“Thank You!!” สีดาพึมพำขอบคุณ เธอทรุดฮวบรีบคว้ากระเป๋าใส่สตางค์ของตัวเองมากอดแนบอก เหนื่อยสุดชีวิต ไม่คิดว่าตัวเองจะซวยจนมาเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
“โอ้ยอยู่ครบ...รอดตายไปที” เธอเผลอตัวพูดภาษาไทยออกมา จนบุรุษหนุ่มที่เป็นฮีโร่ เอียงคอมองอย่างสนใจ
“คนไทยเหรอครับ...ผมก็คนไทย เป็นลูกครึ่ง” พระรามยิ้มกว้าง ไม่คิดว่าการสอดมือเข้าช่วยใครคนหนึ่ง เพราะกำลังเซ็งสุดขีด จะทำให้เขาโชคดี พบผู้หญิงที่หน้าตาถูกใจ
“ดีจังเลยค่ะ เมืองใหญ่ๆ อย่างปารีส หาคนไทยได้น้อยมากเลยค่ะ ค่าครองชีพสูง แถมอากาศก็ไม่ชิน”
“ผมเกิดแล้วก็โตที่นี่ครับ แต่แม่เป็นคนไทย ท่านเลยสอนให้ผมพูดไทยได้ด้วย ไม่ค่อยคล่องแต่ก็พอได้ครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฉันสีดา...”
สีดา พระรามเบิกตาโตๆ มีคนใช้ชื่อเพี้ยนๆ แบบนี้เหมือนกับเขา นางสีดาที่เป็นมเหสีเอกของพระราม นางอันเป็นที่รักของพระองค์ท่าน เขาคลี่ยิ้มเต็มเรียวปากก่อนจะบอกชื่อตัวเองบ้าง ปฏิกิริยาจากเธอไม่ต่างจากเขาเลย
“พระรามครับ...พระราม เบอร์นาร์ด”
สีดาไม่ได้ตกใจที่พระรามชื่อพระรามหรอกนะ เธอตกใจนามสกุลของเขาต่างหาก ผู้ชายคนนี้เป็นอะไรกับนายจ้างของเธอ นั่นพญายักษ์ ทศพักตร์ ตรงหน้าเธอนี่พระรามมาเอง...ชีวิตเธอนี่ช่างพลิกคว่ำ พลิกหงายดีเสียจริง หลังจากแตะเท้าบนพื้นดินของประเทศฝรั่งเศส...
สีดากลับห้องพักแบบมึนๆ งงๆ มีหลายเรื่องประเดประดังเขามา จนตั้งตัวไม่ติด
ไม่ว่าจะคนแปลกหน้าที่พึ่งรู้จัก หรือไม่ก็คนที่พึ่งพบเจอและกำลังต้องทำงานร่วมกัน
หญิงสาวไม่อยากจะคิด เธอกระอักกระอ่วนจนไม่อยากคิดอะไรทั้งสิ้น...
ไอ้ที่เคยพูดไว้ว่าหน้าแตกหมอไม่รับเย็บเป็นเช่นไร เวลานี้เธอรู้ซึ้งเป็นอย่างดี
ตั้งแต่แนะนำตัวเอง เป็นสีดาของทศกัณฐ์...หน้าเธอแหกจนไม่อยากจะคิด
เพราะฝ่ายที่ได้ยินคือ ทศกัณฐ์ตัวเป็นๆ
แม่เจ้า...แค่คิดถึง ผิวแก้มก็ร้อนฉ่า...
แถมยังมีพระรามเดินดงโผล่มาให้ปวดหัวเล่นๆ เสียอีก
มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเธอ...พระเจ้ากำลังเล่นตลกอะไรกับเธออยู่ ท่านจงใจใช่ไหม?
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เบื้องบนกำลังทำอะไร ต้องการอะไรจากเธอ...ทั้งพระราม ทั้งทศกัณฐ์ ผู้ชายสองคนนี้กำลังทำให้วิถีชีวิตเรียบง่ายของเธอปั่นป่วน...
ความซวยของสีดายังไม่จบง่ายๆ หลังพูดคุยทำความรู้จักกันกับเพื่อนใหม่ชั่วครู่ แล้วก็แยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน เธอไม่นึกว่าจะมาเจอกับพระรามอีกครั้งที่หน้าตึกสำนักงานเบอร์นาร์ด ในวันที่เธอกำลังเริ่มทำโปรเจกต์ร่วมกันกับเจ้านายคนใหม่ ทศกัณฐ์...
เธอเดินเข้าไปพร้อมกับชายหนุ่มโดยไม่คิดอะไรเลย... ก็แค่คนรู้จัก ที่รูปหล่อพอๆ กับพระเอกหนังเกาหลี
แต่นั่นทำให้เธอเดือดร้อน... เมื่อเดินมาเจอชายหนุ่มอีกคน แค่ดูทีท่าเขาสีดาก็พอรู้ พายุกำลังจะมา หน้ายับเสียขนาดนั้นจะเดาเป็นอื่นไปได้อย่างไร!!
“รู้จักรามด้วยเหรอ?” คำถามเรียบๆ เหมือนไม่ใส่ใจ แต่ที่สีดาไม่รู้คือ...เวลานี้ในหัวอกของทศกัณฐ์กำลังเดือดระอุ
“ค่ะ บังเอิญน่ะค่ะ คุณรามเป็นคนช่วยสีดาจากการโดนฉกกระเป๋าเมื่อคืน” หญิงสาวตอบเสียงเรียบพอกัน เธอเสก้มหน้าหลบ เมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ระหว่างผู้ชายสองคนที่กำลังยืนประจันหน้ากันอยู่ต่อหน้าเธอ
“อ้อ!! อย่างนี้เอง รามมันชอบเป็นพระเอกเสียด้วยสิ...ไอ้เรามันแค่โจร!!” ชายหนุ่มแสยะยิ้ม เขากระแทกเสียงพูดลอยๆ เหมือนกำลังประชดใคร?
“มันไม่ใช่โจร หรือพระเอกหรอกครับ มันเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า มีแต่คนไร้น้ำใจนั่นแหละพี่ชายที่จะไม่ยื่นมือเข้าช่วยคนที่กำลังเดือดร้อน” พระรามตอบกลับเสียงเรียบ เขาเลิกปลายคิ้วขึ้นเหมือนกำลังท้าทายพี่ชายที่ยืนหน้าตึงอยู่ตรงหน้า
“มันประจวบเหมาะไปไหมว่ะราม...คนอย่างนายไปทำอะไรอยู่ที่ตรงนั้น นายไม่ใช่คนแบบนั้นนี่หว่า” ทศกัณฐ์มีข้อกังขา ริมถนน ที่มีมลพิษ...มีฝุ่นควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ไม่ใช่ที่ที่หนุ่มสำรวยจัดอย่างพระรามจะไปนั่งทอดหุ่ยเล่นๆ
พระรามชะงัก มันก็จริงอย่างที่ทศกัณฐ์พูด เขาไปทำอะไรอยู่ตรงนั้น...สาเหตุเพราะกำลังเซ็งกับชีวิตตัวเองสุดขีด เลยเดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เมื่อรู้สึกตัวก็ยืนอยู่แถวนั้นเสียแล้ว
“มันเป็นพรหมลิขิตน่ะพี่ชาย พรหมลิขิตให้ผมได้พบกับ...สีดา” รอยยิ้มกวนบาทาของพระราม แทบทำให้สติการควบคุมตัวของทศกัณฐ์ขาดผึ่ง!!
สีดาขมวดคิ้ว สองคนนี้เป็นพี่น้องกันประสาอะไร? ทำไมเธอรู้สึกถึงความไม่ลงรอย เหมือนสองคนนี้กำลังคุมเชิงอะไรกันอยู่
“ราม...สมัยนี้ไม่มีสีดาของพระรามแล้วว่ะ เคยถามเจ้าตัวเขาหรือยังว่าเขาเลือกใคร? ถามซะถ้านายไม่อยากเสียใจทีหลัง” ชายหนุ่มกระเถิบเข้าไปใกล้น้องชายอีกนิด พร้อมทั้งกระซิบเสียงแผ่ว พอให้ได้ยินกันแค่สองคน แต่ทศกัณฐ์หารู้ไม่ว่าตัวเองกำลังเปิดช่องโหว่ให้ศัตรูรู้ตัว...
“ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบผู้ชายตรงที่เขาเป็นสุภาพบุรุษ ไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบัน สีดาก็เป็นของพระรามวันยังค่ำนะพี่ชาย” พระรามก้มหน้าลง เขาตอบพี่ชายเสียงแผ่วไม่แพ้กัน
“ไอ้ราม!! อยากลองดีเหรอไงว่ะ!! สีดาคนนี้กูจอง!! มึงไม่อยากตายก็อย่าแหลมเข้ามา ที่ผ่านมากูไม่เคยเอาจริง เพราะสมเพชที่มึงเกาะอยู่ใต้กระโปรงแม่มึง แต่ครั้งนี้มึงจะลองดูก็ได้... ให้รู้ไปว่าคนอย่างกูจะแพ้คนอย่างมึง”
เส้นเลือดข้างขมับปูดโปน ชายหนุ่มขบฟันจนแทบจะแตกละเอียด ดวงตาถลึงเบิกโพลง เขากระซิบเสียงต่ำๆ ในลำคอ พร้อมทั้งยิ้มเย้ยท้าทาย อยากรู้เหมือนกันว่าไอ้คนอ่อนปวกเปียกอย่างพระรามจะมีฤทธิ์แค่ไหน อยากลองก็เชิญ ครั้งนี้เขาไม่มีทางอ่อนข้อให้มันเด็ดขาด
พระรามกำมือแน่น ชายหนุ่มรู้ตัวดีว่าไม่มีทางเอาชนะทศกัณฐ์ได้เลย หากพี่ชายของเขาเอาจริง แต่ศึกศักดิ์ศรีครั้งนี้เขาก็ยอมไม่ได้เช่นกัน... เมื่อสีดาเป็นมากกว่าความพอใจ เขาอาจจะตกหลุมรักเธอแล้วก็ได้ เมื่อหญิงสาวมองเขาที่ตัวตนไม่ใช่แค่เปลือกนอกเหมือนทุกคนที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต
“ลองดูก็ได้พี่ชาย…สีดาเลือกใคร...คนนั้นชนะ” แววตากร้าวมองตอบกลับมา ทศกัณฐ์เดือดจัดเขาแทบจะขาดสติ หากแต่...ศึกครั้งนี้พิสูจน์อะไรได้หลายๆ อย่าง วัดกันเลย ทั้งแม่และลูก
“เกลียดฉันสิใช่ไหม? เกลียดให้มากๆ ยิ่งเกลียดแกก็จะยิ่งรู้ ไม่มีวันที่แกจะชนะฉันได้ราม...หากฉันเอาจริง!!” ดวงตาแข็งกร้าวมองสบนัยน์ตาน้องชาย เจ็บปวดเหลือเกิน!! พระรามรู้สึกเช่นนั้น เขาไม่เคยอยู่ในสายตาทศกัณฐ์ เป็นตัวน่ารังเกียจที่แม้แต่มองพี่ชายยังไม่อยากชายตาแลแต่จะให้ทำอย่างไรได้ เขาเกิดมาเพื่อทำลายล้างพี่ชายนี่ นารีย้ำแบบนั้น เขาต้องแสร้งยิ้มหน้าระรื่นยามต่อหน้า ทำเป็นไม่แคร์ แม้จะอยากได้ความรักจากพี่ชายบ้าง
“จะคุยกันแบบไร้มารยาทแบบนี้อีกนานไหมคะ? พวกคุณสองคนลืมไปแล้วหรือไงว่าฉันอยู่ตรงนี้ด้วยอีกคน”
น้ำเสียงราบเรียบ แต่ใบหน้าของสีดาตึงเปรี๊ยะ!! เธอมองสองหนุ่มสลับกันไปมา
“สีดา...ไปทำงานกันเถอะ ไอ้คนที่มันลอยไปลอยมาจะได้รู้ตัวว่ามันช่างทำตัวไร้ค่าสิ้นดี”
ชายหนุ่มพูดเสียงเข้ม เขาเดินเข้าไปหาสีดา พร้อมทั้งฉุดข้อมือเรียวบาง ดึงให้เดินหนีไปอีกทาง โดยมีสายตากรุ่นโกรธของพระรามมองตามไปติดๆ
“ปล่อยได้หรือยังคุณ...ทีหลังอย่าทำแบบนี้นะคะ มันเสียมารยาท” หญิงสาวถอนลมหายใจดังเฮือก เธอพยายามจะแกะมือแข็งแรงออกจากข้อมือตัวเอง พร้อมทั้งกระซิบดุเสียงขุ่นเขียว
“ก็รู้ๆ อยู่นี่...ว่าฉันมันคนไม่ค่อยมีมารยาทเหมือนคนอื่นเขา อีกอย่างนะ...เห็นหน้ามันแล้วพาลหมั่นไส้ ทำเป็นเก๊กหล่อน่าเตะฉิบหาย!!” ชายหนุ่มไหวไหล่ เขายอมปล่อยข้อมือของหญิงสาว เมื่อหันกลับไปมองด้านหลัง ไม่เห็นเงาของคนที่นึกฉุนเดินตามมา