บทที่1.4

1690 Words
“เอื้องขวัญ” ผมลองเรียก กระทั่งแววตาคู่นั้นเปิดขึ้น... “ฉะ ฉันกลัว...ไม่เอาแล้ว พอแล้ว” ผมไม่ยิ้มเมื่อได้ยินเสียงแผ่วเบาของเอื้องขวัญ เป็นครั้งแรกที่ยัยนั่นพูดเหมือนกำลังวอนขอและใช้สายตาแบบนั้นมองผม อยากปล้ำกว่าเดิมอีก แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมลุกขึ้นนั่ง และนั่นเอง... พึ่บ ตุ้บ!!! ผมเพิ่งระลึกได้ว่ายัยเด็กเอื้องขวัญก็ไม่ต่างจากปีศาจ เมื่อเจ้าตัวอาศัยช่วงที่ผมเปิดช่องโหว่ พุ่งไปหยิบโมเดลเหล็กรูปสิงโตข้างเตียงเพื่อจะถลากลับมาประทุษร้ายผม ผมหลบได้อย่างเฉียดฉิวก็จริง แต่มันก็โดนหัวไหล่ผมอยู่ดี แหม...เจ็บใช้ได้ ไหล่หลุดไหมเนี่ย ทำเสียงแบบนั้นเพื่อให้ผมใจอ่อนเหรอ มารยาจริง ๆ หมับ! ผมตามไปคว้าร่างบางที่ทำท่าจะวิ่งหนีไปได้อย่างทันท่วงที ก่อนเหวี่ยงติดกำแพงด้วยอารมณ์คุกรุ่นเต็มที่! ก่อนหน้านี้เห็นน้ำตา ได้ยินเสียงแผ่ว ๆ ก็วูบไหวอยู่หรอก แต่ก็ยินดีด้วย ตอนนี้ความอดทนของผมหมดลงแล้ว “ไอ้ อึก!” ผมใช้เวลาไม่กี่วินาทีในการจับเรียวขาบางพาดเอว รูดซิปกางเกงลงก่อนดันบางสิ่งเข้าไปจนสุดในรวดเดียว ดี ๆ ไม่ชอบ สงสัยต้องซาดิสม์ “เคยเตือนแล้วว่าอย่าทำให้อารมณ์เสีย... คืนนี้อย่างหวังว่าจะได้นอน!” “อ๊ะ เจ็บ!” สิ้นคำประกาศกร้าวของผม ตัวตนร้อนผ่าวและแข็งขืนก็ฝังแน่นอยู่ในร่างกายที่กำลังจับสั่นอย่างทุรนทุราย เสียงผิวหนังที่เสียดสีกันทำให้เอื้องขวัญสะอึกสะอื้นจนต้องใช้ปลายเล็บจิกแน่นกับหัวไหล่ของผม มันแทงทะลุเข้าไปจนได้กลิ่นเลือดตามมาในเวลาไม่นาน แล้วให้ตาย มันเป็นข้างเดียวกับที่ยัยนั่นเอาไอ้โมเดลเฮงซวยฟาดตรงไหล่พอดี เจ็บจนเลือดเต้นพล่านเลย... “เวลาฉันโมโหแล้วหายยากเธอก็รู้ เธอเคยเกือบตายเพราะฉันแล้ว...จำไม่ได้หรือไง” ผมขบกรามแน่น ไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีน้ำเสียงหรือสีหน้าล้อเล่นอย่างที่เคยเป็น มีเพียงร่างกายที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง และมันรุนแรงพอจะทำให้เอื้องขวัญเปล่งเสียงพูดอะไรได้อย่างยากลำบาก จะมีก็แต่...เสียงร้องแผ่ว ๆ “อึก...” ผมบีบฝ่ามือทั้งสองกับต้นขาขาวเนียนจนเกิดรอย บีบแน่นเหมือนเป็นการระบายทุกความรู้สึก ขณะนั้นก็มองใบหน้ารูปไข่ของเอื้องขวัญไปพลาง เห็นทุกอย่างแม้กระทั่งแววตาที่อัดแน่นไปด้วยความวาวโรจน์ เส้นเลือดสีแดงซึ่งปรากฏบริเวณตาขาวทำให้ผมรู้ว่ายัยนี่ผ่านการร้องไห้มาหนักหน่วงและกำลังข่มกลั้นความทรมานเอาไว้อย่างสุดความสามารถ กึก... ผมยังคงขยับกายเข้าออก...และมันรุนแรงพอที่แผ่นหลังเปล่าเปลือยจะกระแทกกับผนังแข็งจนเกิดแผล เหงื่อโทรมกายเอื้องขวัญ เส้นผมปรกหน้าปรกหน้าและแนบลู่ไปตามกรอบหน้าชื้น แววตาอิดโรยที่ยังคงเต็มไปด้วยความเคียดแค้นไม่ละไปจากผมเลย เราสองคนจ้องหน้ากัน แต่ก็ปราศจากความรักใคร่ “จูบฉัน” ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมเอ่ยออกไปแบบนั้น รู้ทั้งรู้ว่าขอไป ไม่สิ ต้องบอกว่าบังคับให้ตายยัยไงยัยโง่นี่ก็ไม่วันทำตามอยู่แล้ว “จูบ!!” ผมเปลี่ยนมาตะคอกจนร่างบางสะดุ้ง หยดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างเงียบงันกระเด็นโดนผิวหนังผมเพราะอาการตกใจ หากแต่แววตากลับแข็งกร้าว เดือดจัดจนน่าตีให้ตายคามือ ผมรู้ว่าเอื้องขวัญกลัว แต่ยัยนี่ไม่เคยยอมแพ้ และมันเป็นอีกสิ่งที่ผมจำได้...เพราะยัยนี่ไม่เหมือนใคร “ให้จูบแก...ฉันขอผูกคอตายดีกว่า! อึก!” ความปีกกล้าขาแข็งของเอื้องขวัญทำให้ผมเพิ่มแรงกระแทกเข้าหาจนได้ยินเสียงเนื้อกระทบเนื้อ ทุกครั้งที่ผมขยับเข้าออก ลมหายใจยัยนั่นมักขาดห้วงเหมือนกับจะตายให้ได้ ผมเปลี่ยนมาใช้ฝ่ามือข้างขวาบีบปลายคางบุคคลตรงหน้า ออกแรงบริเวณสันกรามเล็กที่กำลังขบแน่น วินาทีนั้นบางสิ่งไหลเข้ามาในหัวและสั่งให้ผมถาม... “ไอ้ตะวันสำคัญไหม” End Describe. ฉันรู้ว่าเตโชมันโรคจิต ไม่เหมือนคนอื่น ฉันสั่นผวาทุกครั้งที่มันแปลงร่างเป็นปีศาจเต็มตัว...จากเดิมก็ไม่น่าเข้าใกล้อยู่แล้ว ฉันอุตส่าห์ได้โอกาสหนี แต่มันกลับรวดเร็วไม่สมกับเป็นคน ตามมารั้งฉัน ทำให้ฉันจมอยู่กับฝันร้ายอีกครั้ง เจ็บเหมือนเดิมเลย ไม่สิ...เจ็บกว่าตอนนั้นซะอีก ทุกครั้งที่มันกระแทกเข้ามา ฉันรู้สึกราวกับว่ากำลังถูกคมมีดตัดอวัยวะของร่างกายออกไปทีละชิ้น รุนแรงจนสั่นสะท้านขึ้นมาถึงเส้นประสาท ป่าเถื่อนจนหัวใจสั่นไหว...หนักหน่วงประหนึ่งว่านี่เป็นการส่งท้ายลมหายใจอันน้อยนิดที่ฉันมี แล้วนี่อะไร อยู่ดี ๆ ก็พูดถึงคุณตะวัน...สีหน้าและแววตาแบบนั้นมีแต่ความไม่ชอบมาพากล “สำคัญหรือไม่สำคัญก็ไม่เกี่ยวกับแก อย่ามาสาระแน!” เป็นการตอบโต้ที่หาความอ่อนข้อไม่เจอเลยสักกระผีก แน่นอนว่าหลังจากตอบกลับไป ไอ้สารเลวก็เพิ่มแรงบีบตรงปลายคางรุนแรงกว่าเดิม พร้อมกันนั้น...ช่วงล่างก็แสบร้อนเนื่องจากจังหวะที่ดิบเถื่อนและก้าวร้าวมากกว่าเดิมเป็นทวีคูณ จุก...เจ็บ... ฉันทนได้ยังไง มันเกินไปแล้ว “ทำตามที่ฉันสั่ง...ไม่งั้นเธอจะเยินยิ่งกว่าหมา” เตโชไม่ใช่แค่ขู่ แต่เขาเอาจริงเสมอ ฉันที่ได้ยินแบบนั้นได้แต่หอบหายใจอย่างหวาดกลัว กลัวจนไม่รู้ว่าจะต่อสู้กับมันด้วยวิธีไหน สิ่งเดียวที่ทำได้คือเชิดหน้าขึ้นทั้งน้ำตา เสียเปรียบแค่ไหนก็ไมยอมเสียศักดิ์ศรีไปด้วยเด็ดขาด “ไม่” ฉันยืนกรานเสียงสั่น “ไม่ อ๊ะ” กำลังจะย้ำให้มันเข้าใจ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือการบดจูบที่รุนแรงและแข็งกร้าว...ลมหายใจร้อนผ่าวของเตโชถูกระบายออกมาเพื่อบังคับให้ฉันเผยอริมฝีปาก ก่อนเรียวลิ้นร้อนชื้นจะพลิกพลิ้วอยู่ในนั้นอย่างเกรี้ยวกราด หื่นกระหาย... ฉันพยายามเบี่ยงหน้าหนี แต่ก็ยากเกินปัญญา เพราะไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถทำให้เตโชล้มเลิกความตั้งใจได้ ซ้ำร้ายกว่านั้น ฝ่ามือใหญ่ก็เคลื่อนต่ำลงและหยุดลงบริเวณหน้าอกของฉัน บีบเค้นด้วยอุ้งมือร้อนและปลายนิ้ว...ฉันบิดเร่า มนุษย์เราต่อให้ถูกปลุกจนเกิดสัญชาตญาณตามธรรมชาติ แต่ถ้ามันไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ ฉันก็ไม่รู้สึกอะไรมากไปกว่าความเจ็บ ความกลัว และการถูกคุกคาม “เมื่อกี้ฉันจูบเธอแล้ว นั่นหมายความเธอไม่ทำตามที่ฉันสั่ง” เมื่อฉันหมดแรงอีกครั้ง ไอ้คนสารเลวก็ผละออกเพื่อจ้องหน้ากัน รอยยิ้มเย็นเฉียบปรากฏบนริมฝีปากสีคล้ำ “ไอ้เวรนั่นชื่อตะวันใช่ไหม…พรุ่งนี้ส่งคนไปเลาะฟันสักสองสามซี่ดีกว่า” “อย่ายุ่งกับเขา!” คุณตะวันเป็นผู้มีพระคุณ เขาดีกับฉัน ไม่ว่าใครที่แตะต้องเขาฉันไม่มีวันให้อภัยเด็ดขาด! “แหม...ห่วงผัวใหม่จังเลย เตโชหึงนะ” ตอแหลสิ้นดี “เขาน่ะ อึก!” ฉันกำลังจะพูด แต่คราวนี้เตโชจับฉันพลิกเข้าหากำแพงทั้ง ๆ ที่ร่างกายเรายังคงหลอมรวมกัน ก่อนที่ความแข็งขืนจะกระแทกเข้ามาในจังหวะถี่ระรัว ถี่มากจนฉันต้องจิกนิ้วกับกำแพงห้อง “ไม่เอา...เจ็บ ฮึก” ฉันเอาแก้มแนบผนัง ในขณะที่คนด้านหลังล็อกตัวฉันไว้อย่างแน่นหนา สักพักปลายลิ้นเปียกชื้นก็ตามมาลามเลียที่ซอกคอ...สูดดมกลิ่นกายฉันจนเกร็งไปทั้งตัว “ตอนฉันไม่อยู่ เธอจะมีไอ้ห่าที่ไหนก็ได้ แต่ฉันกลับมาแล้ว” คำพูดของเขาก้องอยู่ในหู เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่นซ้อนทับกัน ไม่รู้เลยว่าปลายนิ้วแข็งกระด้างเคลื่อนมาสัมผัสลำคอตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ในจังหวะที่มันกรีดกรายขึ้นลงตามการเคลื่อนไหว ฉันไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ “กลับมาแล้ว...” ฉันไม่เข้าใจเลยสักนิด ไม่เข้าใจและไม่อยากได้ยินเสียงของมันแล้วด้วย หลับได้ไหม อยากให้นี่เป็นเพียงการหลับฝัน ตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนอุ่น ๆ แล้วพบกับสถานที่เดิม ๆ ที่ที่ไม่เคยมีมัน “ฮึก” ฉันสะอึกสะอื้นไม่หยุด ขณะนั้นการเคลื่อนไหวก็รวดเร็วมากขึ้น เสียงแหบพร่าครางเบา ๆ ข้างหูก่อนที่เขาจะเอาบางสิ่งออกไป ของเหลวอุ่นร้อนกำลังเปรอะอยู่บนแผ่นหลังและสะโพกของฉัน... ฉันกัดริมฝีปาก...อยากจะถอนหายใจ แต่กลับต้องสะดุ้งจนตัวโยนเมื่อเตโชอุ้มฉันขึ้นและพากลับมาบนเตียงอีกครั้ง มันหยิบเอากุญแจมือที่เคยเห็นแวบ ๆ ก่อนหน้านี้ล็อกข้อมือทั้งสองไว้ และใช่ เพราะฉันหมดแรง ตาลาย รู้ตัวอีกทีก็ถูกจับให้นอนหงาย บังคับให้แหวกขากว้าง... อะไรกัน... อะไรอีก “สิบครั้งเป็นอย่างต่ำ...สำหรับความดื้อด้าน” “เฮือก!” ฉันบิดตัวขึ้นพลางเบิกตาโพลงเมื่อเตโชดันกายเข้ามาอีก... “คูณสองเข้าไป...สำหรับเรื่องไอ้ตะวัน” “อ๊ะ!” เอี๊ยด...เอี๊ยด... สปริงของเตียงนอนส่งเสียงออกมาตามแรง สิ่งนั้นทำให้ฉันชาทั้งตัวเลย “ถ้าไม่อยากให้ฉันของขึ้น ทีหลังก็อย่าขัดใจ” “...” “เข้าใจหรือเปล่า? ‘เอื้องขวัญ โชติรัตนทิศ’ อิ ๆ” ไอ้สารเลวเตโชหัวเราะเป็นเอกลักษณ์ แต่ใบหน้า แววตา กลับไม่ยิ้มแย้มตามไปด้วย เขาคุกรุ่น ฉันรู้...เพราะเขากำลังระบายมันบนร่างกายอันบอบช้ำของฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซ้ำไปซ้ำมา...นับครั้งไม่ถ้วน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD