เราสองคนมาที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่และเดินตรงไปยังร้านขายสินค้าแบรนด์เนมต่างๆของตัวเอง ผู้จัดการรีบตรงเข้ามาต้อนรับก่อนจะพาไปห้องหนึ่งและมีฌอนกำลังเปิดโน๊ตบุ๊คดูทุกอย่าง สิปปกรมองเงียบๆหาร่องรอยแต่กลับไม่มีอะไรเลย ส่วนคนข้างตัวกลับเดินไปเปิดตู้เซฟแล้วหยิบกล่องกำมะหยี่ออกมาวางเรียงกันบนโต๊ะ แววตากลมโตเหมือนตุ๊กตากำลังมองหาอะไรบางอย่างอยู่ไม่กี่วินาทีก็ยิ้มกว้าง
“พี่ฌอนคะเจออะไรไหมคะ?”
“มาคนเดียวครับและต้องการแค่สร้อยทับทิมเซ็ตนั้นครับ มันหยิบออกไปแค่กล่องเดียวแล้วเปิดประตูออกไปง่ายๆได้เลยทั้งที่เราล็อคเอาไว้แล้ว จากนั้นก็เปลี่ยนใส่ชุดยามทำเนียนออกไปอีกที มันวางแผนมาเป็นอย่างดีครับคุณหนู”
“ว้าว! เก่งจังเลย”
“มันใช่เวลามาชมมันไหมครับคุณหนู!”
“พี่สิปใส่สร้อยเส้นนี้ให้หนูหน่อยสิ” เธอหยิบกล่องกำมะหยี่สีดำสนิทออกมาแล้วหยิบต่างหูกับแหวนขึ้นมาใส่ ส่วนสร้อยทับทิมพี่สิปเป็นคนใส่ให้ เธอยิ้มกว้างให้กับพี่ฌอนที่หน้าถอดสีด้วยความตกใจมากเหมือนเห็นผี ส่วนพี่สิปก็ทำหน้างงมากกว่าเดิมเพราะยังไม่รู้อะไรสักอย่าง
โจรเปิดประตูเข้ามาง่ายๆทั้งที่พี่ฌอนล็อคไว้
เธอเปิดทางให้โจรมาเองแหละ
“สวยไหมคะ?”
“สวย”
“รู้ไหมว่าสร้อยเส้นนี้อาจจะทำให้พ่อลูกคู่หนึ่งได้เจอกัน”
“ห่ะ!?”
“เขาขโมยแค่ของเลียนแบบไปค่ะ คนโง่ คิดไม่ซื่อ แถมใจร้อนมากแบบนั้นถูกหลอกง่ายจะตายไปค่ะ”
“มันจะทำให้พ่อลูกเจอกันได้ยังไง?”
“นั่นสิครับคุณหนู”
“แล้วคิดว่าใครเป็นคนขายมาล่ะคะ?”
“พี่สิปส่งทีมนิรภัยมาที่นี่ด้วยนะคะ หนูจะเอาของทุกอย่างออกแล้วเก็บแค่ของเลียนแบบเอาไว้ล่ออีกดีกว่า ส่วนของจริงหนูมีที่ดีๆในการเก็บมันอยู่ค่ะ เรื่องนี้เป็นความลับที่ให้ใครรู้ไม่ได้”
“ราคาห้าสิบล้านใช่ไหม?”
“ผู้ซื้อเล่นไม่ซื่อหนูคงต้องขึ้นราคาของแล้วค่ะ อยากรู้เหมือนกันว่าลูกชายของเขาจะมีราคาเท่าไร”
ยัยหนูใช้เครื่องเพรชในการฟอกเงินมาตลอด เขายอมรับว่าราเชลเก่งมากขึ้นทุกวันแถมยังดูไม่มีพิษไม่มีภัยจนไม่น่าจะทำร้ายใครได้อีกต่างหาก เธอมีสายค่อนข้างเยอะมากที่ทำงานให้ บางครั้งก็ให้บอกความลับแลกกับการมีชีวิตรอดหรือเศษเงินไม่กี่บาท เธอคือแม่ค้าที่หลงใหลในของเก่าๆที่หายาก เธอคือคนที่ชอบอัญมณีแวววาวระยิบระยับมาตั้งแต่เด็กจนโตและไม่เคยปล่อยให้ตัวเองดูทรุดโทรมเลยสักครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นก็ฉลาดมากพอจะทำตัวโลว์โปรไฟล์แล้วให้คนมารับหน้าแทนทุกอย่าง
ราเชลคือคนที่เก่งมากสำหรับเขา
เราเหมาะสมกัน
หลังจากจัดการของเข้าตู้เซฟแล้วสิปปกรจับมือพาเด็กน่ารักออกมาเดินเล่นอีกหน่อยแก้เครียดและซื้อน้ำหวานดื่มเผื่อน้ำตาลจะทำให้อารมณ์ดีมากขึ้น เราเดินเข้ามาที่ร้านขายเสื้อผ้าซึ่งมีลูกค้าไม่มากเท่าไรเพราะราคาสูงสำหรับคนทั่วไป แต่นั่นไม่ใช่กับราเชลหรอก เขาเดินตามเธอตลอดและมองมือเล็กหยิบจับชุดมาทาบตัวไปมาด้วยความสนุกสนาน
ราเชลเป็นเหมือนเด็กซนน่ารักคนหนึ่ง
เธอสดใสร่าเริงเสมอ
“เอาชุดนี้สีดำค่ะ สีขาวก็สวยงั้นสีขาวด้วย แล้วก็กางเกงตัวนั้นด้วยค่ะ มีไซซ์เล็กกว่านี้ไหมคะ?”
“มีครับ ตัวนี้เลยครับ”
“อืม…เอากระโปรงนี้อีกตัว เดรสคอลเลคชั่นนี้เอาทุกสีเลยค่ะ พี่สิปว่าชุดนี้สวยไหมคะ?”
“มันจะไม่น่าเบื่อเกินไปเหรอ พวกชุดแบบนี้หนูใส่แค่ครั้งสองครั้งเองไม่ใช่รึไง พี่ว่าเอาแบบอื่นไปด้วยดีกว่า”
“งั้น…เอาเบลเซอร์สีขาวกับสีดำด้วยค่ะ หนูว่ามันดูคลาสสิคน่าจะเข้ากับหลายชุดดี”
พนักงานเข้ามาถือทุกอย่างที่ค่อนข้างเยอะให้พร้อมกับรอยยิ้มกว้าง ในขณะที่ราเชลยังสนุกกับการซื้อของอยู่ ในจังหวะนั้นรันโทรเข้ามาเลยรับสายและคุยเรื่องสำคัญไปด้วย ตอนนี้รู้แล้วว่าใครจ้างคนมาเก็บเขาซึ่งมันก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรหรอก เขากับมันไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อนก็จริง แต่ว่าเมื่อเดือนก่อนมีลูกค้าจ้างบอดี้การ์ดดูแลเต็มรูปแบบในช่วงที่มีปัญหากับหลานชายมาเฟียคนหนึ่ง ตอนนั้นมีการปะทะและลูกค้าของเขารอด เรื่องมันน่าจะจบลงแค่นั้นแต่ว่าลูกค้าของเขากลับไปฆ่าหลานชายของมันก่อนจะหนีไปเมืองนอก
คิดว่าเขาเป็นหนึ่งในคนที่ทำให้หลานมันตาย
ความเข้าใจผิดเป็นต้นเหตุสั่งฆ่า
“พี่สิปคะ?”
“เลือกเสร็จแล้วเหรอ ไม่เอาอะไรเพิ่มเหรอ?”
“แค่นี้ก่อนดีกว่าค่ะ ไว้วันหลังค่อยมาดูใหม่ก็ได้”
สิปปกรส่งบัตรเครดิตจ่ายทันทีแบบไม่เคยคิดมากเพราะเป็นแบบนี้เสมอ บางครั้งเธอเหมาทั้งร้านเป็นแก้เครียดเลยก็มี ยัยหนูชอบแต่งตัวมากและใส่ได้ไม่นานก็ปล่อยต่อในราคาที่เขาไม่รู้ว่าเท่าไร หรือไม่ก็ให้พวกแม่บ้านเอาไปใส่กัน ที่คอนโดใหม่ของเธอมีห้องแต่งตัวอยู่และกินพื้นที่หนึ่งในสามของห้องเลยก็ว่าได้ เพราะงั้นห้องนอนเลยมีแค่ห้องเดียว ส่วนห้องนอนอีกสองห้องถูกทำให้เป็นห้องเก็บของส่วนตัวเรียบร้อย
ที่คฤหาสน์ของเขามีพื้นที่ให้เธอเยอะมาก
ชั้นสี่นั้นจะมีแค่เราสองคนอยู่
“ร้านนี้มีชุดเจ้าสาวด้วยนี่ หนูสนใจลองไหม?”
“ไม่ค่ะ”
“แต่ว่าพี่อยากเห็นหนูใส่”
“หนูว่าพี่น่าจะเห็นแล้วแหละ”
“จินตนาการกับความจริงเหมือนกันที่ไหนเล่า!”
“ไม่เอาหรอก เรากลับกันเถอะค่ะ”
สิปปกรพายัยหนูตัวเล็กเข้าไปที่คลังเก็บอาวุธส่วนตัวแล้วเปิดตู้พิเศษที่มีอาวุธสั่งทำแบบต่างๆไว้อยู่นับไม่ถ้วน ธุรกิจหลักของเขาคือค้าอาวุธ วิจัยและพัฒนาเพื่อขายต่อ หรือบางคนสั่งทำอาวุธแบบพิเศษก็มี เขาก็ปล่อยให้เธอเลือกทุกอย่างตามต้องการเลย ส่วนตัวเองนั่งดูงานเล็กน้อยรอเป็นการฆ่าเวลา ทีมดูแลความปลอดภัยระดับสูงชุดใหม่กำลังจะมีการฝั่งชิปติดตามและหากทรยศก็ต้องตายทันที ตั้งแต่รับตำแหน่งนี้แทนพ่อมาจำได้ว่าฆ่าลูกน้องระดับสูงไปทั้งหมดสิบคน สามคนแรกตายเพราะชิปที่ฝั่งในตัวปล่อยยาพิษ ส่วนอีกเจ็ดคนถูกลากตัวกลับมารับการลงโทษจากเขา ส่วนลูกน้องระดับต่ำกว่านั้นถูกสั่งฆ่านับไม่ถ้วนเพราะมันแปรพักตร์ แต่ก็มีหลายคนที่อยู่จนพ้นอายุการทำงานและบางคนพิการจนทำงานไม่ได้ เมื่อถึงเวลาพวกนั้นจะได้รับเงินก้อนใหญ่ไปเริ่มต้นใช้ชีวิตตามตัวเองต้องการ
งานนี้ไม่จำเป็นต้องทำจนแก่เฒ่า
เมื่อถึงเวลาเขาจะปล่อยให้เป็นอิสระเอง
“นี่คือเข็มยาพิษหรือยาสลบคะ?”
“ยาพิษ”
“ตายภายในกี่นาทีคะ?”
“ไม่ถึงห้านาที หนูสนใจเหรอ?”
“มันพกง่ายและซ่อนง่ายดีนี่คะ หนูชอบ”
“อีกด้านหนึ่งของเข็มถ้าหักออกจะแล้วปักลงไปก่อนห้านาทีจะเป็นยาถอนพิษแต่ไม่ได้ถอนหมดหรอก มันแค่ทำให้ไม่ตาย หลังจากโดนเข็มพิษแทงแล้วจะอ่อนแรงภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีและไม่เกินสามนาทีจะหมดสติ จากนั้นก็ตาย”
“อ่อ แล้วแหวนเพรชวงนี้ละคะ?”
“หนูกระแทกที่หัวแหวนแรงๆจะมีใบมีดเล็กๆเปิดออกมา แต่หนูไม่ชอบเลือดนี่ พี่แนะนำแหวนเงินวงนี้ดีกว่าเพราะมันจะปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาแรงมากพอจะทำให้หมดสติได้”
“หนูเหมาหมดนี่เลย แล้วก็ปืนนี้ด้วยค่ะ”
“พี่จะปรับขนาดแหวนให้ไม่เกินสามวันจะเสร็จ”
“ขอบคุณค่ะพี่สิป”
“ไปเดินเล่นดูที่นี่ด้วยกันไหม เผื่อวันไหนหนูมาหาพี่จะได้ไม่หลงทางไปโผล่ที่อื่น”
“ก็ดีค่ะ อาณาจักรของพี่สิปใหญ่มากขึ้นเรื่อยจนหนูงงแล้วเหมือนกัน”
เขากดข้อความสั่งทำทุกอย่างที่ยัยหนูราเชลต้องการและเพิ่มของเล่นอย่างอื่นไปด้วย จากนั้นเดินโอบไหล่เด็กน่ารักออกไปเดินเล่นภายในด้วยกัน ที่นี่สร้างมานานมากและไม่ใช่ว่าใครจะเข้ามาได้ง่ายๆ ห้องลับถูกออกแบบมาและถูกอำพรางจนดูไม่ออกด้วยซ้ำว่าจะไปโผล่ที่ไหน ภายในเป็นสีขาวทุกอย่างเพื่อความสบายตาและสามารถมองอะไรได้ชัดเจนขึ้นกว่าเดิม ที่นี่มีห้องนิรภัยและทางออกฉุกเฉินอยู่ ห้องวิจัยต่างๆและห้องโถ่งขนาดใหญ่ที่เป็นการฝึกลูกน้องเพื่อพัฒนาฝีมือ ปัญญาประดิษฐ์เชื่อมต่อกับเขาโดยตรงเลยสามารถสั่งการได้ทุกเมื่อ
ราเชลมาที่นี่บ่อยและหัวหน้าทุกคนรู้จักเธอ
แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่ง