เมียเช่าคืนเดียว บทที่3.

1541 Words
บทที่3.นางกลางคืน... แซกยังไม่วายสงสัย แววนิลไม่มีทีท่าว่าอยากขายตัว แล้วจะทำยังไงให้หล่อนสมยอม เขาไม่อยากเดือดร้อน...เมื่อคู่กรณีใหญ่คับเมือง...เดี๋ยวมันจะพลอยร้อนที่อยู่ไม่สุข “ไม่ยาก รอฉันเรียกแล้วกัน...เหลือเวลาเท่าไรล่ะ?” องอรรับจานอาหารกับน้ำมาจากแม่ค้า หล่อนถือถาดไว้ เปรยถามแซกเสียงนิ่งๆ “30นาที เดี๋ยวจะมีคนมารับ” “อืม...ทัน” หล่อนเดินโยกสะโพกไป พร้อมกับคำพูดลอยๆ แซกหมดความสนใจ เขากำเงินค่าส่วนแบ่งเหนาะๆ ในมือ ไม่มีทางยอมให้หลุดมือแน่...หากแววนิลขัดขืน คงต้องใช้กำลังข่มขู่ แต่หากไม่ต้องใช้เลยน่าจะดีกว่า เขาไม่อยากให้สินค้าช้ำ ก่อนจะถึงมือลูกค้า “ส่วนของฉัน...ฉันยกให้...” องอรหมุนตัวกลับมาพูด...เธอทำเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง ใช้โอกาสเหมาะๆ ให้เกิดประโยชน์... ถีบอีแววนิลลงเหว...อยากรู้นัก แววตามารดาของหล่อนจะเป็นอย่างไร หากรู้ว่าบุตรสาวทำตัวไร้ค่า...ทอดกายเพื่อเงิน...เหมือนที่ก่นด่ามารดาของเธอ... องอรยิ้มเยาะ หล่อนสาแก่ใจจนอยากหัวเราะดังๆ และก่อนที่จะเข้าห้องตัวเอง องอรล้วงยาหนึ่งแคบซูลออกมาจากร่องอก ถาดถูกวางบนโต๊ะเตี้ยๆ เธอหมุนซ้าย หมุนขวา บิยาเม็ดนั่น...เทใส่จานข้าว...พร้อมกับยิ้มมุมปาก... องอรนั่งมองแววนิลที่กำลังกินข้าวด้วยความหิว เธอมองนิ่งๆ ทำตัวเหมือนปกติ จนกระทั่งข้าวทั้งจานหมดลง หญิงสาวตรงหน้าจึงเงยหน้าขึ้นยิ้มให้เธอ พร้อมกับเสียงขอบคุณเบาๆ “แววขอบคุณพี่อรนะ ไม่มีพี่อร แววคงแย่” “ไม่เป็นไร...ช่วยๆ กัน ไงเธอก็เลือดสีเดียวกับฉัน” องอรไหวไหล่แบบไม่ใคร่จะแคร์ เธอไม่สนคนบ้านนั้นตั้งแต่ทรงพลตัดรายจ่ายที่เคยให้มารดา ทำให้เธอกับแม่เดือดร้อน ต้องขวนขวายหาเงินเลี้ยงตัวเอง ความผูกพันนั้นมันไม่มีความหมายเลย เพราะมันมีแต่ความเคลือบแคลง และแค้นใจ แม่เธอผิดอะไร? แม่เธอต้อยต่ำขนาดไหนเชียว บิดาจึงทิ้งไปแบบไม่เหลียวแล แถมยังไร้ความรับผิดชอบต่อเธอกับมารดา เพราะเธอก็เป็นลูกของเขาเช่นกัน ทรงพลทุ่มเทให้ครอบครัวใหม่ ในขณะที่เธอกับแม่ต้องดิ้นรนเลือดตาแทบกระเด็น ความแค้นครั้งนั้น ไม่เคยจางหาย และไม่คิดว่าเธอจะได้เอาคืน...จนกระทั่ง แววนิลมาหาครั้งนี้ หล่อนกำลังเดือดร้อน กำลังเข้าตาจน...เอาสิ...เธอจะช่วย...แต่ไม่ได้ช่วยเหลือนะ จะช่วยซ้ำ!! แววนิลสะบัดใบหน้าแรงๆ เธออิ่มจนจุกไปหมด หิวจนไส้กิ่วก็ตอนที่ได้กลิ่นอาหาร...น้ำย่อยในกระเพาะทำงาน จนไม่รีรอหรือหยุดคิด...เมื่อองอรยื่นจานข้าวให้ มารู้สึกผิดปกติเอาก็ตอนที่เกิดความผิดปกติในร่างกายตัวเอง ตาเธอพร่า แขนขาอ่อนแรง และเหมือนจะหลับ… เกิดอะไรขึ้น!! เธอเป็นอะไร... “แววขอตัวกลับก่อนนะพี่อร แววรู้สึกแปลกๆ” สัญชาตญาณเตือน เธอจิกนิ้วที่ผิวเนื้อตัวเอง มันรู้สึกชาๆ แต่ไม่เจ็บ แถมสติของเธอใกล้หลุดเต็มที “ได้ไงแวว...เธอไม่เอาสตางค์เหรอ?” เสียงขององอรฟังลอยๆ แววนิลพยายามฝืนความง่วง ยันกายลุกขึ้นยืน แต่ทำได้แบบเชื่องช้าจนน่าใจหาย... “ไม่แล้ว....แวว...แววไปหาที่อื่นดีกว่า ยังพอมีเวลา...” แววนิลคิดช้าไป เธอลืมได้ยังไง องอรเกลียดเธอกับแม่ หล่อนคงไม่มีทางช่วยเธอแน่ๆ และเวลานี้เธอเป็นอะไรไม่รู้ ร่างกายมันรวนแปลกๆ “เธอดูไม่ดีเลยแวว เป็นอะไรไปเหรอจ๊ะ” องอรยิ้มหวาน ยาตัวนั้นเธอใช้เวลาทำงาน หากไม่มีอารมณ์ร่วมกับลูกค้า เขาจะพาลเซ็ง เธอเบื่อที่ต้องร้องครางทำตัวเหมือนสุขสำราญเต็มที่ ทั้งที่ความจริงคือ...เอือมจนอยากอ้วก ยาตัวนี้ทำให้มีลูกค้าติดใจเธอเพิ่มขึ้น เธอมีรายได้เพิ่ม!! แม้จะขยะแขยงตัวเองแทบตาย แววนิลส่ายหน้า เม็ดเหงื่อผุดซึมออกมาทางรูขุมขน ร่างกายร้อนวูบๆ โดยเฉพาะตรงหว่างขา เนื้อตัวคันยุบหยับเหมือนมีหนอนตัวเล็กๆ กำลังชอนไช “แววกลับละนะ” เธอกลั้นใจ จิกเล็บกับเนื้อที่อุ้งมือ แต่มันชาจนเธอตระหนก ช้อนสายตาหวาดระแวงมององอร “พี่อรทำอะไรแวว?” เสียงถามสั่นพร่า เธอถอยหลัง แต่ดูเหมือนร่างกายไม่เป็นใจ มันทำงานได้แบบเชื่องช้าจนน่าใจหาย... “ฉันจะไปทำอะไรแกแวว...ฉันช่วยแกอยู่นะนี่” องอรผุดลุกขึ้นยืน เธอได้ยินเสียงรองเท้าย่ำปึงปังบนพื้น!! แซกคงมาถึงแล้ว “ไปกันเถอะอีอร มึงจะไปด้วยหรือเปล่า?” ประตูเปิดผั๊วะเข้ามา...แบบคนไร้มารยาท เมื่อคนเปิดไม่คิดจะเคาะบอกคนด้านในเสียก่อน ใบหน้าดุๆ โผล่เข้ามาพร้อมกับคำถาม “ไปสิ!! ฉันต้องไปส่งน้องฉันขึ้นสวรรค์...ด้วยตัวเอง” เสียงองอรเย็นชา มีรอยยิ้มแปลกๆ แววนิลตระหนกซ้ำ สองคนนี้พูดเรื่องอะไรกัน พวกเขามองเธอแปลกๆ “ไปกันเถอะแวว อีกหนึ่งอึดใจเธอจะได้เงินตามที่ต้องการ เธอจะไม่เดือดร้อนเลยนับต่อจากนี้” องอรเดินเข้ามาฉุด พร้อมกับออกแรงลาก แววนิลพยายามขืนร่างกายไว้ แต่ดูเหมือนจะไร้ผล ขาของเธอขยับเดินตามองอรไปช้าๆ สมองของเธอเบลอจนคิดอะไรไม่ออก รู้แค่ว่า...เธอร้อนไปทั้งตัว แววนิลไม่รู้ตัว เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถูกพาไปที่ไหน เมื่อความร้อนวูบวาบแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย เธอครางเสียงแผ่วๆ หัวใจเต้นถี่ บิดเนื้อตัวไปมาเมื่ออาการบางอย่างกำลังกระตุ้นให้เธอทำ โรงแรมมีชื่อ...การตกแต่งสวยงามสมราคา มีผู้คนเดินสวนไปสวนมา แต่ละคนแต่งกายสวยงาม องอรเบ้ปาก เธอแอบอิจฉาแววนิล หล่อนเสียตัวครั้งแรกก็จริง...แต่กลับไม่ใช่ห้องพักโทรมเหมือนเธอ ราคาค่าตัวแววนิลมากโขจนเธอตาโต แต่เมื่อออกปากยกให้แซกไปแล้ว ก็ตามนั้น “ทำตัวดีๆ ละ อย่าเรื่องมาก...” แววนิลได้ยินเสียงองอรสั่งบางอย่าง ก่อนที่เธอจะถูกผลักเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง หญิงสาวยืนหมุนคว้าง...ดวงตาเธอเริ่มพร่า ความง่วงหายไป เหลือแต่ความรู้สึกแปลกๆ ที่บอกไม่ถูก ดุ๊กนั่งอยู่บนเก้าอี้มุมห้อง เขากำลังเบื่อทุกสิ่งรอบตัว ไม่ว่างานที่ยุ่งจนโงหัวไม่ขึ้น หรือเรื่องผู้หญิง...เขาเบื่อพวกหล่อน เบื่อความวุ่นวายที่สาวๆ เหล่านั้นขยันทำ และในวันที่เซ็งสุดขีด ก็มีผู้ชายคนหนึ่งมาเสนอ ‘ขาย’ ผู้หญิงหนึ่งคน กับไม่กี่ชั่วโมงแห่งความตื่นเต้น ความจริงเขาควรบอกปัด แต่คำพูดของหมอนั่นทำให้เขาเปลี่ยนใจ มันบอกว่าผู้หญิงคนนี้ ‘บริสุทธิ์’ เอาน่า...เขาเจอแต่ผู้หญิงกร้านโลกมาจนเอียน ลองชิมความหวานของเนื้อสมันแรกแย้มดูบ้าง...เขามีกำลังจ่าย เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา และความสุนทรีย์ที่เกิดขึ้น คงช่วยทำให้เขาหายเบื่อได้บ้าง... ชายหนุ่มส่ายหน้า สภาพหล่อนเห็นแล้วชวนสังเวชผู้หญิงตรงหน้าไม่ได้แต่งกายมาเพื่อยั่ว หล่อนเหมือนคนเดินถนนปกติ หน้าตาตื่นๆ ของหล่อนต่างหาก ที่ทำให้เลือดหนุ่มพลุ่งพล่าน “มานี่สิ?” ชายหนุ่มโบกมือเรียก... แววนิลกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เธอหรี่ตาเพื่อให้เห็นชัดขึ้น แต่ภาพตรงหน้าไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไร? มันพร่ามัว โยไปย้วยมา ริมฝีปากเธอแห้งเป็นขุย...หญิงสาวจึงไล้ปลายลิ้นเล็กๆ เพื่อให้เกิดความชุ่มชื่นขึ้น แต่คนเห็นกลับคิดตรงกันข้าม ดุ๊กหัวเราะหึๆ มารยาหล่อนร้ายกาจจริงๆ ลิ้นของหล่อนทำให้เลือดในกายเขาเดือดพล่าน “จะอาบน้ำก่อนหรือว่า...” เขามีเวลา3ชั่วโมงสำหรับกิจกรรมครั้งนี้ ไอ้หน้าดุนั่นกำหนดเวลาไว้เท่านั้น และดุ๊กคิดว่ามันเกินพอ แต่เมื่อเห็นหล่อนเต็มตา... เขาคิดตรงกันข้ามเสียอย่างนั้น เวลาสั้นๆ เท่านั้น...คงไม่พออีกต่อไป ไม่เป็นไร...หากมีเงิน เขายังสามารถต่อรองได้... แววนิลส่ายหน้า เธอต้องการเงินเพื่อเอาไปจ่ายค่าเช่าห้องก็จริง แต่องอรกลับพาเธอมาทิ้งไว้ที่นี่ เธอคงต้องรีบไป...สถานการณ์ตรงหน้าดูสุ่มเสี่ยง หากองอรไม่ช่วย เธอก็คงต้องหาทางเอง “จะขึ้นเตียงเลยเหรอ ฉันว่า... เธอควรทำความสะอาดตัวเองก่อนนะ เธอดูไม่ดีเลย” หญิงสาวเดินโอนไปเอนมา ดุ๊กคิดว่าหล่อนคงดื่มมาเพื่อย้อมใจ เพราะดูจากสภาพหล่อนแล้ว หล่อนไม่น่าใช่ผู้หญิงต่ำๆ พรรค์นั้น ผิวพรรณหล่อนดูดี เกลี้ยงเกลาจนอยากพิสูจน์ความเนียนทั้งตัว “ไม่...แววต้องกลับ แววต้องไปหาเงิน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD