การมาของณพลทำให้นางเอกสาวนึกถึงสิ่งที่แพทย์หญิงปัทมาเคยพูดในงานวันเกิดปีที่ยี่สิบห้าของเธอซึ่งจัดขึ้นราว ๆ เจ็ดเดือนก่อน เธอยังจำได้ดีเพราะสิ่งที่ท่านบอกนั้นตราตรึงใจมาก หญิงสาวมองหน้าณพลแล้วนึกถึงมันเพราะวันเกิดของเธอกับ
วันเกิดของเขาจัดในวันเดียวกันแต่คนละสถานที่
ใช่แล้ว... พวกเธอเกิดวันเดียวกันแต่คนละปี
“แม่ขอถามหน่อยว่าชีวิตแพทในตอนนี้เป็นชีวิตที่แพททริเซีย
ตอนอายุสิบเจ็ดปีมองมาแล้วจะภาคภูมิใจไหม"
คำถามของมารดาทำให้เธอพยักหน้าตอบอย่างไม่ต้องคิดเลย ตอนนี้เธอมีชื่อเสียง มีทรัพย์สินมากมาย มีร้านคาเฟ่น่ารัก ๆ เป็นของตัวเอง และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เธอได้เป็นนักแสดงในสังกัดของณพล ตอนอายุสิบเจ็ดเธอเคยคิดว่าอาจจะเรียนหมอเหมือนมารดาเพราะยังไม่เจอสิ่งที่ตัวเองชอบ แต่อิทธิพลของความรู้สึกที่มีต่อเพื่อนสนิทของษมาทำให้เธอเบนสายมาค้นหาความสำเร็จบนเส้นทางแห่งดวงดาวแทน...
"แพททำตามความฝันของแพทตอนอายุครบสิบเจ็ดได้
ทุกอย่างเลยค่ะ" หญิงสาวนึกถึงใครคนหนึ่งที่จัดงานวันเกิดที่เลานจ์หรู แพททริเซียเคยฝันว่าอยากใกล้ชิดเขา และเธอก็ทำมันจนสำเร็จแล้ว ตอนนี้เราสองทำงานร่วมกันและเธอเป็นคนสำคัญของบริษัทเขา พอคิดแล้วก็รู้สึกดีมาก ๆ เมื่อพบว่าวันนี้เธออยู่ในสายตาและความรู้สึกนึกคิดของเขาแบบที่เธอต้องการ
สีหน้ายิ้ม ๆ ของแพททริเซียทำให้ปัทมาภูมิใจในตัวลูกสาวมาก (นั่นอาจจะเป็นเพราะนางไม่รู้ถึงความสำเร็จที่ลูกสาวมุ่งมาด)
"ลูกเก่งมาก ๆ จ้ะ เพราะฉะนั้นชีวิตในตอนนี้ของลูกและ
วันต่อ ๆ ไป ลูกจะต้องทำในสิ่งที่จะทำให้แพททริเซียในวัยหกสิบต้องขอบคุณลูกนะจ๊ะ"
"ตกลงค่ะ"
"จำคำแม่ไว้แล้วนึกถึงแพททริเซียวัยหกสิบก่อนจะตัดสินใจทำอะไรนะลูก"
มารดากำลังสอนว่าเธอจะต้องทำให้ตัวเองแก่มาแล้วรู้สึกขอบคุณกับทุกสิ่งที่เธอทำในวันนี้ แพททริเซียคิดตามแล้วตกผลึกได้ว่า นอกจากจะใช้ชีวิตให้ดีแล้ว สิ่งหนึ่งที่จะทำแล้วทำให้แพททริเซีย
วัยหกสิบภูมิใจในตัวเธอก็เห็นจะเป็นเรื่องทำให้ณพลมาเป็นสามีของเธอให้ได้
วันเกิดแพททริเซียวัยหกสิบเธอจะได้จัดคู่กับณพลในฐานะภรรยาของเขาในสถานที่เดียวกันโดยมีลูก ๆ และญาติมิตรรายล้อม
แพททริเซียวัยหกสิบต้องขอบคุณกับความพยายามของเธอในวันนี้แน่นอน เพราะเรื่องอื่นในชีวิตเธอเดินตามครรลองที่จะพัฒนาไปสู่ความสำเร็จไปเรื่อย ๆ อยู่แล้ว ยกเว้นเรื่องสามีที่ถ้าเกิดไม่ทำ คุณยายแพททริเซียวัยหกสิบต้องสาปส่งเธอแน่ที่ทำให้นางขึ้นคานเพราะไม่ยอมคว้าชายเดียวในดวงใจของตัวเองมาไว้ในมือ...
