8

1408 Words
หลังจากพายัยหนูทัวร์แล้วก็ถึงเวลาพากลับไปเรือนหอของเราดีกว่า ครึ่งปีที่ผ่านมาเขาปรับแต่งหลายอย่างเพื่อรอวันที่เธอตัดสินใจกลับมาอยู่ด้วยกัน คฤหาสน์ของปู่ที่มีเขาเป็นเจ้าของคนเดียว ส่วนน้องชายอยู่บ้านของพ่อแม่ซึ่งปู่เป็นคนยกให้มันและไล่พ่อแม่ไปอยู่ที่อื่น ที่นี่ราเชลเคยมาอยู่ไม่กี่เดือนในช่วงที่มีใครหลายคนพยายามจะฆ่าเธอให้ได้ เขาเอาตัวเองมาเป็นเกราะกำบังให้ได้เสมอไม่ว่าจะเป็นตอนไหน ถ้าได้ตายเพื่อคนที่รักเขายินดีเสมอ แต่ใครจะฆ่าเขาได้ล่ะ “ถึงแล้ว” “เปลี่ยนไปเยอะเลยนะคะ” “แต่ราเชลก็ชอบไม่ใช่เหรอ?” “ชอบสิคะ ที่นี่สวยมากๆเลย” “ไปที่ห้องเรากันเถอะ” “ห้องเรา?” “พี่พูดผิด พี่ต้องบอกว่าทั้งชั้นนั้นเป็นของเรามากกว่า” เขาโอบไหล่เธอด้วยความสบายใจมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อมาถึงบ้านที่อบอุ่นและปลอดภัยเสมอมา ราเชลขยับตัวออกจากอ้อมกอดเพราะมันค่อนข้างอึดอัด พี่สิปเลยเปลี่ยนเป็นจับมือเธอแทนแล้วเดินไปขึ้นลิฟต์เพื่อไปห้องพักของเขา ไม่รู้สิว่ามันเปลี่ยนแปลงขนาดไหนบ้างในระยะเวลาครึ่งปีที่เราห่างกันไปด้วยความตั้งใจ เธอเคยมีอยู่ที่นี่เลยรู้ดีว่าที่ไหนเป็นอะไรบ้างและลิฟต์มาถึงชั้นสี่ทุกอย่างที่เคยมีนั้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ตรงหน้าคือประตูห้องนอนและถัดจากนั้นคือระเบียงเปิดโล่งสามารถนั่งเล่นได้ หรือนอนดูดาวก็ยังทำได้สบายๆ ถัดจากประตูห้องไปอีกด้านมีชั้นวางหนังสืออยู่ตรงมุมและโซฟากำมะหยี่ตัวใหญ่ ที่นี่เปลี่ยนไปหมดภายในหกเดือน “พี่สิปคะ?” “เข้าไปสิ ห้องนี้พี่ตั้งลายนิ้วมือของหนูไว้แล้ว หรือใช้แค่หน้าก็ยังได้ พี่เตรียมทุกอย่างไว้เพื่อหนูคนเดียวเลยนะ” “ทำขนาดนี้เลยเหรอคะ?” “ก็ถ้าหนูมาอยู่จะได้ไม่ต้องลำบากไง พี่มีห้องแต่งตัวแบบที่หนูชอบให้ด้วยนะ มีห้องน้ำแบบที่หนูชอบ เตียงขนาดคิงไซซ์สั่งทำมาเป็นอย่างดี ทีวีจอใหญ่เท่าผนังให้หนูนอนดูหนังหรือบาร์เล็กๆที่ระเบียงตรงนั้น พี่เตรียมทุกอย่างที่หนูชอบไว้หมดแล้ว” “แต่ว่าหนูไม่เคยบอกว่าจะมาอยู่กับพี่สิปเลยนะคะ อันที่จริงเรายังไม่ได้คบกันด้วยซ้ำ” “เข้าไปดูเถอะ วันนี้หนูจะต้องนอนที่นี่ ส่วนฌอนพี่ให้นอนที่บ้านพักใกล้กับรันแทนแล้วกัน ยังไงอนาคตมันก็ต้องอยู่ที่นี่” สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมากกว่าที่คิดเอาไว้หลายเท่า พี่สิปจับมือเธอเดินไปสำรวจด้วยความสุขมากและพูดไม่หยุดเลยว่าทุกอย่างนั้นทำเพื่อเธอ เขารู้ว่าเธอชอบอะไรบ้างเลยจัดแจงให้ทุกอย่างเป็นสัดส่วน หลังจากเดินดูห้องที่รีโนเวทใหม่จนเหนื่อยก็เลยนั่งลงบนเตียงนุ่มและทุกอย่างก็เหมือนเดิม พี่สิปล้มตัวนอนกอดเอวเธอเอาไว้เหมือนกลัวว่าจะหายไป จากนั้นเขาก็จับมือไปจูบซ้ำๆก่อนจะปล่อยแล้วยิ้มกว้างให้กัน “ชอบไหม?” “ก็ดีค่ะ” “เย็นนี้หนูอยากกินอะไรพิเศษไหม?” “ไม่รู้สิ ตอนนี้ขอนอนก่อนดีกว่า” “นอนจริงๆใช่ไหม?” “แล้วคิดว่าจะทำอะไรคะ?” “ก็ยัยหนูของพี่เนี่ยติดเกมมากเลยนี่” “หนูอยากจะนอนพักสายตาสักชั่วโมง” “พี่สั่งทำคอมประกอบไว้ให้แล้วนะ อีกไม่กี่วันน่าจะเสร็จแล้วมาส่งที่นี่ หนูจะเล่นเกมทั้งวันทั้งคืนก็ได้เลย” “พี่สิปนี่ใจดีที่สุดเลย” “แต่ก็ยังดีไม่พอจะให้หนูรักใช่ไหม?” “คือว่า…” “จริงๆแล้วคนที่ใจดีมันคือหนูต่างหากล่ะราเชล คนที่ใจร้ายและเห็นแก่ตัวมันคือพี่” “ไม่ว่ายังไงพี่สิปคือคนที่ดีของหนูเสมอค่ะ” เธอลูบหัวเขาเบาๆก่อนจะขยับตัวนอนบนเตียงใหญ่ พี่สิปหยิบรีโมทปิดผ้าม่านหนึ่งชั้นเพื่อกันแสงสว่างมากเกินไปจากแสงแดดจ้าและห้องจะไม่มืดจนเกินไปด้วย เขาขยับเข้ามานอนสบตาเธออยู่เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นปลายจมูกโด่งก็กดลงมาที่แก้มและหอมไปฟอดใหญ่ พี่สิปเสพติดสกินชิพมาก เขาเป็นแบบนี้มาสองปีจนชินแล้ว “ขอบคุณนะที่ทำตามที่พี่ขอมาตลอด” “ไม่เป็นไรค่ะ” “พี่ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงตัวเองได้หรอก วันนี้เห็นแบบนั้นแล้วรังเกียจพี่ไหม ยัยหนูกลัวพี่รึเปล่า?” “เดี๋ยวหนูก็ชินเองค่ะ” “มันเป็นสิ่งที่หนูไม่ควรได้เห็นเลย” “แต่นั่นมันคือตัวตนของพี่สิปไม่ใช่เหรอคะ?” “ใช่ มันคือตัวตนของพี่” “เดี๋ยวสักวันก็คงรับได้เองค่ะ” เขาขยับเข้าไปจูบที่หน้าผากแผ่วเบาด้วยความเอ็นดูอย่างมาก ริมฝีปากเคลื่อนลงมาที่สันจมูกไล่ไปที่พวงแก้มก่อนจะบดเบียดลงที่ริมฝีปากอวบอิ่มที่เคลือบทับด้วยลิปสติกสีชมพูดอ่อน เขาจูบเธออย่างอ่อนโยนแฝงไปด้วยความต้องการครอบครองทั้งกายใจ เมื่อได้จูบแล้วไม่เคยหยุดง่ายๆเพราะโอกาสมีน้อยและเธอทิ้งเขาไปเพื่อทบทวนหัวใจยาวนานถึงครึ่งปี ความคิดถึงที่มีล้นทะลักออกมาเกินกว่าจะกดมันไว้ได้อีกต่อไป เขาจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนเติมเต็มความฝันให้จินตนาการไปถึงวันที่เราสองคนเข้าหอกัน ภาพวันวิวาห์ลอยเข้ามาในหัวอีกครั้ง เพียงสัมผัสแผ่วเบาที่โต้ตอบกลับมานั้นทำให้หัวใจสั่นไหวอย่างหนักและเผลอเข้าข้างตัวเองมาเรารักกันมาโดยตลอด แม้ว่าความจริงเธอไม่ได้รักเขา แต่ก็ใจดีเกินกว่าจะปฏิเสธและทำร้ายจิตใจ หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็วมากจนแทบไม่ทันตั้งตัว ราเชลเดินทางมาพร้อมกับพี่ฌอนที่เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัว พี่สิปมาพร้อมกับพี่รัน พี่ศิมาพร้อมกับพี่โท พวกเราเดินทางมาเงียบๆไม่เอาลูกน้องคนอื่นมาจนคนจะให้ความสนใจ เธอมาเพื่อสำรวจความพร้อมต่างๆก่อนจะสั่งให้คนปรับปรุงแก้ไข อีกข้อคือต้องวางแผนความปลอดภัยให้รัดกุมและรอบคอบที่สุด ทั้งบนเรือสำราญที่จะใช้ในการประมูลคืนนั้นและเกาะส่วนตัวที่พาทุกคนมาพักผ่อนสองคืนสามวันต้องไม่มีการตายของแขกที่เชิญมา งานใหญ่ครั้งนี้ต้องออกมาดีที่สุด ใครก็ห้ามทำลาย “คืนนี้เราค้างบ้านพักแล้วพรุ่งนี้ค่อยนั่งสปีดโบ๊ทไปดูพื้นที่รอบๆต่อดีกว่าค่ะ ช่วงเที่ยงค่อยไปขึ้นเรือสำราญกัน” น้ำเสียงหวานบอกขณะที่เดินเข้าบ้านพักตากอากาศหลังใหญ่ ตอนนี้สี่โมงเย็นแล้วเราพึ่งจะมาถึงเอง เธอยังมีเวลาอีกเยอะที่ปรับปรุงแบบแผนหลายอย่างและทำโชว์ให้สนุกสนานถูกใจแขกหลายคน อีกสามเดือนคือวันที่รอคอย ตื่นเต้นจังเลย “งั้นปาร์ตี้กันไหม?” ศิรากรเสนอพร้อมกับรอยยิ้มกว้างเพราะนี่ถือว่าเป็นการมาพักผ่อน “มึงก็ชวนแต่ยัยหนูปาร์ตี้ตลอด!” สิปปกรพูดขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง “ถ้ากูไม่ชวนแล้วคืนนี้มึงจะได้นอนกอดยัยหนูเหรอ?” ศิรากรกระซิบข้างหูพี่ชายแผ่วเบาแล้วมันก็ยิ้มกว้างทันที อย่าคิดว่าเขาไม่รู้นะว่าหลังจากวันนั้นที่พาราเชลไปค้างด้วยก็ไม่ได้นอนกอดอีกเลย ยัยหนูราเชลอ้างเรื่องงานยุ่งตลอดเลยไม่อยากเจอใคร แต่พี่ชายมันก็หน้ามึนไปหาทุกวันเหมือนเดิม ดูก็รู้ว่าอยากนอนกอดราเชลใจแทบขาด นี่ถ้าเข้าสิงได้คงทำไปแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD