แค่ขยับเอวเจ้าก็ทุบ

1780 Words
“ท่านอ๋องลมอะไรหอบมาถึงนี่”ซ่างเซี่ยนเอ่ยปากทักด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ชายาเอกหวาเซียงอ๋องวันนี้หน้าตาสดชื่น อาการป่วยคาดว่าจะเป็นปกติแล้วใช่หรือไม่”ยิ้มด้วยสีหน้าเป็นมิตร “ท่านอ๋องอยู่ที่ห้องทำงาน เชิญท่านที่นั่นจะดีกว่าที่นี่เป็นที่พำนักของข้ากับท่านอ๋อง” “แล้วชายารองของหวาซียงอ๋องเล่าพำนักที่ใด” “อ๋อนางอยู่ห้องทางซ้ายมือ ไม่ทราบว่าหวาซงอยากพบนางใช่หรือไม่” “ข้าหาต้องการพบนาง แค่เพียงสงสัยเพราะชายาท่านบอกว่าเป็นที่พำนักของหวาเซียงอ๋องกับเจ้า เกรงว่านางเป็นชายารองอาจมีที่พำนักอยู่ที่อื่นเป็นแน่” อู่หงถิงก้าวขาออกมาข้างนอกพร้อมด้วยฟางหลุน หวาซงอ๋องชายาตามองอู่หงถิงเพียงแว็บเดียว ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ก้มหัวลงช้าๆ อู่หงถิงเองก็ย่อตัวให้ด้วยความเกรงใจ “สบายดีไหม”อู่หงถิงเลิกคิ้วก่อนจะส่งภาษามือหวาซงขมวดคิ้ว “นายหญิง พูดไม่ได้เจ้าค่ะ”ฟางฟลุนตอบแทน “ตามหมอหลวงหรือยังมีสิ่งใดผิดปกติกันน้องหญิงถึงไม่พูด”ซ่างเซี่ยนทำสีหน้าตกใจไม่น้อย “ตั้งแต่ ข้าน้อยอยู่กับนายหญิงนายหญิงก็ไม่เคยปริปาก ใช้แต่ภาษามือ” “เจ้าไปตามหมอหลวงมาดูอาการของนาง”หวาซงออกคำสั่ง อู่หงถิงส่ายหน้าไปมาเหมือนจะบอกว่าไม่ต้อง ทำให้ฟางหลุนลังเล “รีบไปเดี๋ยวนี้เลย หากชายารองเป็นอะไรมากไปกว่านี้เกรงว่าเจ้านั่นล่ะที่จะมีความผิด”คราวนี้เป็น ฟางหลุนที่รีบวิ่งออกไปทันที “ซ่างเซี่ยนรีบดึงแขน อู่หงถิงให้เข้าไปในห้องนั่งลงบนแท่นนอนหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ หวาซงได้แต่อยู่ด้านนอกมองเข้าไป “เป็นอะไรไปท่านอ๋องทำอะไรเจ้า เจ้าจึงพูดไม่ได้เช่นนี้บอกข้ามาเถิด”ช่างเซี่ยนสงสัยว่าจะเป็นหวาเซียงอ๋องที่ทำให้อู่หงถิงพูดไม่ได้ แต่อู่หงถิงไม่เข้าใจคำถามด้วยความห่วงใยของซ่างเซียน จึงส่ายหน้าไปมาเสีย “บอกข้ามาข้ายินดีปกป้องเจ้า แต่อย่าได้บอกกับคนอื่นว่าท่านอ๋องกักขังและทำร้ายเจ้าเช่นนั้นเรื่องนี้หากแพร่ออกไปเกรงว่าจะไม่เป็นการดีต่อท่านอ๋อง”อู่หงถิงยังคงส่ายหน้าซ่างเซี่ยนถอนหายใจ ท่านหมอเข้ามาพอดี “ท่านหมอตรวจดูให้ถ้วนถี่ทำไมชายารองจึงไม่ยอมปริปาก มีสิ่งใดผิดปกติกัน”หมอหลวงประสานมือ ทำการตรวจดูทั้งหูคอและปากก่อนจะถอยออกมาตรงหน้าเหอซ่างเซี่ยนและหวาซงที่ยืนรอข้างนอก “พระชายา ชายารองไม่ได้มีสิ่งใดผิดปกติ แต่กระหม่อมเกรงว่าจะมีเรื่องใดที่กระทบจิตใจนางอย่างมากจึงไม่ยอมปริปาก” “กระทบจิตใจ”หวาซงอ๋องทวนคำช้าๆ แววตาครุ่นคิด “หลังจากที่ตรวจดูแล้วการได้ยินก็ยังใช้ได้ อีกทั้งลิ้นไก่ของนางก็ปกติ แต่...