"แพทรู้แล้วค่ะแม่ ว่าแพทจะทำยังไง" หญิงสาวบอกมารดาแต่หันไปมองทางเพื่อนสนิทอย่างปวีนาที่มาร่วมฉลองงานวันเกิดเธอพร้อมกับแอบบ่นว่าคุณพีร์เกือบจะไม่ยอมปล่อยให้เจ้าตัวมา พีร์ทำถึงขั้นมางานด้วยกันแต่แยกไปอยู่กับกลุ่มเพื่อนของตัวเองแต่มองมาที่ปวีนาไม่วางตา ถึงปวีนาจะบอกตลอดว่าอยากหนีจากเขาเพราะเขาไม่รัก แต่แพททริเซียกลับเห็นต่าง เธอคิดว่าพีร์น่าจะหลงเด็กเลี้ยงหนักมากถึงได้ตามหวงขนาดนั้น
ในวันนั้นแพททริเซียมีความคิดที่จะลองเข้าหาณพลด้วยการขอเป็นเด็กเลี้ยงของเขา ดวงตาของเธอเรืองรองด้วยไฟแห่งความมุ่งมาดปรารถนา
คนแบบแพททริเซียอยากได้อะไรก็ต้องได้ ไม่มีอะไรต้าน!
แพทย์หญิงปัทมาไม่รู้ว่าลูกสาวคิดแผนการร้ายในหัว พอเห็นแววตามุ่งมาดของลูกสาวนางก็อวยพรให้แพททริเซียสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา...
พอนึกย้อนกลับไปในวันนั้น แพททริเซียก็คิดว่าวันนี้เธอคิดถูกแล้วที่จะไม่มูฟออน เธอควรพยายามให้เต็มที่กว่านี้จะได้ไม่เสียใจภายหลัง!
ณพลยิ้มให้นักแสดงในสังกัดของตัวเองน้อย ๆ เมื่อเห็นคนที่ทำหน้าหงอย ๆ นั้นฉีกยิ้มกว้างและดวงตาทอประกายตอนเห็นหน้าเขา...
ท่านประธานหนุ่มคิดว่าเธออาจจะเหงาที่ต้องแอดมิตคนเดียวเลยไม่ได้วางท่าเคร่งขรึมใส่และแสดงออกกับเธอในมาดพี่ชายที่แสนดีและเพิ่มความเป็นกันเองมากขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางสบาย ๆ และรอยยิ้มที่นาน ๆ เพื่อนร่วมงานจะได้เห็น
"ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะคะ ตอนแรกแพทเหงามาก แต่พอเจอหน้าพี่ก็ดีขึ้นเลย" หญิงสาวบอกอ้อน ๆ "ไม่มีใครว่างมาอยู่เป็นเพื่อนแพทเลย"
"พี่จะอยู่เป็นเพื่อนเราสักพักหนึ่งแล้วกัน"
"จริงเหรอคะ"
พอณพลพยักหน้าเธอก็ยิ้มกว้างพลางบอกเขาในใจว่า อยู่เป็นเพื่อนตลอดชีวิตไปเลยได้ไหมคะคุณพี่ขา...
"พี่เอาน้ำผักกับอาหารคลีนที่เราชอบกินมาฝาก จะได้กินเติมพลัง"
"ได้เวลากินข้าวเย็นของแพทพอดีเลย" หญิงสาวหันไปมองโต๊ะกินข้าวแบบมีล้อเลื่อนที่มีเหยือก infuse water ตั้งอยู่ น้ำในเหยือกเป็นน้ำแร่แช่กับเลมอนฝานบาง ๆ กับแตงกวาญี่ปุ่นอย่างละชิ้นสองชิ้น เธอขอให้ฝ่ายโภชนาการของโรงพยาบาลทำให้ดื่ม
เพื่อเรียกความสดชื่น ณพลเดินไปลากโต๊ะนั้นเลื่อนอยู่ข้างเตียงเธอโดยไม่ต้องวอนขอ
เขาวางถุงอาหารไว้บนนั้นแล้วเอากระเช้าผลไม้ไปวางไว้บนโต๊ะโล่ง ๆ เพราะแพททริเซียปิดข่าวเลยไม่มีดอกไม้เยี่ยมไข้แม้แต่ช่อเดียว เขานึกถึงตอนที่มารดาตัวเองป่วย ฝ่ายนั้นแค่โพสต์รูป
ลงอินสตาแกรมนิดเดียว ดอกไม้เยี่ยมไข้ก็ล้นห้องเป็นภาระของเจ้าหน้าที่ตามประสานางเอกรุ่นเดอะที่ยังมีแฟนคลับติดตามอยู่แถมยังมีคอนเน็กชันมากมายในวงการบันเทิง
ปากบอกว่าเหงา แต่แพททริเซียก็มีมุมที่ชอบทำอะไรเงียบ ๆ
อยู่คนเดียวไม่ยอมให้เป็นข่าวบอกมากเหมือนกัน โดยเฉพาะเวลาทำอะไรดี ๆ ไม่เคยบอกใคร เวลาทำเรื่องแสบข่าวก็ตีแผ่ออกไป
จนทำให้มีภาพลักษณ์ว่าเป็นนางเอกตัวตึงของวงการ
แต่ถึงภาพลักษณ์เธอจะดูแรง แต่ความเป็นเธอก็ทำให้ไม่มีใครเกลียดได้ลง... ขนาดเขาที่ปวดหัวเพราะเธอบ่อยครั้ง ยังอดเอ็นดูไม่ได้ยามที่เธอไม่สบาย
"เดี๋ยวพี่แกะให้" เขาเห็นเธอนิ่วหน้าเพราะหยิบกล่องข้าวแล้วเข็มน้ำเกลือที่เสียบบนหลังมือคงทำให้รู้สึกเจ็บ ชายหนุ่มช่วยแกะข้าวกล่องและซุปมาวางตรงหน้าเธอ
แพททริเซียมองควินัวผัดใส่แซลมอน มีอโวคาโดและธัญพืช พร้อมกับเห็ดแชมปิญองและผักโขมผัดเนยโปะหน้า ข้าง ๆ กันมีซุปสีเขียวข้นที่เคี่ยวจากผักหลายชนิดแล้วปั่นละเอียด เธอชอบของเหล่านี้เพราะกินแล้วสบายท้องมาก ๆ
"รู้ได้ไงคะว่าแพทชอบกินแบบนี้"
"คนที่ร้านจำได้น่ะ แทนไทบอกจะเอามาให้เราเขาก็ทำเมนูนี้ให้เลย"
คำตอบของเขาไม่อาจทำให้คนคลั่งรักเสียกำลังใจเลย หญิงสาวเอามืออีกข้างมาตักอาหารกินช้า ๆ ทุกคำที่กินไปก็ขอบคุณเขาที่นำอาหารร้านโปรดมาฝากเธอ
"กินผลไม้ด้วยเลยไหม"
หญิงสาวพยักหน้าหงึก ๆ ผ่านไปไม่นานเธอเลยมีบลูเบอร์รี ราสป์เบอร์รี และสตรอว์เบอร์รีแบบหวานอมเปรี้ยวที่คนตัวโตนำไปล้างและซับน้ำอย่างเรียบร้อยมาวางตรงหน้าให้หยิบกิน
"ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวเอียงหน้ามายิ้มให้เขา
ณพลปรายตามองเธอแล้วก็พยักหน้าเล็กน้อย แล้วก็วุ่นกับการจัดวางจานผลไม้ให้เธอหยิบง่าย ๆ
"ที่ไม่สบายแบบนี้คงเพราะตารางงานแน่นเกินไป เดี๋ยวพี่จะให้พี่เคลดลงอีก" เขาจำได้ว่าคอร์สเรียนการแสดงของเธอน่าจะหมดแล้ว เหลือแต่ตารางงานปกติ แต่เธอป่วยเพราะทำงานหนักเขาเลยต้องทบทวนอีกทีว่าเธอรับไหวแค่ไหน ความถึกทนของนักแสดงแต่ละคนต่างกันมาก บางคนบอบบาง ขี้โรค ทำงานเยอะไม่ได้ บางคนทำงานเจ็ดวันเจ็ดคืนแล้วยังดีดและสดใส ส่วน
แพททริเซียนั้นอยู่ระดับกลาง ๆ เธอไม่ค่อยงอแงกับงานหนักแต่ถ้าทำไปเยอะ ๆ ก็ร่วงได้เหมือนกัน
"ไม่ต้องหรอกค่ะ แพทอยากหมดหนี้บริษัทไว ๆ"
"หมดหนี้ช้าไปหน่อยสักเดือนคงไม่เป็นไร"
"เป็นสิคะ ถ้าหมดหนี้แพทก็จะได้เงินเต็ม ๆ เร็ว ๆ ยกเว้นว่าพี่ณพล จะยอมช่วยแพทเรื่องเงิน"
หญิงสาวช้อนตามองคนตัวโตที่ปรายตามามองเธอพอดี...
"เราต้องการเงินไปทำอะไรมากมายนัก ติดพนันออนไลน์หรือไงฮึ"
ณพลจ้องหน้าเธอเหมือนจะคาดคั้นเอาคำตอบให้ได้...
"แพทไม่ได้ติดหนี้พนันแต่แพทแค่มีเรื่องจำเป็น"
ณพลคิดในใจว่าผ่านมาพักใหญ่แล้วความจำเป็นเรื่องนี้ยังคงอยู่ แสดงว่าเธอไม่ได้รีบร้อนใช้งาน เพียงแต่มีปัญหากับแหล่งเงินเท่านั้น
"แล้วที่ผ่านมา เราไม่ได้ขอให้ไอ้แซมช่วยเหรอ"
"ก็บอกแล้วไงคะว่าในตอนนี้แพทกล้าพูดกับพี่แค่คนเดียวก่อน ถ้าจวนตัวจริง ๆ ค่อยให้คนอื่นช่วย" หญิงสาวคิดว่าจะพยายามขอร้องณพลให้เต็มที่ก่อน ถ้าในที่สุดเธอทำไม่ได้จริง ๆ คุณยาย
แพททริเซียวัยหกสิบคงไม่ว่าถ้าเธอจะเปลี่ยนเป้าหมาย...
"พี่ให้เงินบริษัทเท่าที่เราต้องการ และเงินส่วนตัวพี่ ๆ ก็ให้ยืมได้ แต่มีข้อแม้ว่าเราจะต้องไม่เอาตัวเข้าแลก"
แพททริเซียทำปากยื่น ก็ไม่อยากได้เงินแต่อยากได้เขา ทำไมเธอต้องรับเงินมาโดยไม่ได้เขาด้วยล่ะ
"แพทก็มีข้อแม้ของแพทเหมือนกัน"
"ล้มเลิกความคิดที่จะเป็นเด็กของพี่ซะ เราไม่ไหวหรอก" ทำงานอย่างเดียวยังร่วงคากองถ่าย อย่าได้คิดจะเป็นคู่นอนเขาเลยเพราะเธอไม่ไหวแน่ อีกอย่างเธอเองก็เป็นไก่วัดที่สมภารอย่างเขาไม่คิดจะเชือดกินอยู่แล้ว
"แต่แพทว่าแพทไหว"
"ไม่ดื้อกับพี่นะครับ" เขาบอกเสียงลอดไรฟันเพื่อข่มขวัญ แพททริเซียอยากดื้อดึงอย่างไรก็ย่อมได้ แต่เขามีขอบเขตที่ชัดเจนว่าไม่ให้เธอล้ำเส้นที่ตรงไหน...
แต่คนอย่างแพททริเซียมีหรือจะฟัง
หญิงสาวยักไหล่ ไม่รับปากหรอกว่าจะไม่ดื้อกับเขา แต่เธอเป็นคนรุกได้ถอยเป็น พอเขาบอกว่าไม่เธอก็จะไม่เซ้าซี้ให้เขาลำบากใจ
"แล้วนี่พี่ไม่คิดจะทานข้าวเย็นเหรอคะ ทำไมเอามาให้แพทแต่ไม่มีของตัวเอง"
"เดี๋ยวไปกินข้าวกับเพื่อน" เขาบอกเสียงอ่อนลงเมื่อเธอเปลี่ยนเรื่อง
"ถ้าอย่างนั้นพี่ไปก่อนก็ได้ค่ะ แพทอยู่คนเดียวได้" ถึงแม้ไม่อยากอยู่ก็ตามทีเถอะ หญิงสาวคิดว่าวันนี้เธอรุกเขามากพอแล้วเลยยอมที่จะถอยและปล่อยเขาไป เธอไม่แม้แต่จะทำสีหน้า
หงอย ๆ เพื่อเรียกร้องให้เขาอยู่ แต่แย้มยิ้มเพื่อบอกว่าเธออยู่ได้เป็นอย่างดี...
"คืนนี้นอนคนเดียวได้ไหม ถ้าไม่ไหวพี่จะหาคนมาเฝ้าไข้ จะได้ไม่เหงา"
"อยู่ได้ค่ะ แต่มีเพื่อนคุยก็ดี" หญิงสาวพยักหน้ารับ ถ้าเป็น
ที่อื่นเธออยู่คนเดียวไหวนะ แต่ถ้าที่โรงพยาบาลแพททริเซียขอบายเลยเพราะเธอกลัวผี...
"ตอนนี้ขาดเหลืออะไรอีกไหม พี่จะไปคุยกับพยาบาลแล้วหามาให้ทีเดียวเลย"
หญิงสาวหันไปมองกระเป๋าที่พี่เคหอบหิ้วมาให้ มันไม่มีข้าวของสำหรับเตรียมแอดมิตเพราะเป็นกระเป๋าที่เอาไว้ใช้ในกองถ่าย เธอหันมามองหน้าท่านประธานแห่งพลอยมันตราแล้วเลิกคิ้ว
"พี่ช่วยหาให้ได้จริงเหรอคะ"
"ถ้าไม่ได้พี่จะถามเหรอ"
"งั้นพี่ช่วยหากางเกงในมาให้แพทด้วยนะคะ แพทไม่มีใส่ แพทใส่แบบไหนพี่น่าจะจำได้" หญิงสาวบอกเขาด้วยสีหน้าท้าทายอำนาจมืดสุด ๆ มุมปากของเธอยกเบา ๆ เมื่อเห็นเขาทำหน้าเหมือนจะกินหัวเธอแต่ใบหูกลับแดงก่ำเพราะความเขิน
เขาต้องนึกถึงวันที่เธอแกล้งโดนวางยาอยู่แน่ ๆ
"เดี๋ยวพี่ไปจัดการให้ตอนนี้เลย"
ณพลส่ายหัวน้อย ๆ พร้อมกับถอนหายใจดังพรืดในตอนที่หมุนตัวแล้วเดินออกจากห้องวีวีไอพี ชายหนุ่มรีบออกมาก่อนจะเผลอว้ากยายจอมแสบ ที่เอาแต่ป่วนประสาทเขาทุกครั้งที่มีโอกาส ตอนเด็ก ๆ ก็ไม่มีฤทธิ์ ทำไมยิ่งโตยิ่งดื้อนักก็ไม่รู้!
ในตอนที่ท่านประธานหนุ่มรีบร้อนออกมาด้านนอกห้องพักผู้ป่วย ขาของเขาชะงักเมื่อมองเห็นษมาอยู่อีกฝั่งของวอร์ดวีวีไอพีแต่ฝ่ายนั้นไม่เห็นเขา ตอนแรกณพลเข้าใจว่าษมามาเยี่ยมแพททริเซีย
แต่ก็ไม่น่าจะใช่เพราะเจ้าตัวออกมาจากห้องพักผู้ป่วยห้องอื่น
ณพลจำได้ว่า สัปดาห์ก่อนเขามาเยี่ยมภรรยาของเพื่อนสนิทที่คลอดลูกแฝดก่อนกำหนดแล้วพักฟื้นในวอร์ดนี้ ตอนนี้เด็ก ๆ ยังอยู่ในตู้อบแต่เพื่อนเขาไปเช่าโรงแรมข้างโรงพยาบาลและแวะมาดูลูกเรื่อย ๆ แล้ววันนี้ษมามาเยี่ยมใคร ท่าทางรีบ ๆ นั่นอีก ณพลเดินตามไปแต่ไม่ทัน เนื่องจากว่าเขาต้องผ่านห้องที่ษมาออกมาพอดีเลยอ่านป้ายชื่อผู้ป่วยหน้าห้องแทน แล้วหัวคิ้วของเขาก็ขมวดเมื่อเห็นว่ามีชื่อผู้ป่วยที่แอดมิตห้องนี้สองชื่อ
นางสาวเข็มจิรา
เด็กชาย บุตรคุณเข็มจิราและคุณษมา
เหมือนมีหมุดตอกตรึงเขาไว้เมื่ออ่านชื่อที่หน้าประตู เป็นนาทีกว่าที่ขาของณพลจะก้าวเดินไปได้ ในหัวเขาเต็มไปด้วยคำถาม บุตรของเข็มจิรากับษมาอย่างนั้นหรือ
ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงที่คออันแห้งผาก จากที่รู้มาว่า
เข็มจิราท้องได้เจ็ดเดือน เป็นก็ไปได้ว่าเจ้าตัวอาจจะคลอดก่อนกำหนด แต่สิ่งที่ทำให้เขาอึ้งก็คือ พ่อของเด็กคือษมา
ณพลคิดว่าเขาสนิทกับทั้งคู่มากพอ หากว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้เป็นความลับเขาต้องรู้แล้ว แต่สองคนนั้นปิดข่าว
เงียบเชียบ เพื่อนในกลุ่มของเข็มจิราและษมาต่างไม่มีใครรู้ ผู้ใหญ่ของทั้งคู่ก็ไม่มีใครพูดถึง เขาเลือกที่จะถอยออกมาก้าวหนึ่งพร้อมกับทุกความรู้สึกบางอย่างที่หนักหน่วงอยู่ในใจ
ณพลนิ่งงันเพราะล่วงรู้ความลับของคนสองคนโดยบังเอิญ และพวกเขาก็เป็นคนใกล้ตัวเสียด้วย
ดวงตาเรียวรีปรายไปมองบานประตูที่มีชื่อคนที่อยู่ในหัวใจของเขา
ณพลรู้ว่าหากผลักประตูบานนั้นเข้าไป เขาก็จะได้เจอกับเข็มจิรา แต่ทว่าสถานะของเขากับเธอในตอนนี้มันไม่ได้เอื้ออำนวย อีกทั้งเขาก็มาอยู่ตรงนี้โดยบังเอิญ แม้จะรู้สึกอย่างไรก็ไม่ได้สำคัญเพราะคนในห้องไม่ได้เชื้อเชิญเขาเข้าไป เขาเป็นแค่พี่ชายของเพื่อนเธอไม่ได้มีหน้าที่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวใด ๆ กับเรื่องส่วนตัวของคนในห้องนั้น
ขาของชายหนุ่มก้าวออกมาอย่างตัดอกตัดใจ เขาหันกลับมาโฟกัสเรื่องของแพททริเซียที่ต้องทำแล้วเก็บเอาเรื่องราวที่เพิ่งรับรู้ไว้เพียงคนเดียว...
จากนั้นหัวคิ้วของเขาก็ย่นเข้าเมื่อนึกไปถึงคำพูดของ
แพททริเซียที่ว่า หากวันที่จำเป็นเกี่ยวกับเรื่องเงินแล้วเขาไม่ยอมรับข้อแม้ของเธอ เธอก็จะไปคุยกับคนอื่น...
ณพลหันกลับไปมองป้ายชื่อหน้าประตูห้องที่เข็มจิราแอดมิต
อีกครั้งแล้วก็คิดว่า หากแพททริเซียไปเสนอตัวแลกหนี้กับคนเป็นพ่อลูกอ่อนที่เมียมัวแต่สนใจดูลูกจนไม่มีเวลาปรนนิบัติสามีคงไม่ใช่เรื่องดีแน่...
คราวนี้ไม่มีแรงโน้มถ่วงใด ๆ ถ่วงรั้งเขาไว้แล้ว ณพลก้าวยาว ๆ ออกไปเพื่อจัดการทุกอย่างให้อยู่ในการควบคุมของเขา
ก่อนที่มันจะสายไป...