จริงจังแค่ไหน

1527 Words
“เลี้ยงนะคะ ซอมพอไม่ได้เอากระเป๋าตังค์ลงมาเลย” “ครับผม” เขายิ้มออกมาเต็มใบหน้า กุมมือที่จับมือเธอเอาไว้แน่น ก่อนจะพากันเดินออกไปทางร้านอาหารเช้าที่เรียงรายกันอยู่ไม่ไกลจากคอนโด สองคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ต่างถามไถ่ข้อมูลของกันและกัน ดูแล้วไวทินจะปลื้มกับความน่ารักสดใสของปุณฑราเอามาก ๆ ส่วนแม่สาวซอมพอก็ชักจะเอนเอียงกับความช่างเอาใจ และความขี้อ้อนของพ่อเอ้ยเข้าแล้วสิ คงจะมีข่าวดีในอีกไม่ช้านี้   “อยู่เป็นเพื่อนผมก่อนนะ ก่อนจะออกไปผมโหลดหนังฝรั่งน่าดูเอาไว้เรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องรักโรแมนติก ต้องมีคนนั่งดูเป็นเพื่อน มันถึงจะสนุกนะครับ” เอ้ยยืนอ้อยอิ่งมองจ้องหน้าซอมพออยู่ที่หน้าห้องของทั้งคู่ “ไม่ได้หรอกค่ะ เมื่อวานคุณก็ทำให้ฉันเสียงาน ผ้ายังไม่ได้ซักไม่ได้รีดเลย” เธอตอบออกไปแทบทันที “งั้นกี่โมง ผมจะรอ ผมทำงานรอนะ คุณรีบทำทุกอย่างให้เสร็จเร็ว ๆ นะ ไม่งั้นผมตามถึงห้องด้วย” เอ้ยไม่ยอมท่าเดียว ทึกทักเอาแต่ใจ ก่อนจะดันหลังเธอให้เข้าห้อง แล้วตัวเองกลับเข้าห้องไปยิ้มอย่างพอใจหญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าแต่ก็หัวเราะออกมาได้ ติ๊ง ๆ... เสียงเตือนว่ามีข้อความเข้า ซอมพอรีบหยิบโทรศัพท์วางอยู่ไม่ห่างขึ้นมาดู (‘เสร็จหรือยังครับที่รัก ผมรออยู่นะ คิดถึงคุณใจจะขาดแล้ว’) ข้อความของเขาทำให้เธออมยิ้มออกมาอยู่ตลอดเวลา ซอมพอนั่งเฝ้าเครื่องซักผ้าอัตโนมัติอย่างใจจดใจจ่อ “คิดอะไรอยู่ เห็นนั่งยิ้มอยู่คนเดียว ฮึ...” เสียงพี่ตั้วถามขึ้น เพราะสังเกตเห็นปุณฑรายิ้มกับโทรศัพท์อยู่อย่างนั้น เธอไม่ตอบแต่ยกหน้าขึ้นไปยิ้มให้ “เดี๋ยวพี่สองคนจะออกไปกินข้าวข้างนอก จะแวะไปซื้อของใช้ที่ห้างด้วย ไปด้วยกันไหม” ตั้วเอ่ยชวน “ไม่ดีกว่าค่ะพี่ ตามสบายเถอะค่ะ เอ่อ... พี่ตั้วคะ แล้วพี่ส้มว่าไงมั่งเรื่องของซอม” เธอมองหน้าพี่เขยขอความเห็นใจ “ซอมพอ เรานะโตแล้วนะ ทำอะไรพี่แค่ให้เราคิดดี ๆ ถ้าเขาจริงจังจริงใจก็พามารู้จักกับพี่ส้มของเราเอาไว้ดีกว่าไหม” ตั้วออกความคิดเห็น “อย่างน้อย ก็ให้พวกพี่ได้ช่วยดูเขาให้อีกคน” ตั้วให้คำแนะนำ แล้วหยิบน้ำออกมาจากตู้เย็นก่อนจะเดินกลับเข้าห้องไป เธอมองตามพี่เขยพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ  ซอมพอนั่งมองหน้าจอโทรศัพท์ เอ้ยถ่ายรูปตัวเองพร้อมกับเขียนสติกเกอร์หัวใจแปะอยู่ส่งมาให้เธอด้วย “เอาไงล่ะ เป็นไงเป็นกัน ลองดูสักตั้ง ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว” เธอบอกกับตัวเอง แค่นึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เลยเถิดไปถึงขั้นไหน ๆ เธอจะถอนตัวอย่างไรได้ อีกอย่างเธอรู้สึกชอบเขาขึ้นมาจริง ๆ บ้างแล้วสิ พอเครื่องซักผ้าหยุด ปุณฑรารีบเอาเสื้อผ้าที่ซักออกมาตากแทบทันที ก่อนจะกลับเข้าห้องไปอาบน้ำแต่งตัวที่คิดว่าเรียบง่ายและดูดีที่สุด เพื่อไปตามนัดของเอ้ย พี่สาวกับพี่เขยพากันออกไปก่อนที่เธอจะแต่งตัวเสร็จ ส้มป่อยและตั้วเปิดประตูออกมา เห็นพ่อคุณเอ้ย ยืนยิ้มหน้าแป้นอยู่ที่หน้าห้อง เขารีบยกมือไหว้ทั้งสองคน ส้มป่อยมองเขาด้วยสายตาค้อน ๆ ทำหน้าบึ้งนิด ๆ แต่ตั้วกลับยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ก่อนทั้งสองจะยกมือรับไหว้ “จะไปไหนกันหรือครับ” เอ้ยเอ่ยถาม “ไปเที่ยวห้าง ชอปปิงกัน” ตั้วตอบ แต่ส้มป่อยทำสีหน้าเชิด ๆ มองชายหนุ่มแบบสำรวจ เขาออกอาการเก้อทำตัวไม่ถูก พี่ส้มป่อยเล่นมองเขาด้วยสายตาแบบนี้ เพราะไวทินไปทำอะไรที่ไม่เข้าตาทั้งสองเอาไว้อยู่แล้ว เหมือนมีชนักติดหลัง เขายกมือขึ้นลูบศีรษะแก้เก้อ “อ้อ แล้วเอ้ยจะไปไหน” ตั้วเอ่ยถาม “คุณซอมพออยู่ไหมครับ” เขาถามขึ้นมาแทบทันที ใช้มือชี้ไปที่ห้องของทั้งสองคน “ซักผ้าทำงานบ้านอยู่” พี่สาวตอบออกมาด้วยน้ำเสียงขวาง ๆ “ครับ” เขาเอ่ยขึ้นมาน้ำเสียงจ๋อย ๆ “จะเข้าไปหากันหรือ” ตั้วพูดเปิดทาง ภรรยาสาวหันไปมองหน้าสามีขวับ หรี่ตามองหน้าเขาแบบมีปัญหา “ครับ” ไวทินยิ้มออกมาแบบเริงร่า มองหน้าพี่ส้มป่อยส่งสายตาอ้อน ๆ ตั้วยิ้มให้เอ้ย เขายกมือขึ้นบีบกระชับที่ไหล่ของภรรยาทันที “รักจริง หวังแต่งหรือเปล่าเนี่ย” พี่สาวพลั้งปากถามขึ้นมา มองหน้าเอ้ยแบบตรวจตราอีกครั้งหนึ่ง ใจก็ขุ่นเคืองอยู่พอประมาณ และอีกอย่างก็อยากรู้จักนายไวทินใจจะขาด แม่น้องสาวก็หนีหน้าเธอตลอด “ครับ” เอ้ยรับปากออกมาอย่างที่ใจคิด เขาไม่รู้จะปฏิเสธไปทำไม หากว่าใจของเขาอยากที่จะให้มันเป็นอย่างนี้ “อ้าว เสียเวลามากแล้ว เดี๋ยวก็ไม่ทันดูหนังนะส้มป่อย” พี่ตั้วดันหลังภรรยาให้ก้าวเดิน “เข้าไปสิ” พี่ตั้วเปิดประตูให้ชายหนุ่ม เขารู้สึกถูกชะตากับไวทินอยู่ไม่น้อย “เย็นนี้พี่ซื้ออะไรมาทำกินกัน เอ้ยอยู่กินด้วยกันนะ จะได้รู้จักกันมากขึ้น เราดื่มหรือเปล่าฮึ” “ดื่มบ้างครับ แต่ไม่ใช่สิงห์นักดื่มสักเท่าไหร่” เขาออกอาการดีใจที่เห็นท่าทีของพี่ตั้วที่แสดงออกมา “งั้นเย็นนี้เรามาดริงก์กัน ไปก่อนนะ” สามีดันหลังภรรยาให้เดินนำ ปากก็ชวนคุยว่าวันนี้สองคนจะทำกิจกรรมอะไรกันที่ห้างสรรพสินค้าบ้าง ส้มป่อยเดินแบบซังกะตาย นึกเคืองสามีเข้าบ้างแล้ว ผู้ชายนะผู้ชาย ร้อยทั้งร้อยก็เข้าข้างกันอยู่ดี พี่ตั้วตบตูดภรรยาเบา ๆ และแกล้งบีบเล่นเธอโวยวายขึ้นมาใหญ่ และทั้งสองก็หยอกเย้ากันอย่างมีความสุข เอ้ยปิดประตูคอนโดลงอย่างเบามือ ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องของหญิงสาว เธอกำลังเดินสวนออกมาทันที “อุ้ย... ตกใจหมด เข้ามาได้ยังไงคะ” เธอถามเขาออกมาทันที เอ้ยเข้าประชิดตัวหญิงสาว ก่อนจะโอบตัวเธอตรงไปที่เตียง ก่อนที่จะล้มลงบนเตียงไปทั้งสองคน เขานอนเกยร่างทับเธอเอาไว้ ส่งสายตาหวานเชื่อม “ผมรอไม่ไหว เลยเข้ามาตามคุณ” “ใครเปิดประตูให้คะ” ซอมพอยิ้มตอบ มีอาการเขินหน้าแดงอยู่บ้าง “พี่สาวกับพี่เขยของคุณน่ะครับ” เขาทำสีหน้ายิ้มแย้ม “จริงอะ” เธอถามออกมาแบบไม่เชื่อใจ “พี่ส้มป่อยนี่นะ เขาไม่แหกอกคุณหรือคะ ทำเรื่องเอาไว้เธอยังไม่ได้ชำระความกับเราเลย” เธอนึกไปถึงใบหน้าของพี่สาวแล้วยิ้ม ๆ “ถามผมใหญ่ ว่าจริงจังจริงใจกับคุณหรือเปล่า” ซอมพอทำสีหน้าแปลกใจ มองจ้องเข้าไปในดวงตาของเขา “แล้วคุณตอบว่าไง” เธอถามออกไปด้วยความอยากรู้ ตอนนี้หัวใจเต้นแรง “ผมก็บอกว่าผมจริงจังนะสิ คุณเชื่อผมไหม” เขามองเข้าไปในนัยน์ตาของเธอ ส่งสายตาเว้าวอน “เร็วไปไหมคะ” “ผมอยากมีคุณ คุณน่ารักออก ผมอยากมีเมีย” เอ้ยพูดจบ ฉกริมฝีปากลงไปแทบทันที ซอมพอตกใจกับคำตอบของเขา แต่ก็ยอมเปิดปากให้เขาส่งลิ้นเข้าไปทักทาย สองมือน้อย ๆ ค่อย ๆ ยกขึ้นโอบรอบคอของเขาเอาไว้ทันที จูบที่ดูดดึงซึ่งกันและกัน หญิงสาวได้แต่หลับตาพริ้ม หัวใจของเธอยิ่งเต้นแรงเข้าไปอีก เมื่อเขาเริ่มล้วงมือเข้าไปภายใต้เสื้อที่เธอใส่ และสอดฝ่ามือเข้าไปภายใต้บราเซีย ขยำหน้าอกอย่างมันมือ “อือ...” ซอมพอร้องครางประท้วง รีบลดมือเพื่อห้ามปรามชายหนุ่ม เขาผละริมฝีปากออก ก่อนจะจ้องสบตาเธออย่างอ่อนโยน “ผมเหงา เรามาอยู่ด้วยกันไหม” เขาส่งน้ำเสียงอ้อนวอน “คุณ...” ซอมพอรู้สึกตกใจ และไม่คิดว่าเขาจะจู่โจมเธอหนัก ไวทินซุกหน้าลงกับซอกคอนุ่ม ๆ ก่อนจะไล่ปลายลิ้นทักทายผิวกายนวล “คุณเอ้ย...อื้อ...” เธอพยายามเรียกชื่อเขา ก่อนจะใช้มือง้างใบหน้าของเขาให้ออกห่างจากเนื้อตัว ไวทินยอมโดยง่าย แต่สองมือของเขาสอดประสานจับมือของร่างบางที่อยู่ใต้ร่างเอาไว้แน่น “ตอนนี้หัวใจผมมันเต้นแรง แล้วก็ได้แต่เรียกร้องหาแต่คุณ ผมใจจะขาดแน่ ๆ ถ้าคุณยังไม่รับปากผม” 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD