ตอนที่ 1 รายงานพฤติกรรม
พีพีคาเฟ่
ณ ร้านกาแฟใต้อาคารขนาดสิบแปดชั้นซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทพีแอนด์พีเอนเตอร์เทนเมนต์คลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่เข้ามาหาเครื่องดื่มและขนมหวาน
เพราะพีแอนด์พีมีพลอยมันตราเป็นบริษัทลูกที่คอยจัดหาและพัฒนาศิลปินในสังกัดเพื่อส่งไปร่วมงานบริษัทแม่ ทำให้หลายคนเข้ามาในคาเฟ่นี้เพื่อดักรอเจอศิลปินของพลอยมันตรา นอกนั้นยังมีบางคนที่อยากเป็นนักแสดงก็มักจะมาที่นี่เผื่อว่าจะเตะตา
แมวมองแล้วถูกชักชวนเข้าวงการ
บานประตูของคาเฟ่เปิดจากด้านนอกอาคาร ชายหนุ่มตัวสูงโปร่งที่มีบุคลิกคล้ายนายแบบที่กำลังเดินบนรันเวย์ ลาดไหล่หนาโค้งไปบรรจบกับกรอบหน้าที่ได้สัดส่วนทองคำเหมือนเทพเจ้าจงใจปั้น ดวงตาแน่วแน่รับกับจมูกโด่งคม และริมฝีปากบางเรียบ
สีผิวที่ไม่ได้ขาวจัดทำให้ดวงหน้าเขา ดูโดดเด่น ผมสั้นสีดำขลับยาวประบ่าเข้ากับเสื้อเชิ้ตสีเทา กางเกงยีนสีขาวกับขายาว ๆ นั้นเข้ากับเขามาก
สาววายวัยมัธยมต้นที่มาดื่มกาแฟใต้ค่ายของพระเอกที่ตัวเองชอบเริ่มจับตามองแล้วพยายามจำแนกว่าผู้ชายที่โดดเด่นสะดุดตาคนนี้จัดอยู่ในประเภทไหนระหว่าง ศิลปิน คนอยากเป็นศิลปิน เพราะเขาใส่แว่นดำแถมยังยืนหันข้างให้ พวกเธอเลยไม่เห็นหน้าชัด ๆ พอที่จะจำแนกได้ ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจละความสนใจเพราะออร่าความหล่อของเขาก็พุ่งจนหยุดมองไม่ได้
"อเมริกาโน่เย็น ใช้เมล็ดกาแฟคอสตาริกาแบบคั่วอ่อนเหมือนเดิมใช่ไหมครับ"
พอบาริสต้าเอ่ยเดาเมนูที่เขาจะสั่งแล้วพี่คนหล่อก็พยักหน้ารับ
สาวน้อยสายเผือกเริ่มมองตากัน ลองว่าพนักงานจำได้
แบบนี้แปลว่าเขาคงมาบ่อย พวกเธอพยายามนึกให้ออกว่าเขาเป็นคนดังไหม ที่อยากรู้ก็เพราะจะได้เอาไปอวดเพื่อนว่ามาตึกพีแอนด์พีแล้วเจอดารา
"กิ๊ง ไปถามพี่เสื้อเทาคนนั้นหน่อยว่าเขาเป็นดาราไหม"
แน่นอนว่าความอยากรู้อยากเห็นก็ต้องหยุดด้วยการถาม แต่พวกเธออาย หนึ่งในกลุ่มจึงกระซิบบอกน้องสาววัยประถมที่ตนพามาเฝ้ารอดาราเป็นเพื่อนเพราะแม่ไม่ว่างดูน้อง ยายกิ๊งเหมาะเป็นตัวแทนของหมู่บ้านที่ต้องเข้าไปหาคำตอบเพราะยังเด็ก เขินอายไม่เป็น
"อื้อ" เด็กหญิงรับคำแล้ววิ่งตื๋อไปหาเป้าหมายท่ามกลางความลุ้นของเด็กวัยใสบนโต๊ะ
ไม่นานเจ้าตัวก็ไปยืนข้าง ๆ พี่ชายที่กิ๊งเองก็เห็นว่าหน้าตาดีมากกว่าพระเอกซีรีส์ที่พี่ ๆ ชอบดู
"พี่คะ พี่เป็นดาราหรือเปล่าคะ"
ณพลรับกาแฟจากพนักงานในร้าน เขากำลังจะถือแก้วเครื่องดื่มเย็นสดชื่นเดินกลับไปทำงาน แต่ก็มีเด็กมาดักหน้าเขาแล้วเอียงคอมองด้วยสายตาแสนสงสัย
'พี่คะ พี่เป็นดาราหรือเปล่าคะ'
ถ้าเป็นคนอื่น ณพลอาจจะไม่ยิ้มแย้มอย่างเอ็นดูก็ได้
แต่เด็กน้อยวัยประถมหน้าตาน่ารักคนนี้ท่าจะอยากมาเจอดารา แต่เขาก็คงจะต้องบอกความจริงที่จะทำให้น้องผิดหวังเพราะณพลเป็นแค่คนที่เคยเป็นนายแบบอยู่ไม่นานแล้วผันตัวไปทำงานเบื้องหลังเขาเลยไม่เคยนับตัวเองเป็นดารา
"ความจริงแล้ว พี่เป็นประธานบริษัทครับ" ริมฝีปากบาง
คลี่ยิ้มอ่อนโยนให้เด็กน้อยแล้วเดินออกไป
เด็กหญิงเดินกลับไปหาพี่ ๆ ที่รอลุ้นคำตอบอยู่ แล้วบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
"พี่เขาบอกว่าเป็นประธานบริษัท"
เสียงทุกคนในกลุ่มร้อง หูววว อย่างชื่นชม
"พี่เขาเท่ที่สุดเลยอ่า"
"ใช่ เราไปโม้ได้เลยว่าเจอประธานที่หล่อแล้วก็ใจดีด้วย"
ทุกคนเริ่มคุยกันอย่างตื่นเต้น จากนั้นพอบานประตูคาเฟ่เปิด
อีกครั้งพวกเธอก็ต้องร้อง หูววว กันขึ้นมาอีกเพราะคราวนี้เจอคนดังของจริง
คนที่เพิ่งเดินเข้าร้านมาคือ แพททริเซีย ดีน นางเอกสาวที่มีดวงหน้าสไตล์ลูกครึ่งที่สวยสมฐานะนางเอกชื่อดังแห่งยุคเพราะความงดงามของเจ้าตัวนั้นโดดเด่นแบบตะโกน
ฉายาที่ว่าเธอสวยกินคนนั้นไม่เกินจริง ทันทีที่เห็นเธอเดินผ่าน ทุกคนก็ตะลึงกับความสวยจนลืมหายใจ
แม้แต่กิ๊งเองยังต้องยกมือขึ้นมาปิดปากแล้วทำตาโต เพราะจำได้ว่าพี่คนนี้คือพี่นางเอกละครหลังข่าวที่กำลังดัง ป้ายโฆษณาของพี่เขาติดอยู่ทั่วบ้านทั่วเมือง
เด็ก ๆ รอจังหวะเข้าไปขอถ่ายรูปกับดาราสาวแบบกล้า ๆ กลัว ๆ เพราะละครเรื่องล่าสุดที่เจ้าตัวเล่นเป็นนางเอกแต่ผู้ชมต่างบอกว่าเธอเหมือนเป็นนางร้ายคนหนึ่งเพราะได้บทที่รู้ทันนางร้ายและแกล้งคนที่ร้ายด้วยกลับแบบไม่ยอมกัน แถมหน้าตาสวยเฉี่ยวนั้นทำให้เด็ก ๆ ไม่แน่ใจว่าตัวจริงนั้นแพททริเซียจะเป็นมิตรไหม
แม้จะกังวลแต่ว่าพวกเธอก็อยากจะขอลอง
"พี่ขา หนูขอถ่ายรูปกับพี่ได้ไหมคะ"
แพททริเซียมองเด็กวัยมัธยมที่มาถามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ แล้วคลี่ยิ้มให้
ท่านประธานที่เธอทันเห็นหลังเขาไว ๆ เคยบอกว่า ศิลปินในสังกัดต้องให้เกียรติแฟนคลับเสมอ แม้จะอยากเดินตามเข้า
ไปคุยกับเขาใจจะขาดแต่เธอก็เลือกที่จะให้ความเป็นกันเองกับ
แฟนคลับเป็นอันดับแรก
"ได้สิคะ" นางเอกสาวบอกเสียงหวาน แล้วแอบหันไปมองท่านประธานที่ผินหน้ามามองเธอเล็กน้อยคล้ายจะสนใจหรือไม่สนใจเธอก็เดาไม่ออก
เขามองมาที่เธอหรือเปล่าไม่รู้ แต่ที่รู้ ช่วงนี้ขอทำดีเอาหน้ากลบเกลื่อนข่าวฉาวหน่อยก็แล้วกัน
เผื่อท่านประธานแห่งพลอยมันตราจะได้เมตตาเธอบ้างอะไรบ้าง!
ภาพของท่านประธานแสนใจดีที่เด็ก ๆ เห็นตอนอยู่ในคาเฟ่นั้นเปลี่ยนแปลงทันทีที่เขาก้าวขาเข้ามาในบริษัท เพียงแค่บานประตูที่กั้นระหว่างส่วนคาเฟ่กับทางไปสำนักงานใบหน้าหล่อปานเทพบุตรที่เจือรอยยิ้มนั้นก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็นประดุจน้ำแข็ง
เมื่อบานประตูลิฟต์เปิดยังชั้นที่เป็นออฟฟิศของพลอยมันตรา
แล้วประธานของบริษัทเดินออกมา ความหนาวยะเยือกก็แผ่ไปทั่วบริเวณ ถึงแม้เขาจะค้อมหัวให้แก่คนที่ไหว้ทักทาย รวมทั้งยกมุมปากนิด ๆ ให้แก่พนักงานทุกคนที่เขาเดินผ่าน แต่ดวงตาเรียวรี
ที่ปลายหางตาเฉียงขึ้นบนเล็กน้อยนั้นเปล่งประกายบางอย่างที่
บ่งบอกว่า วันนี้เขาอารมณ์ไม่ดี
พอท่านประธานหนุ่มที่คนในออฟฟิศเคยกรี๊ดตอนเขาเป็นนายแบบที่หล่อปานลูกรักพระเจ้าเดินเข้าไปในห้องทำงานแล้วหายลับตา ความหนาวนั้นก็จางหายไป
"ช่วงนี้บอสดูเครียดนะ"
"คงเป็นเพราะนักแสดงมีข่าวเสียหายเยอะมั้ง"
"ต้องทำใจเนอะ มีข่าวยิ่งมีกระแส ดูอย่างแพททริเซียสิ
มีข่าวแย่มาตลอด แต่รายได้ของนางทำกำไรให้บริษัทเกินครึ่งหนึ่งของรายได้จากทุกคนรวมกันอีกนะ"
"รายนั้นก็นะ ตัวจริงก็ดูน่ารักดี แต่ทำไมมีแต่ข่าวลบ ๆ"
"นั่นสิ อ่านข้าวแล้วต้องขยี้ตาทุกที ที่ข่าวเขียนว่าน้องเหวี่ยงวีนจนเหมาะกับบทนางร้ายมากกว่านางเอกน่ะฉันว่าเฟคนิวส์ชัวร์"
"จริงแก น้องอาจจะดูแรง ๆ พูดตรง ๆ ตามสไตล์ฝรั่ง เป็นตัวของตัวเองจัดเลยดูแรง ๆ ไปบ้าง แต่ไม่ขนาดนั้นป้ะวะ"
"ฉันว่าคนที่เขียนข่าวกับคนเชื่อข่าวเป็นคนที่ไม่รู้จักน้อง
จริง ๆ แต่พวกแฟนคลับกับเพื่อนร่วมงานรู้กันแหละ ไม่อย่างนั้นคงดับไปนานแล้ว"
"จริงของแก แล้วอิพวกข่าวเฟคนิวส์แบบนี้มันดันขายดีด้วยสิ"
"หรือว่าที่บอสเครียด เป็นเพราะรู้ว่าแพทเป็นเด็กดี แต่โดนข่าวโจมตีไม่เลิก"
"ใช่เลย ต้องใช่แน่ ๆ"
เหล่าพนักงานของพลอยมันตราซุบซิบกันหลายประโยคแล้วค่อยหันมาทำงานคัดเลือกคนที่เข้าเกณฑ์ที่สมัครเข้ามาร่วมโครงการประกวดหานักแสดงหน้าใหม่
ณ ห้องทำงานของประธานบริษัทพลอยมันตรา
ภาพข่าวของแพททริเซียหลายวันหลายเหตุการณ์ถูกเซฟลงในไอแพดแล้วนำมารายงานท่านประธาน 'แทนไท' เลขาของณพลเห็นภาพเจ้านายยกปลายโป้งขึ้นคลึงขมับแล้วก็ลอบกลืนน้ำลาย
วันนี้ต้องบอกทุกคนอยู่เงียบ ๆ เพราะท่านประธานอารมณ์ไม่ดีเสียแล้ว
"แพทเข้าบริษัทอีกวันไหน"
"วันนี้ครับ มีถ่ายรายการและเซ็นสัญญาพรีเซนเตอร์สองตัว"
ณพลพยักหน้ารับ
เขาปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำตัวให้เป็นข่าวเสมอทำให้มีกระแส ตั้งแต่เข้าวงการมาแพททริเซียมีแสงส่องตลอดราวกับเกิดมาเพื่อเป็นดวงดาวจรัสแสง ตอนที่ทำงานเขาก็รู้ว่าเธอมีวินัย ถ่ายละครกองไหนใครก็เอ็นดู
ความโด่งดังและรายได้ของแพททริเซียทำให้บริษัทโมเดลลิงที่ณพลแยกออกมาจากบริษัทแม่เพื่อฝึกมือกับการบริหารงานในวงการบันเทิงเติบโตแบบก้าวกระโดดก็จริง แต่การที่เธอมีข่าวแบบนี้เรื่อย ๆ จะมีผลทำให้เสียการปกครอง นักแสดงคนอื่นในค่ายก็เริ่มแสดงความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นและสนใจกฎระเบียบของบริษัทน้อยลง
กับคนอื่นก่อนปั้นให้ดังก็ตกลงยอมทำทุกอย่าง พอบริษัทลงทุนให้แบบโมทั้งหน้าโมทั้งตัว ทั้งโปรโมตให้เต็มที่ พอเริ่มดังการกระทำที่ผิดข้อตกลงก็เยอะขึ้นเพราะมีแพททริเซียเป็นผู้นำเทรนด์ในการท้าทายอำนาจมืดของค่าย
"คิดว่าตัวเองสำคัญแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ..." ณพลดูภาพข่าวใหม่ที่มีหัวข้อซ้ำกับที่เป็นข่าวในเดือนก่อนแล้วพึมพำกับแทนไท
"ถ้าเขาเสร็จธุระแล้วก็เรียกขึ้นมาพบฉันด้วย" ณพลยื่นไอแพด
คืนให้ผู้ช่วยแล้วสั่งด้วยเสียงเข้ม
"ครับ"
แทนไทออกจากห้องท่านประธานมาพร้อมกับบทสรุปของเหตุการณ์ล่วงหน้า
ผู้ช่วยมือหนึ่งของณพลรู้เลยว่างานนี้มีการเชือดไก่ให้ลิงดูแน่นอน!