หนึ่งชั่วโมงผ่านไปประตูลิฟต์ห้องใต้ดินเปิดออกอีกครั้ง ผู้หญิงใส่ชุดเดรสสั้นสีดำสูงกว่าหัวเข่าขึ้นมาประมาณหนึ่งคืบและค่อนข้างรัดรูปมากพอสมควร ใส่รองเท้าส้นสูงประมาณห้านิ้วเดินเข้ามาด้วยท่าทีสบายๆ ใบหน้าสวยยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีแม้ว่าจะอยู่ในสถานที่ที่ไม่ควรอยู่ก็ตาม ทันทีที่เดินมาถึงหน้าห้องกระจกทุกคนต่างมองด้วยความตกใจและรันรีบวิ่งมาหาเพราะว่านี่คือคนสำคัญมากพอจะชี้เป็นชี้ตายทุกคนที่นี่ได้
“คุณหนูลงมาทำไมครับ!?”
“พี่สิปล่ะ?”
“เอ่อ…อยู่ในห้องนั้นครับ”
“ได้เรื่องว่ายังไงบ้าง?”
“ยังไม่ได้อะไรเลยครับ”
“ฉันจะนั่งรอตรงนี้แหละ แล้วไม่ต้องบอกพี่สิปนะ ปล่อยเขาจัดการธุระตัวเองต่อเถอะ”
“จะดีเหรอครับ?”
“ดีสิพี่รัน”
“เดี๋ยวพี่ไปเอาน้ำมาให้นะ”
ราเชลมองสิ่งที่พี่สิปกำลังทำโดยที่เขาไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกมองและเขาไม่ยอมให้เธอเห็นด้านมืดขนาดนี้ เขาพยายามจะซ่อนตัวตนที่โหดร้ายของตัวเองมาโดยตลอดเพราะไม่อยากให้เธอกลัว แต่ความเกรี้ยวกราดเล็กน้อยของเขาทำให้คนเกือบตายได้นั้นเปิดเผยหลายอย่างที่ซ่อนเอาไว้ เขาทรมานผู้ชายคนนั้นในห้องขังด้วยความพิถีพิถันมากและพยายามจะเค้นเอาคำตอบที่ต้องการมาให้ได้ด้วย ผ่านไปไม่นานเขาก็เปิดประตูห้องนั้นออกมาด้วยความสบายใจและอารมณ์ดี ชายที่โชคร้ายคนนั้นปากฉีก ลิ้นขาด ถูกควักลูกตาออกมาและถูกถอดเล็บออก ห้องนั้นถูกละเลงไปด้วยเลือดเต็มพื้นและผนัง
เขาชะงักทันทีทันเห็นเธอนั่งดูอยู่
นี่คือสิ่งที่เขาไม่อยากให้เธอเห็นมาโดยตลอด
“ราเชล!”
“หนูพึ่งมาเองค่ะ”
“เอ่อ…มันสกปรกนะ ห้องก็มีแต่เลือดและ…พี่พาไปที่อื่นดีกว่า” เขาถามด้วยน้ำเสียงติดขัดและไม่มั่นใจตัวเอง เธอมองเขานานขนาดไหนไม่รู้จนกระทั่งเราสบตากัน ราเชลหลบตาในทันทีและเมื่อเขาหลบตาเธอก็มองตรงๆ ขายาวก้าวเดินไปหาด้วยความหวั่นวิตกยื่นมือที่มีเลือดสีแดงฉานเปื้อนอยู่จะจับมือเล็กขาวสะอาดคู่นี้พาออกไปที่อื่น แต่ว่าราเชลกลับผงะออกด้วยความตกใจ เธอไม่ยอมให้เขาโดนตัว
“อย่ามาจับตัวหนูนะ!”
“ทำไมล่ะ!?”
“ก็มือพี่เปื้อนแต่เลือดนี่คะ ไปอาบน้ำล้างตัวก่อนไม่งั้นไม่ต้องมาเข้าใกล้เลยนะ หนูไม่ชอบ!”
“ราเชล…”
“หนูแต่งตัวมาขนาดนี้แล้วนะ!” เธอขยับตัวออกห่างมากขึ้นเมื่อเขาทำท่าเหมือนจะไม่ยอมถอย ดูชุดของเธอที่พึ่งจะใส่ครั้งแรกสิว่ามันสวยขนาดไหนจะยอมให้เปื้อนเลือดหรือเหม็นกลิ่นเลือดไม่ได้หรอกนะ รองเท้าก็พึ่งจะใส่แค่สองครั้งเอง ถ้าเขาจับมือเธอขึ้นมาที่มือก็น่าจะเปื้อนเลือด แล้วกำไลสองวงก็อาจจะเปื้อนด้วย เธอขี้เกียจจะส่งไปทำความสะอาดนะ
“พี่ขอสิบนาที ไอ้รันพาราเชลไปรอที่ห้องอาหารแล้วดูแลให้ดี อย่าให้พลาดแบบนี้อีก!”
“ครับคุณสิป”
ราเชลมองคนตัวใหญ่ถอดเสื้อทิ้งตรงนั้นและไม่กล้าจะสบตาเธอเลย พอเธอหันหลังกำลังจะเดินออกไปก็ถูกมือหยาบที่เปียกน้ำจับข้อมือรั้งเอาไว้ก่อนและเธอสะบัดออกไม่หลุด เธอหันกลับไปมองเขาที่เปลือยท่อนบนแต่ก็ยังเปื้อนไปด้วยเลือดประปรายอยู่ดี เขาไม่เคยพูดหรืออธิบายในความชอบทรมานแบบนี้ให้ฟัง แต่เรื่องนี้มีคนเตือนเธอแล้วว่าเขาเป็นคนยังไงและมุมน่ากลัวมีมากขนาดไหน คนที่เตือนคือคุณลุงกับคุณป้าที่บอกว่าพี่สิปอันตรายกว่าที่ใครหลายคนคิดและคุมไม่อยู่
คนเลี้ยงเขามาจนโตไม่ใช่คุณลุงคุณป้า
แต่คือปู่ที่เป็นนักฆ่า
“มือไม่ได้เปื้อนเลือด พี่จับมือยัยหนูได้ไม่เปื้อนหรอก”
“มีอะไรรึเปล่าคะ?”
“พี่ว่ายัยหนูใส่กระโปรงสั้นเกินไป”
“มันคือแฟชั่น!”
“พี่หวง”
“ไม่มีใครกล้ายุ่งหรอก รีบๆตามมาด้วยล่ะหิวข้าวแล้ว”
“นอกจากไปดูคลังของพี่แล้วจะไปไหนอีกไหม?”
“ฟรีเดย์ค่ะ”
“ก็ดี พี่จะพายัยหนูไปดูอะไรที่คฤหาสน์ของเรา”
“ใบ้ได้ไหม?”
“ไม่ครับคนสวย”
“เชอะ! แค่นี้ก็ใบ้ไม่ได้”
ยัยหนูราเชลของเขาทำปากยู่ได้น่ารักจนอยากดึงเข้ามากอดแล้วจูบจริงๆ แต่ติดที่ตัวเขามันเปื้อนเลือดของไอ้เวรนั่นน่ะสิ สิปปกรมองตามตาเคลิ้มด้วยความชอบใจอย่างไม่มีเหตุผลอะไรเลยสักนิด หลังจากที่ยัยหนูราเชลเดินออกไปแล้วก็รีบขึ้นอาบน้ำเปลี่ยนชุดด้วยความเร็วมาก เขาฟอกสบู่สองสามรอบจนมั่นใจว่าหอมสะอาดไปทั้งตัวและฉีดน้ำหอมตาม วันนี้เราไปที่คลังเก็บอาวุธของเขาเพื่อเลือกปืนขนาดน่ารักพอดีมือของยัยหนู จากนั้นเขาจะพาเธอไปลองเครื่องเพชรที่สั่งทำอยู่หลายเดือนกว่าจะได้มา สวนดอกไม้ที่ทำขึ้นมาให้เธอโดยเฉพาะและห้องนอนของเขาที่เตรียมไว้รอยัยหนูมาอยู่ด้วยกัน
ฝันถึงงานแต่งของเรามานานแล้ว
ตอนนี้เขาฝันถึงตอนที่เรามีลูกมีหลานแล้ว
“รอพี่นานไหม?”
“ไม่ค่ะ อาหารพึ่งมาเมื่อกี้นี้เอง”
“วันนี้สวยจัง แต่ใส่สูทคลุมแบบนี้น่าจะดีกว่านะ”
“พี่สิปอะ!”
“มันก็เข้ากันดีออก ใส่แบบนี้ก็สวยมากเหมือนกัน”
อาหารเช้าของเราสองคนเป็นเมนูง่ายๆทั่วไป ราเชลมองคนที่พึ่งจะทรมานคนจนตายกำลังกินอย่างหน้าตาเฉยเหมือนไม่รู้สึกอะไรสักอย่าง เธอทึ่งมากในสิ่งที่เขาเป็นมากนะ เธอยังจำวันแรกที่ต้องลงมือฆ่าคนเพื่อป้องกันตัวได้อยู่เลยว่าต้องใช้เวลานานกว่าจะหลุดจากฝันร้ายมาได้และยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น กว่าสมองจะชินกับการฆ่าใครสักคนที่สมควรตายก็นานนับปี แต่พอมีครั้งแรกก็มีครั้งที่สองและครั้งต่อไปตามมาเรื่อยๆ ยิ่งงานของเธอที่พยายามทำให้ออกมาดียุ่งเกี่ยวกับคนอันตราย เธอยิ่งถูกตามเอาชีวิตบ่อยๆ แต่เธอไม่เคยทำอะไรที่ดูเหวอะหวะแบบพี่สิปทำเลยสักครั้ง แล้วตลอดชีวิตที่ผ่านมาก็แทบไม่เคยเห็นความรุนแรงมากเท่าเมื่อเช้านี้ด้วย อย่างมากคือเห็นพี่ฌอนซ้อมคนเท่านั้นเอง
พวกเขาทะนุถนอมเธอมาก
เธอคือคนใจดีท่ามกลางพวกเลือดเย็น
“มองอะไร?”
“วันนี้พี่สิปดูอารมณ์ดีนะคะ”
“กินข้าวกับราเชลจะให้อารมณ์เสียได้ไงเล่า”
“อืม…เราแวะไปที่ร้านของหนูก่อนได้ไหมคะ เมื่อกี้พี่ฌอนพึ่งโทรมาบอกว่าของที่จะใช้ในงานประมูลชิ้นสำคัญหายไปชิ้นหนึ่ง มูลค่ามันราวๆห้าสิบกว่าล้านได้เลย”
“มีอะไรให้พี่ช่วยไหม?”
“ไม่เป็นอะไรค่ะ เรื่องนี้หนูกับพี่ฌอนจัดการกันเองได้”
“ใครนะมันช่างกล้ามาขโมยของราเชลไป พี่อยากเห็นหน้ามันจริงๆ”
“คงมีข่าวหลุดออกไปว่าหนูมีของชิ้นนี้มั้งคะ จำได้ว่ามีคนสนใจเยอะมาก มันหายไปประมาณสิบปีกว่าจะมาอยู่ในมือของหนู มีคนคนหนึ่งที่เคยเป็นเจ้าของกำลังตามหาอยู่พอดีด้วย”
“ให้คนของพี่จัดการเรื่องระบบความปลอดภัยใหม่ไหม?”
“อย่าเลยค่ะ ให้มันเป็นแบบนี้แหละดีแล้ว”
เขาไม่เข้าใจความคิดของราเชลจริงๆว่าทำไมถึงกล้าเก็บของมูลค่าสูงเอาไว้ที่ร้านแบบนั้น ที่นั้นมันถูกโจรกรรมง่ายจะตายไป ห้างสรรพสินค้ามียามตรวจตราตลอดเวลาก็จริงแต่มันก็เป็นการรักษาความปลอดภัยที่ธรรมดาเกินไป ยัยหนูของเขาเป็นคนขายของที่อันตรายมากพอสมควร หลายอย่างมาจากตลาดมืดและบางครั้งก็มีคนมาขอซื้อข่าวสารกับเธอด้วย
ขายความลับคือธุรกิจทำเงินชั้นเยี่ยม
สงสัยจังว่าเครื่องเพชรชุดนั้นมีอะไรซ่อนอยู่รึเปล่า