“ไอ้บ้า อย่าทิ้งฉันไว้คนเดียวนะ”
สองคนเดินห่างออกไปราวห้าเมตร จอมขวัญรีบจ้ำเท้าตาม หญิงสาวไม่คิดหนีเพราะรู้ว่าหนีไปก็ไม่รอด เธอไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนของประเทศ แถมอยู่กลางป่าเดินไปเรื่อยเปื่อยอาจจะหลงได้ พอวิ่งใกล้จะทันคนเดินนำ ก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงบางอย่างและแผ่นดินไหวสะเทือน พอหันไปดูหญิงสาวก็กรีดร้อง
“ว๊าย ช้างป่า !”
สัตว์ตัวใหญ่ราวกับภูเขาลูกย่อมๆ วิ่งตรงมาต้นไม้ที่มันผ่านแหลกยับ หักโค่น เจ้าตัวใหญ่ฟาดงวงฟาดงาไปตลอดทางที่มันวิ่งผ่าน บ่งบอกให้รู้ว่ามันไม่ได้อยู่ในอารมณ์ปกติ
“แย่แล้วนาย ช้างตกมัน หนีเร็ว!”
คำปันตะโกนลั่น รีบวิ่งหนีไปให้พ้นเส้นทางที่ช้างตกมันตัวนั้นวิ่งมา ส่วนเกริกหันไปมองดูเห็นจอมขวัญวิ่งจ้ำอ้าว หนีช้างไปคนละทิศกับคำปัน ชายหนุ่มตัดสินใจวิ่งตามเธอไป
“ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย ว๊าย!”
จอมขวัญเผ่นหนีตั้งแต่เห็นช้าง สัญชาตญาณการเอาตัวรอดทำให้หญิงสาวซอยเท้าวิ่งหนีไปอีกด้านที่ช้างตรงมา ไม่ได้มองดูว่าตัวเองวิ่งไปคนละทางกับคำปัน เนื้อตัวโดนกิ่งไม้เกี่ยวก็ไม่สน ความตกใจทำให้เธอตั้งหน้าตั้งตาวิ่ง มารู้ตัวอีกทีเมื่อถูกใครคนหนึ่งวิ่งมากระชากแขนไว้
“หยุดวิ่ง !”
เกริกกระชากร่างบางมากอดไว้ แรงดึงทำให้จอมขวัญเซถลามากระแทกแผงอกหนา จนพาเขาล้มลงไปด้วยกัน หญิงสาวนอนทับอยู่ด้านบน เจ็บจุกไม่น้อย
“โอ๊ย! ตาบ้า”
จอมขวัญตวาดแว๊ดด้วยความตกใจ หอบหายใจแรงด้วยความเหนื่อย ทั้งเจ็บทั้งจุกที่ถูกเขากระชากล้ม
“จะวิ่งตกเขาตาย ไม่เห็นเรอะ”
อีกไม่กี่ก้าวคือหน้าผาชัน หากร่วงลงไป คงกลายเป็นผีเฝ้าป่า จอมขวัญหลับหูหลับตาวิ่ง โดยไม่ได้มองเลยว่าข้างหน้าเป็นอะไร หากเขาไม่กระชากให้หยุด เธอคงกลิ้งตกเขาคอหักตายไปแล้ว
“ว๊าย หน้าผา!”
จอมขวัญหันไปมอง ก่อนจะใจหายแว๊บ แทบลืมความเจ็บ ถ้าไอ้โจรคนนี้ไม่ดึงเธอไว้ คงตกลงไปตายแน่
“ใครจะไปรู้ ก็ฉันตกใจนี่”
ร่างเล็กขยับลุกขึ้น ถอยห่างจากคนตัวโต ที่ลุกขึ้นมองหน้าเธอด้วยแววตาดุกร้าว
“ตกใจจนเสียสติ ฉันน่าจะปล่อยให้เธอตกเขาตาย จะได้ไม่เป็นภาระ”
เขากระแทกเสียงใส่ ดึงร่างบนพื้นให้ลุกขึ้น
“ขอบคุณนะที่ช่วย”
อยากจะต่อว่าเขาปากจัด แต่บุญคุณของเขาก็มีอยู่ เธอไม่ใช่คนเอาอารมณ์เหนือความถูกต้อง จึงเลือกเอ่ยขอบคุณแทนด่าทอเขา
“ฉันไม่อยากให้เธอตายเร็วเกินไป เธอต้องอยู่ชดใช้ความผิดแทนพ่อของเธอ”
เกริกไม่สนใจคำขอบคุณนั้น เขามองไปรอบๆ กาย พลางถอนหายใจแรงหน้าเครียดขึ้นมา จอมขวัญวิ่งมาคนละทิศกับปางไม้ภูเสือหมอบ แถวนี้เป็นทางผ่านของพวกขนยา สิบกว่าปีแล้วตั้งแต่พ่อเลี้ยงอินทรให้เขามาดูแล เกริกกำชับให้คนของเขาป้องกันอาณาเขตของปางไม้ ไม่ให้ใครใช้เส้นทางของเขาลำเลียงของผิดกฎหมาย ปีแรกๆ มีการปะทะกับพวกนอกกฎหมายหลายครั้ง จนในที่สุดพวกมันก็รู้ว่ายิ่งต่อต้านยิ่งไม่เป็นผลดี จึงเลี่ยงมาใช้เส้นทางคนละด้านกับปางไม้ ตอนนี้เขากับจอมขวัญมาอยู่ในเขตของพวกมันเสียแล้ว
“รีบไปจากที่นี่ก่อน”
เขากระชากแขนลากร่างเล็กให้เดินตาม จอมขวัญเซถลาตามแรงดึง อยากจะร้องประท้วงแต่เห็นหน้าตาเคร่งเครียด สายตาเข้มดุก็รีบหุบปาก จำต้องเดินตามเขาไป
เกริกเร่งฝีเท้าพยายามพาจอมขวัญออกให้พ้นจากเขตอันตราย เวลาผ่านไปจนบ่ายคล้อยดวงอาทิตย์ราแสงลง เส้นทางที่ชายหนุ่มพาหญิงสาวเดินมาเป็นป่ารก บางครั้งต้องตัดเถาวัลย์ กิ่งไม้ที่ขวางทางออก เขาใช้มีดตวัดไปมา เปิดทางเพื่อออกไปจากป่านี้ให้เร็วที่สุด แต่ภาระที่เขาลากจูงมา เริ่มไม่ความร่วมมือเมื่อเขาไม่ยอมหยุดพัก ร่างบางเหนื่อยหอบใกล้หมดแรง ทิ้งตัวลงนั่งแปะกับพื้นสุดจะฝืนต่อไป
“ฉันเหนื่อย ฉันไม่ไหวแล้ว พักก่อนได้ไหมเราเดินมาตั้งนานแล้วนะ”
จอมขวัญโอดครวญ ขืนตัวไว้ไม่ยอมให้เขาลากไปอีก
“ไม่มีความอดทน พวกผู้ดีตีนแดง”
เกริกมองใบหน้าแดงก่ำของหญิงสาวแล้วถอนหายใจแรง จำต้องยอมปล่อยมือเธอออก เขาแหงนมองท้องฟ้า คิ้วดกหนาขมวดนิ่วเมื่อเห็นว่าดวงอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้ว หันไปดูรอบกายใบหน้าเคร่งขรึมขึ้นเมื่อพบว่า เขายังออกไปไม่พ้นเส้นทางของพวกขนยา ความผิดพลาดนี้ไม่อยู่ในแผนการของเขา หากจอมขวัญไม่วิ่งหนีช้างจนเตลิดมาคนละทิศกับปางไม้ เขาคงพาหญิงสาวไปถึงที่นั่นแล้ว
“ฉันไม่ได้ตัวใหญ่ถึกเหมือนพวกโจรป่าอย่างแกนี่ ขอน้ำหน่อยได้ไหม ฉันหิวน้ำ”
จอมขวัญมองกระติกน้ำที่เขาเหน็บไว้ที่เอว อย่างน้อยขอจิบน้ำสักอึกก็คงจะคลายเหนื่อยบ้าง
“ค่อยๆ จิบ อยากดื่มทีเดียวเยอะ เดี๋ยวจะจุก”
เกริกส่งกระติกน้ำให้ ไม่วายอบรมอีกนิด หญิงสาวรีบคว้ามาเปิดฝายกดื่มอย่างกระหาย ก่อนจะสำลักน้ำไอแคกๆ
“นั่น ดื้อแล้วเป็นยังไง”
เกริกส่ายหน้า เอามือตบหลังให้เธอหายสำลัก แย่งกระติกน้ำมายกจิบ แล้วเก็บไว้ที่เดิม