ชายารองนางไม่ยอมเปล่งเสียง กระหม่อมเองก็จนปัญญา มีเพียงตัวชายารองเท้านั้นจึงจะรู้ว่าทำไมตัวเองถึงไม่ยอมพูด และอีกวิธีคือหากข้าน้อยรู้สาเหตุอาจแก้ไขได้ในไม่ช้า”ซ่างเซี่ยนได้แต่เพียงโบกมือให้หมอหลวงไปเสีย “ชายาเอก ท่านคิดว่านางเป็นอะไร” “ข้าคิดว่านางเพียงแค่ไม่อยากพูด อาจมีบางอย่างที่ทำให้นาง หวาดกลัวหรือตกใจ”คิดไปถึงสิ่งที่หวาเซียงอ๋องทำกับ อู่หงถิง เย็นมากแล้วหวาเซียงอ๋องเดินกลับเข้ามาที่พำนักพร้อมด้วยเสี่ยวกุน เหอซ่างเซี่ยนยืนรออยู่ที่หน้าห้อง พยุงซ่างเซี่ยนเข้าไปข้างใน “หวางเฟยอากาศเริ่มเย็นออกมายืนรอข้า จะไม่สบายเอาได้” “ท่านอ๋องเจ้าหรู นางๆๆ ”หวาเซียงอ๋องขมวดคิ้ว “นางแผลงฤทธิ์กับเจ้าหรือไร ข้าเห็นจะต้องลงทัณฑ์นางอีกแล้ว” “ไม่ใช่อย่างที่ท่านอ๋องคิด แต่นาง ตอนนี้ไม่ยอมปริปากวันๆ ส่งภาษามือเหมือนคนเป็นใบ้เกรงว่าใต้เท้ากวง รู้เข้าอาจไม่พอใจที่ท่านอ๋องแต่งนางเข้ามาไม่ทันไรนางกลับป่วยไข้” “ข้าไม่ได้ทำอะไรนาง มีแต่นางที่คิดสังหารข้า” “ท่านพี่ ท่านดีกับนางมากหน่อย ข้าคิดว่าไม่นานนางจะพูดได้วันนี้ข้าให้หมอหลวงมาตรวจดูอาการของนางหวาซงอ๋องก็อยู่ที่นี่”มือใหญ่กำมัดแน่น “หวาซงอ๋อง นึกแล้วไม่ผิดข่าวลือนั่น” “ข่าวลือใดกัน เซี่ยนเซี่ยนไม่เคยได้ยิน” “ข่าวรือเรื่องความสัมพันธ์ของ หวาซงกับกวงเจ้าหรูก่อนหน้านั้น นี่คงอดอยากได้ไม่นานจึงคิดมาเริงรักกันให้หายคิดถึง ไม่น่าเชื่อว่าจะกล้ามาถึงจวนของข้า” “ท่านพี่ข้ามองนางไม่ผิด นางยังพิสุทธิ์เช่นไรท่านถึงคิดว่านาง…” “เซี่ยนเซี่ยนเจ้าเป็นคนจิตใจดีเพียงนี้ คงยังไม่รู้ว่าในวังหลวงล้วนมีเรื่องคาวโลกีย์มากมาย” “ท่านอ๋อง หากจะปรักปรำนางคงไม่เหมาะ”ยิ้มหยันที่ใบหน้า “เจ้ารอดูว่าสิ่งที่ข้าพูดจะจริงเท็จแค่ไหน ตอนนี้ยังไม่ต้องเชื่อช้าก็ได้” เหอซ่างเซี่ยนถอนหายใจหากเป็นเช่นที่หวาเซียงอ๋องพูดแสดงว่าซ่างเซี่ยนมองคนผิดไป หวาเซียงอ๋องก้าวขายาวๆ ตรงไปยังห้องของอู่หงถิงผลักประตูเข้าไป โบกมือไล่ฟางหลุน อู่หงถิงกับนอนขดตัวนิ่งบนแท่นนอน เมื่อเห้นว่าคนที่มาเป็นใครก็ใช้มือสองข้างกอดรอบเข่าไว้แน่นไม่แม้แต่จะหันมอง ในเมื่อตอนนี้กำลังวางแผนและกำลังหาทางที่จะหลุดพ้นความคิดของตัวเองที่ห่วงใยมารดาและน้องไหนจะเรื่องที่ต้องลงมือฆ่าหวาเซียงอ๋องจึงรู้สึกว่าตัวเองเศร้าสร้อยอย่างประหลาด “ลุกขึ้น”น้ำเสียง เต็มไปด้วยโทสะ อู่หงถิงยิ่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นงอตัวให้คุ้ดคู้กว่าเดิม "ข้าบอกให้ลุกขึ้น" กระชากแขนที่กอดหัวเข่าไว้แน่น ร่างบางบัดนี้เป็นเพียงก้อนเนื้อกลมๆ ที่มองเพียงแว๊บแรกเหมือนไร้ซึ่งชีวิตหากไม่ติดที่ใบหน้างดงามนั้น “เสี่ยวกุนปิดประตู”หันไปสั่งเสี่ยวกุน อู๋หงถิงยังนอนนิ่งไม่ไหวติงคิดว่าจะขู่ได้แต่ไม่เป็นผล “แสร้งป่วยไข้เรียกร้องความสนใจ ข้าจะดูว่าเจ้าจะไม่ยอมปริปากได้นานแค่ไหน”ลากร่างบางลงไปกองกับพื้นอ้อมแขนเล็กหลุดออกจากหัวเข่า เจ็บจนจุกแต่ก็ยังไม่เปล่งเสียง ยิ่งยั่วโทสะของอีกคน “ซ่างเซี่ยนบอกให้ดีกับเจ้าหน่อยแต่ข้าว่าคงไม่เป็นผล”ขึ้นคร่อมร่างบาง มือแข็งแรงจับมือบางทั้งสองข้างให้กางออกขาแกร่งกดทับหน้าขาของอู๋หงถิงจนเจ็บ อู๋หงถิงดิ้นรนกระเสือกกระสนแต่ถูกรวบลงไปนอนใต้ร่างของหวาเซียง “จะทนได้กี่น้ำ”มือใหญ่อีกข้างดึงทึ้งเสื้อผ้าออกจนออกเกือบจะเปล่าเปลือย อู่หงถิงแม้จะมีแววตาตื่นตระหนกแต่กับไม่มีเสียงร้อง ขยับตัวหนีความกักขฬะของอีกคน หวาเซียงกดเอวแนบกับเอวของอู๋หงถิงยิ้มหยัน เมื่ออู่หงถิงไม่อาจขยับตัวได้ แต่หันหน้าหนีไม่ยอมมองหน้าเขา เขาจ้องมองเนินเนื้ออวบอิ่มตรงหน้าที่เขาเพิ่งจะดึงอาภรณ์ออกไป กลืนน้ำลายลงคอ “ช่างเก่งเสียจริง ข้าน่ารังเกียจมากถึงกลับอยากให้ตายเลยหรือไร”ดวงตาของอู่หงถิงเป็นประกายวาววับ หากฆ่าเขาตอนนี้ ก็จะมีคนเป็นพยานทั้งเสี่ยวคุนและฟางหลุนที่อยู่ด้านอกคงได้ยินว่าหวาเซียงอ๋องข่มเหงอู่หงถิง ตาเหลือบมองแจกันบนโต๊ะข้างแท่นนอนอันไม่เล็กนักหยุดดิ้นพักเอาแรง หันหน้ามาเผชิญหน้ากับอีกคนที่จ้องมองอยู่ก่อนแล้วตากลมเปล่งประกายวาวโรจน์ กับตาคมของ หวาเซียงอ๋องที่มองอู่หงถิง “หมดฤทธิ์แล้วหรือไร”ตาจ้องมอง ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อตาไม่กะพริบบางอย่างในกายที่ห่างหายมานานเริ่มตื่นตัว พยายามหักห้ามใจแต่ไม่เป็นอย่างที่ใจต้องการร่างกายหาบังคับได้ไม่ หวาเซียงอ๋องขยับเอวกดกระแทกทั้งๆ ที่ยังมีอาภรณ์เหมือนตั้งใจแกล้งอู่หงถิง ยิ้มหยันที่ อู่หงถิงไม่อยากเห็นลอยอยู่ตรงหน้า “จะดูว่าจะไม่พูด ได้นานแค่ไหน ร้องสิหากไม่ชอบก็ร้อง หากเจ้าไม่ร้องข้าจะถือว่าเจ้าเต็มใจ และชอบที่ข้าทำแบบนี้” อู่หงถิงใช้เท้าถีบพื้นเอาศีรษะชนกับโต๊ะที่ข้างแท่นนอน แจกันใบใหญ่ร่วงลงบนพื้น หวาเซียงอ๋องซบหน้าลงกับอกอุ่นนุ่ม มือเล็กถูกปล่อยให้เป็นอิสระอู่หงถิงคว้าแจกัน ด้วยมือเดียวทุบเข้าไปที่ศีรษะของหวาเซียงอ๋องอย่างจัง “เพล้ง”หวาเซียงอ๋องผุดลุกขึ้นคลำที่กลางศีรษะของเหลวอุ่นๆ ไหลออกจากบาดแผลที่เจ็บจี้ดถึงหัวใจ อู่หงถิงยืนตัวสั่นงันงก เสี่ยวกุนกับฟางหลุนวิ่งเข้ามาพร้อมกัน ฟางหลุนถลาเข้าไปกอดรวบร่างเล็กของ อู่หงถิงไว้แน่นตั้งใจปกป้องเพราะรู้ว่าหวาเซียงอ๋องโมโหเพียงใดในตอนนี้ เหอซ่างเซี่ยนเดินแกมวิ่งจากห้องของนาง มองคนนู้นทีคนนี้ที หวาเซียงอ๋องจ้องมองมาที่อู่หงถิงสายตาแค้นเคือง แต่เพียงครู่ก็ยิ้มหยัน ยิ้มหยันที่ริมฝีปาก “ขังนางห้ามส่งข้าวส่งน้ำ จนกว่าข้าจะสั่ง”เหอซ่างเซี่ยนถลาเข้าหาหวาเซียงอ๋องที่ล้มทั้งยืนด้วยเสียเลือดมาก เลือดสดๆ ไหลนองพื้นสีแดงฉาน ฟางหลุนกอดอู่หงถิงแน่นขึ้นกว่าเดิมเพื่อปลอบใจ เมื่อเห็นว่าใบหน้าบางซีดเผือด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD