ตอนที่ 10.

978 Words
เมื่อคืนเขาเกือบเผลอจัดการลูกสาวของนายเลิศไปแล้ว แต่บางสิ่งทำให้เขาหยุดก่อนจะเลยเถิด เขาไม่ชอบนอนกลางดินดิ้นกลางป่า มันเป็นการลบลู่เจ้าป่าเจ้าเขาไม่เป็นมงคลกับชีวิต ความเชื่อนี้ทำให้คนเดินทางกลางป่าหลีกเลี่ยงจะทำอะไร เป็นการดูหมิ่นสิ่งที่มองไม่เห็น รอให้เขาพาเจ้าหล่อนไปถึงปางไม้เสียก่อน เขาจะจัดหนักจัดเต็มให้ลุกไม่ขึ้นเชียว  เกริกมองร่างเล็กของหญิงสาวอย่างหมายมาด เขายังมีเป้าหมายในการทำให้นายเลิศเจ็บปวดโดยไม่สนใจว่า เครื่องมืออย่างจอมขวัญจะเป็นอย่างไร ขอเพียงได้ทำให้คนทำลายครอบครัวของเขา ได้รับการตอบแทนอย่างสาสม มันคือการบรรลุเป้าหมายแล้ว “รีบกินจะได้รีบเดินทาง” เกริกสั่งเมื่อเห็นจอมขวัญยังอ้อยอิ่งกับอาหาร ขณะที่คำปันเก็บเต็นท์และข้าวของเสร็จแล้ว “จะรีบไปไหน ชุมโจรของแกอยู่ไกลหรือไงถึงต้องรีบไป” จอมขวัญสะบัดเสียงถาม รามือจากอาหารหมดอารมณ์กินต่อ “จะใกล้หรือไกล ฉันก็จะลากเธอไปให้ถึง” ร่างสูงใหญ่ของเกริกกระชากแขนจอมขวัญจนเซ เขาลากเธอเดินนำปล่อยให้คำปันจัดการกลบกองไฟ และแบกสัมภาระเดินตามหลังมา จอมขวัญพยายามสะบัดมือออก แต่ยิ่งดิ้นยิ่งถูกเขาบีบข้อมือจนเจ็บ และออกแรงดึงเธอจนหัวแทบทิ่ม “โอ๊ย! ปล่อยฉันเดินเองได้ไหม ลากแบบนี้แขนฉันจะหลุด ถ้าฉันเกิดล้มขาเจ็บเดินไม่ไหว แกจะทำยังไง”  เธอร้องโอดครวญขึ้นมา กระชากเสียงถามเขาอย่างเคืองๆ  “เดินไม่ไหว ก็คลานเอาสิ ฉันจะเปลี่ยนจากลากเป็นใช้เชือกจูง” เกริกกระตุกยิ้มหยัน กระชากลากถู ร่างบางอย่างไร้ปราณี ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเจ็บหรือเหนื่อยที่ถูกเขาบังคับให้เดินตามโดยไม่ยอมหยุดพัก ชายหนุ่มจงใจเดินอ้อมเข้าทางป่าลึก แทนการใช้รถยนต์ผ่านถนนเข้าไปในปางไม้ภูเสือหมอบซึ่งสะดวกกว่ามาก เขาจงใจลากดึงจอมขวัญให้ลำบากยากเข็ญไม่ให้เดินทางไปถึงจุดหมายอย่างสุขสบายนัก เธอต้องเดินตัดป่าลึกนี่แหละ ดวงตาคมปรายมองร่างเล็กที่ทำหน้าบึ้งเดินตามเขาอย่างอดทน ถึงจะโวยวายก็ตรงเขาไม่ปล่อยให้เดินเอง หน้าผากมนมีเหงื่อซึมเป็นเม็ดเล็กๆ หน้าตาแดงก่ำ หายใจหอบแรง ตัวเล็กแบบนี้ขาสั้นๆ ของเธอจึงต้องใช้การก้าวถึงสองก้าวถึงจะตามเขาทัน แถมยังโดนลากจนต้องเร่งฝีเท้ากึ่งวิ่งอีก ย่อมต้องออกแรงมากและเหนื่อยเป็นธรรมดา เดินมาจนบ่ายโดยไม่หยุดพัก ทำให้จอมขวัญเหนื่อยจนลิ้นห้อย ข้อมือถูกเขาจับไว้ไม่ปล่อย ดึงจนเธอเซหลุนๆ ตามร่างหนาของเขาไป หญิงสาวมองแผ่นหลังคนเดินนำอย่างเกลียดชัง ‘ไอ้โจรป่า หน้าทุเรศแล้วนิสัยยังป่าเถื่อนอีก’ จอมขวัญนึกถึงคำพูดของอีกฝ่ายเมื่อคืน เขาบอกว่าพ่อของเธอทำให้ครอบครัวเขาต้องเดือดร้อน “คนดี เหอะ คนดีที่ทำให้ครอบครัวฉันต้องสูญเสียทุกสิ่ง นายเลิศ เอาทุกอย่างไปจากครอบครัวฉัน ใส่ร้ายพ่อฉัน ใส่ความจนพ่อฉันต้องฆ่าตัวตาย แบบนี้เหรอคนดีของเธอ” ถ้อยคำที่เขาก่นด่าบิดาของเธอยังดังอยู่ในหู เธอไม่มีวันเชื่อว่าบิดาแสนดีของเธอ จะกล้าทำเรื่องร้ายกาจแบบนั้น เธอจะต้องทำทุกวิธีเพื่อค้นหาความจริงเรื่องนี้ “พักตรงนี้แหละ” ในที่สุดคำนี้ก็หลุดออกมาจากปากคนลากเธอจนแขนแทบหลุด จอมขวัญเผลอยิ้มก่อนจะหุบยิ้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายมองมา เชิดหน้าใส่เขาสะบัดมือออกจากการจับกุม เขายอมปล่อยเธอแล้วไปนั่งใต้ต้นไม้ ปล่อยให้คำปันหยิบห่ออาหารจากย่ามมาแจกเธอกับเขา “ฉันหิวน้ำ ขอดื่มน้ำหน่อยสิ” จอมขวัญเอ่ยขอน้ำจากคำปัน อีกฝ่ายส่งขวดน้ำให้ หญิงสาวกล่าวขอบคุณแล้วรีบเปิดขวดออกดื่ม แม้น้ำจะไม่เย็นฉ่ำเหมือนแช่ตู้เย็น แต่ช่วยดับกระหายได้เป็นอย่างดี ดื่มเข้าไปอีกสองสามอึก จึงหันไปสนใจห่อข้าว แกะมันออกแล้วหยิบเนื้อย่างกับข้าวเหนียวเย็นมากินอย่างหิวโหย เหนื่อยมากย่อมต้องหิวมาก ไม่สนใจว่าถูกสายตาใครมอง ตั้งหน้าตั้งตากินจนหมดห่อ “อีกไกลไหม กว่าจะถึงเนี่ย” พอหายหิวหายเหนื่อย จอมขวัญก็เอ่ยถามขึ้นมา “ถ้าเธอไม่เป็นตัวถ่วง เดินอีกสองวันก็ถึง” เกริกบอกเสียงเรียบ เขาหันไปมองรอบๆ กายรู้สึกถึงความผิดปกติ บนฟ้านกส่งเสียงร้องบินขวักไขว่ไปมา แว่วเสียงสัตว์บางอย่างร้อง ลมไม่ได้พัดแรง ฝนก็ไม่มีทีท่าจะตกลงมาเพราะฟ้าโปร่ง แต่ทำไมสัตว์ป่าดูแตกตื่น “นายท่าทางไม่ค่อยดีครับ” คำปันลืมตัวเรียกนายของตนตามความเคยชิน เขาเป็นพรานป่ามีความชำนาญเรื่องเดินป่า จึงรับรู้ถึงสิ่งผิดปกตินี้เช่นกัน “รีบไปกันเถอะ อยู่ตรงนี้ไม่ปลอดภัย” เกริกขยับลุกขึ้น มีคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องราวอะไร นั่งเล่นเอามือบีบนวดขาของตัวเอง พอเห็นเกริกกับคำปันทำท่าจะออกเดินทางอีกก็รีบโวยวาย “จะรีบไปไหนกัน ข้าวไม่ทันย่อย ยังไม่หายเมื่อยเลย” “อยากอยู่ตรงนี้ก็ตามใจนะ” เกริกเดินนำไปโดยมีคำปันแบกข้าวของตามไป ทิ้งให้คนขี้บ่นอยู่ตรงนั้น จอมขวัญรีบลุกวิ่งตามไปอย่างตกใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD