เธอนั่งแค่นยิ้ม ถอนหมั้น? วาคีลน่ะเหรอจะถอนหมั้นกับเธอ เป็นคำตอบที่เซอร์ไพรส์มาก ชีวิตนี้ไม่เคยถูกผู้ชายเทก่อน ปกติเธอต่างหากที่เป็นฝ่ายเทก่อนอยู่เสมอ
ประโยคขอถอนหมั้นควรเป็นของเธอสิ เซอร์ไพรส์มากที่มันออกมาจากปากของวาคีล ผู้ชายที่เธอเคยเทมาเป็นปีๆ
เหมือนเทเขามาเพื่อโดนเขาเทอีกรอบอย่างไรอย่างนั้น ฝันไปเถอะ เธอไม่มีวันยอมโดนเทก่อนเป็นอันขาด เสียชื่อคุณหนูมิวนิคหมด
“นายมีสิทธิ์อะไรมาขอถอนหมั้นฉันก่อน?”
“หรือฉันต้องรอให้เธอเป็นคนพูดมัน?” เขาถามมิวนิคกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แววตาที่มองเธอไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมา
“เหมือนตอนนั้นที่เธอเทฉัน ฉันต้องรอเธอพูดใช่ไหม ทุกอย่างถึงจบ”
วาคีลยังคงฝังใจกับอดีตอยู่จริงๆ บรรยากาศในห้องอาหารอบอวลไปด้วยความอึดอัด ถึงแม้ว่าแววตาของเขาไม่แสดงอารมณ์ แต่เธอก็รับรู้ได้ว่าเขาเจ็บปวดมาก
และเธอคือคนสร้างบาดแผลให้เขา…
“อดีตก็คืออดีต ตอนนี้คือปัจจุบัน นายอย่าเอามารวมกันสิ”
“หึ สำหรับเธอ ต่อให้เป็นอดีตหรือปัจจุบันก็ไม่เคยสนใจมันหรอก” สำหรับมิวนิค เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดล้วนเป็นธาตุอากาศ เธอเคยสนใจอะไรบ้างนอกจากตัวเอง
มิวนิคคงไม่พอใจที่เขาเป็นฝ่ายขอถอนหมั้น ทั้งที่บทนั้นควรเป็นของเธอ ตอนนี้เขารู้สึกสะใจ ที่ผ่านมาเธอเป็นฝ่ายคุมเกมทั้งหมด ถึงเวลาแล้วที่เขาจะทำแบบนั้นบ้าง เขาจะทำให้มิวนิคเข้าใจความรู้สึกของเขาในวันนั้น
ทำอะไรเอาไว้ เขาก็หวังว่าสักวันเธอจะโดนแบบนั้นกลับไปบ้าง
“วาคีล…” เธอเรียกชื่อวาคีลผ่านลอดไรฟัน หมอนี่มันชักจะเกินไปแล้วนะ!
“อาหารมื้อนี้ฉันยกให้เธอคนเดียว”
“…”
“ทานให้อร่อย” พอพูดจบ เขาหยัดกายขึ้นเต็มความสูงแล้วก้าวขาเดินออกไป แต่ทว่า…
“คิดว่าจะไปง่ายๆ แบบนี้เหรอ?”
เขาเอียงใบหน้าไปมองมิวนิคที่พูดประโยคนั้น เธอลุกขึ้นเดินมาประจันหน้าเขา ใบหน้าสวยหวานแสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“นอกจากขอถอนหมั้น มีสิทธิ์อะไรมาเดินหนีฉัน?”
“นิสัยเอาแต่ใจของเธอ เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนจริงๆ”
“วะ…ว่าไงยังไงนะ?” หน้าเธอชาวาบกับประโยคนั้นของวาคีล สองมือกำเข้าหากันแน่นอัตโนมัติ มันจะมากเกินไปแล้วนะ!
การกลับมาเจอกันครั้งนี้วาคีลเปลี่ยนไปมาก หลายอย่างที่เขาแสดงออกมาทำให้เธอรู้สึกว่า นี่ใช่เขาในเมื่อก่อนหรือเปล่า เพราะเขาเปลี่ยนไปมากจริงๆ
“เธอก็ยังเป็นเธออยู่วันยังค่ำ”
“เหอะ! กล้าดียังไงมาว่าฉัน คิดว่าตัวเองเป็นใครฮะ!”
วาคีลเสสายตามองไปทางอื่นพร้อมกับส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอา ก่อนจะหันกลับไปมองมิวนิคอีกครั้ง ริมฝีปากหยักได้รูปจึงขยับตอบกลับคนตรงหน้า
“หรือเธอไม่อยากถอนหมั้น?”
“ใครอยากหมั้นกับนายมิทราบ ยิ่งรู้ว่าเป็นนาย ฉันยิ่งอยากถอนหมั้นไวๆ”
“หึ งั้นเหรอ?”
“นะ…นายคิดจะทำอะไร” เธอถามวาคีลด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก จู่ๆ หมอนี่ก็ย่างสามขุมเข้ามาหาด้วยใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ ทำให้ถอยหลังออกห่างตามสัญชาตญาณ จนกระทั่งแผ่นหลังแนบชิดลงผนังห้องเย็นเฉียบ
จังหวะนรกจริงๆ
วาคีลจ้องมองมิวนิค ที่มีท่าทางหวาดหวั่น ริมฝีปากหยักได้รูปกระตุกยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะยกมือหนาขึ้นมาลูบไล้กรอบหน้ารูปไข่สวยงาม
“นายคิดจะทำอะไร” ถามย้ำเขาอีกครั้ง ก้อนเนื้อข้างซ้ายเต้นแรงไม่เป็นส่ำแทบหลุดออกมาจากขั้วรอมร่อ เพียงแค่โดนหมอนี่สัมผัสเท่านี้ ก็พลันรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาตรงท้องน้อยเหมือนเมื่อคืน
สัมผัสนี้ทำให้เธอหวนนึกถึงช่วงเวลาอันเร่าร้อน ที่เคยทำร่วมกับเขาบนเตียง
บ้าจริง… เกลียดตัวเองตอนนี้จริงๆ เลย
“บางทีฉันก็รู้สึกเสียดายเธอนะ กำลังคิดอยู่ว่า หรือฉันควรเก็บเธอเอาไว้ดี”
เธอลอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ เมื่อเรียวนิ้ววาคีลเลื่อนลงมาสัมผัสลำคอ สัมผัสแค่นี้ทำเธออ่อนระทวยและรู้สึกร้อนวูบวาบตรงท้องน้อยได้ไม่ยาก สัมผัสเพียงแค่นิดเดียวแต่สะท้านไปทั่วร่างกาย
“จะเก็บฉันไว้ทำไม?” เธอเงยหน้าขึ้นถามวาคีล พอเดาคำตอบของคำถามได้
ริมฝีปากหยักได้รูปแสยะยิ้มน่ากลัวอย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน รอยยิ้มนั้นทำเธอขนลุกซู่ไปทั่วร่างกาย สองมือเผลอกำชายกระโปรงของตัวเองเอาไว้แน่น และหลบสายตาเขาไปโดยไม่รู้ตัว
วาคีลโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้มิวนิค ไออุ่นจากลมหายใจที่เป่ารดผิวแก้มทำหัวใจดวงน้อยเต้นแรงแทบบ้าคลั่ง
“เก็บไว้เล่นสนุกดีไหม?”
เธอมองหน้าวาคีลอย่างอึ้งๆ เมื่อก่อนเขาอ่อนโยนและอบอุ่นมากกว่านี้ ส่วนตอนนี้น่ะเหรอ? สวนทางกับตอนนี้โดยสิ้นเชิง
ถึงแม้ว่าเดาคำตอบนี้เอาไว้ แต่พอวาคีลพูดออกมาจริงๆ เธอกลับรู้สึกคาดไม่ถึงมากกว่า ฟังแล้วนึกถึงตอนที่เธอชวนเขาเข้ามาในความสัมพันธ์ ‘เพื่อนนอน’
‘รู้จักความสัมพันธ์แบบfwbไหม?’
‘รู้จัก’
‘ลองไหม?’
‘…’
‘ลองกับฉัน’
ผลัก
เธอปัดมือวาคีลออกจากใบหน้า อย่าคิดว่าเธอจะยอมกลับเข้าไปอยู่ในความสัมพันธ์นั้นอีก แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้มันจะแตกต่างออกไปตรงที่ วาคีลเป็นคนคุมเกมไม่ใช่เธอ และเกมของเขาคงน่ากลัวมาก เธอไม่มีทางหลวมตัวเข้าไปอย่างเด็ดขาด
“อยากถอนหมั้นก็ตามใจ ฉันยังไงก็ได้อยู่แล้ว” เธอไม่ง้อใครอยู่แล้ว พอพูดจบก็ตั้งท่าเตรียมเดินออกไป แต่ดันเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเสียก่อน
หมับ!
พรึ่บ!
“!!!” วาคีลดึงเธอไปจูบโดยไม่ทันตั้งตัว เขาดันร่างเธอไปแนบชิดผนังห้องเย็นเฉียบ บดคลึงจูบลงมาอย่างป่าเถื่อน แม้กระทั่งจูบก็เปลี่ยนไป…
ฟันแหลมคมกัดริมฝีปากเธอจนเลือดไหลซึม รับรู้ถึงรสชาติเค็มของเลือดและกลิ่นคาวที่คละคลุ้งขึ้นมา ถึงจูบนี้มันจะป่าเถื่อน แต่คนที่โหยหาสัมผัสเหล่านี้แบบเธอไม่ติดอยู่แล้ว จูบตอบวาคีลกลับไปอย่างดุเดือด
เธอผลักเขาติดผนังสลับกับเขาที่ผลักเธอใส่ผนัง จนกระทั่งเขาเป็นฝ่ายคุมเกมสำเร็จ จูบนี้นอกจากป่าเถื่อนแล้วยังเร่าร้อนอีกต่างหาก
จูบแสนเนิ่นนานถูกถอนออกในเวลาต่อมา และคนที่เคลิ้ม ก็คือ มิวนิค
หญิงสาวหายใจหอบถี่จนหน้าอกกระเพื่อมตาม ใบหน้าแดงซ่านเพราะไฟราคะในร่างกายถูกกระตุ้นให้ตื่นขึ้นมา วาคีลเชยคางเรียวขึ้นให้สบสายตาพลางแสยะยิ้ม
“จูบเมื่อกี้…ไม่เลวนิ” มิวนิคยังคงเร่าร้อนเหมือนเดิม แต่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถไปต่อกับเธอในฐานะคู่หมั้นได้