ตอนที่ 5

1081 Words
บทที่ 5             ปากอิ่มสีระเรื่อของคัทลียาอยู่ใกล้มาก เนื้อตัวของเธอก็กำลังเสียดสีอยู่กับแขนของเขา แววตาคู่สวยไม่ได้แค่ฉายประกายของความสำนึกผิดแต่ยังมีอะไรบางอย่างระยิบระยับอยู่ภายในนั้น             “พักผ่อนสักนิด อย่าเคลื่อนไหวมากเดี๋ยวก็จะดีขึ้น”             ไกรสูรย์รีบตัดบทและเลื่อนมือออกจากข้อเท้าของหญิงสาว ร่างสูงลุกขึ้นยืนแม้รู้สึกเสียดายและยังได้กลิ่นหอมอวลไอของเนื้อสาว เขาเดินออกไปยืนหน้ากระท่อมกับความรู้สึกรุ่มร้อนที่เริ่มปะทุขึ้นในใจ             คัทลียามองตามคุณอาหนุ่มของเธอด้วยแววตาเป็นประกาย เมื่อครู่เธอรู้สึกว่าไกรสูรย์ตัวสั่นเล็กน้อย ซึ่งไม่ต่างจากเธอ มีบางอย่างคุกรุ่นอยู่ภายในใจของเด็กสาววัยย่างสิบเก้า บางอย่างที่กำลังเรียกร้องโหยหา             เธอนั่งอยู่บนผืนผ้าใบที่ไกรสูรย์ปูรองบนพื้นไว้ให้เป็นเวลานานนับชั่วโมงโดยไม่ยอมล้มตัวลงนอนทั้งที่ก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อเท้า แต่ก็รู้สึกดีขึ้นมากกว่าก่อนมาถึงกระท่อมนี่             คัทลียาชะเง้อมองไปนอกประตูที่ทำไว้อย่างหยาบ ๆ ซึ่งเปิดอ้าอยู่ก่อนตัดสินในที่สุดเดินกะเผลกออกไปก็พบว่าไกรสูรย์ยืนกอดอกพิงฝาใกล้กับแคร่ไม้อยู่ที่ข้างนอกนั่น             “คุณอาไกรสูรย์ไม่ง่วงหรือคะ?”             หญิงสาวถามขึ้น เสียงของเธอทำให้ชายหนุ่มหันกลับมามองด้วยแววตาบอกความประหลาดใจเช่นกัน             “ทำไมเธอยังไม่นอนอีกล่ะ หนูนิด...แล้วนั่นหายเจ็บเท้าแล้วหรือถึงเดินออกมาข้างนอกได้”             คัทลียายิ้มให้เขาแล้วเดินเข้าไปหยุดอยู่ใกล้ ๆ ใกล้มากจนอาหนุ่มของเธอรู้สึกรุ่มร้อนขึ้นมาทั้งที่อากาศหนาว             “หนูนิดเป็นห่วงคุณอาไกรสูรย์นี่คะ หนูนิดอยากขอโทษคุณอาค่ะที่ทำให้ต้องวุ่นวายแบบนี้”           เด็กสาววางฝ่ามืออุ่นลงบนแขนของเขา เหมือนมีอะไรบางอย่างแล่นวาบเข้าจับความรู้สึกที่แอบซ่อนในส่วนลึก ไกรสูรย์แทบไม่อยากหันไปสบนัยน์ตาหวานคู่นั้นแม้แต่น้อย เพราะมันจะทำให้เสียสมาธิ แต่แล้วเขาก็ต้องเสียความตั้งใจเมื่อเด็กในปกครองขยับมายืนตรงหน้าและยื่นดวงหน้าหวานเข้าไปใกล้เขา             “คุณอา...ยังโกรธหนูนิดอยู่หรือเปล่าคะ?”             เธอถามเสียงหวานและยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขา ไม่ใช่แค่หัวใจของไกรสูรย์ที่เต้นรัวเร็ว แม้แต่คัทลียาก็ยังรู้สึกว่ายืนได้ไม่มั่นคง เธอตื่นเต้นเวลาอยู่ใกล้คุณอาหนุ่ม และยิ่งได้เห็นใบหน้าหล่อเหลานั้นชัด ๆ ก็ยิ่งเกิดความรู้สึกพลุ่งพล่านสุดระงับ เธออยากรู้ว่ารสชาติของริมฝีปากหยักหนาบนหน้าคร้ามเข้มนั้นจะหวานสักปานไหน             “คุณอาไกรสูรย์คงยังโกรธหนูนิดใช่ไหมคะ ถึงได้ไม่ยอมมองหน้าหนูนิดเลย คุณอาคงรังเกียจใช่ไหมคะที่หนูนิดมาอยู่ที่นี่”             “ฉันไม่ได้คิดอะไรอย่างนั้นนะหนูนิด” คราวนี้เขาจ้องหน้าเด็กสาวตรง ๆ พลางคลายแขนที่กอดไว้กับอกลงและเผลอจับไหล่บางของเธอไว้แน่น ร่างกายของเขาเหมือนมีไฟร้อนปะทุอยู่ข้างใน นอกจากบรรยากาศท่ามกลางป่าเขาที่เป็นใจให้ต้องมาเผชิญหน้ากับคัทลียาเด็กสาววัยสิบเก้าซึ่งเธอเป็นสาวสะพรั่งในระยะชิดใกล้อย่างนี้ก็ยังมีความรู้สึกบางอย่างกระตุ้นความคิดของเขาให้ร้อนร่มอยู่ตลอดเวลา “ถ้าอย่างนั้นบอกหนูนิดมาซีคะ ว่าทำไมคุณอาไกรสูรย์ต้องทำหน้าตาบึ้งตึงเวลาเห็นหน้าเวลาพูดคุยกับหนูนิดด้วย มันทำให้หนูนิดคิดว่า...” “แล้วเธออยากให้ฉันทำหน้ายังไง” เขาแทรกขึ้นและสบนัยน์ตาเป็นประกายกับตาคู่สวยบนดวงหน้าแสนหวาน ไกรสูรย์ยอมรับว่าเขากำลังทรมานกับความพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ความคิดเตลิดไปไกลเวลาอยู่ใกล้เด็กในปกครองของเขา แต่ก็ดูเหมือนมันยากลำบากขึ้นทุกทีเมื่อคัทลียาเบียดร่างกายอันกลมกลึงนั้นเข้ามาแนบชิด เธอยิ้มกับเขา เป็นรอยยิ้มอันเจิดจรัสของเด็กสาวในวัยที่ทุกอย่างอิ่มเอมและเปล่งปลั่ง “ยิ้มกับหนูนิดสักนิดสิคะ...หนูนิดอยากเห็นคุณอาไกรสูรย์ยิ้ม” ชายหนุ่มเหมือนช็อคโกแล็ตที่ถูกความร้อนจนเริ่มหลอมละลาย รอยยิ้มพิมพ์ใจของคัทลียาใช่แต่ตะทำให้เขาหวั่นไหว แต่มันยังดูเชิญชวนเมื่อเธอเผยอเรียวปากจิ้มลิ้ม แต่แล้วเขาก็ตัดบทเสียดื้อ ๆ “ไปพักผ่อนเถอะหนูนิด พรุ่งนี้เราจะได้ออกจากป่านี่แต่เช้า” คำพูดของเขาทำให้เรียวปากอิ่มบนใบหน้าหวานราบเรียบลง คัทลียารู้สึกน้อยใจเล็ก ๆ เธอทำท่าจะผละออกจากตัวเขาแต่แล้วร่างน้อยกลับถูกช้อนไว้ในอ้อมแขนของคนตัวโต “อุ๊ย!...คุณอาคะ” “ฉันจะพาเธอไปนอนยังไงล่ะ” เขากล่าว พยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่นพร่าขณะโอบอุ้มร่างอ้อนแอ้นกลับเข้าไปในกระท่อม ปิดประตูที่ทำอย่างหยาบ ๆ และพาคัทลียาไปวางบนผืนผ้าใบที่เขาปูไว้ข้าง ๆ กองไฟที่ควันของมันลอยล่องออกไปทางช่องไม้ด้านบน แต่เมื่อไกรสูรย์ทำท่าจะปล่อยมือ หญิงสาวกลับกอดเกี่ยวคอเขาไว้ด้วยแขนเรียว “คุณอาไกรสูรย์คะ...ถามจริง ๆ เถอะค่ะ คุณอารังเกียจหนูนิดใช่ไหมคะ?” คนถูกถามอย่างคาดคั้นมองหน้าสวยที่ดวงตาคู่นั้นรื้นน้ำขึ้นมา ยิ่งอยู่ใกล้หัวใจของเขาก็ยิ่งไหวหวั่น ไกรสูรย์ไม่ยอมตอบคำถามนั้นแต่กลับก้มหน้าลงไปหาและประกบริมฝีปากหยักหนาปิดเรียวปากจิ้มลิ้มที่เจ้าของมีอาการตระหนก คัทลียาไม่อยากเชื่อว่าคนที่ไม่ค่อยพูดจาอย่างไกรสูรย์จะจูบเธออย่างดูดดื่มและนี่คือจูบแรกของเด็กสาวที่ไม่เคยพานพบเรื่องแบบนี้มาก่อน จากความตระหนกตื่นกลับกลายเป็นความตื่นเต้นและวาบหวามรันจวนใจ ร่างกาย          ของคัทลียาเหมือนถูกสุมด้วยเปลวร้อนเมื่อปากและลิ้นของเธอถูกรุกรานจากชายหนุ่มที่เธอเรียกเขาตามฐานะของผู้ปกครองตามเจตจำนงของมารดาว่า คุณอา    
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD