ตอนที่ 8 ผู้รอดชีวิตกับช่วงเวลากอบโกย

2457 Words
"เดี๋ยวก่อนครับ มีนา คุณไม่ต้องออกไปหรอก พวกเราจะไม่เปิดไฟและจะไม่แกะหรือทำอะไรที่จะทำให้เกิดเสียงดังแน่นอน คุณพักผ่อนให้สบายใจเถอะ" อวี้หานเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเตรียมตัวที่จะจากไปก็รีบเอ่ยห้าม และหันกลับไปบอกให้คนอื่นๆ ห้ามทำอะไรโดยเด็ดขาด มีนาสังเกตเห็นตั้งแต่แรกแล้วว่าคนพวกนี้คงเป็นพนักงานของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ เพราะแต่งชุดคล้ายกันและคนที่ชื่ออวี้หานอาจจะมีตำแหน่งเป็นหัวหน้า ในตอนแรกทุกคนถึงดูเชื่อฟังคำพูดของเขา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าคนพวกนี้บางคนเริ่มจะไม่ยินยอมปฏิบัติตามคำสั่งอีกต่อไป ไม่นานคนเหล่านั้นก็เกิดการโต้เถียงกันขึ้น มีนาไม่ได้สนใจจะห้ามปรามหรือฟังในสิ่งที่พวกเขาถกเถียงกัน แต่เธอกำลังตั้งใจฟังเสียงจากด้านนอกนั่นมากกว่า และก็เป็นอย่างที่คิดเสียงถกเถียงกันในตอนนี้ยิ่งนานยิ่งดังขึ้น และเสียงจากด้านนอกก็เริ่มดังใกล้เข้ามาเช่นเดียวกัน คราวนี้เธอคงต้องออกหน้าจัดการแล้ว อย่างน้อยก็ถือว่าตอบแทนน้ำใจที่อีกฝ่ายยินยอมให้เธอได้เข้ามาหลบอยู่ในนี้ "เงียบ! ไม่ต้องเถียงกันแล้ว ตอนนี้ทุกคนควรรีบออกไปจากห้องนี้ดีกว่า ออกไปแล้วทำตัวให้เงียบหาที่ซ่อนตัวเก็บเสียงเบาลมหายใจให้เงียบและนิ่งที่สุด พวกคุณอาจจะปลอดภัยจนกว่าจะถึงตอนเช้า ไป!" มีนาหยุดการทะเลาะกันแล้วเดินไปยังประตูด้านหน้า เอ่ยคำเตือนที่สั้นและกระชับมากที่สุด แล้วดึงคนที่อยู่ใกล้มือที่สุดให้ออกไปทีละคน ตอนแรกทุกคนก็ยังมึนงง สับสน และดูเหมือนจะไม่ยินยอม แต่ไม่นานเสียงที่ดังขึ้นตรงประตูบานเลื่อนที่ด้านหลังของห้องเก็บของก็ทำให้ทุกคนเข้าใจได้ว่า ตอนนี้พวกซอมบี้มันรู้แล้วว่าพวกตนอยู่ในนี้ "รีบไปหาที่ซ่อน ไม่จำเป็นอย่าออกไปจากตึก ซ่อนตัวไว้จนกว่าจะถึงตอนเช้าค่อยหาทางไปต่อ ล็อกประตูจากด้านนอกให้ด้วย ฉันจะล่อพวกมันให้อยู่ในนี้เองไม่ต้องมองแบบนั้น ฉันแค่ตอบแทนน้ำใจที่คุณช่วยเปิดประตูให้เท่านั้น รีบไป!" มีนาส่งคนออกไปจนหมด มีชายหนุ่มที่ชื่ออวี้หานเป็นคนสุดท้ายและไม่ลืมกำชับให้อีกฝ่ายล็อกประตูที่ด้านนอกด้วย อีกฝ่ายมองด้วยความซาบซึ้งใจและเหมือนจะไม่ยินยอมจากไปแต่เธอไม่สนใจ เมื่อผลักอีกฝ่ายออกไปแล้วก็ทำการปิดประตูล็อกทันที และมหกรรมเก็บกวาดของกระหน่ำก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง ความจริงมีนาวางแผนจะเก็บของในห้องนี้ไปด้วยอยู่แล้ว ส่วนใหญ่เป็นอาหารแห้งและของใช้ส่วนตัว ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นทั้งนั้น เพียงแต่วิธีการของเธอคือจะส่งคนพวกนี้ออกไปพร้อมรถขนของด้านหลังในตอนเช้าก่อนค่อยกลับเข้ามาเก็บของในห้องนี้อีกครั้ง แต่ในเมื่อคนพวกนั้นเรียกร้องความสนใจจากฝูงซอมบี้เข้าเสียก่อน เธอก็คงช่วยแค่ให้พวกเขาสามารถมีชีวิตรอดผ่านไปจนถึงพรุ่งนี้เช้าเท่านั้นก็พอ ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที มีนาก็จัดการเก็บของเข้ามิติไปจนหมด เธอปีนขึ้นไปเก็บผ้าที่ใช่บังช่องลมกลับเข้ามิติ คลายสลักที่ล็อกประตูออก แล้วรีบปีนขึ้นไปบนช่องลมดึงที่กั้นช่องลมออก แล้วเอาแท่งเหล็กที่หามาได้ปาไปที่ประตูบานเลื่อนจนเกิดเสียงดัง แล้วเสียงโครมครามจากการพุ่งเข้าชนประตู เสียงโหยหวนของพวกซอมบี้ก็ยิ่งดังขึ้น มีนารีบเอาที่กั้นมาปิดช่องลมเอาไว้ตามเดิมแล้วคลานไปตามทางที่ใช้ออกไปด้านนอกอาคาร เมื่อมาถึงอีกฝั่งมองลอดช่องลมออกไปไม่เห็นมีซอมบี้อยู่แถวนั้น และด้านล่างยังมีพวกกล่องลังวางซ้อนกันอยู่ จึงถีบประตูช่องลมไป 2-3 ครั้งประตูก็หลุดออกและหล่นใส่กล่องลังที่วางอยู่ด้านล่าง แต่เธอยังไม่รีบร้อนออกไป รอฟังเสียงจนแน่ใจว่าจะไม่มีซอมบี้ตัวไหนได้ยินแล้วเดินเพ่นพานผ่านมาทางนี้ ไม่นานก็มีเสียงดังของประตูบานเลื่อนที่เปิดขึ้นตีเข้ากับที่เก็บด้านบน ยิ่งเรียกเสียงคลุ้มคลั่งของเหล่าซอมบี้ได้เป็นอย่างดี แต่ก็นับว่าดีกับคนอื่นๆ ด้วย ตราบใดที่พวกเขาอยู่กันเงียบๆ จนถึงเช้าก็น่าจะปลอดภัยอย่างแน่นอน มีนานอนฟังเสียงพวกซอมบี้ที่อยู่ในห้องเก็บของที่กำลังคลุ้มคลั่ง เธอจะรอให้ใกล้ตอนเช้าก่อนถึงจะลงไป และของในรถขนของพวกนั้นเธอก็รู้สึกเสียดายเกินกว่าที่จะปล่อยทิ้งเอาไว้ อย่างน้อยเก็บเอาของพวกนี้เพิ่มไปด้วยก็ไม่ได้ทำให้เธอเสียเวลาไปมากสักเท่าไหร่นักหรอก มีนานอนฟังเสียงโครมครามพวกนั้นจนเมื่อเห็นแสงอาทิตย์โผล่ขึ้นมาจากขอบฟ้า เสียงพวกนี้ก็ค่อยๆ เบาลง จนเหลือเพียงเสียงหึ่งๆ ของพวกซอมบี้เท่านั้น ตลอดคืนไม่มีเสียงกรีดร้องของใคร แสดงว่าทุกคนน่าจะปลอดภัยทั้งหมด เมื่อแสงอาทิตย์ทำให้ท้องฟ้าเริ่มสว่างมากขึ้นมีนาไม่รอช้ากระโดดลงไปด้านล่าง รอจนแน่ใจว่าตนเองไม่ได้ทำเสียงดังจนเรียกให้ใครหรืออะไรมาหา ก็รีบวิ่งไปกวาดของที่อยู่บนรถขนของทั้ง 5 คันนั้นอย่างรวดเร็วและเห็นมีรถขนของที่สภาพยังใหม่อยู่เธอก็เก็บเข้าไปด้วยอีก 