Just the two of us love each other : 5

2039 Words
สายลมพัดใบไม้พริ้วลอยตามทิศคลอด้วยเสียงนกน้อยร้องปลุก แสงสุริยาทอดกระทบบ้านเรือนก่อเกิดร่มเงา รถแล่นตามเส้นทางจราจรติดขัดสร้างความท้อแท้กับผู้คนที่กำลังต่อสู้กับเส้นทางชีวิต ไม่ว่าจะรวยหรือจนคนทุกคนก็ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ถ้าหากตอนนี้กลับมีใครคนหนึ่งที่เหนื่อยล้ากับการต่อสู้กับชีวิตของตนเองเช่นกัน เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้พู่กันที่อยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาขมวดคิ้ว "พู่กัน ตื่นได้แล้ว วันนี้มีคนมาหาลูกด้วยนะ" เสียงผู้เป็นแม่เอ่ยบอก "รีบลุกมาดูเร็ว ว่าใครมาหา" ก่อนที่จะเงียบหายจากไป พู่กันลุกขึ้นนั่งทั้งที่ตายังปิดอยู่ เมื่อคืนเธออยู่เวรจนดึก กว่าจะได้กลับบ้านก็ปาไปเกือบเที่ยงคืนแล้ว พึ่งได้นอนไม่กี่ชั่วโมงก็พบกับรุ่งเช้าของวันใหม่เสียแล้ว คิดว่าจะนอนให้สบายยาวจนถึงเที่ยงแต่สิ่งที่เคยฝันไว้ต้องพังทลายลงเมื่อคุณหญิงของบ้านบอกว่ามีคนมาหา " ยัยมี่เหรอ ให้มี่กลับไปเลยม๊า วันนี้พู่กันไม่ว่าง" "ไม่ใช่หนูมี่หรอกจ้ะ แต่เป็นหนุ่มหล่อที่พึ่งกลับจากนอกต่างหาก" "พี่ภาม" ร่างบางสะดุ้งตื่นเป็นครั้งที่สอง แต่ครั้งนี้กลับเบิกตากว้างตื่นเต็มตาครั้งผู้เป็นแม่เอ่ยขนานนามลักษณะบุคคลดังกล่าว "ใช่จ้ะ" "ม๊าไล่เขากลับเถอะ วันนี้พู่กันไม่อยากเจอใครทั้งนั้น" ปากบอกไม่อยากเจอ แต่ภายในใจเธอกลับตรงข้าม ในเมื่อเธอเลือกจะถอยแล้วมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเจอเขาอีก "ไม่สบายหรือเปล่า" "เปล่าค่ะ พู่กันแค่อยากนอนพัก" "อืม งั้นเดี๋ยวม๊าไปบอกพี่เขาให้.. แต่เหมือนไม่ใช่พี่เขานะที่อยากเจอหนู" คิ้วขมวดเข้าหากันทันที "แต่เป็นหนูน้อยเด็กผู้หญิงที่ชื่อฟ้าฝน" ฟ้าฝน!!!!! "ม๊าให้ฟ้าฝนรอแปปหนึ่งนะ เดี๋ยวพู่กันตามลงไป" ร่างบางลุกขึ้นวิ่งเข้าห้องน้ำจัดการทำธุระส่วนตัวได้ไม่นานก็ลงไปยังด้านล่าง ฟ้าฝนที่นั่งรออย่าใจจดใจจ่อเมื่อเธอเห็นพู่กันก็รีบลุกขึ้นวิ่งไปหาทันที "คิดถึงพี่ใช่ไหม ถึงได้มาหาถึงบ้าน" " พี่คนหล่อชวนฟ้าฝนกับพี่พู่กันไปเที่ยวค่ะ" พู่กันขมวดคิ้วสงสัย ฟ้าฝนที่ไม่เคยไว้ใจใครแต่กลับไว้ใจร่างสูงตรงหน้าทั้งๆที่เคยเจอกันแค่ครั้งเดียว อีกอย่าง แล้วทำไมหมวดศิลาถึงยอมให้เขาพาน้องมา เกิดคำถามขึ้นมามากมายในหัว แต่ก็ต้องลบมันทิ้งไป " พี่อยากพาฟ้าฝนไปเที่ยว แต่ไม่ค่อยรู้จักที่เที่ยวสักเท่าไหร่ เราคงจะรู้จักที่เที่ยวมากกว่าพี่ ยังไง.. " "ได้ค่ะ ฉันจะไปเที่ยวกับฟ้าฝน แต่พู่กันจะชวนแฟนไปด้วย" ร่างสูงแอบยกยิ้มก่อนจะค่อยๆดึงหน้าให้กลับนิ่งเหมือนเดิม "คงไม่ได้" "ทำไมจะไม่ได้คะ" "หมวดศิลาไปทำงานกับนาเดียร์ เหมือนจะเป็นงานสำคัญเสียด้วยสิ" พู่กันหันหลังให้ภามก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเปิดอ่านข้อความ ทว่า สิ่งที่พบคือประโยคสั้นๆ 'ผมมีงานด่วนต้องไปทำ จึงไม่สามารถพาฟ้าฝนไปเที่ยวได้ บังเอิญคุณภามอาสาพาไป ยังไงก็ฝากด้วยนะครับ' ให้ตายสิ ทำไมยิ่งหนีก็ยิ่งถูกดึงดูดเข้าไปในวังวนนั้นอีกครั้งเนี่ย เสียงหัวเราะของห่วงเวลาของความสุขได้เกิดขึ้น คลอดังจากทั่วทุกทิศ เด็กน้อยรวมทั้งครอบครัวต่างเที่ยวเล่นเครื่องเล่นทั่วสวนสนุก พู่กันที่จูงมือสาวน้อยอย่างฟ้าฝนเดินเข้าสวนสนุกโดยมีภามเดินอยู่ไม่ห่างกาย สวนสนุกเป็นสถานที่แรกที่พู่กันคิดได้เพราะตอนเด็กๆเธอชอบมาที่นี่มาก มันทั้งสนุกและตื่นเต้นที่ได้เห็นและได้เล่นเครื่องเล่นมากมายหลายอย่าง "ฟ้าฝนอยากเล่นอะไรคะ" พู่กันเอ่ยถามเด็กน้อยก่อนที่ดวงตากลมโตจะกวาดมองเครื่องเล่นต่างๆ "อยากเล่นอันนั้นค่ะ" "หืม" พู่กันขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อเห็นสิ่งที่ฟ้าฝนอยากเล่น " อยากเข้าบ้านผีสิงเหรอครับ" ฟ้าฝนพยักหน้าตอบร่างสูงที่มีใบหน้าหล่อเหลาจนคนที่ผ่านมาต้องหันมามองเป็นตาเดียว กลายเป็นจุดสนใจไม่น้อย บางก็แว่วได้ยินเสียงพูดคุยที่ส่อถึงพู่กันและภาม แต่จะดีมากถ้าผู้คนจะเข้าใจในทางที่ถูกต้อง ไม่ใช่พูดว่าเธอกับเขามีลูกสาวน่ารัก ใครจะอยากไปมีลูกกับเขากัน " หนู… อยากลองสัมผัสสักครั้ง" เนื่องจากไม่เข้าใจว่าเด็กน้อยต้องการสื่ออะไร พู่กันจึงตัดสินใจจูงมือฟ้าฝนมุ่งตรงไปบ้านผีสิงทันที "ราคาบัตรสำหรับผู้ใหญ่ ๑๐๐ บาท ครับ เด็ก ๕๐ บาท แต่เรามีโปรโมชั่นวันครอบครัวค่าบัตรลดเหลือ ๑๐๐ บาท สำหรับคุณพ่อคุณแม่และลูกสาว" พู่กันเบิกตากว้างพร้อมจะยกมือปฎิเสธ เธอยังไม่มีแฟนแล้วจะมีลูกมาจากไหนกัน "มะ.." "นี่ครับ ดีจังเลยนะครับที่มีโปรแบบนี้ด้วย" พู่กันมองเงินที่ถูกยื่นให้พนักงานโดยร่างสูงข้างๆ ก่อนจะเลิกคิ้วเชิงถาม ทำไมไม่ปฏิเสธ ปล่อยให้เขาเข้าใจผิดทำไม " ขอบคุณครับ ขอให้สนุกนะครับ" พนักงานที่มีหน้าที่เก็บเงินต่างมองผู้ชายกับผู้หญิงเป็นตาเดียว ทั้งหล่อและสวยแต่ไม่น่ามีลูกเร็วขนาดนั้นเลย ดูจากอายุลูกสาวแล้วน่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะความผิดพลาดแน่ๆ คู่พ่อแม่ลูกในความคิดของคนอื่นๆ เดินเข้าไปในบ้านที่เต็มไปด้วยความมืด สองมือบางกุมมือฟ้าฝนแน่นโดยข้างๆยังมีร่างสูงที่ยังคงมีสีหน้าเรียบนิ่ง "แฮร่" พู่กันตกใจก่อนจะคว้าหมับเข้าไปกอดร่างสูงข้างๆ เป็นแพทย์ทางด้านนี้แท้ๆ ดันกลัวผีไปได้ "ตกใจเหรอครับ" ร่างบางชะงักหยุดเมื่อสัมผัสถึงบางอย่างที่กำลังกอดเธออยู่ "นี่ ปล่อยนะ" คนชอบฉวยโอกาส "ทำไมพี่ต้องเป็นคนปล่อยด้วย ในเมื่อเราเป็นคนกอดพี่" พู่กันปล่อยมืออกจากเอวภามอย่างรวดเร็ว 'หน้าแตกไหมล่ะ' "กะ ก็แค่ตกใจเฉยๆ" "เหรอครับ" "ขำอะไร" พูดจบตั้งใจจะหันไปหาฟ้าฝนแต่กลับว่างเปล่า ตอนนั้นเองพู่กันรู้สึกตกใจจนเผลอตะโกนเรียกชื่อ " ฟ้าฝนล่ะ ฟ้าฝนอยู่ไหน ได้ยินพี่ไหม" เธอรู้สึกร้อนรนอย่างบอกไม่ถูก หมับ!!! แต่ในขณะที่จะเดินต่อกลับต้องชะงักเมื่อแขนถูกมือหนาคว้าเอาไว้ดึงจนเธอเซไปหาเล็กน้อย "เราเข้าไปหาข้างในกันเถอะ" ตลอดทางไม่แม้แต่จะเห็นฟ้าฝนเลยสักนิด เธอไม่ได้รู้สึกกลัวหรือตกใจอะไรทั้งนั้นได้แต่เดินตามร่างสูงที่กุมมือเธอไม่ยอมปล่อย เธอจึงตัดสินใจออกจากบ้านผีสิงเพื่อไปขอคนช่วยตามหา แต่สิ่งที่เธอเห็นกลับต้องทำให้ความวิตกกังวลหายไปหมดสิ้น เด็กน้อยใบหน้าหวานกำลังนั่งกินไอศครีมกับผู้ชายร่างสูงที่เธอคุ้นเคยเขาคนนั้นก็คือหมวดศิลา "ฟ้าฝน พี่เป็นห่วงแทบแย่จะออกมาทำไมไม่บอกพี่" "เอ่อ คือฟ้าฝน.. ตกใจเลยวิ่งหนีออกมา ขอโทษนะคะพี่พู่กัน" "เฮ้อ ไม่เป็นไร แล้วหมวดมาได้ไงอ่ะ ไหนบอกว่ามีธุระ" "ฟ้าฝนโทรตามผมมา อีกอย่างก็เสร็จงานพอดี" " น้ำเปล่ามาแล้วค่ะ" ทันไดนั้นเสียงหวานใสก็ดังขึ้น นาเดียร์ที่กำลังเดินตรงมาทางนี้ในมือถือน้ำเปล่าสองขวด พู่กันหรี่ตามองหมวดศิลากับนาเดียร์ด้วยความรู้สึกบางอย่าง " เอ้า ออกมากันแล้วเหรอ" ยิ่งท่าทางสดใสใบหน้ายิ้มแย้มของนาเดียร์มันทำให้ดูน่าสงสัย เธอไม่มีความหึงหวงเลยสักนิด แฟนตัวเองแอบไปเที่ยวกับคนอื่นเป็นพู่กันคงมีอาการหึงหวงเป็นแน่ แล้วยิ่งพี่ภามคือผู้ชายที่ดูดีไม่เสียทุกอย่าง เป็นที่ต้องตาสำหรับบรรดาสาวๆ อีกอย่างพู่กันและภามก็ไม่ใช่พี่น้องเชื้อสายเดียวกัน ก็นะ เธอคงคิดว่าแฟนตัวเองแค่พาน้องสาวไปเที่ยวแค่นั้น "เที่ยงแล้วพวกเราไปหาอะไรกินกันก่อนไหม" ฉันพยักหน้าเห็นด้วยกับผู้หมวด สุดท้ายก้มาจบที่ร้านอาหารทั้งหรูและดูแพง พู่กันนั่งตรงข้ามกับภามโดยมีฟ้าฝนนั่งอยู่ข้างๆถัดออกไปเป็นคุณหมอนาเดียร์ที่นั่งตรงข้ามกับผู้หมวด "อยากทานอะไรสั่งเลยนะ มื้อนี้พี่เลี้ยง" ท่าทางอ่อนโยนของภามที่มีต่อฟ้าฝนทำให้อดรู้สึกดีไม่ได้จริงๆ เมื่อก่อนเขาก็เคยทำแบบนี้กับฉัน "จริงเหรอคะ" "ครับ" ผ่านไปไม่นานอาหารก็ถูกวางเรียงอย่างเป็นระเบียบ "ทานเยอะๆนะครับ" ในขณะที่พู่กันจะนำอาหารเข้าปาก สายตาก็เผลอไปสบเข้ากับผู้หมวด ส่งสัญญาณเป็นนัยถึงความต้องการ สุดท้ายแล้วเนื้อปลาชิ้นเล็กก็ถูกตักวางไว้บนจานของพู่กัน "ขอบคุณนะคะที่รัก" สิ้นเสียงพู่กัน หมวดศิลาถึงกับสำลักน้ำหน้าร้อนผ่าว ถ้าหากไม่ใช่อาการเขินแต่เป็นอาการขนลุกสยอง ใครสอนให้พูดประโยคหวานเลี่ยนที่ทำให้คนฟังรู้สึกเหมือนกำลังจะถูกเชือด " นาเดียร์ลองทานเนื้อปลาดูสิครับ" ศิลามองการกระทำของภามด้วยแววตาเจ็บปวดจนพู่กันสังเกตได้ "ขอบคุณค่ะ" "อันนี้อร่อยนะ พู่กันชอบกินมากเลย อยากให้ที่รักลอง" อาหารจานโปรดถูกตักให้กับศิลาท่ามกลางสายตาสองคู่ที่จับจ้องอยู่ ก่อนที่พู่กันจะตักอาหารให้กับฟ้าฝน "กินเยอะๆนะคะ" "นาเดียร์ขอเสียมารยาทถามได้หรือเปล่า ศิลาชอบน้องพู่กันตรงไหนเหรอคะ" เกิดอาการเงียบลงทันที เผลอสบตากับผู้หมวดรู้สึกถึงความกดดัน "พู่กันเป็นเด็กน่ารักครับ ใจดี ถึงแม้จะแข็งกระด้างไปนิด แต่สำหรับผม พู่กันเป็นผู้หญิงที่คู่ควรจะมาเป็นแม่ของลูกผมที่สุด" เคร้ง!! เสียงช้อนกระทบจานดังขึ้นหยุดความคิดของทุกคนให้หันกลับมาจับจ้องร่างสูงที่นั่งเงียบมานาน แววตาเรียบนิ่งเมื่อก่อนตอนนี้กลับมีไอทะมึนน่ากลัวแฝงอยู่ข้างใน "อาหารไม่อร่อยเหรอคะพี่ภาม" "เปล่า" "อ้อ จริงสิ นาเดียร์ลืมไปเลยว่ามีงานต้องไปจัดการต่อ ภามจะไปส่งเดียร์ที่โรงพยาบาลหรือเปล่า" "อืม ไปพร้อมแฟนก็ดีเหมือนกัน" ทำไมต้องคอยย้ำประโยคพรรคนั้นด้วย แถมใจก็ดันเจ็บเสียด้วยสิ หลังจากแยกย้ายกัน พู่กันกลับมาพร้อมหมวดศิลาเพื่อมาส่งฟ้าฝน "คุณหมอพู่กันคะ" "ว่าไงคะ" "พรุ่งนี้ หนูจะได้กลับไปเรียนแล้วค่ะ" " อืม แบบนี้เราก็ต้องไปซื้อชุดใหม่ใช่ไหมคะ" "ใช่ค่ะ" ยกมือลูบผมฟ้าฝนเบาๆ "ว่าแต่ฟ้าฝนจะเข้าโรงเรียนไหนเหรอคะ" ฉันหันไปถามผู้หมวด "เรื่องนี้ต้องถามคุณภาม เขาเป็นคนจัดการเรื่องการเข้าเรียนของฟ้าฝนทั้งหมด" พอจะรู้สาเหตุที่ทั้งสองคนสนิทกันแล้วล่ะ " แล้ว…โรงเรียนของฟ้าฝนเป็นยังไงบ้าง สภาพแวดล้อมเป็นยังไงบ้างคะ" "พี่ให้เจ้าตัวเป็นคนเลือกว่าอยากจะเรียนที่ไหน ส่วนสภาพแวดล้อมดูรวมๆแล้วดีมากเลยแหละ" เฮ้อ หายห่วง ตอนนี้ฟ้าฝนกำลังจะขึ้น ม.1 น้องต้องเจอกับสังคมใหม่ แรกฉันกลัวว่าน้องจะปรับตัวไม่ได้ แต่เห็นท่าทางดีใจของฟ้าฝนแล้วกลับรู้สึกว่าน้องเป็นคนที่แข็งแกร่งเลยทีเดียว จากที่ไม่พูดไม่จามาเป็นเดือน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD