ปัง!!! เสียงกระแทรกของประตูรถดังจนทำให้นาเดียร์ตกใจ ภามขึ้นมานั่งบนรถด้วยอารมณ์ที่กำลังพุ่งกระชูดพลางหรี่ตามองร่างบางของนาเดียร์ ยกมือขยี้ผมด้วยอารมณ์เดือดพล่านที่ก่อตัวขึ้น
"อะไรยะ มองทำไมไม่ทราบคุณภาม"
"ก็เพราะเธอนั่นแหละ"
"อ๋อ ที่แท้ก็โกรธเรื่องที่ฉันให้พู่กันกลับกับหมวดศิลานี่เอง" เธอพอจะเดาได้เพราะสำหรับภามเขาเป็นคนใจเย็นดั่งน้ำเย็นแต่ถ้าหากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพู่กันแล้ว กลับฉุดเขาไม่อยู่เสียด้วยซ้ำ
" ท่าทางแบบนั้นอย่าคิดที่จะยกเลิกแผนการช่วยฉันเชียวนะ"
นาเดียร์ยกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ ไม่เคยเห็นใครที่ทำให้คุณชายแสนเย็นชา สุภาพบุรุษหลุดโมโหออกมาขนาดนี้เลย
พู่กันจะรู้ไหมนะ ว่าเจ้าของหัวใจของเธอกำลังจะคลั่งตาย
" รีบๆทำให้มันจบเร็วๆสิ ถ้าฉันทนไม่ไหวขึ้นมาแผนการเธอล่มแน่"
" ฉันก็พยายามอยู่นี่ไง อีกนิดเดียวน่า นะ อดทนนิดหนึ่งนะ"
"แต่จะว่าไป ตอนนั่งอยู่ร้านอาหาร ฉันแอบเห็นนักเรียนมัธยมชายคนหนึ่งแอบมองพวกเราด้วยแหละ แรกๆก็นึกว่ามองฉัน แต่จริงๆแล้วสายตาคู่นั้นกำลังมองเจ้าของหัวใจนายต่างหาก" นาเดียร์เปรียบเสมือนระเบิดก้อนโตที่กำลังหล่นร่วงลงมากระทบความรู้สึกภายในใจของภาม
" ให้ตายสิ นี่เธอกำลังยั่วโมโหฉันใช่ไหม" ร่างสูงสถบด้วยความไม่พอใจ ใครหน้าไหนกล้ามองคนของเขากัน
" เด็กผู้ชายหน้าตาก็ดี นี่ถ้าไม่ติดว่าเด็กไปนะ มีหวังได้พู่กันไปกินชัวร์ แต่ก็ว่า สุดท้ายแล้วพู่กันกลับเป็นแฟนกับศิลา" ใบหน้าเสียใจของนาเดียร์เผยออกมาอย่างปิดไม่มิด ความรู้สึกทุกอย่างตีกันวุ่น
" ฉันไปดูดวงมา เลยเปิดรูปพู่กันให้แม่หมอดู แม่หมอบอกว่า พู่กันอยู่ในช่วงที่มีเสน่ห์เป็นพิเศษ ให้ระวังคนที่อายุน้อยเพราะจะทำให้หวั่นไหว แต่คงไม่ใช่เสียหมด ตอนนี้พู่กันมีคนรักแล้วซึ่งไม่ใช่นาย" ภามเผลอกำมือแน่น ประโยคแสนหวานที่พู่กันใช้เรียกศิลายังคงวนเวียนไม่จางหาย
" ไร้สาระ ส่วนเธอก็หยุดดูดวงได้แล้ว ดูไปก็ไม่เห็นจะทำให้หมวดนั่นสนใจ"
" นี่นายโมโหแล้วพาลเหรอ"
" ลงไปได้แล้ว ไม่ทำหรือไงงานน่ะ"
" ชิ ลงไปก็ได้ เบื่อคนขี้หึง"
รถเคลื่อนตัวมาจอดหน้าโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง พู่กันจูงมือฟ้าฝนเข้าไป วันนี้เป็นวันปฐมนิเทศนักเรียนใหม่ และพู่กันก็รับบทบาทเป็นผู้ปกครองแสนสวย
“สวัสดีค่ะวันนี้คุณพ่อไม่ได้มาด้วยเหรอคะ” ผู้หญิงวัยกลางคนสวมแว่นแต่งกายด้วยความเรียบร้อยเดินมาทักทาย
“คะ คุณพ่อ”
“คุณพ่อที่พาน้องมาสมัครเรียนวันนั้นน่ะค่ะไม่มาด้วยเหรอคะ” หมายถึงพี่ภามงั้นเหรอ เขาไม่ใช่พ่อสักหน่อย จู่ๆฉันก็กลายมามีสามีซ่ะงั้นเฮ้อ ให้ตายสิ
“เขาไม่ชะ…”
“งั้นเชิญคุณแม่ไปนั่งกับน้องนะคะ ผอ.ท่านพูดไม่นานหรอกค่ะ” ล้มเลิกความคิดที่จะปฎิเสธก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆฟ้าฝน ภายในห้องเต็มไปด้วยนักเรียนและผู้ปกครอง แต่กลับมีพู่กันที่โดดเด่นที่สุดเพราะเป็นสาวสวยที่ชวนหลงใหล การอภิปรายเรื่องการศึกษาเป็นไปด้วยดี จนกระทั่งหลังจากที่ปฐมนิเทศเสร็จทั้งสองคนก็มุ่งหน้าไปดูอนิเมชั่นเรื่องหนึ่งที่ฟ้าฝนอยากดู
“คุณหมอทำไมพี่ภามไม่มาด้วยคะ”
“พี่ภามเขาทำงานจ้ะ ฟ้าฝนมีอะไรหรือเปล่าบอกพี่ได้นะ” เด็กน้อยเม้มปากแน่น คล้ายมีบางอย่างจะพูดแต่กลับไม่พูดออกมา เพราะเหมือนเจ้าตัวอยากจะบอกแค่กับบุคคลที่เป็นเจ้าของชื่อนั้นแต่เพียงผู้เดียว
“พาหนูไปหาพี่ภามได้หรือเปล่าคะ” สายตาใสซื่อที่ใช้มองฉันมันทำให้ฉันปฏิเสธไม่ได้จริงๆ
“งั้นก็ได้ค่ะ”
ครั้งที่ก้าวขาเดินเข้ามาในบริษัทใหญ่โต มีพนักงานมากมายหลายตา นี่คือไม่ใช่ครั้งแรกที่พู่กันมา ทุกคนรู้จักคุณหมอคนสวยอย่างดีและชื่นชมในความใจดี พู่กันและฟ้าฝนเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องที่มีชื่อภาษาไทยที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี
“ขอบคุณค่ะ” หันไปบอกขอบคุณพนักงานที่เดินมาส่งก่อนจะยกมือเคาะประตูเป็นมารยาท
“เข้ามา” เสียงทุ้มดังขึ้นบ่งบอกถึงการได้รับอนุญาตให้เข้าไป พู่กันเปิดประตูเข้าไปก็พบกับเจ้าของใบหน้าคมที่นั่งอ่านเอกสารฉบับหนึ่งอยู่ เขาดูดีเกินไป
เผลอใจเต้นจนต้องยกมือทาบหน้าอกตัวเอง บ้าไปแล้ว เขามีแฟนแล้วนะพู่กัน
“พี่ภาม”
“มาแล้วเหรอครับ” อะไรนะ รู้ได้ไงว่าฟ้าฝนจะมาที่นี่ นี่อย่าบอกนะว่าทั้งสองคนติดต่อกันตลอด
“พี่ภามว่างอยู่ไหม ฟ้าฝนหิวไอติมจัง”
“หืม ตอนอยู่ห้างทำไมไม่บอกพี่ล่ะ ไม่เห็นต้องรบกวนพี่เขาเลย”
“พี่ว่างพอดีเลย งั้นเราไปกินไอติมกัน” ใบหน้าซึมเศร้าของเด็กน้อยเปื้อนยิ้มทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้น
ฉันที่กำลังมองเด็กน้อยที่กินไอติมอย่างเพลิดเพลินอยู่กลับต้องสะดุ้งเมื่อมีสัมผัสเบาๆที่มุมปาก ใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อรับรู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร
“กินยังไงให้เลอะ” เบิกตากว้างเมื่อภามเลียนิ้วหัวแม่มือตัวเองที่ใช้เช็ดไอติมที่มุมปากให้ ที่เขาทำอยู่มันไม่เหมาะสมเลยสักนิด ทำไมต้องอ่อนโยนด้วย ทำไมต้องทำให้คิดไปไกล ทำใมต้องทำให้รู้สึกถึงการมีความหวังอีกครั้ง เขาคือคนที่ใจร้ายที่สุด
เสียงหัวเราะใสแจ๋วดังขึ้น ทำให้พู่กันละสายตาจากดวงตาสีนิลหันไปเอ่ยถามเด็กน้อย
“ขำอะไรคะ”
“คุณหมอกับพี่ภามเหมือนแฟนกันมากเลย” เผลอยกยิ้มแแต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาทำหน้าปกติเมื่อมีภาพผู้หญิงคนหนึ่งซ้อนเข้ามา
“ไม่พูดแบบนี้นะคะ พี่ภามเขาเป็นแฟนคุณนาเดียร์” เด็กน้อยเม้มปากแน่นเหมือนกำลังมองอะไรสักอย่าง
“แต่คุณหมอกับพี่ภามเป็นเนื้อคู่กัน”
“โอเคครับเป็นก็เป็น” ฉันหรี่ตามองร่างสูงข้างๆที่กำลังยกยิ้มพอใจ มันมีอะไรน่าพอใจไม่ทราบ ชอบปั่นหัวใจคนอื่นเล่นหรือไง
หลังจากที่ไปส่งฟ้าฝนที่บ้านผู้หมวด เด็กน้อยก็รีบวิ่งไปอาบน้ำทันทีโดยมีป้าพิมพ์เป็นคนคอยจัดหาเสื้อผ้าให้ ผู้หมวดเป็นคนรับดูแลฟ้าฝนให้ฟ้าฝนมาอยู่ที่บ้านกับแม่ของเขา ท่านอยู่บ้านสองคนกับป้าพิมพ์จึงรู้สึกดีใจไม่น้อยที่มีเด็ก้อยมาวิ่งเล่นในบ้าน ท่านเป็นคนใจดีนะชวนฉันพูดคุยตลอด แตกต่างจากลูกชาย นิ่งยิ่งกว่ารูปปั่น ขนาดเล่นบทแฟนยังรู้สึกเหมือนเล่นกับสิ่งไม่มีชีวิตงั้นแหละ
“งั้นหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“ไม่อยู่ทานข้าวก่อนเหรอจ้ะ”
“พอดีวันนี้พู่กันต้องพาคุณแม่ไปงานวันเกิดคุณหญิงสุมณีค่ะ”
“จริงเหรอ น้าเองก็จะไปเหมือนกัน แต่ตาศิน่ะสิป่านนี้ยังไม่มาเลย งั้นหนูรีบไปเถอะเดี๋ยวคุณแม่รอนาน”
“ค่ะ งั้นหนูลานะคะ”
งานวันเกิดที่แสนครึกครื้น พู่กันแยกกับม๊าเบลเพื่อมาเข้าห้องน้ำ แต่ดันหาห้องน้ำไม่เจอซ่ะงั้น โรงแรมที่นี่แบ่งเป็นสัดส่วน มันดูใหญ่และซับซ้อน แยกเป็นหลายๆห้อง มีทั้งห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น และห้องนอน ส่วนตรงกลางก็จะเป็นห้องที่ใช้จัดปาร์ตี้ ซึ่งสำหรับพู่กันที่ไม่ค่อยได้ออกงานในสังคม วันๆก็ตั้งใจทำแต่งานกับแวะไปสถานีตำรวจ พอได้มาในตัวอาคารแห่งนี้กลับรู้สึกสับสนเล็กน้อย ไม่ต่างจากเด็กที่พึ่งหัดเข้ากรุงใหม่ๆ
“แล้วห้องน้ำมันไปทางไหนล่ะเนี่ย” บ่นกับตัวเองเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องๆหนึ่ง น่าจะเป็นห้องนอน ถ้าเป็นห้องนอนจริงๆก็ต้องมีห้องน้ำ ภายในใจไม่ได้คิดอะไรมาก จึงตัดสินใจผลักประตูเข้าไป ภายในห้องเปิดแอร์ไว้แต่กลับมืดไปหมดเพราะไม่เปิดไฟ ไม่น่ามีคนอยู่ ถ้ามีคนอยู่ประตูก็ต้องล็อคสิใช่ไหม
แต่ถึงยังไงก็เถอะ "เอ่อ ขอใช้ห้องน้ำสักครู่นะคะ" แสงไฟสลัวพอมองเห็นนั้น พู่กันเดินเข้าห้องน้ำจัดการธุรส่วนตัวเสร็จก็มุ่งหน้าไปที่ประตูห้องหวังจะเปิด แกร็ก ทว่า ในการหมุนลูกบิดนั้น ออกแรงหมุนเพื่อเปิดมันเท่าไหร่ก็หมุนไม่ได้ ภายในใจเริ่มรู้สึกวิตกกังวลเพราะไม่รู้ว่าห้องที่เข้ามานั้นคือห้องใคร
“อะไรกัน ถูกล็อคจากข้างนอกเหรอ”
ทำไมทำตัวประมาทแบบนี้นะพู่กัน
“ใครอยู่ข้างนอกช่วยเปิดให้หน่อยได้ไหมคะ” เคาะประตูเรียกดังเท่าไหร่แต่กลับไม่มีแม้การได้รับความช่วยเหลือ ตอนนี้คนในงานก็คงเต้นรำกันสนุกสนานอยู่ แถมมือถือเจ้ากรรมก็ดันไม่พกมาอีก
โครม!! "ใครคะ"