2 คัน เมื่อเก็บทุกอย่างเรียบร้อยก็วิ่งออกมาทางลานจอดรถด้านหน้าห้าง เพื่อดูว่ามีซอมบี้หลงเหลืออยู่บ้างหรือไม่ ดูแล้วเสียงประตูเมื่อคืนคงดังมากพอที่จะพาเหล่าซอมบี้ที่เคยอยู่ในลานจอดรถด้านหน้านี้ให้หายไปจนหมด เมื่อแน่ใจแล้วว่าปลอดภัย มีนาจึงเดินสำรวจรถที่พอจะใช้งานได้ เตรียมให้พวกคนที่อยู่ในห้าง เมื่อเรียบร้อยก็ทันเห็นคนพวกนั้นค่อยๆ ทยอยเดินออกมาพอดี เธอจึงส่งสัญญาณไปที่รถที่จอดอยู่แล้วก็รีบวิ่งออกไปไม่รอให้ใครมีโอกาสมาพูดอะไรกับเธออีก มีนาวิ่งลัดเลาะไปตามทางเพื่อกลับไปตั้งหลักยังทางออกนอกเมือง ระหว่างทางก็เจอกับพวกซอมบี้บ้างแต่เธอใช้ความเร็วและความเงียบหลบหลีกพวกมันมาตลอดทางด้วยความชำนาญ เธอเคยทั้งหลบหนีและต่อสู้กับพวกมันมาเกือบ 10 ปี ถ้าไม่ใช่เพราะคนอื่นยอมแพ้ ตอนนี้เธออาจจะยังต่อสู้กับพวกมันอยู่และอาจจะชนะแล้วก็ได้ เธอวิ่งมาจนถึงทางหลักที่ใช้ออกนอกเมือง มีรถยนต์จอดทิ้งไว้เต็มถนน มีซอมบี้เดินวนเวียนอยู่จำนวนไม่น้อย แต่ไม่เห็นพวกคนที่อพยพแล้ว คาดว่าคงพากันหนีซอมบี้ไปกันหมดแล้ว มีนาสำรวจดูแล้วว่าไม่น่าจะหลบหลีกซอมบี้ที่อยู่บนถนนเส้นนี้ไปได้ จึงพาตนเองไปที่อีกเส้นทางหนึ่ง เมือง B ไม่ใช่เมืองหลักเรียกว่าเป็นเมืองชนบทก็ได้พื้นที่และเส้นทางส่วนใหญ่เป็นป่าและที่ดินรกร้าง บ้านเรือนก็กระจายกันมีเพียงกลางเมืองที่เธออยู่เท่านั้นถึงเป็นเขตเศรษฐกิจและการค้า ตลอดการเดินทางออกนอกเมืองจึงไม่เจอคนหรือซอมบี้อยู่เลย ส่วนรถยนต์ก็มีถูกทิ้งไว้บ้างแต่ไม่มาก มีนายังไม่คิดจะเอารถยนต์ออกมาใช้ในตอนนี้ เธอใช้การเดินเท้าสลับกับวิ่งและหยุดเก็บพวกสมุนไพรหรือต้นไม้ข้างทางที่มีประโยชน์เข้ามิติไปด้วย จนมาถึงที่หมายที่ตั้งใจเอาไว้นั่นก็คือโกดังขนาดใหญ่ที่ใช้เก็บและกระจายสินค้าของห้างค้าส่งเจ้าใหญ่ของประเทศ เธอไม่รอช้าตอนนี้เกือบจะเที่ยงวันแล้ว และถึงแม้ร่างกายของเธอจะได้รับการวิวัฒนาการและพัฒนามาจนถึงระดับ 3 แล้วแต่การเดินสลับกับวิ่งตลอด 4-5 ชม.ก็ทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยอยู่มากเหมือนกัน พอเข้ามาด้านในก็เจอเข้ากับซอมบี้ 5-6 ตัว ดูจากชุดบางคนคงเป็นเจ้าหน้าที่ประจำโกดังเก็บของแห่งนี้ มีรอยเลือดและเศษอวัยวะที่น่าจะเคยเป็นของซอมบี้พวกนี้มาก่อนอีก 2-3 ชิ้น มีนามุ่งตรงไปยังห้องคนดูแลที่ใช้เก็บกุญแจเปิดประตูโกดัง ครั้งก่อนเธอเคยผ่านมาที่นี่แต่เป็นหลังจากเกิดฝูงซอมบี้บุกเมืองได้เกือบเดือนแล้ว ข้าวของมีการถูกคนขนเอาไปบ้างแล้ว และครั้งนั้นเธอก็เอาพวกมันไปได้ไม่มาก แต่ครั้งนี้ดูแล้วน่าจะยังไม่มีใครเข้ามาที่นี่ และครั้งนี้เธอจะกวาดให้หมดโกดังใหญ่แห่งนี้ไปเลย ของทั้งหมดในโกดังนี้คงทำให้เธออยู่ได้ไปอีกหลายปี เมื่อได้กุญแจมาแล้วมีนาก็ตรงไปยังประตูที่อยู่ห่างจากพวกซอมบี้ให้มากที่สุด ซึ่งเป็นประตูทางด้านหลังและที่นี่ยังมีห้องพักพนักงานอีกด้วย เธอสำรวจดูว่าห้องพักพวกนี้มีคนหรือซอมบี้อยู่หรือไม่ แต่ก็ไม่พบอะไรในนั้น ห้องพักพนักงานเป็นห้องโล่งแต่มีห้องน้ำในตัว มีนาจึงตั้งใจจะใช้ที่นี่เป็นที่พักในคืนนี้ จึงรีบไขกุญแจแล้วเปิดประตูบานเลื่อนขึ้น เสียงประตูค่อนข้างดังเธอจึงหยุดรอฟังว่าพวกซอมบี้ที่อยู่ด้านหน้าจะได้ยินแล้วตามมาหรือไม่ รออยู่สักพักไม่มีเสียงการเคลื่อนไหวเธอจึงรีบเข้าไปด้านในโกดังทันที มีนาใช้เวลาเกือบ 5 ชั่วโมงจึงสามารถเก็บของในโกดังได้ทั้งหมด เพราะมีบางอย่างที่เธอเลือกเก็บเอาแต่เฉพาะสิ่งของมีเอาชั้นวางเข้าไปด้วยเป็นบางอย่างเท่านั้นจึงใช้เวลาค่อนข้างมาก และยังมีซอมบี้ที่อยู่ในนี้อีกหลายตัวแต่เธอก็พยายามหลอกล่อพวกมันไปให้ห่างจากบริเวณที่เธอจะเก็บของ ด้วยขนาดของโกดังที่มีขนาดใหญ่และซอมบี้ในนี้ก็กระจายกันอยู่จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอ เมื่อเก็บของทั้งหมดเข้ามิติแล้ว ก็เหมือนกับพลังในร่างใกล้จะหมดตามไป ตอนนี้เธอยังพอมีเวลานอนพักได้ 1-2 ชม. จึงรีบไปที่ห้องพักพนักงานเพื่อจัดการเตรียมสถานที่ที่จะใช้พักผ่อนในคืนนี้ เมื่อเข้าห้องพักมาแล้วมีนาทำการสำรวจห้องอีกครั้ง ทางเข้าออกมีเพียงประตูเดียว ด้านบนมีช่องลมระบายอากาศก็เอาผ้ามาปิดเอาไว้ เข้าห้องน้ำล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าและทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย กินอาหารที่ควบมื้อเช้าและกลางวันไปพร้อมกัน ก็จัดการนอนพักผ่อนทันที อาจจะเป็นเพราะวันนี้เธอใช้พลังกายไปมากหลังจากหลับพักผ่อนไปได้ไม่นาน เธอก็รู้สึกว่าร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ร่างกายของเธอกำลังจะวิวัฒนาการเข้าสู่ระยะที่ 4 พลังกาย ความเร็ว ประสาทการได้ยินและการมองเห็นก็จะเพิ่มขึ้น นับว่าวันนี้ที่เธอตัดสินใจใช้การเดินแทนการขับรถยนต์นับว่าได้ประโยชน์แล้ว มีนากัดฟันอดทนกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับร่างกายตนเองอยู่เกือบชั่วโมงทุกอย่างก็เสร็จสิ้น ตอนนี้เป็นช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิอากาศยังมีความเย็นอยู่ แต่ตอนนี้ทั่วร่างของเธอมีแต่เหงื่อออกเต็มไปหมด เสื้อยืดที่เพิ่งเปลี่ยนก็เปียกจนแนบติดไปกับตัว ถึงแม้ร่างกายเธอจะวิวัฒนาการเข้าสู่ขั้น 4 แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะเป็นไข้หรือเจ็บป่วยได้ มองดูนาฬิกาตอนนี้เป็นเวลา 18.30 น. แต่ท้องฟ้ายังมีแสงอาทิตย์อยู่ เธอจึงตัดสินใจเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกครั้ง เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็กลับมาจัดการเปลี่ยนถุงนอนใบใหม่ กินอาหารเย็นเป็นนมสดและขนมปังเมื่ออิ่มแล้วก็สอดตัวเข้าถุงนอนเพื่อพักเอาแรงอีกสักหน่อย ห้องพักนี้อยู่ทางด้านหลัง ซอมบี้ที่ใกล้ที่สุดก็คือที่อยู่ในโกดังที่เธอหลอกล่อพวกมันไปให้ไกลจากตรงนี้พอสมควร ดังนั้นเธอจึงค่อนข้างวางใจที่จะหลับพักผ่อนต่อ มีนาหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้แต่มารู้สึกตัวตอนที่ได้ยินเสียงเหมือนคนตะโกนคุยกันอยู่ไกลๆ จึงรีบลุกขึ้นเก็บที่นอนหยิบอาวุธออกมาเตรียมพร้อม ไม่นานเสียงฝีเท้าเสียงตะโกนและเสียงของซอมบี้ก็ใกล้เข้ามา ไม่นานมีนาก็พอจับความเคลื่อนไหวได้ว่าน่าจะเป็นกลุ่มคนประมาณ 4-5 คน และน่าจะมีซอมบี้ไม่ต่ำกว่า 10 ตัวกำลังวิ่งไล่ตามมา เสียงวิ่งไล่ผ่านห้องพักที่เธออยู่ไป และคนพวกนั้นน่าจะมีฝีเท้าที่ดี เพราะดูเหมือนคนพวกนั้นจะวิ่งหนีและปีนกำแพงหลบหนีเหล่าซอมบี้ไปได้ แต่กลับเป็นปัญหาให้กับเธอ เพราะซอมบี้พวกนั้นตอนนี้น่าจะอยู่แถวห้องพักที่เธอหลบอยู่ตอนนี้ เพราะห้องพักนี้อยู่ใกล้กับกำแพงด้านหลังนี่เอง มีนาได้แต่ไว้อาลัยให้แก่ตนเองอุตส่าห์คิดว่าเลือกที่พักได้ดีแล้ว แต่กลับต้องมาเจอปัญหาเพราะคนอื่นพามาอีกจนได้ แต่ตอนนี้เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ต้องรอให้ฟ้าสว่างเสียก่อน เธอไม่รู้ว่าพวกซอมบี้มันอยู่ใกล้หรือไกลจากห้องนี้มากขนาดไหน ตอนนี้ถ้าแค่เธอขยับตัวเสียงดังหน่อยก็อาจจะทำให้พวกมันรู้ว่ามีคนอยู่ในนี้ก็เป็นได้ มีนารีบเก็บอาวุธไม้เบสบอลที่เอาออกมาเข้ามิติทันที เพราะกลัวว่าอาจจะเผลอทำเสียงดังได้ แล้วค่อยๆ นั่งขัดสมาธิลงไป ผ่อนลมหายใจให้เบาลงที่สุดแต่ยังคงเตรียมพร้อมและระมัดระวังตนเองเอาไว้อยู่ตลอดเวลา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD