตายเถอะ เสียงดังเป็นบ้า”
เดินมองหาเพื่อนไป บ่นไป ทั้งยังต้องคอยหลบผู้คนที่เต้นไปเต้นไปมาน่าปวดหัว ก่อนจะตัดสินใจยกมือถือลองโทรหาเพื่อนรักดูอีกครั้ง
“แกอยู่ไหนวาวา” น้ำเสียงแทบจะตะโกนแข่งกับเสียงตื้ดของดนตรีที่ดังกระหึ่มฟังจนแทบไม่ได้ยิน
“แล้วแกล่ะสโนว์”
“เข้ามาในผับแล้ว ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้า”
“อ่อโอเค แล้วแกมองเห็นป้ายห้องน้ำไหม เดินมาเลยนะ นับจากป้ายห้องน้ำ ฉันอยู่ทางขวาโต๊ะที่สิบเก้า”
“อืม แกรออยู่ที่นั่น เดี๋ยวฉันไป” สโนว์ชะเง้อตามก่อนจะเดินเบียดฝ่าฝูงชนที่พากันเต้นโยกย้ายเป็นไส้เดือนกิ้งกือ บ้างก็กอดกันซบอยู่ตามทาง บ้างก็เดินเมาเซไปเซมา มันน่าเที่ยวตรงไหนก่อน? แต่กว่าจะเดินไปจนกระทั่งไปเจอโต๊ะของวาวาแทบเหงื่อตก ทว่าพอไปถึงกลับเห็นเพื่อนกำลังซดเบียร์สดอยู่พอดี
“โอ๊ยวาวา พอแก! เลิกดื่ม จะดื่มทำไมเยอะแยะเนี่ย” สโนว์เข้าไปแย่งแก้วเบียร์จากมือของออกมา ก่อนจะมองดูเหยือกเบียร์บนโต๊ะ แสดงว่าเพื่อนสาวของตัวเองจัดไปหลายแก้วพอสมควร
“ฮือ แกมาแล้วเหรอเพื่อนรัก” ทันทีที่เห็นหน้าสโนว์ วาวาก็สะอึกสะอื้นมารอบ ก่อนจะโผตัวเข้าหาแล้วร้องไห้หนักขึ้น
“ฮือ สโนว์ฉันโดนทิ้งอะแก”
“โอ๊ยแกอย่าร้องดิ้ ฉันจะร้องตาม เอาน่าแกไม่ต้องร้องนะ ไม่เป็นไรแก ช่างมันเถอะผู้ชายเฮงซวยพรรค์นั้น”
“แต่เขาหล่อมากกกกก”
“หล่อแต่เลวคือไม่ผ่านโอเคปะ แต่เอ๊ะไม่ใช่ว่าแฟนแกชื่อพี่ต้นอะไรเหรอ”
“ฮือ แกฉันโดนเท” คนเมาดูพูดจาไม่รู้เรื่อง ส่วนสโนว์รับหน้าที่เป็นแพทย์สนามคอยปลอบเพื่อนตอนอกหัก ถามว่าสนิทกันมากไหมที่พอจะรู้ว่าเพื่อนคบใคร ก็พอรู้ แต่ด้วยเพราะอยู่กันคนละคณะเธอเลยไม่ค่อยสนใจเรื่องแฟนของเพื่อนเท่าไหร่นะ
“แกน่าจะเมามากแล้ว พวกเรากลับกันเถอะ” ทั้งลากทั้งประคองแต่คนเมาไม่ขยับเขยื้อนแถมยังร้องไห้โวยวายหนักกว่าเก่า
“ฮือแก แกบอกฉันสิสโนว์ คือฉันต้องเป็นผู้หญิงแบบไหนวะ ผู้ชายถึงจะชอบ ต้องแรดเหรอ หรือต้องสวยเหรอ หรือฉันสวยไม่พอเหรอ ฮือ ถ้าผู้ชายชอบคนแรด ๆ ฉันจะแรดให้มันสุด”
“เพ้อเจ้อหนักแล้วแก คนจะรักยืนเฉย ๆ เขาก็รักเว้ย ต่อให้แกจะแรดหรือไม่แรด ก็ไม่ได้ทำให้ใครสักคนเขาเลือกแกเพราะตรงนี้ แต่เขาเลือกเพราะจะรัก”
“อึก...แกซ้ำเติมฉันเปล่าเนี่ยสโนว์ ฮือ”
“ไม่ได้ซ้ำเติมค่ะ แค่สอน แค่เตือนสติเพราะแกเป็นเพื่อนฉัน”
“งั้นเอางี้ แกเป็นเพื่อนฉันใช่ปะ งั้นแกดื่มเป็นเพื่อนฉันเลย เอาเบียร์กับแก้วมาเพิ่มอีกหน่อยดิ”
วาวาโยกมือโบกเรียกบ๋อย แต่พอจังหวะดนตรีตื้ดเพลงแม่เสือสาวเธอก็โยกตัวไปด้วยตามจังหวะ สโนว์ละอยากจะเกากะบาล
“ไม่เอาฉันไม่ชอบกินเบียร์ ปะแก กลับกันเหอะ”
“ดะ เดี๋ยว!”
วาวาผงกหน้าตาปรือ ก่อนชี้นิ้วไปทางผู้ชายที่กำลังเดินมาคู่กับสาวชุดรัดรูปสีแดง
“อะไรแก”
“นั่น ผู้ชายที่หล่อ ๆ คนนั้นคนที่ทำให้ฉันอกหัก”